บทที่ 744 ขี้หึงจริงๆ
“คุณนายบุริศร์ ของดีอะไรเหรอครับ?”
“ชู่ว พูดออกไปก็ไม่น่าสนใจสิคะ คุณไปถามนิตาเองได้เลย”
นรมนหัวเราะอย่างเบิกบานใจเก็บหยกสองชิ้นขึ้นมา ชื่นชอบจนวางไม่ลง
“ประธานชาญ ฉันเอาไปแล้วนะคะ”
“คุณนายบุริศร์รีบรับไปเถอะครับ ถือว่าผมให้คุณ”
“อย่าค่ะๆๆ ตกลงกันแล้ว ว่าแลกเปลี่ยนนะคะ”
นรมนยิ้มดีใจ
บุริศร์เห็นนรมนแสดงออกมาอย่างนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม สายตาที่หลงใหลคอยติดตามนรมนอยู่ตลอด
ชาญมองออก ว่าตนเองเลียแข้งเลียขาถูกคนแล้ว
บุริศร์คลั่งไคล้หลงใหลนรมนเช่นนี้ หยกสองชิ้นนั้นที่เขาให้ไป ต่อไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกันแล้วใช่ไหม?
ชาญเบิกบานใจ เขากำลังจดจำว่าที่นิตามีของดีๆที่นรมนฝากเอาไว้ ไม่แน่อาจจะมีมูลค่ามากกว่าหยกสองชิ้นนี้อีก อันที่จริงภรรยาของบุริศร์คงไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับของแพงๆของคนอื่นหรอกไม่ใช่เหรอ?
ตอนที่ชาญกำลังนึกถึงสิ่งของที่นรมนเก็บไว้ที่นิตาอยู่ ก็ได้ยินบุริศร์ถามขึ้น: “ประธานชาญ ได้ยินว่าคุณก็เป็นกองกำลังทหารที่เกษียณแล้วเหรอครับ?”
“ห๊ะ? ใช่ครับ! ผมทำได้แค่เรื่องเล็กๆเท่านั้น เทียบกับประธานบุริศร์ไม่ได้หรอก ผมสร้างมาจากที่ไม่มีอะไรเลย ส่วนประธานบุริศร์เป็นถึงลูกผู้ดี”
คำพูดของชาญทำให้บุริศร์ยิ้มบางๆ
“ลูกผู้ดีอะไรกันครับ เหมือนๆกันนั่นแหละ ประธานชาญ ภรรยาของผม ก็ชอบหินแร่พวกนี้ วันหลังคุณว่าเราพอจะร่วมงานกันสักครั้งสองครั้งได้ไหม? ผมได้ยินมาว่าฝั่งนี้มีการเสี่ยงโชคหินหยก ไหนๆก็ยังมีเวลาไปลองเล่นดูหน่อยดีไหม?”
บุริศร์พูดได้ตรงกับใจของชาญพอดี
“ได้แน่นอนครับ แต่ทว่าประธานบุริศร์ เรื่องการเสี่ยงโชคหินหยกนี่ต้องดูโชคชะตานะครับ โดยเฉพาะตอนนี้หินหยกดิบของหยกมีไม่เยอะแล้ว ของที่จะออกมาไม่ออกมา ไม่ใช่เงินที่จะซื้อได้ ในจุดนี้ประธานบุริศร์ต้องเตรียมใจไว้หน่อยนะครับ”
ชาญพูดคำที่อยู่ในหัวออกไปก่อน กลัวว่าถ้าบุริศร์ไม่ได้ของที่ต้องการแล้วจะเดือดดาลขึ้นมา
แต่นรมนกลับยิ้ม: “ประธานชาญ ตอนนี้ตระกูลโตเล็กของพวกเราใช้ไปหมดจนเหลือแค่เงินแล้ว คุณก็รู้ น้ำมันปิโตรเลียมที่ยุโรปตะวันออกด้านนั้นก็เพียงพอที่ให้ตระกูลโตเล็กของพวกเรากินไปอีกหลายชาติ คุณบอกว่าแค่การเสี่ยงโชคหินหยกไม่กี่ที ถึงเปิดออกมาไม่ได้อะไรแล้วจะยังไงล่ะคะ? เล่นเพื่อความสนุกสนานก็พอแล้ว”
เธอยิ่งแสดงออกเหมือนกับเหล่าภรรยาที่ผลาญเงินสามีเล่น
ชาญได้ยินเธอพูดอย่างนี้ จึงรีบหันไปมองบุริศร์ ก็ได้เห็นบุริศร์ยังคงหลงใหลกับความเอะอะของนรมน จึงอดไม่ได้ที่จะอิจฉา
อย่างที่คิดคนรวยพูดเสียงดังกว่าคนอื่นเสมอ!
“คุณนายบุริศร์ตรงไปตรงมาจริงๆเลยนะครับ”
“แน่สิคะ เงินพวกนั้นที่ใช้เสี่ยงโชคหินหยก จะเทียบกับของดีที่ฉันเก็บไว้ที่นิตาได้ยังไงกัน? ใช่ไหมคะสามี?”
บุริศร์โดนนรมนเรียกว่าสามีอย่างนี้ก็ทำให้กระดูกอ่อนปวกเปียกไปหมดแล้ว
“อืม”
สายตาที่เป็นประกายของเขากำลังมองนรมน อยากจะเก็บเธอเอาไว้ในสายตาของตนเองเหลือเกิน
นรมนรีบหลบสายตาของเขา ยิ้มแล้วพูดกับชาญ: “ไหนๆก็มาแล้วนะคะ ประธานชาญ เราไปเสี่ยงโชคกันหน่อยดีกว่า?”
“ประธานบุริศร์ คุณว่า……”
ชาญมองไปที่บุริศร์ด้วยสัญชาตญาณ
บุริศร์ยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ครอบครัวผมเธอเป็นคนดูแลเรื่องเงิน เธอจะทำอะไรก็ตามนั้นแหละครับ ผมเป็นแค่คนทำงานกับขับรถเท่านั้น”
“ประธานบุริศร์ล้อเล่นแล้วครับ ได้ยินมานานว่าประธานบุริศร์กับภรรยารักกันมาก วันนี้ได้เห็นก็ไม่ผิดเพี้ยนเลย งั้นตอนนี้เราไปกันเถอะ เวลานี้การเสี่ยงโชคหินหยกเริ่มแล้ว ผมจะให้ป้ายที่มีลักษณะเฉพาะเพื่อประธานบุริศร์กับคุณนายบุริศร์เลยครับ”
คำพูดของชาญทำให้นรมนดีใจขึ้นมาทันที
เขาเดินออกจากบ้านไปก่อน
นรมนเดินตามออกไปติดๆ แต่กลับโดนบุริศร์ดึงเข้ามาในอ้อมอก พูดเบาๆ: “เล่นสนุกมากไหม?”
“ก็พอได้ ฉากสนุกๆยังไม่เริ่มเลยนะ”
ดวงตาของนรมนกลอกไปกลอกมา
บุริศร์ยิ้มๆแล้วจิ้มไปที่จมูกของเธอพูดขึ้น: “คุณไม่กลัวนิตาขายตัวเองไปแล้วยังได้เงินมาไม่เท่ากับหยกสองชิ้นนี้เหรอ?”
“เกี่ยวกับฉันด้วยเหรอ? ตอนที่เธอยั่วโมโหฉันทำไมถึงไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีสิทธินั้นพอล่ะ?”
นรมนเอียงหัวไปมองบุริศร์อย่างกวนๆ
บุริศร์หลงรักท่าทางตลกๆของเธอตอนนี้จะแย่แล้ว
“ทำไมผมถึงไม่รู้ว่าคุณเก็บของอะไรที่มีค่ามากกว่าหยกสองชิ้นนี้ไว้ที่นิตา? คุณรู้ไหมว่าหยกสีแดงสองชิ้นนี้เป็นหยกชั้นสูงสุดแล้วนะ? ตามราคาตลาด แค่หินหยกดิบก็เกือบจะมากกว่าสิบล้านแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงงานแฮนด์เมดแกะสลักที่ละเอียดลออประณีตขนาดนี้เลย”
นรมนได้ยินบุริศร์ถามอย่างนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา: “เจตต์น่ะ! เจตต์สามารถทำเงินที่มีมูลค่ามากกว่าหยกสองชิ้นนี้ได้”
“อ้อ ที่แท้เจตต์เป็นสิ่งของสินะ!”
“เจตต์ไม่ใช่สิ่งของ”
“ใช่ เขาไม่ใช่สิ่งของแน่นอน!”
บุริศร์พูดจบก็เคร่งขรึมเอาไว้ไม่ได้หัวเราะออกมาก่อน
นรมนรู้สึกว่าคำพูดนี้มีอะไรแปลกๆ เห็นท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องเป็นพิเศษของบุริศร์แล้ว จึงถามขึ้นอย่างเย็นชา: “ตลกมากสินะ?”
“ก็พอได้!”
“งั้นฉันจะทำให้คุณขำเอง!”
นรมนยื่นมือทั้งคู่ของตนเองออกไป ยื่นไปที่ใต้รักแร้ของบุริศร์
“อย่าๆๆ!”
บุริศร์รีบหลบ แต่นรมนกลับไม่ยอมปล่อย การกระทำของทั้งสองคนทำให้ชาญที่ได้เห็น อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
ลูกน้องของเขาเห็นฉากนี้ จึงถามขึ้นเบาๆ: “พี่ชาญ ประธานบุริศร์นี่เอาใจภรรยาของเขาเกินไปเลยนะครับ ท่าทางไม่เหมือนทายาทของตระกูลใหญ่เลย”
“แกจะเข้าใจอะไร? ระหว่างบุริศร์กับนรมนผ่านความทุกข์ทรมานมามากมาย ตอนนี้บุริศร์คงอยากจะมอบโลกทั้งใบให้นรมนอยู่แล้ว เพียงแค่ควบคุมนรมนได้ ตระกูลโตเล็กก็เป็นของเราแล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาที่ผลาญเงินของสามี อีกเดี๋ยวพยายามให้เธอใช้เงินเยอะๆหน่อยนะ”
“ครับ”
ชาญด้านนี้ปรึกษากันเรียบร้อยแล้ว นรมนกับบุริศร์ก็ไม่หยอกล้อกันแล้ว ทั้งสองคนรีบเดินออกมา
นรมนยิ้มตามปกติ ส่วนบุริศร์กลับมาสงบนิ่งเย็นชาอีกครั้ง
ชาญก็ไม่ใส่ใจ พาพวกเขาขึ้นรถ พาไปที่อำเภอเดิมพันหินทันที
คนที่มาอำเภอเดิมพันหินถ้าไม่ร่ำรวยก็ต้องสูงศักดิ์เท่านั้น
ที่นี่เรียกได้ว่าฝั่งหนึ่งเป็นสวรรค์ ฝั่งหนึ่งเป็นนรก คนมากมายพาความร่ำรวยมหาศาลมาเสี่ยงโชคหินหยกที่นี่ แค่ครั้งสองครั้งก็สิ้นเนื้อประดาตัว ครอบครัวล้มละลาย ส่วนบางคนซื้อหินแร่ไปก้อนหนึ่ง ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมาทันที
ที่นี่เป็นทั้งสวรรค์ แล้วก็เป็นทั้งนรก
นรมนเห็นคนในนี้รีบๆร้อนๆ จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย: “นี่ไม่ใช่อำเภอเดิมพันหินเหรอคะ? ทำไมคนพวกนี้ถึงไม่หยุดดูหินหยกดิบตามร้านข้างทางเลย?”
“คุณนายบุริศร์ครับ เรื่องนี้คุณก็ไม่เข้าใจแล้ว ด้านนอกเป็นแค่ส่วนเล็กๆ คนที่มาด้านนี้เป็นแค่ชาวเมืองกันหมด ส่วนพวกเราต้องไปโซน VIP ของอำเภอเดิมพันหิน ที่ไม่ทันไรก็หลายล้านหลายสิบล้านแล้วครับ”
ชาญอธิบายอย่างใจเย็น แต่ทว่าได้เห็นท่าทางทึ่มๆอย่างนี้ของนรมนแล้วในใจก็เบิกบานเป็นพิเศษ
เพราะยิ่งเป็นอย่างนี้ นรมนก็ยิ่งให้เงินเขามากขึ้น อำเภอเดิมพันหินของที่นี่เขามีหุ้นส่วนถึงครึ่งหนึ่ง
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง งั้นเรารีบเข้าไปกันเถอะ”
นรมนคล้องแขนของบุริศร์เอาไว้
หลังจากที่ทั้งสองคนขึ้นไปข้างบนแล้ว ก็โดนชาญจัดการให้อยู่แถวหน้า ถือโอกาสส่งป้ายหมายเลขให้พวกเขา เพื่อใช้ในการประมูลราคา
“คุณนายบุริศร์ หินแร่ด้านบนนี้คุณเลือกได้ตามใจชอบเลยนะครับ”
“แต่ฉันไม่เข้าใจ”
นรมนเพิ่งพูดจบ บุริศร์ก็เอ่ยปากขึ้น
“ไม่เข้าใจไม่เป็นไร คุณสนุกก็พอ ชิ้นไหนถูกใจก็ซื้อชิ้นนั้นแหละ แย่ที่สุดก็แค่ต้องเสียเงิน”
ชาญอมยิ้มเล็กน้อย
เรื่องที่ไม่เท่าไหร่ก็เสียเป็นล้านเป็นสิบล้าน พอบุริศร์เป็นคนพูดก็กลายเป็นแค่เงินเล็กน้อย ที่สำคัญยังซื้อเพื่อความสนุกสนานของนรมนอีกด้วย
รวยอย่างที่คิดเอาไว้เลย
นรมนจูบบุริศร์ด้วยความดีใจพูดขึ้น: “สามีดีจริงๆเลย งั้นฉันไปเลือกแล้วนะ”
“เลือกตามใจเลย”
นรมนกลับตัว พูดกับหินแร่ที่ใหญ่มากๆก้อนหนึ่ง: “ก้อนนี้ก็แล้วกัน”
“ได้ครับ คุณนายบุริศร์ อีกเดี๋ยวตอนที่แข่งประมูลคุณยังต้องเพิ่มราคานะครับ หินแร่ก้อนนี้ราคาต่ำสุดที่สิบล้านครับ”
“รู้แล้วค่ะ”
นรมนโบกๆมืออย่างไม่ใส่ใจ พูดกับบุริศร์: “สิบล้านแล้วยังไง ของที่ฉันทิ้งไว้ที่นิตามูลค่ามากกว่านี้ตั้งเยอะ”
ชาญได้ยินนรมนพูดถึงของที่อยู่ในมือของนิตาอย่างต่อเนื่อง จึงอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาไปที่คนข้างๆ แล้วคนๆหนึ่งก็ถอยออกไปเงียบๆ
นรมนกับบุริศร์เห็นแล้ว แต่แสร้งทำเป็นไม่เห็น
ทั้งสองคนเริ่มแข่งประมูลราคา สุดท้ายจบลงที่ราคาหนึ่งพันสามร้อยล้าน
นรมนขอให้ตัดหินหยกดิบตรงนี้ ชาญจึงดีอกดีใจมากๆ
ด้วยการตัดของช่างตัดผู้เชี่ยวชาญ หินหยกดิบชิ้นนี้ปรากฏสีเขียวมรกตออกมา แต่ทว่าไม่ค่อยใส วัสดุก็ไม่ดีเท่าไหร่ อย่างมากที่สุดก็แค่ห้าหกล้าน
อย่างไม่ต้องสงสัยเลย เสี่ยงโชคหินหยกครั้งนี้นรมนขาดทุนแล้ว
“คุณนายบุริศร์ ขอโทษด้วยนะครับ ที่ไม่ทำให้คุณได้เงิน”
ชาญรีบพูดขึ้น
นรมนโบกๆมือพูดขึ้น: “มาโดยที่ไม่ได้คาดหวัง นี่ก็ได้ของออกมาแล้วไม่ใช่เหรอคะ? ประธานชาญ เอาของชิ้นนี้ไปขัดให้กลายเป็นของที่ใช้ถือเล่น มอบให้นิตา แล้วให้เธอเอาสิ่งของชิ้นนั้นมาติดให้ฉัน ยังไงก็เป็นเกียรติไม่ใช่เหรอคะ?”
บุริศร์ได้ฟังคำนี้ สีหน้าก็แย่มากขึ้นมาทันที
“ของชิ้นนั้นไม่จำเป็นต้องติดเอาไว้เหมือนกับหยกที่ล้ำค่าหรอกนะ”
ความอิจฉาที่มากับคำพูดของบุริศร์นรมนฟังออกอยู่แล้ว อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ฉันจะเอาหยกที่ประธานชาญให้มาวันนี้ไปขัดให้เงา แล้วให้คุณดีไหม?”
“ตามใจคุณ”
บุริศร์หันหน้าหนีอย่างงอนๆ แต่ทว่ารู้สึกดีขึ้นมากกว่าเมื่อครู่แล้ว
ขี้หึงจริงๆ
นรมนบ่นอยู่ในใจ แล้วยิ้มกับชาญพูดขึ้น: “รบกวนประธานชาญด้วยนะคะ”
“ไม่รบกวนครับๆ”
ชาญรีบรับไป กำชับคนให้นำไปขัดเงา ในใจยิ่งสนใจของล้ำค่าชิ้นนั้นที่นรมนพูดถึง
ตอนที่นิตารู้ว่านรมนกับบุริศร์ไม่ได้ไปหาเรื่องชาญ แต่กลับไปอำเภอเดิมพันหินกับชาญอย่างสบายใจ ก็โมโหจนแทบจะทุบสิ่งของในห้องคนไข้อยู่แล้ว
“เจตต์ นี่คือผู้หญิงที่คุณชอบงั้นเหรอ? แล้วก็บุริศร์คนที่คุณคิดว่าเขาเป็นเพื่อน? ตอนนี้คุณไม่ได้สติ ถ้าคุณฟื้นขึ้นมา ก็น่าจะโมโหจนแทบบ้าเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?”
นิตาพูดด้วยความเดือดดาล กำลังมองเจตต์ที่อยู่บนเตียงคนไข้ อดไม่ได้ที่ใจจะสับสนขึ้นมา
“เจตต์ คุณได้ยินฉันพูดไหม?”
แต่เจตต์กลับไม่ตอบสนอง
ในตอนนี้เอง ผู้ชายคนหนึ่งก็เปิดประตูห้องคนไข้เข้ามาทันที
“ใคร?”
นิตาหันไป แต่กลับเห็นชายคนนั้นเดินตรงเข้ามาหาตนเอง
“คุณเป็นใคร? คุณมาทำอะไรที่นี่?”
นิตากลัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ผู้ชายหยุดอยู่ด้านหน้าของนิตา พูดขึ้นเบาๆ: “คุณนิตา ผมเป็นคนของประธานชาญชาญ ประธานชาญให้ผมมาเอาของมีค่าที่คุณนายบุริศร์ทิ้งไว้ที่คุณ”
“ของมีค่าอะไร? ฉันไม่รู้!”
นิตาหน้าตางงงัน แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่เชื่อคำพูดของเธออยู่แล้ว