นรมนมองคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ คิดว่าตนเองพูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ความคิดกับจิตใจของคนคนนี้บิดเบี้ยวไปแล้ว
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์กลับเหมือนนำความแค้นเคืองทั้งหมดระบายไปที่นรมน เหมือนกับว่าเพราะการมีอยู่ของนรมน ทำให้ลูกสาวของเธอต้องตาย
เธอเห็นนรมนไม่พูดอะไร จึงรีบก้าวขึ้นมากระชากคอเสื้อของนรมน กล่าวอย่างโหดเหี้ยม: “ในเมื่อเธอเข้ามาในนี้ นอกจากตายถึงจะสามารถออกไปจากที่นี่ได้ พวกเรามีวิธีให้นภดลต่อชีวิตให้ฉัตรยา แน่นอนว่ามีวิธีให้แกตายอยู่ที่นี่”
“ถ้าตอนนี้ฉันตาย เกรงว่าเรณุกาคงไม่ปล่อยเธอไปหรอกนะ”
นรมนกล่าวอย่างเย็นชา
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้ มองออกว่าเธอกลัวเรณุกาอย่างยิ่ง
นรมนกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา: “แม่ที่ปกป้องลูกของตัวเองไม่ได้ มีสิทธิ์อะไรมาเอะอะโวยวายตรงหน้าฉัน?แม้แต่คุณสมบัติความเป็นแม่คุณยังไม่มีเลย!ถ้าไม่สามารถให้ชีวิตทั้งหมดแก่เธอได้ ตอนแรกจะคลอดออกมาทำไม?ในเมื่อคลอดออกมาแล้ว ทำไมถึงปกป้องเธอไม่ได้อีก?ถึงแม้ว่าเรณุกาจะให้เธอตายแล้วยังไงล่ะ?ถึงแม้ว่าเธอต้องการแสวงหาความสุขของตัวเอง ต้องการหนีไปกับนภดลแล้วยังไงล่ะอินเทอร์เน็ตถ้าเป็นฉัน แม้จะต้องสู้จนตายกันไปข้างหนึ่ง ฉันก็จะไม่ให้ลูกสาวของฉันตายด้วยน้ำมือของตนเอง คุณน่าจะรู้ว่าตอนนั้นฉัตรยาหมดหวังมากแค่ไหน?และเธอเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน?และสิ่งเหล่านี้พวกคุณที่เป็นพ่อแม่หยิบยื่นให้เธอ!”
นรมนผลักคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ออกไป
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทรุดลงไปบนพื้นทั้งตัว มองร่างของฉัตรยาบนเตียงร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก
นรมนกลับไม่มีความรู้สึกเห็นใจเธอ
แม่ที่สามารถฆ่าลูกของตนเองได้ ยังมีความเป็นคนอยู่เหรอ?
สำหรับนรมน ถึงแม้ตอนนี้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์จะใช้ความตายเพื่อขอโทษเธอก็ไม่ยกโทษให้
ไม่รู้ว่าเรณุกามายืนอยู่ตรงหน้าประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอได้ยินสิ่งที่นรมนพูดทั้งหมด จึงปรบมืออย่างอดไม่ได้
“ดี เยี่ยมมาก!ในเมื่อแกสามารถทำเพื่อลูกสาวของตัวเองโดยไม่สนใจว่าจะอยู่หรือตาย งั้นแกก็จะยอมแต่งงานกับรเมศอย่างเชื่อฟังแล้วใช่ไหม? ในเมื่อเปรียบเทียบกับความตาย แกแต่งงานออกไปน่าจะสบายกว่าเยอะ”
เมื่อคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ได้ยินเสียงของเรณุกา ก็หน้าซีดทันที
เธอขดตัว รีบเงียบทันที เหมือนกับคนรับใช้ยืนอยู่ด้านข้างไม่กล้าส่งเสียง
เรณุกาเห็นเธอมีท่าทางคับอกคับใจเช่นนี้ จึงกล่าวอย่างไม่พอใจ: “โชคดีนะที่แกเป็นเมียของดร.ฐานทัต คิดไม่ถึงว่าจะสู้คนนอกไม่ได้ อับอายขายหน้าวงศ์ตระกูลอย่างยิ่ง!ไสหัวกลับไปห้องของแกซะ!ถ้าให้ฉันเห็นแกอยู่ที่นี่อีก ฉันรับรองว่าฉัตรยาจะไม่เหลือแม้แต่ศพ”
“อย่า อย่านะคะ ฉันไปแล้ว!ฉันรับรองว่าจะไม่มาอีก!”
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ตกใจจนหน้าซีดขาว
เธอมองร่างของฉัตรยา จากนั้นออกไปโดยไม่หันกลับมา
นรมนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเรณุกามีอะไรจึงสามารถทำให้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์กลัวจนกลายเป็นแบบนี้ไปได้ แต่ในตอนนี้เธอเกลียดหญิงชราคนนี้มากจริง ๆ
“ฉันแต่งงานได้ แต่ฉันอยากเจอนภดล”
“เธอไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเจรจาข้อตกลงกับฉัน!”
เรณุกาพูดอย่างไม่แยแส ไม่คิดจะให้โอกาสใด ๆ กับนรมน
นรมนกลับหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า: “จริงเหรอ? แกแน่ใจ?แกคิดว่าไม่มีใครรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่แกทำเหรอ?ถ้าฉันไม่ได้เห็นนภดล อย่าพูดถึงแต่งงานกับรเมศเลย ถึงแม้จะต้องตายอยู่ที่นี่ ฉันก็จะทำให้แกกับตระกูลจันทรวงศ์เผยโฉมหน้าที่แท้จริงให้โลกได้รับรู้”
“แกเนี่ยนะ?”
“ใช่ ฉันเอง ฉันไม่มีความสามารถอะไร แต่ฉันสามีที่รักฉันมาก และยังมีลูกชายที่ฉลาดเป็นกรดแกคงไม่คิดว่าฉันเข้ามาแบบนี้แล้วจะยอมให้แกกดขี่ฉันจริง ๆ ใช่ไหม?ดูเหมือนแกจะลืมไป บุริศร์กับกานต์ต่างเป็นอัจฉริยะทางคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ฉันเข้ามาในตระกูลจันทรวงศ์จนถึงตอนนี้ทุกอย่างที่แกพูด ได้ถูกพวกเขาถ่ายเอาไว้หมดแล้ว ถ้าฉันยังไม่ได้เจอนภดล ภายในหนึ่งนาที คลิปวิดีโอเหล่านี้จะถูกเผยแผ่บนอินเทอร์เน็ต ถึงตอนนั้น สมาชิกในตระกูลจันทรวงศ์ทุกคนจะถูกเปิดเผย ไม่เชื่อแกก็ลองดูได้”
ในขณะที่พูดนรมนก็หยิบสร้อยคอออกมาจากคอเสื้อ ซึ่งกล้องรูเข็มบนสร้อยคอทำให้เรณุกาสีหน้าเปลี่ยนทันที
“นังสารเลว!”
นรมนรู้ หากต้องการจะให้นภดลออกมา เธอจำเป็นต้องเสียสละสิ่งของบางอย่าง
บุริศร์ให้ตนเองใส่เอาไว้เพื่อรู้ตำแหน่งของเธอได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ผ่านไปแล้วหนึ่งคืน บุริศร์ยังไม่บุกเข้ามา สามารถเห็นได้ว่าการป้องกันการรุกรานของเรณุกาแน่นหนามาก
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เธอจะให้บุริศร์เสี่ยงอันตรายเพื่อตนเองได้อย่างไร?แทนที่จะเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ช่วยนภดลออกมาก่อนดีกว่า ถึงแม้ตนเองจะต้องตายที่นี่จริง ๆ ก็อยากให้นภดลมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ เพราะเธอติดค้างนภดล
แววตาของเรณุกาในตอนนี้แทบอยากจะกินนรมนเข้าไป แต่เธอก็รู้ว่า ในเมื่อนรมนกล้าหยิบสิ่งนี้ออกมา แน่นอนว่าทางฝั่งบุริศร์ต้องมีการเตรียมพร้อมจริง ๆ
เป็นเธอที่ชะล่าใจ!
คิดไม่ถึงว่านรมนกับบุริศร์จะมีความกล้าหาญมากเช่นนี้
เรณุกาสูดลมหายใจเข้าลึกหลายครั้ง จากนั้นถึงจะกล่าวออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว: “ได้ ฉันจะให้แกเจอกับนภดล แต่แกคิดว่าได้เจอแล้วจะช่วยมันออกไปได้จริงเหรอ?แกยังเอาตัวเองไม่รอด อย่าคิดเพ้อเจ้อไปเลย”
“นั่นมันเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับแก ฉันเพียงแค่อยากเจอนภดล”
นรมนพูดอย่างเด็ดขาด ไม่กลับคำใด ๆ
ถึงแม้เรณุกาจะไม่เต็มใจ แต่ยังให้คนพานรมนไปเจอกับนภดล
ในที่สุดนรมนถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
เธอมองกล้องรูเข็ม หัวเราะอย่างขมขื่น เธอรู้ว่า ทางฝั่งบุริศร์ต้องบ้าคลั่งไปแล้วแน่นอน แต่ตอนนี้เธอทำได้เพียงปล่อยให้มันเป็นไปตามทางที่ควรจะเป็น
เรณุกาให้คนเก็บสร้อยจากมือของนรมน แต่นรมนกลับถอยหลังและกล่าวว่า: “เมื่อได้เจอกับนภดล ฉันจะให้แกแน่นอน แต่ตอนนี้แกอย่างคิดแย่งไป เพราะไม่อย่างนั้น ฉันไม่กล้ารับประกันว่าบุริศร์จะส่งคลิปออกไปหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจน แกคิดว่าฉันกับบุริศร์จะโยนตัวเองลงแหแบบนี้เหรอ!”
“นรมน ทางที่ดีแกควรภาวนาให้แกสามารถโชคดีแบบนี้ไปได้ตลอดนะ!”
เรณุกากัดฟันกรามกล่าว อย่างจะสับนรมนให้เป็นชิ้น ๆ
นรมนกลับกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “สบายใจได้ ฉันโชคดีตลอดแหละ ไม่เชื่อพวกเราก็รอดูได้เลย”
“ไสหัวไปซะ!”
เรณุกาโกรธตัวสั่น
ส่วนนรมนกลับหัวเราะอย่างมีความสุขเป็นพิเศษ
เธอออกไปจากห้องกับบอดี้การ์ด
เมื่อแสงแดดด้านนอกตกกระทบบนร่างกาย นรมนถึงจะรู้สึกว่าตนเองมีชีวิตอยู่
ภายในห้องหนาวเย็นมากจริง ๆ ถ้าอยู่ในนั้นต่อไป เธอกลัวเหลือเกินว่าจะรักษาลูกในท้องเอาไว้ไม่ได้
สูดลมหายใจเข้าลึก นรมนเดินตามบอดี้การ์ดมาถึงหลังภูเขาจำลอง ที่นี่มีประตูลับหนึ่งบาน ถ้าบอดี้การ์ดไม่ได้นำทางมา นรมนคงจะมองไม่เห็นจริง ๆ
เธอจงใจหยิบสร้อยคอออกมา เพื่อเปิดช่องทางให้บุริศร์มองเห็นชัดเจน
หลังจากบุริศร์ได้ยินการตัดสินใจของนรมนก็กระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง เขารู้ว่านรมนคิดจะทำอะไร
แววตาเย็นชาหรี่ลง บันทึกทุกอย่างในกล้องนั้นลงไป และพิมพ์บางอย่างลงไปในโน้ตบุ๊ค
นรมนรู้ว่า หากเข้าไปด้านในภูเขาจำลองแล้ว สัญญาณอาจจะถูกตัดขาดกลางคัน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเรณุกาถึงวางใจให้เธอเก็บสร้อยคอเอาไว้
ตั้งแต่เข้าไปในภูเขาจำลอง นรมนต้องต่อสู้ดิ้นรนคนเดียวจริง ๆ
นรมนกำสร้อยในมือแน่น ราวกับว่านี่เป็นวิธีเดียวถึงจะรู้สึกเหมือนกับบุริศร์อยู่ข้างตนเองเสมอ
เธอไม่ขี้ขลาด และไม่หวาดกลัว เพียงแค่รู้สึกโดดเดี่ยว
บอดี้การ์ดเห็นนรมนหยุดเดิน จึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ทางที่ดีเธอรีบเดินดีกว่านะ พวกเราไม่อยากให้เธอลำบากใจ แต่เธอก็อย่าทำให้พวกเราไม่มีทางเลือก ที่นี่มีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกที่ หน้าที่ของพวกเราคือจับตาดูเธอ”
นรมนหยุดนิ่งไปชั่วคราว จากนั้นก้าวเท้าเข้าไปในภูเขาจำลอง
หลังจากผ่านประตูลับเข้ามา สายตามองเห็นไม่ชัดเจนสักพักหนึ่ง
นรมนหลับตาลงปรับสายตาอย่างไม่รู้ตัว พบว่ามีคนเข้ามาใกล้ตนเอง
เธอยกเท้าขึ้นทันที ถีบไปที่คนนั้น
เสียงร้องอู้อี้ดังขึ้น ทันใดนั้นเสียงของหนักตกลงมาดึงดูดทุกคน
“ใครหน่ะ?”
“ฉันเอง!”
นรมนฟังออก เป็นผู้ชายที่เมื่อคืนขู่ขวัญตนเองด้านนอกประตู
อาจเป็นคำชี้แนะของเรณุกา ให้เขาฉวยโอกาสเข้ามาอย่างไม่เหมาะสมเพื่อขโมยสร้อยคอ?น่าเสียดายที่นรมนป้องกันไว้ล่วงหน้า
“อย่าคิดแย่งของจากมือของฉันอีกเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นจะอัปโหลดคลิปวิดีโอทันที”
คำพูดของนรมนทำให้อีกฝ่ายเงียบไป เห็นได้ชัดว่าเรณุกาก็ได้ยิน
เธอได้ยินเรณุกาส่งเสียงออกทางจมูกอย่างเย็นชา จากนั้นทุกอย่างเงียบลง
ในที่สุดสายตาก็ปรับเข้ากับความมืดได้
นรมนก้าวเท้าไปข้างหน้า
“นภดลอยู่ที่ไหน ฉันแนะนำให้พวกแกเลิกเล่นกลได้แล้ว ไม่อย่างนั้น……”
“พามันไป”
เสียงของเรณุกาดังขึ้นจากนั้นก็เงียบไป นรมนได้ยินเสียงกระแสไฟฟ้าโดนตัด
ดูเหมือนเรณุกาจะโมโหจริง ๆ
ยิ่งเรณุกาโมโห นรมนยิ่งมีความสุข
มุมปากของเธอยกขึ้น เดินตามหลังบอดี้การ์ดไป
ไม่รู้ว่าเดินมาไกลแค่ไหน และไม่รู้ว่าผ่านมากี่โค้ง ในที่สุดก็มองเห็นพื้นที่ว่างเปล่า
พูดว่าเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ก็เพราะที่นี่ถูกขุดจนโล่ง เกิดเป็นสนามทรงกลม และตรงกลางสนามติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์มากมาย
นรมนมองเห็นอย่างรวดเร็วว่าในฉนวนใยแก้วมีคนแช่อยู่คนหนึ่ง!
เป็นคนใช่ไหม?
น้ำในฉนวนใยแก้วเปื้อนสีแดงจากเลือด อีกฝ่ายเหมือนเด็กทารกขอตัวอยู่ข้างใน แขนขาถูกท่อเครื่องมือตรวจสอบ ขยับตัวไม่ได้เลย
เขาก้มหน้าลง แต่นรมนรู้สึกว่า คนตรงหน้าต้องเป็นนภดล!
คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะทำให้นภดลกลายเป็นหนูทดลอง ขังอยู่ในฉนวนใยแก้วอย่างไร้ความเป็นมนุษย์ จนแม้แต่ในฉนวนใยแก้วมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
“เป็นอย่างไร? แกเห็นทั้งหมดนี้แล้วพอใจไหม?”
เสียงของเรณุกาดังขึ้นมาอีกครั้ง กลับมีความหยิ่งผยองและลำพองใจ
นรมนโกรธจนแทบคลั่ง
“เรณุกา!แกปล่อยเขานะ!”
“ปล่อยเขา จะเป็นไปได้อย่างไร แต่ในเมื่อแกอยากเจอหน้าเขา ฉันจะให้เขาตื่นขึ้นมาทักทายแกสักหน่อยเป็นอย่างไร”
เรณุกาหัวเราะ หึหึ จากนั้นดึงสะพานไฟทันที
“อย่านะ!”
นรมนรีบห้าม แต่สายไปแล้ว
“อ่า!”
เสียงร้องอย่างเวทนาดังออกมาจากฉนวนใยแก้ว ใบหน้าที่ไม่มีใครเทียบเท่าของนภดลปรากฏตรงหน้าของนรมนทันที
ใบหน้าของเขาถูกมีดกรีดจนชุ่มไปด้วยเลือด กระแสไฟฟ้ากระจายอยู่ในร่างกายของเขา เส้นเลือดสีฟ้าสั่นสะท้าน
นรมนรู้สึกว่าหัวใจแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ถ้าฉัตรยายังมีชีวิตอยู่ มองเห็นนภดลต้องแบกรับทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไร
“หยุดนะ!เรณุกา แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!ถ้าแกไม่หยุด ฉันจะให้บุริศร์ปล่อยคลิปวิดีโอออกไป!”
นรมนจำเป็นต้องขู่เรณุกา แต่ในขณะนี้ เรณุกากลับไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว