ต้วนชุยไม่ทำให้เขาผิดหวัง!
เพียงพริบตาก็สามารถลอบฆ่าแม่ทัพเหวินเหยาได้!
ถึงแม้ว่า เสี่ยวจือ จะชอบเอาชนะศัตรูตัวต่อตัวในการต่อสู้ แต่ตอนนี้สถานการณ์ก็แตกต่างออกไป เขาต้องยึดครองภูเขาติงจิ้งให้ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น เขาจะต้องใช้วิธีการลอบสังหารแม่ทัพของศัตรู
และผลที่ได้ก็ยอดเยี่ยมมาก!
“ฆ่า!”
หลังจาก เหวินเหยา ถูกฆ่า ประสิทธิภาพการรบของทัพมังกรอู๋เซียงและขวัญกำลังใจของพวกเขาก็ลดลงหลายระดับ
เสี่ยวจือ จะยอมทิ้งโอกาสดี ๆ แบบนี้ ไปได้อย่างไร
เขาได้ตะโกนขึ้นและนำทหารพยัคฆ์ที่เหลือไม่ถึง 1,500 นายพุ่งเข้าใส่ศัตรู
แม้จะเหลืจำนวนน้อยแต่ภายใต้การนำทัพของ เสี่ยวจือ ขวัญกำลังใจของทหารทัพมังกรอู๋เซียงได้ลดลงจนถึงระดับจุดเยือกแข็ง
ทหารพยัคฆ์กว่า 1,500 นายได้พุ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างกระทันหัน
“ฆ่า!”
ทหารพยัคฆ์ทัพหน้าเองพวกเขาไม่ลังเลที่จะสังหารอีกฝ่ายทีละคนและล้างบางทัพมังกรอู๋เซียงนี้
ถ้า เหวินเหยา ยังคงอยู่ บางทีเขาอาจยังสั่งการทัพมังกรอู๋เซียง ให้จัดการกับ ทัพพยัคฆ์ได้
แต่ตอนนี้ เหวินเหยา ถูกสังหาร ประสิทธิภาพการรบของทัพมังกรอู๋เซียงได้ลดลงมากกว่าครึ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับทัพพยัคฆ์พวกเขาย่อมเสียหลัก
แม้ผู้คุมกองพันหลายคนจะตะโกนให้ถอยหนีตาย แต่ความสามารถของพวกเขาก็ยังไม่ดีพอเท่ากับ เหวินเหยา ไม่สามารถสั่งกองกำลังทัพมังกรอู๋เซียงได้ทั้งหมด
ตอนนี้ พวกเขารู้สึกหมดหนทางและเปลี่ยนความจริงที่ว่าพวกเขากำลังจะพ่ายแพ้ไม่ได้
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ ย่อมทำให้พวกเขาสาหัสไม่ใช่น้อย รูปแบบขบวนกองทัพเองก็ได้พังทลายลง เป็นผลให้ เสี่ยวจือ ลงมือได้ง่ายขึ้น
เมื่อปราศจากรูปแบบขบวนกองทัพ เสี่ยวจือ ก็อาละวาดด้วยความโกรธ
พยัคฆ์ร้ายได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
คนผู้นึง ได้พุ่งกระโจนเข้าหากลุ่มคนหลายสิบคนและเหวี่ยงง้าวออกไปสังหารคนนับสิบในพริบตากระทั่งหลายร้อยคนยังถูกตัดศีรษะ!
ฆ่า!
เชือด!
เขาไม่ลังเลที่จะสังหารศัตรูให้มากขึ้น หลังจากที่ ต้วนชุย สังหาร เหวินเหยา ไปแล้ว และ ได้ใช้ประโยชน์จากการที่กองทัพวุ่นวายพยายามจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด
ขณะที่ ทัพมังกรอู๋เซียง บางคนกำลังพยายามจะถอยเพื่อหลบหนี พวกเขาก็ถูกต้วนชุย ในร่างอวตราเทพสงครามสังหารทั้งหมด
ทัพมังกรอู๋เซียง ทำได้เพียงแยกย้ายและหลบหนีไปคนละทิศละทาง
…
ในอีกด้านหนึ่งของ สนามรบ ด้านหลังภูเขาติงจิ้ง ทหารบนภูเขาติงจิ้ง ต่างก็รีบลงมาและเจาะเข้าไปยังข้อบกพร่องที่หลิวจี๋ ได้เปิดเผยเอาไว้
“ฝ่าบาท ศัตรูตกอยู่ในแผนการของเราแล้ว พวกเราสามารถลดขนาดรูปแบบลงได้”หลิวจี๋ ได้กล่าวพูดกับลู่เฟิง
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าและตอบกลับทันที”ทำตามแผน!”
“ขอรับ!”
หลิวจี๋ ได้ออกคำสั่งให้กับคนส่งสัญญาณทันใดนั้นเสียงแตรก็ดังขึ้นในสนามรบ
กองทัพทั้งสี่จุดได้ถอยร่นกันอย่างรวดเร็ว
บนภูเขาติงจิ้ง องค์ชายมองดูฉากนี้ก็หัวเราะทันที”จิ้งซือหรง,เจ้ามองดูสิ ตอนนี้ทัพของ ลู่เฟิง ถอนตัวออกไปแล้ว พวกมันไม่กล้าปะทะกับพวกเรา พวกเราสามารถใช้จังหวะนี้กดดันรุกไล่ขึ้นไป จะสามารถทำลายกองทัพของ ลู่เฟิง ได้อย่างสมบูรณ์!”
“ถูกต้อง องค์ชาย ตรัสได้ถูกแล้ว ถ้าพวกเราเหล่าแม่ทัพนำกองกำลังไล่ตามไปในทันที พวกเราย่อมสามารถสังหารศัตรูและกระทั่งจับจักรพรรดิลู่เฟิงได้สำเร็จถือเป็นผลงานครั้งใหญ่!”
“ใช่แล้ว ท่านแม่ทัพ โปรดออกคำสั่งเถิด พวกเราจะรีบรุดหน้าไปทันที”
องค์ชาย และ แม่ทัพที่อยู่เบื้องหลัง จิ้งซือหรง ร้องขอคำสั่ง
แต่ในเวลานี้ จิ้งซือหรง ไม่ได้ตอบ เขาจ้องมองไปที่สนามรบด้วยความสงสัย”ทำไม ลู่เฟิง ถึงสั่งให้ทัพถอนกำลังออกไป ด้วยกำลังของ เตียวเลี้ยว และ ทัพต้านศึกพวกมันย่อมสู้ยืดเยื้อกับพวกเราได้เป็นเวลานาน”
“แต่ว่าทำไมกัน…”
เมื่อกวาดสายตาไปที่สนามรบ จิ้งซือหรง ก็พึมพัมออกมา”ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน พลธนูบนไป่เหลียนโป นั้นทรงพลังอย่างมาก ทำให้ทัพของเราสูญเสียทหารไปอย่างน้อย 150,000 นายหรือมากกว่านั้น ส่วนทัพของอาณาจักรหนานหยานกลับสูญเสียไม่ถึง 30,000 นาย”
“นอกจากนี้ พลธนูบนไป่เหลียนโป ก็ยังไม่ถอนกำลังออกไป แต่กองทัพภายใต้เงื้อมมือของลู่เฟิงด้านล่านกลับถอนกำลังออกไป นี่มัน เป็นการย่อขนาดสนามรบหรือไม่ ลู่เฟิง กำลังวางแผนอะไรกันแน่?”
คนอื่น ๆ กล้าที่จะดูถูก ลู่เฟิง แต่จิ้งซือหรง ไม่กล้า การประเมินอีกฝ่ายต่ำก่อนหน้านี้ทำให้เขาสูญเสียอย่างหนัก
“ท่านแม่ทัพจะยังลังเลอะไรอยู่อีก รีบสั่งการเถิด! พวกเราจะพลาดโอกาสนี้ไม่ได้!”
“ใช่แล้วท่านแม่ทัพ โปรดออกคำสั่งโดยเร็วเถิด พวกเราจะรีบใช้โอกาสนี้ไล่ตามฆ่าลู่เฟิงและทำลายกองทัพของพวกมัน!”
แม่ทัพที่อยู่เบื้องหลัง จิ้งซือหรง เรียกร้องขอคำสั่งอีกครั้ง
องค์ชายเองก็ตะโกนขึ้น”จิ้งซือหรง ถ้าเจ้าพลาดโอกาสนี้ไป ข้าจะกลับไปที่ เมืองหลวง และ รายงานเรื่องนี้ต่อฝ่าบาทอย่างแน่นอน!”
ใบหน้าของ จิ้งซือหรง ได้เปลี่ยนไป แม้ว่าเขาจะได้รับความไว้วางใจอย่างลึกซึ้งจากจักรพรรดิอู๋เซียงด้วยเหตุผลบางประการ แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะต่อต้านสมาชิกราชวงศ์อย่างองค์ชายได้
อาจเป็นไปได้ว่าเขาจะสูญเสียสถานะทั้งหมดของตนเองไป
แม้ จิ้งซือหรง จะมีความคิดบางอย่างในใจ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะต้องระมัดระวังในตอนนี้ เขาได้โบกมือขึ้น”ส่งคำสั่งลงไป ให้กองทัพรุกไล่ทัพของลู่เฟิง และ ตัดศีรษะขของพวกมันมาให้ข้า จากนั้นก็บุกยึดเมืองเร้ดเมเปิ้ล!”
“ขอรับ!”
แม่ทัพที่อยู่ด้านหลังทั้งหมดของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พวกเขารีบลงไปจัดการทันที
หลังจากที่ จิ้งซือหรง ได้ออกคำสั่ง กองทัพทหารอู๋เซียง ก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพุ่งไปยังทิศทางที่กองทัพของลู่เฟิงล่าถอย
ขณะที่ จิ้งซือหรง มองไปที่มันเขาก็ถอนหายใจออกมา”ลู่เฟิง ข้าเองก็อยากจะรู้นักว่าเจ้าจะมีแผนการอะไรซ่อนเอาไว้!”
ในรูปแบบกองทัพของลู่เฟิง ,ลู่เฟิง ได้เฝ้าดูทัพของศัตรูบุกเข้ามาด้านหน้าเขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย”ทำไมกัน จิ้งซือหรง มองเห็นทัพของเราถอยกลับมา เขาไม่กังวลว่าเราจะมีแผนการเลยหรือไม่?”
หลิวจี๋ ได้ยิ้มออกมา”ฝ่าบาท ดูเหมือนว่า จิ้งซือหรง ผู้นี้ จะไม่ได้เก่งกาจอย่างที่พวกเราคิด!”
ลู่เฟิง ได้พยักหน้า”อืม,แม้ว่าข้าจะไม่ใช่แม่ทัพ และ เก่งในการนำทัพออกศึก แต่ข้าก็พอจะคาดเดาได้ว่า จุดประสงค์ที่ศัตรูหลบหนี น่าจะต้องมีแผนการบางอย่างแน่นอน การไล่ล่าอย่างสุดกำลังนั้นหาใช่สิ่งที่ควรจะทำไม่”
หลังจากพูดจบ เขาก็โบกมือ”ส่งคำสั่งลงไปให้ทัพทั้งหมดถอยออกมาและเตรียมรูปแบบหน้าไม้รอจนกว่าศัตรูจะเข้าระยะยิงจากนั้นก็ให้โจมตีทันที!”
“ขอรับ!”
หลิวจี๋ ได้เดินลงไปออกคำสั่งเสียงแตรได้ดังขึ้นอีกครั้งในสนามรบ ลู่เฟิง ได้ยินเขาก็หันกลับไป
เขาเห็นรูปแบบทหารนับแสนที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว
ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็หยิบธนูและหน้าไม้ออกมาเพียงรอให้กองทัพของ จิ้งซือหรง เข้าสู่ระยะยิง จากนั้นพวกเขาก็จะจัดการ