MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ – ตอนที่ 214

ตอนที่ 214

หนิงหยุนเอ๋อร์ ได้ยินคำพูดของ ลู่เฟิง เธอได้ถอนหายใจออกมา เธอจะไม่เข้าใจจุดประสงค์ของ ลู่เฟิง ได้อย่างไร?

ด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว หนิงหยุนเอ๋อร์ ได้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกทีละชิ้นและกล่าวกระซิบออกมา”หม่อมฉันยินดีตอบแทนพระองค์ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม”

ภายใต้กระโปรงยาวของทางวังที่รัดรูป เผยให้เห็นผิวเนียนขาวของหนิงหยุนเอ๋อร์ ช่างเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบ

อย่างไรก็ตาม ลู่เฟิง กลับมองแผ่วเบาและถอนสายตาเล็กน้อย”เจ้าคิดว่าข้ากำลังหมายปองร่างกายของเจ้า?”

“ไม่ใช่งั้นเหรอ?”หนิงหยุนเอ๋อร์ ทำสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย

“แม้ว่าร่างกายของเจ้าจะงดงาม แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ข้าหาได้สนใจเจ้าอีกแล้ว”

เมื่อมองไปที่ หนิงหยุนเอ๋อร์ ลู่เฟิงได้ตอบกลับ”เพียงแต่ ข้าต้องการให้เจ้าตอบคำถามของข้า”

ใบหน้าของ หนิงหยุนเอ๋อร์ ได้เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอคิดว่าก่อนหน้านี้ที่ลู่เฟิงแสดงออกมาเพียงเพราะปราถนาในร่างกายของเธอ แต่ใครจะไปคิดว่าลู่เฟิงจะไม่มีความคิดเช่นนั้น แต่เธอกลับเปลื้องผ้าออกแล้ว

หนิงหยุนเอ๋อร์ รีบสวมชุดกระโปรงและลงศีรษะลง”หากหม่อมฉันตอบคำถามของพระองค์ ,พระองค์จะปล่อยตระกูลหนิงไปได้หรือไม่?”

“มันขึ้นอยู่กับว่าคำตอบของเจ้าน่าพึงพอใจมากน้อยแค่ไหน”ลู่เฟิงตอบกลับเบา ๆ

หนิงหยุนเอ๋อร์ ได้ตอบกลับทันที”ฝ่าบาทโปรดเชิญถามหากหม่อมฉันรู้หม่อมฉันจะตอบพระองค์อย่างแน่นอน”

“เช่นนั้น ในฐานะที่เจ้าเป็นถึงราชินีแห่งอาณาจักรซีหยาง เจ้ารู้หรือไม่ว่า หินวิญญาณของอาณาจักรซีหยางได้มาจากที่ไหน?”ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ หนิงหยุนเอ๋อร์

เรื่องนี้สำคัญมากกับลู่เฟิง

ถ้าเขาต้องการให้ข้อมูลข่าวสารไหลเวียนเร็วขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ ของอาณาจักร เขาต้องใช้อาคมเคลื่อนย้าย

และหินวิญญาณคือพลังงานที่ใช้งานในการขับเคลื่อนอาคมเคลื่อนย้าย

อาณาจักรซีหยางมีหินวิญญาณระดับต่ำมากกว่า 20,000 ก้อน และ หินวิญญาณระดับกลางมากกว่า 2,000 ก้อน นี่เป็นเรื่องที่เเปลกมาก

หินวิญญาณมีค่าอย่างมาก ไม่ว่าจะด้านอะไรก็ตาม ดังนั้นเขาคิดว่าภูมิหลังของอาณาจักรซีหยางน่าจะแข็งแกร่งกว่าอาณาจักรหนานหยาน แต่ก็คงไม่น่าจะมากเกินไป

แต่หินวิญญาณระดับต่ำ 20,000 ก้อนทำให้เขาเปลี่ยนความคิด

มันน่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังซ่อนอยู่

เขาเดาในใจว่าราชวงศ์ของอาณาจักรซีหยาง น่าจะควบคุมเส้นเลือดวิญญาณได้อย่างลับ ๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้แข็งแกร่งจนเกินไปแต่ก็มีส่วนช่วยเหลืออาณาจักรซีหยางตลอดมา

น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ถามเรื่องนี้จากปากของ ชูจิน ดังนั้น ตอนนี้ คงมีคนไม่กี่คนที่พอจะรู้เรื่อง เช่น หนิงหยุนเอ๋อร์ และ ชูฉี

แม้ ชูฉี จะถูกเขาปู้ยี้ปู้ยำเมื่อคืนนี้ แต่ความภักดีของเธอก็ยังคงไม่มีเหมือนเดิม ดังนั้นไม่ต้องคาดหวังว่าเธอจะตอบคำถามเขา

แต่ หนิงหยุนเอ๋อร์ นั้นแตกต่างออกไป ตระกูลหนิง กำลังตกอยู่ในอันตราย ชีวิตของทุกคนในตระกูลขึ้นอยู่กับคำพูดของ หนิงหยุนเอ๋อร์ เพียงเท่านั้น

“หินวิญญาณ?”

หนิงหยุนเอ๋อร์ มองไปที่ ลู่เฟิงและตอบกลับ”หม่อมฉันไม่รู้ว่าหินวิญญาณคืออะไร”

“หนิงหยุนเอ๋อร์ ในฐานะอดีตราชินีแห่งอาณาจักรซีหยาง ข้ายอมรับว่าเจ้าฉลาดไม่เบา แต่ทว่า คำตอบที่เจ้าให้ข้าไม่ค่อยน่าพึงพอใจดังนั้นข้าจะฆ่าคนตระกูลหนิงทั้งหมดสิบคน”ลู่เฟิงมองไปที่หนิงหยุนเอ๋อร์และตอบกลับเบา ๆ

“ท่าน…ท่านมันปีศาจ!”หนิงหยุนเอ๋อร์ มองไปที่ ลู่เฟิงด้วยความหวาดกลัว

เธอไม่คิดเลยว่า ลู่เฟิงจะตัดสินชีวิตของตระกูลหนิงหลายคน ด้วยคำพูดของเธอเพียงไม่กี่คำ

“สิบห้าคน!”

“หม่อมฉันไม่รู้จริง ๆ !”

“ยี่สิบสองคน!”

ลู่เฟิง มองไปที่ หนิงหยุนเอ๋อร์และตอบกลับเล็กน้อย”เจ้าจะพูดเรื่องไร้สาระก็ได้เพราะข้าหาได้สนใจ แต่เจ้าคงไม่ห่วงชีวิตคนตระกูลหนิงกระมัง?”

“หม่อมฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าหินวิญญาณคืออะไร…หม่อมฉันไม่รู้”หนิงหยุนเอ๋อร์ ได้ทรุดตัวลงบนพื้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง การแสดงออกของเธอทำให้ ลู่เฟิงเฝ้ามองและขมวดคิ้วแน่น

หนิงหยุนเอ๋อร์ ไม่รู้เรื่องหินวิญญาณจริง ๆ งั้นเหรอ?”

เขามองไปที่ หนิงหยุนเอ๋อร์ และ พิจารณาเล็กน้อยก่อนที่จะตะโกนออกไปนอกประตู

“ขอรับ!”ทันใดนั้น ทหารเงาก็มารายงาน

“ฆ่าคนตระกูลหนิงให้หมด!”

“ขอรับ!”

“ฝ่าบาทโปรดรอก่อน!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของ ลู่เฟิง หนิงหยุนเอ๋อร์ เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและรีบตะโกนขึ้น

ร่างของ ลู่เฟิง เคลื่อนไหวไปถึงด้านหน้าของหนิงหยุนเอ๋อร์และจับคางของเธอขึ้นก่อนที่จะกล่าวถามอย่างเย็นชา”ที่แท้เจ้าก็รู้!”
การกระทำของ หนิงหยุนเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้ เกือบทำให้ ลู่เฟิงเชื่อว่าเธอไม่รู้จริง ๆ

แต่ต่อมา ลู่เฟิงได้ตัดสินใจทดสอบดู หลังจากได้ยินคำสั่งของเขา หนิงหยุนเอ๋อร์ ก็ไม่สามารถปกปิดความลับได้อีกต่อไป

“ฝ่าบาท หากหม่อมฉันบอก พระองค์จะไว้ชีวิตตระกูลหนิงใช่หรือไม่?”หนิงหยุนเอ๋อร์ รีบกล่าวถาม ลู่เฟิงอย่างรีบร้อน

“มีเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่คำสั่งของข้าจากพระราชวังจะไปถึงเมิ่งเถียน ดังนั้นเจ้าต้องตอบคำถามของข้าตามตรง”

ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ หนิงหยุนเอ๋อร์และกล่าวข่มขู่อีกฝ่าย”คราวนี้ข้าจะไม่ละเว้นให้ ถ้าเจ้ากล้าปิดบังอีก ข้าจะลบตระกูลหนิงให้หายไปซะ”

หนิงหยุนเอ๋อร์ รีบตอบทันที”หลายปีก่อน หม่อมฉันได้ยินมาว่าพื้นที่ในราชวงศ์นั้นมีดินหนาแน่นแต่หม่อมฉันไม่รู้ว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ หลังจากที่ จักรพรรดิทรงส่งคนไปสำรวจ พวกเขาก็ออกมาพร้อมกับหินวิญญาณ”

หัวใจของลู่เฟิงขยับเล็กน้อยดูเหมือนว่าเส้นเลือดวิญญาณคงจะตั้งอยู่ในบริเวณพื้นดินหนาแน่นนั่น

เขาถามทันที”พื้นที่ตรงนั้นอยู่ที่ไหน?”

“ตอนนี้ที่นั่นเป็นแดนลับของอาณาจักรซีหยาง มีเพียง ชูจิน เท่านั้นที่รู้วิธีเข้าสู่แดนลับแต่ตอนนี้…”

เมื่อมองไปที่ ลู่เฟิง หนิงหยุนเอ๋อร์ได้กล่าวกระซิบ”พระองค์ฆ่าชูจินไปแล้ว พระองค์คงไม่มีทางเข้าไปในแดนลับได้”

ในน้ำเสียงของเธอปนไปด้วยความสุขบางอย่างเพราะเธอยินดีที่ได้เห็นลู่เฟิงไม่ได้รับสิ่งใดกลับมา

ลู่เฟิง มองไปที่เธอและตอบกลับ”เจ้าบอกว่าไม่มีทางเข้าไปในแดนลับได้งั้นหรือไม่ ? ดูเหมือนว่า เจ้าคงไม่หวงแหนชีวิตของคนตระกูลหนิงกระมัง!”

“ท่าน…ท่านไม่ได้บอกว่าตราบใดที่ข้าตอบคำถามของท่าน ท่านจะปล่อยตระกูลหนิงไป?”หนิงหยุนเอ๋อร์ ได้ตอบกลับอย่างกังวล

“ใช่,ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ข้าย่อมรักษาสัญญาอย่างแน่นอน แต่เจ้ากล้าโกหกข้าเจ้าคิดว่าข้ายังจะรักษาสัญญาที่มีให้เจ้าหรือไม่?”

ลู่เฟิง มองไปที่ หนิงหยุนเอ๋อร์ ด้วยสายตาเย้ยหยัน”ในสายตาของเจ้า ข้าคงจะดูเหมือนคนที่หลอกง่ายมากเลยงั้นสินะ”

“ต้วนชุย!”

“ขอรับ!”ร่างของ ต้วนชุย ได้ปรากฏขึ้นในห้องศึกษา

“ส่งผ่านคำสั่งของข้าให้เมิ่งเถียนทันที สังหารสมาชิกตระกูลหนิงทั้งหมด”

“ขอรับ!”

ต้วนชุย รับคำสั่งและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

“ฝ่าบาทโปรดรอก่อน โปรดรอก่อนเพคะ”

หนิงหยุนเอ๋อร์ ได้เงยหน้าขึ้นมองไปที่ ลู่เฟิง เชิงขอร้อง”หม่อมฉันสามารถบอกข้อมูลเกี่ยวกับนิกาย ดาบวิญญาณได้ ได้โปรดละเว้นตระกูลหนิงด้วย”

หนิงหยุนเอ๋อร์ ไม่กล้าขอให้ ลู่เฟิง ไม่สังหารคนตระกูลหนิงอีกต่อไปแต่เธอร้องขอให้เขาละเว้นให้มีผู้สืบสายเลือดตระกูลหนิงเหลือรอด

ตระกูลหนิงเหล่านั้นนับได้ว่าเป็นญาติของเธอ

“นิกายดาบวิญญาณ?”

ลู่เฟิง ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาได้คิดถึงนิกายนี้ก่อนหน้านี้

เขาได้ตอบกลับ หนิงหยุนเอ๋อร์ทันที”ก็ได้ ข้าให้สัญญากับเจ้า ตราบใดที่เจ้าบอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ข้าจริง ๆ ข้าจะทำตามคำขอของเจ้า”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”

หนิงหยุนเอ๋อร์ รีบขอบคุณทันที

“อย่าเพิ่งขอบคุณ บอกทุกอย่างที่เจ้ารู้เกี่ยวกับนิกายดาบวิญญาณมา”ลู่เฟิง ได้กล่าวถาม

หนิงหยุนเอ๋อร์ ได้มองไปที่ ลู่เฟิงก่อนหน้านี้”ก่อนหน้านี้คนจากนิกายดาบวิญญาณมาที่เมืองหลิงหยางพร้อมกับประมุขน้อยหวู่ฮง คาดว่าพระองค์น่าจะเจอพวกเขาไปแล้ว แต่ทว่า ดูเหมือนว่าหนึ่งในพวกเขาจะพบสถานที่ในเมืองหลิงหยางและกำลังสร้างอาคมเคลื่อนย้ายที่นำไปสู่นิกายดาบวิญญาณโดยตรง”

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

Status: Ongoing

ข้ามต่างโลกไปเป็นเพียงแค่จักรพรรดิที่ถูกควบคุมหรือไม่ ? ไม่สำคัญเพราะข้ามีระบบจักรพรรดิ!

พวกเจ้ารวมหัวกันแก่งแย่งชิงอำนาจ ? ข้าไม่สนเพราะข้ามี เจี๋ยสวี่

พวกเจ้ามีนักรบที่เก่งกาจไร้คู่เปรียบ ? เหอะ ข้ามี เทพสงคราม ฮั่

ลำดับขั้น

เนื่องจากผู้อ่านอาจเข้าใจลำดับขั้นในภาษาไทยยาก จึงอยากจะขอเปลี่ยนเป็นการทับศัพท์ลำดับขั้นแทนทั้งหมด เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น *

1.Elemental Guider จากเดิม ผู้นำธาตุ – พลังงานก๊าซ

2.Elemental Apprentice จากเดิม เด็กฝึกธาตุ – พลังงานก๊าซ

3.Elemental Journeyman จากเดิม นักผจญภัย – พลังงานก๊าซ

4.Elemental Master จากเดิม ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุ – พลังงานก๊าซ

5.Elemental Mage จากเดิม นักเวทย์ธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

6.Elemental Archmage จากเดิม ผู้วิเศษธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

7.Elemental Overlord จากเดิม เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ – พลังงานเหลว, อาณาจักรลึกลับ, พลังลึกลับ

8.Elemental Archlord จากเดิม ผู้พิพากษาธาตุ – พลังงานเหลว + พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ,พลังลึกลับ

9.Elemental Dominator จากเดิม ผู้ครอบครองพลังงานแห่งธาตุ – พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ , พลังลึกลับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท