บทที่ 735 คุณกำลังปลอบใจผมเหรอ
ธาวิณีเห็นเจตต์มองตนเองไม่พูดไม่จา ก็อดลนลานไม่ได้
“ประธานเจตต์ ฉันสาบานว่าจะพูดความจริง ไม่งั้นให้ฟ้าผ่าตายเถอะ”
น้ำเสียงธาวิณีร้อนใจ
เจตต์รู้สึกว่าตนเองเหม่อลอย ถึงถามขึ้นอย่างเกียจคร้าน“ตอนที่ฉันเมา แล้วเธอจะพาฉันไปสักที่ นิตาเป็นคนช่วยฉันไว้ใช่มั้ย”
ธาวิณีชะงัก
เธอคิดไม่ถึงว่าเจตต์จะถามคำถามนี้
“กระโจนเข้ามาแบบนี้แหละ”
“รายละเอียดเป็นยังไง ยังจำได้ไหม แสดงให้ดูหน่อย”
คำพูดของเจตต์ทำให้ปารีสรู้สึกแปลก
“ประธานเจตต์ เรื่องนี้ยังไงกันคะ”
“ปากมาก”
น้ำเสียงเจตต์นิ่งขรึมลง
ปารีสหุบปาก ยืนอยู่ด้านข้าง
ธาวิณีเห็นเจตต์ถามถึงเรื่องนี้ อดคิดไม่ได้ จากนั้นบอดี้การ์ดสองคนก็ยืนสาธิต
เจตต์จ้องมองโดยไม่พูดอะไร จากนั้นจึงถามต่อ“ตอนที่พวกแกซ้อมพวกเธอ ปฏิกิริยาแรกเธอปกป้องส่วนไหนของร่างกาย”
ธาวิณีคิดอยู่นานถึงพูด“ที่แรกคือที่ท้อง แต่มือก็ยังคงลูบท้องไว้ เธอดูเหมือนชะงักหน่อย จากนั้นจึงกุมหัวไว้”
“เธอหดตัวไหม”
“ไม่ใช่ เลยรู้สึกว่าเธอดูเซ่อๆ เป็นใครก็รู้ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะขดตัวหลบ แต่เธอไม่ใช่ เธอกระโดดเอาตัวเองรับเต็มๆ จากนั้นก็ไม่รู้ว่าโดนใครเตะ ก็ล้มลงกับพื้น จากนั้นคุณก็รู้หมดแล้ว”
ธาวิณีแม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมเจตต์ต้องถามซ้ำ แต่เธอกลัวแล้วจริงๆ กลัวโดนปารีสทรมาน กลัวเจตต์ ไม่พูดไม่จา แล้วเธอจะตายคามือเขา
เจตต์ขมวดคิ้วแน่น
สิ่งที่นิตาทำไม่มีเหตุผล และก็ไม่ใช่การปกป้องตัวเอง ดังนั้นเขาจะคิดว่า นิตาจะยืมมือธาวิณีมาให้ตัวเองรับบาดเจ็บหรือเปล่า
แต่ทำไมเธอถึงทำแบบนั้น
เธอมีจุดประสงค์อะไร
เจตต์คิดไม่ตก
ธาวิณีเห็นเจตต์นิ่งเงียบไม่พูด จึงร้อนใจ“ประธานเจตต์ ฉันพูดจริงนะคะ พูดจริงนะคะ”
“ปารีส อย่าทรมานเธออีก”
คำพูดของเจตต์ทำให้ปารีสพยักหน้า
“ถือว่ามึงโชคดี ประธานเจตต์ไม่ถือสา มึงทำบุญมาดี แต่หลังจากนี้มึงทำตัวดีๆหน่อย ถ้ากูรู้ว่ามึงคิดหนีอีก มึงเจอดี”
คำขู่ของปารีสทำให้ธาวิณีตัวสั่นเทา แต่ก็ไม่โดนทรมานอีกต่อไป เธอยังคงหายใจระส่ำ
เจตต์บอกลาปารีส แล้วโทรศัพท์หาคนของตน
“ช่วยตรวจสอบประวัติของนิตาตั้งแต่เด็กจนโตหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการป่วยระหว่างเรียน และเคยช่วยเหลืออะไรใครในช่วงนั้นมั้ย”
“ครับ ประธานเจตต์”
หลังวางสาย เจตต์รู้สึกใจหนักอึ้งมาก
เขาไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาใช้แผนการอะไรด้วยง่ายๆ ถ้านิตาใช้แผนกับตน เขาควรทำยังไง
เจตต์ไม่รู้จริงๆ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงลงมืออย่างไม่ลังเล แต่ว่าตอนนี้นิตาเป็นคนที่ช่วยเขเอาไว้ และก็บาดเจ็บ เพราะเรื่องนี้
เขาไม่เชื่อว่านิตาจะเกี่ยวข้องกับธาวิณี แต่ว่าโดนคนวางแผนใส่นี่รู้สึกไม่ดีเลย
เจตต์จุดบุหรี่ ขึ้นนั่งบนรถ
เขาว้าวุ่นใจจะแย่ หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหานรมน
“นิตาผิดปกติจริงๆ คุณหยุดงานที่บริษัทก่อนได้ไหม ผมยังไม่รู้วัตถุประสงค์ของเจ้าหล่อนเลย คุณใช้ข้ออ้างป่วยให้หล่อนพักงานได้”
นรมนฟังเจตต์พูดก็รู้ว่าเจตต์คงไปตรวจสอบมาแล้ว
เธอไม่สบายใจเลย
ตอนแรกคิดว่าตัวเองเก็บอัญมณีล้ำค่าได้ สวรรค์ประทานผู้ช่วยที่ดีขนาดนี้ แต่กลับไม่รู้ว่ามีอะไรซุก ซ่อน
นรมนพูดเสียงค่อย“ไม่ต้องหยุด เดิมทีบริษัทท่องเที่ยวของฉันก็ไม่ค่อยมีอะไรอยู่แล้ว ก็เป็นแค่บริษัทเล็กๆที่เปิดด้วยเงินไม่กี่ล้าน จะมีมูลค่าเท่าไหร่เชียว ถ้าหล่อนชอบ ยกให้เป็นไง แต่แค่ไม่รู้ว่าหล่อน ต้องการอะไร”
“ผมเองก็อยากรู้ปัญหานี้ สบายใจเถอะ ผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน”
“เจตต์คะ ”
จู่ๆนรมนเรียกเจตต์
“ว่าไง”
“อย่าทุกข์ใจไปเลย บางทีนิตาอาจจะมีเรื่องที่พูดไม่ออก”
คำพูดของนรมนทำให้เจตต์ตะลึง ฝืนยิ้มพูดขึ้น“คุณกำลังปลอบใจผมเหรอ”
“ถ้าคุณคิดว่าใช่ก็ใช่”
นรมนไม่ได้ออดอ้อน
“รู้สึกว่าฉันโศกศัลย์ใช่ไหม”
เจตต์ยิ้มขมพูด“กว่าจะรักคนๆหนึ่งไม่ง่าย แต่ช้าไปก้าวหนึ่ง ใจหล่อนไม่มีผม กว่าจะปล่อยวางคุณได้ไม่ง่าย แล้วหาคนใหม่ แต่สุดท้ายก็ลงเอยแบบเดิม บางทีชีวิตผมอาจจะดวงขมขื่น คงจะต้องตายไปอย่างขมขื่น”
“อย่าพูดมั่วสิ ฉันเชื่อว่านิตาจิตใจดี คงมีเรื่องทุกข์อยู่ในใจ เจตต์คะ คุณอย่าด่วนสรุปสิ บางทีเราอาจจะพลาดไป”
นรมนได้ยินเจตต์พูดแบบนี้ รู้สึกไม่สบายใจเลย
เจตต์ส่ายหน้าพูด“ผิดหรือไม่ ผมตัดสินใจเอง ถ้ามีอะไรคืบหน้า ผมจะบอกคุณ เท่านี้ก่อนนะ ต้อง ผ่อนคลายหน่อย”
“ไม่เป็นไรนะ”
นรมนไม่ค่อยวางใจ
เจตต์ดูเปิดเผยกว่าใคร แต่จริงๆแล้วจริงใจกว่าใคร
“ถ้าผมบอกว่าผมเป็นอะไร คุณจะทิ้งบุริศร์มาดูแลผมมั้ย”
“ไม่”
“รู้อยู่แล้วว่าต้องพูดแบบนี้ แล้วยังต้องคุยอะไรอีกล่ะ วางสายเถอะ”
เจตต์ไม่รอให้นรมนได้พูดก็รีบวางหู
อารมณ์เขาไม่ดีจริงๆ ตอนนี้ยิ่งไม่อยากกลับไปดูนิตาเลย
ผู้หญิงที่แสนซื่อ ทำไมจู่ๆถึงได้ซับซ้อนขนาดนี้
เจตต์เดินอยู่บนถนนคนเดียว เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ทำให้เขามีความสุขได้เลย
เขาเดินมาหยุดที่หน้าบาร์ อยากจะเข้าไปดื่ม แต่พอคิดดู ตัวเองผิดปกติขนาดนี้ จะทำให้นิตารู้สึกได้
เจตต์ปล่อยวางความคิดนี้
เขานั่งอยู่ที่ริมแม่น้ำ นั่งอยู่เป็นนานสองนาน จนกระทั่งนิตาโทรมา เขาถึงได้รู้ตัวว่าได้ใช้เวลาหมด บ่ายแล้ว“เจตต์ คุณอยู่ไหน”
“ริมแม่น้ำ”
เจตต์เองก็ไม่ได้ปกปิดนิตา
นิตาถามต่อ“คุณไปริมแม่น้ำทำไม”
“สำรวจพื้นที่ จะพัฒนาการท่องเที่ยวไม่ใช่เหรอ ผมต้องมาดูสิ”
เจตต์ปิดบัง
“คุณไม่กลับมาทานอาหารค่ำหรือคะ”
คำพูดของนิตาทำให้เจตต์ชะงัก“กลับไปเถอะ คิดอะไรอยู่คะ ฉันส่งกลับให้”
“อะไรก็ได้ คุณซื้อมาเถอะ เดิมทีก็เป็นงานของฉันอยู่แล้ว ทำให้คุณต้องวิ่งวุ่นทั้งวัน มื้อนี้ฉันเลี้ยง”
นิตาพูด
“ไม่ต้องหรอก ผมซื้อก็พอ”
“เจตต์คะ ให้ฉันเลี้ยงคุณสักมื้อเถอะ ให้คุณเลี้ยงทุกมื้อได้ไง”
คำพูดของนิตาทำให้เจตต์ชะงัก
หญิงสาวที่ใสซื่อและดื้อดึง ทำไมถึงคบหาเขาอย่างมีจุดประสงค์
เขาอยากถามนิตาจริงๆ ว่าเข้าหาเขามีจุดมุ่งหมายอะไร แต่เขาอดกลั้นไว้
“ตกลง ให้คุณเลี้ยง”
หลังจากที่เจตต์วางหู ก็รู้สึกเสแสร้งเหลือเกิน
เรื่องแสดงละครตบตาเขาถนัด ตอนสมัยเรียน เขามักจะเสแสร้งแกล้งทำเสมอ ตอนนี้กับนิตา จู่ๆเขารู้สึกกดดัน เสแสร้ง และตึงเครียด
บางทีเขาเห็นนิตาเป็นคนกันเอง เลยรู้สึกว่านิตาไม่ได้ช่วยเขาจากใจทำให้เขาลำบากใจ
เจตต์รอสักพัก ถึงได้จากไป
พอกลับมาถึงโรงพยาบาล เขาซื้อของกินธรรมดากลับมาก ไม่ได้ใช้เงินมาก
นิตาเห็นสีสัน ยิ้มแล้วพูด“คุณกลัวว่าฉันจะเลี้ยงมื้อใหญ่หรือไง”
“เปล่า จู่ๆอยากกินมังน่ะ ถ้าคุณไม่กิน ผมออกไปซื้อใหม่ก็ได้”
เจตต์พูดอารมณ์ดี แต่นิตาห้ามไว้
“ไม่เป็นไร ดีแล้ว ฉันกลัวว่าคุณเห็นฉันเลี้ยง เลยจงใจซื้อของถูก เจตต์คะ ฉันไม่อยากติดหนี้คุณ”
เวลานี้เอง เจตต์อยากถามนัก“คุณไม่อยากติดหนี้ แล้วเข้าหาผมมีจุดประสงค์อะไร”
แต่คำพูดจุกอยู่ที่ปาก ก็กลืนลงไป
ไม่มีหลักฐาน พูดแบบนี้ทำลายน้ำใจ
“คุณคิดมากแล้ว ผมแค่อยากกินมัง”
เจตต์ยิ้มเจื่อน
นิตามองเขา ถามโพล่“คุณมีเรื่องในใจเปล่าคะ วันนี้คุณใจลอยจัง บริษัทมีปัญหาอะไรคะ ถ้ามีธุระไปทำธุระก่อนก็ได้ ไม่ต้องสนใจฉัน ฉันไม่เป็นไร”
เจตต์ชะงัก
เขาคิดว่าตัวเองแสดงออกดีแล้ว คิดไม่ถึงว่านิตาจะจับได้
เจตต์ถอนหายใจ“ไม่มีอะไร บริษัทอยากทำจิวเวลรี่ เดิมทีผมเล็งตลาดมรกตไว้ คิดไม่ถึงว่าธาวิณีจะเป็นดีไซน์เนอร์ ดีไซน์เนอร์แบบนี้ไม่เอาดีกว่า แต่ช่วงนี้คนติดต่อตลาดมรกตมีธุระ ติดต่อไม่ได้”
เรื่องนี้เจตต์ไม่ได้โกหก เขามาคุยธุรกิจจริงๆ และฝ่ายตรงข้ามติดต่อไม่ได้จริง
นิตาได้ฟัง ครุ่นคิดพูด“ฉันรู้จักคนขายมรกต ถ้าคุณอยากทำตลาดด้านนี้ ฉันอาจช่วยคุณได้”
“คุณเหรอ”
เจตต์อดตะลึงไม่ได้
ตลาดมรกตล้ำลึกนัก
ส่วนใหญ่ราคาซื้อขายมรกตแพงมาก นิตาเป็นแค่พนักงานธรรมดาในบริษัทนรมน นรมนเป็นคนสนับสนุนดึงเธอขึ้นมา
คนแบบนี้จะรู้จักตลาดมรกตเหรอ
ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง คงต้องสืบเรื่องที่นิตาจะทำบริษัทท่องเที่ยว
เจตต์หรี่ตาลง แล้วกลับไปแบบเดิม
“ว่าไงคะ ดูถูกฉันเหรอ ฉันดูยากจนจนขายมรกตไม่ได้สิน”
นิตามองความแคลงใจเจตต์ออก
“เปล่า”
เจตต์ยิ้ม เห็นนิตาหยิบมือถือออก แล้วกดเบอร์ ส่วนเบอร์นั้นทำให้เจตต์ชะงัก