MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ – ตอนที่ 195

ตอนที่ 195

ใบหน้าของ เจี๋ยสวี่ ดูปั้นยากเล็กน้อย

“มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?”ลู่เฟิง มองไปที่ เจี๋ยสวี่ และ กล่าวถาม

“ฝ่าบาท หากต้องการเชื่อมอาณาจักรหนานหยานกับมณฑลทั้ง 13 ของอาณาจักรซีหยาง พวกเราจำเป็นต้องมีวัสดุในการสร้างจำนวนมาก เกรงว่าแม้จะรวบรวมทั้งอาณาจักรหนานหยานมาก็ยังคงไม่เพียงพอ”เจี๋ยสวี่ ตอบกลับ

ลู่เฟิง ได้ตอบกลับทันที”ที่แท้ก็เรื่องนี้”

ลู่เฟิง ได้ตอบกลับอย่างเรียบง่าย”เช่นนั้นก่อนอื่น สร้างอาคมเคลื่อนย้ายที่เขตเมืองชายแดน สำหรับส่วนที่เหลือค่อยพูดกันภายหลัง”

“ขอรับ!”

“เหวินเหอ อาคมเคลื่อนย้าย มีความสำคัญอย่างมาก เจ้าต้องใส่ใจให้ดี อย่าได้แพร่งพรายให้คนอื่นรู้ว่าเราครอบครองโดดเด็ดขาด และถึงแม้จะปิดกั้นไม่ได้ก็ห้ามให้รู้ว่าอาคมเคลื่อนย้ายของเราวางไว้ที่ไหนเข้าใจหรือไม่?”ลู่เฟิง ได้เตือนสติ

ทุกคนรู้ถึงความสำคัญของอาคมเคลื่อนย้าย หากศัตรูรู้เรื่องนี้พวกเขาคงรีบวิ่งแจ้นเข้ามาทำลายอาคมเคลื่อนย้ายก่อนในทันที

ตอนนี้ ลู่เฟิง มียอดฝีมือมากมาย แต่เขาไม่สามารถจัดหายอดฝีมือวางไว้ทั่วเมืองชายแดนใหญ่ ๆ ทุกแห่งได้ในตอนนี้

“ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะรักษาความลับเป็นอย่างดี”เจี๋ยสวี่ ตอบกลับ

ลู่เฟิง ได้พยักหน้าให้กับ เจี๋ยสวี่

สำหรับการทำลายอาณาจักรซีหยางทั้งหมด ลู่เฟิง และ เจี๋ยสวี่ ได้วางแผนกันไว้แล้ว เหลือแค่ต้องทำตามแผน ดังนั้น เจี๋ยสวี่ จึงไม่จำเป็นจะต้องรั้งอยู่ที่นี่

นอกจากนี้ ยังมีจางซุนหวูจี๋ ไม่เพียงแต่เขาจะมีชื่อเสียงเท่านั้น เขายังมีความคิดดี ๆ มากมาย ความสามารถของเขาสามารถเป็นอาจารย์ฝึกสอนกองทัพได้สบาย

ห้าวันต่อมา ลู่เฟิง ได้รับข่าวว่า ชูจิน ได้รวบรวมทหารส่วนตัวจากตระกูลขุนนางมารวมตัวกันไว้ในที่เดียว

ที่น่าสนใจก็คือจำนวนของมันมากกว่า 1.5 ล้านคน!

มันเป็นจำนวนที่ทเากับกองทัพที่นำโดย ชูหยี ก่อนหน้านี้ แต่ประสิทธิภาพการรบนั้นเทียบไม่ได้

ดังนั้น ลู่เฟิง จึงรู้สึกอิจฉาในความคิดของคนเหหล่านี้มากมาย

รวมทัพคนของตนเองไว้ด้วยกันเพื่อต้านทัพศึกเดียวอย่างลู่เฟิง

หลังจากรับรู้ข่าว ลู่เฟิงก็ไม่ได้นั่งอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาได้ออกคำสั่งให้กองทัพเริ่มเดินทางทันที กองทัพทหารชั้นยอด 600,000 นายได้มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกตรงสู่เมืองหลิงหยาง

ทางด้านของ ชูจิน หน่วยข่าวกรองของเขาเองก็ได้รับข่าวการเคลื่อนไหวของกองทัพ ลู่เฟิง

มีแม่ทัพทหารส่วนใหญ่นั่งอยู่ในเต็นท์คนเหล่านี้ ที่น่าสนใจก็คือแม่ทัพทั้งหมดไม่ใช่แม่ทัพของกองทัพเดิมแต่เป็นข้าราชการที่แต่งกายชุดพลเรือน

พวกเขาเป็นทั้ง ผู้นำตระกูลตระกูลและหัวหน้าทหารส่วนตัวที่นำมา

ชูจิน มองไปที่ พวกเขาด้วยรอยยิ้ม”ตอนนี้ ลู่เฟิง มันได้นำทัพ 600,000 นายมุ่งมาสู่ความตายแล้ว พวกเราจะต้องไม่ปล่อยให้มันรอดออกไป”

เหล่าข้าราชบริพารไม่กี่คนด้านล่างและพูดด้วยรอยยิ้ม”ฝ่าบาท ข้าน้อยไม่คิดว่าเราจะจำเป็นต้องสร้างแนวป้องกันที่ดี แค่ส่งกองกำลังไปรุกโดยตรงก็น่าจะสามารถฆ่า ลู่เฟิง ด้วยกองทัพจำนวนของเราที่มากกว่า”

“ใช่แล้ว ฝ่าบาท ข้าน้อยก็คิดเช่นเดียวกัน แม้ว่า ลู่เฟิง จะทรงพลัง แต่กองทัพของเขาก็มีน้อยกว่าเราถึงสองเท่าตัว”

พวกเขามั่นใจมากเพราะมีกองทัพ 1.5 ล้านคนในมือ!

กองทัพ 1.5 ล้านคนนี้ สร้างความมั่นใจให้กับพวกเขาอย่างท่วมท้น เพราะพวกเขาคิดว่า กองทัพ 600,000 นายของลู่เฟิง ไม่สามารถเอาชนะกองทัพของพวกเขาที่มีมากกว่าสองเท่าได้

มันเป็นเช่นนี้

พวกเขาไม่เคยคิดผลที่ตามมาหลังจากล้มเหลว

ชูจินเองก็ยิ้มและพยักหน้า”ในเมื่อทุกคนมีความเห็นเช่นเดียวกันเช่นก็เริ่มเลย!”

หลังจากหยุดชั่วครู่เขาก็พูดขึ้น”สามสิบไมล์นอกเมืองหลิงหยางเป็นภูมิประเทศที่กว้างขวางมากพอที่จะให้กองทัพนับล้านเข้าชาร์จได้ พวกเราจะรออยู่ที่นี่ ให้ลู่เฟิง วิ่งมาหาความตายด้วยตัวของมัน”

“ฮ่าฮ่า,ฝ่าบาททรงพระปรีชายิ่งนัก”รัฐมนตรีด้านล่างได้กล่าวพูดขึ้น

“ฮ่าฮ่า,ลงไปจัดการทุกอย่างซะ”

“ขอรับ!’

วันต่อมา ลู่เฟิง ได้เดินทัพมาถึงครึ่งทาง เขาได้รับรายงานจากหน่วยสอดแนมที่กำลังตรวจสอบข่าว

“เจ้าจะบอกว่า ชูจิน วางกองทัพของเขาไว้บนที่ราบเปิด และ รอให้เราผ่านมา?”ลู่เฟิง กล่าวถามด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย

หน่วยสอดแนมได้ตอบกลับทันที”เรียนฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ข้าน้อยมิบังอาจหลอกลวงพระองค์”

ใบหน้าของ ลู่เฟิง ดูแปลก ๆ เล็กน้อย ชูจิน คนนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงกล้าเปิดศึกบนที่ราบ เขาคิดว่ากองทัพ 1.5 ล้านคนจะอยู่ยงคงกระพันงั้นเหรอ?

ลู่เฟิง ได้สั่นศีรษะและส่งหน่วยสอดแนมไปอีกครั้ง”ลงไปตรวจสอบข่าวเรื่องนี้ให้กระจ่างอีกครั้งอย่าลืมรายงานกลับมาโดยเร็วที่สุด”

“ขอรับ!”

หลังจาก ที่หน่วยสอดแนมจากไป ลู่เฟิง ก็มองไปที่ เมิ่งเถียน”เมิ่งเถียน การศึกในครั้งนี้ จะนับเป็นผลงานของเจ้า ข้าชักอยากจะเห็นว่าเจ้าจะสามารถมอบบทเรียนที่แสนสาหัสให้กับพวกเขาได้หรือไม่”

“ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย!”

เมิ่งเถียน ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม”ในศึกครั้งนี้ข้าจะทำลายกองทัพ 1.5 ล้านคน และไม่ปล่อยให้พวกมันกล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านอีก”

“อืม,ลงไปจัดการซะ”

“ขอรับ!”

กองทัพของ ลู่เฟิง ยังคงออกเดินทางต่อไป สำหรับเมิ่งเถียน เขาได้คิดค้นกลยุทธ์รอไว้อยู่แล้ว

ลู่เฟิง ขอให้ ลิโป้ เตรียมหทารม้า 20,000 นายเตรียมเข้าชาร์จ

ครั้งสุดท้ายที่ต่อสู้กับทหารชั้นยอดของ ชูหยี ทหารม้า 50,000 นายได้สูญเสียไป 30,000 นายตอนนี้เหลือเพียง 20,000 นายเท่านั้น

ตอนนี้ ลู่เฟิง ไม่ได้วางแผนจะนำกองทัพของเขาเข้าชาร์จเองอีกครั้ง แต่ส่งเรื่องให้ ลิโป้ ผู้บัญชาการทหารม้าสูงสุดคอยจัดการ

ครึ่งวันผ่านไปในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็สามารถมองเห็นกันและกัน

“เจ้าเด็กน้อยลู่เฟิงใสหัวออกมาซะ!”ชูจิน ในชุดเกราะอันทรงพลังได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

ลู่เฟิง ได้ควบม้าตัวสูงค่อย ๆ ย่ามเดินออกมาและกล่าวถาม”เจ้ากำลังมองหาข้ามีธุระอันใด หรือว่าวางแผนจะให้ข้าจับตัวเจ้ากลับไปอีกครั้ง?”

ทันใดนั้น ใบหน้าของ ชูจิน ก็เริ่มมืดมน เรื่องที่เขาตกเป็นเชลยของศัตรูนับเป็นความอัปยศที่สุดในชีวิตของเขา

เขาได้สูดลมหายใจเข้าลึกและตอบกลับอย่างเย็นชา”ลู่เฟิง อย่าได้มั่นใจให้มันมากนักวันนี้จะเป็นวันล้มล้างความอัปยศของข้า และข้าจะสลักความอัปยศที่เจ้าทำไว้กับข้าทั้งหมดลงไปที่อาณาจักรหนานหยานของเจ้า!”

“พูดได้ดี!”

ลู่เฟิง ยื่นมือออกมาตบแปะและตอบกลับ”บุตรชายของเจ้า ชูหยี ก็พูดคล้ายกับเจ้าเช่นนี้ท้ายที่สุดก็ถูกฆ่ากุดหัวไปเจ้าเองก็คงไม่ต่างกัน”

“ฮึ่ม,มันไม่มีประโยชน์ที่จะต้องเสวนากันอีก ท้ายที่สุด ใครอยู่ใครไปเดี๋ยวจะได้รู้กัน!”ชูจิน ได้ตะคอกอย่างเย็นชา

“โหว,นี่เจ้าคิดจะเข้ามาสู้กับข้าตัวต่อตัวงั้นเหรอ?”ลู่เฟิง ยิ้มออกมาพร้อมกับผายมืออ้าแขนรอรับ

ใบหน้าของ ชูจิน ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก ให้เขาไปสู้กับ ลู่เฟิง ? บ้านแกเถอะ!

ถ้า ลู่เฟิง บอกว่าจะสู้ตัวต่อตัวกับเขาเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เขาอาจจะยังพอมีความกล้า แต่ตอนนี้ เขาไม่มีความคิดเช่นนั้น

“หึ,ไม่จำเป็นจะต้องสู้แบบตัวต่อตัวให้เสียเวลาไป!”

ชูจิน ได้ส่งเสียงอย่างเย็นชาและควบม้ากลับ

“อ๋อ…หรือว่าแท้จริงแล้วเจ้ากลับขี้ขลาดตาขาวใช่หรือไม่?”

ลู่เฟิงหัวเราะออกมา”ชูจิน ภายในสองวันนี้ เจ้าจะกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณ หรือ จะกลับมาเป็นเชลยของข้าอีกครั้ง ข้าก็ชักอยากจะรู้ ฮ่าฮ่า!”

หลังจากหัวเราะสองครั้ง ลู่เฟิง ก็กลับไปที่กองทัพ

“ไร้สาระ! กองทัพทั้งหมดฟังคำสั่ง!”

ชูจินเต็มไปด้วยความโกรธและสั่้งให้กองทัพทั้งหมดไล่ตามลู่ฆ่าลู่เฟิงที่หันหลังอยู่

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

Status: Ongoing

ข้ามต่างโลกไปเป็นเพียงแค่จักรพรรดิที่ถูกควบคุมหรือไม่ ? ไม่สำคัญเพราะข้ามีระบบจักรพรรดิ!

พวกเจ้ารวมหัวกันแก่งแย่งชิงอำนาจ ? ข้าไม่สนเพราะข้ามี เจี๋ยสวี่

พวกเจ้ามีนักรบที่เก่งกาจไร้คู่เปรียบ ? เหอะ ข้ามี เทพสงคราม ฮั่

ลำดับขั้น

เนื่องจากผู้อ่านอาจเข้าใจลำดับขั้นในภาษาไทยยาก จึงอยากจะขอเปลี่ยนเป็นการทับศัพท์ลำดับขั้นแทนทั้งหมด เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น *

1.Elemental Guider จากเดิม ผู้นำธาตุ – พลังงานก๊าซ

2.Elemental Apprentice จากเดิม เด็กฝึกธาตุ – พลังงานก๊าซ

3.Elemental Journeyman จากเดิม นักผจญภัย – พลังงานก๊าซ

4.Elemental Master จากเดิม ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุ – พลังงานก๊าซ

5.Elemental Mage จากเดิม นักเวทย์ธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

6.Elemental Archmage จากเดิม ผู้วิเศษธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

7.Elemental Overlord จากเดิม เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ – พลังงานเหลว, อาณาจักรลึกลับ, พลังลึกลับ

8.Elemental Archlord จากเดิม ผู้พิพากษาธาตุ – พลังงานเหลว + พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ,พลังลึกลับ

9.Elemental Dominator จากเดิม ผู้ครอบครองพลังงานแห่งธาตุ – พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ , พลังลึกลับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท