แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 828

ตอนที่ 828

“สายไปแล้ว!”

คำพูดของบุริศร์ตัดสินความเป็นความตายให้รเมศโดยทันที

พอเห็นรเมศกำลังจะกัดลิ้นตาย บุริศร์จึงพูดเสียงเรียบ“ถ้าแกตาย ฉันจะขายแม่แกไปที่เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าแม่แกจะแก่ไปหน่อย แต่ก็น่าจะหาเงินได้อยู่ ฉันว่าคนพวกนั้นน่าจะชอบ”

คำพูดของบุริศร์ทำให้รเมศหยุดการกระทำ

เขาจ้องบุริศร์อย่างดุร้าย พูดขึ้น“บุริศร์ แกลูกผู้ชายอกสามศอกไปรังแกผู้หญิงให้ได้อะไร”

“นั่นสิ แกมันก็ลูกผู้ชายอกสามศอก และก็เป็นผู้นำคนด้วย มาทรมานเมียฉันให้ได้อะไร ฉันคิดว่าแกอยากยั่วโมโหฉัน แล้วเรามาสู้กันสักตั้ง ไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเป็นแบบนั้น จะใช้วิธีสกปรกแค่ไหนฉันก็ไม่แคร์แล้ว ขอแค่ให้แกตายทั้งเป็นก็พอ ฉันเป็นคนถ่อยแล้วไง ฉันเองยังไม่เคยทำร้ายผู้หญิงของตัวเองเลย แกกล้าลงมือกับเธอขนาดนี้เชียวหรือ รเมศ แกคิดว่าฉันไม่มีวิธีจัดการแกสินะ ถ้ามีปัญญาแกก็ทำร้ายทุกคนสิ งัดจุดอ่อนมาใช้ให้หมด แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น ฉันก็มีวิธีทำให้แกตายทั้งเป็นอยู่ดี รู้มั้ย เลือดของนภดลน่ะมันทำให้คนฟื้นคืนชีพได้จริงๆนะ จะลองไม่ล่ะ”

บุริศร์ในตอนนี้ราวกับปิศาจที่ขึ้นมาจากขุมนรก ชวนให้ขนหัวลุก

รเมศรเสียใจเหลือเกิน!

เสียใจที่ไปแหย่ปิศาจนี้เข้า!

เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองเป็นบุคคลสำคัญ ที่เทียบกับบุริศร์ได้ เขาเคยคิดว่าตัวเองไม่ได้ด้อยไปกว่าบุริศร์สักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้มาดู ไม่ต้องพูดอย่างอื่น พูดด้านความโหดร้าย เขาเทียบไม่ได้เลย

เขาจะไม่มีจุดอ่อนได้อย่างไรกัน

เขาจะไปตัดเยื่อใยกับมารดาของตัวเองได้อย่างไร

เพื่อเขามารดาเคยรับทุกข์มาหนักหนาสาหัสแค่ไหน ตอนนี้เขาจะให้แม่ต้องมาลงนรกอีกรอบได้อย่างไร

“บุริศร์ ฉันแพ้แล้ว ขอเถอะนะ ปล่อยแม่ไปเถอะ!”

“ฉันเคยบอกแล้ว สายไปแล้ว”

บุริศร์พูดจบจึงลุกขึ้นยืนเดินออกมาไปข้างนอก

รเมศตะโกนเสียงแหบพร่า “บุริศร์ ถือว่าฉันขอร้องได้ไหม แกจะทำยังไงกับฉันก็ได้ แต่อย่าไปแตะต้องแม่ฉัน!”

“แล้วตอนที่แกแตะต้องนรมนแกเคยคิดถึงวันนี้บ้างไหม”

บุริศร์พูดจบจึงเดินจากไป

นภดลรออยู่ด้านนอกประตูตลอด

ในตอนที่บุริศร์เดินออกมา นภดลมองเขาทีหนึ่ง พูดเสียงค่อย“คุณนายวัชโรทัยอยากขอพบ”

“ไม่พบ หล่อนคิดว่ามีสิทธิอะไรที่มาพบ”

บุริศร์พูดจบจึงหมุนตัวไป

เขาต้องไปดูนรมนแล้ว

ไม่รู้ว่านรมนจะฟื้นแล้วหรือยัง

บุริศร์รีบกลับไปที่ห้องผู้ป่วย นรมนยังคงนอนหลับอยู่ ปาณีกำลังเช็ดหน้าเช็ดตาให้นรมนอย่างระมัดระวัง

เขาค่อยๆย่องไปข้างเธอ พูดเสียงค่อย“ฉันเอง”

ปาณีชะงัก แต่ก็รีบส่งผ้าขนหนูให้บุริศร์

พอบุริศร์นั่งลง เขาเช็ดมือให้นรมนพลาง พูดพลาง“นรมน คุณหลับไปนานมากแล้วนะ ตื่นได้แล้วนะ คุณโกรธผมใช่ไหม โกรธที่ผมหาคุณเจอไม่ทัน โกรธที่ผมผิดคำพูด ทำให้คุณเจออันตราย ทำให้ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ ขอโทษนะ ผมไร้ความสามารถเอง บางทีผมก็สงสัยตัวเอง การที่ให้คุณอยู่ข้างกายตกลงเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิด แต่พอคิดว่าคุณจะจากผมไป ผมก็เจ็บปวดจนทนไม่ไหว ขอโอกาสผมอีกครั้งเถอะนะ ได้ไหม ขอแค่คุณฟื้นขึ้นมา จะด่าจะตียังไงผมก็ได้ แต่อย่าไม่สนใจผมแบบนี้ คุณรู้ไหม คุณเมินผมแบบนี้ ผมรู้สึกว่าต่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปก็ไม่มีความหมาย”

น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเป็นพิเศษ น้ำเสียงฟังดูลึกซึ้งเหลือประมาณ ทำให้ปาณีที่อยู่ด้านข้างรู้สึกว่าตัวเองเป็นสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ถ้าจะอยู่ตรงนี้

บรรยากาศเหมือนมีเพียงพวกเขาสองคน ไม่มีใครล่วงล้ำเข้าไปได้

ปาณีค่อยๆออกจากห้องผู้ป่วย ในตอนที่ปิดประตู ก็ไปชนนภดลเข้าอย่างจัง

ท่าทีเย็นชาของนภดล ช่างหล่อเหลายิ่งนัก ทำให้ปาณีเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ

หล่อจังเลย!

เธอไม่เคยเห็นผู้ชายที่หล่อขนาดนี้มาก่อน!

มันไม่ใช่ความรู้สึกแบบชายหญิงแล้วล่ะ!

นภดลขมุ่นคิ้ว ไอสังหารแผ่กำจายออกมา

ปาณีอดตัวสั่นไม่ได้ จากนั้นจึงรีบคืนสติ

“คุณเป็นใคร ทำไมมาอยู่ตรงนี้”

นภดลกระชากแขนปาณี

มือของเขาเย็นเฉียบ ทำให้ปาณีอดเคลิ้มไม่ได้

มือของเขาเรียวยาวเหลือเกิน!

“ฉันเป็นพยาบาลพิเศษที่คุณบุริศร์จ้างมาค่ะ ชื่อปาณี。”

เสียงของปาณีสั่นเทา เธอรู้สึกเหมือนว่าน้ำเสียงของนภดลไพเราะมากๆทำให้อดหลงใหลไม่ได้

สีหน้าของนภดลเย็นชามากขึ้นกว่าเดิม

“ควบคุมตาตัวเองให้ดี ทำเรื่องตัวเองให้ดี”

พูดจบ นภดลสะบัดปาณีออก

ปาณีรู้สึกมือเท้าเย็นไปหมด นภดลเดินออกไป ใจเธอราวกับหล่นหายไปไหน

นี่คือรักแรกพบหรือเปล่านะ

ปาณีไม่รู้ รู้แต่ว่าใจเต้นตุ้มต่อมอย่างแรง

นภดลมองเข้าไปข้างใน เห็นบุริศร์พูดอยู่กับนรมนคนเดียว ดูหมองลงไปเยอะ พอหันกลับไป ก็เห็นปาณีขวางทางอยู่

“มีอะไรอีก”

“คุณชื่ออะไรคะ”

แววตาของปาณีแดงก่ำ นภดลขมุ่นคิ้วอย่างไม่รู้ตัว

“ไปให้พ้น”

เขาอยากจะผลักปาณีออก แต่ปาณียึดข้อมือเขาไว้

“คุณบอกชื่อคุณแล้วฉันจะไป”

ปาณีดูไม่ได้ตกใจกับทีท่าของนภดล กลับรู้สึกว่าเท่ห์มาก เท่ห์เหลือเกิน

นภดลชะงักเล็กน้อย ราวกับเห็นเงาฉัตรยาในตัวปาณี

เขาเคยปฏิเสธฉัตรยาแบบนี้ และฉัตรยาก็รั้งเขาไว้แบบที่ปาณีทำ กำข้อมือเขาไว้แน่นแบบนี้ แถมยังเซ้าซี้ถามว่า“คุณบอกฉันมาก่อนว่าคุณชื่ออะไร แล้วฉันจะไป”

วันนี้เหตุการณ์แบบเดิมกลับมาอีกครั้ง นภดลปวดใจเหลือเกิน

“ปล่อยนะ”

“ฉันไม่!”

ปาณีที่จริงก็กลัว แต่เธอไม่รู้ว่าทำไม เธอไม่อยากปล่อยมือนภดลเลย

นภดลสะบัดออกอย่างแรง ปาณีประชิดขึ้นหน้า เดิมทีคิดว่านภดลจะรับตัวเธอไว้ คิดไม่ถึงว่านภดลจะเบนตัวหลบ ปาณีหกล้มหน้าคว่ำ

“ว๊าย!”

ปาณีเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่นภดลกลับจากไปอย่างไม่หันมามอง แม้ว่าเสียใจ แต่ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อยด้วย

ผู้ชายคนนี้เกลียดเธอขนาดนี้เลยเหรอ ถึงได้แสดงทีท่ากับเธอแบบนี้!แต่เธอชอบแบบนี้ ทำไงได้

ปาณีมองตามเงาหลังนภดล ยักมุมปากขึ้น ราวกับเด็กกำลังอมยิ้ม

บุริศร์กับนรมนอยู่ในห้องไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น บุริศร์ยังคงพูดพล่ามไม่หยุด

นรมนรู้สึกแต่ว่ามีคนคอยพูดข้างหู น้ำเสียงอ่อนโยน แต่ก็ให้ความรู้สึกแจ่มชัด

เธออยากจะลืมตาขึ้น แต่ว่าหนังตาหนักอึ้งเหลือเกิน เธออยากจะปัดมือไล่คนข้างๆ แต่มือก็เหมือนเรือที่ถูกมัด ยกยังไงก็ยกไม่ขึ้น

นรมนดีดดิ้น ไม่ง่ายกว่าจะลืมตาขึ้นมาข้างหนึ่ง แต่ก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้า

บุริศร์ร้องไห้!

นรมนคิดว่าตัวเองยังไม่ตื่นดี เธอจึงรีบหลับตาลงอีกครั้ง แล้วลืมตาขึ้นใหม่ บุริศร์ยังคงก้มหน้าอยู่ น้ำตาอุ่นๆไหลลงสู่มือเธอ เป็นความเจ็บปวดอันเร่าร้อน

“นรมน อย่านอนต่อได้ไหม ตื่นหน่อยเถอะนะ”

นรมนปวดใจเหลือเกิน

ความทรงจำสั้นๆสอดแทรกเข้ามาในหัว

เธอนึกอะไรไม่ออกทั้งสิ้น

ก่อนที่จะสลบในห้องเย็น เธอเคยคิดว่าถ้าต้องตายไปจริงๆ บุริศร์จะทุกข์ใจมากแค่ไหน เทียบไม่ได้เลยกับความทุกข์ระทมที่เธอเห็นอยู่ตรงหน้า

เธอไม่เคยคิดว่าบุริศร์จะหลั่งน้ำตาเพื่อเธอ

ดวงตานรมนรื้นชื้น

เธอค่อยๆขยับมือ

บุริศร์สะดุ้ง รีบมองไปทางนรมน พอเขาเห็นนรมนยิ้มมาทางเขา บุริศร์ดูอึ้งไป ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อดี

“เป็นอะไรไปคะ”

นรมนเอ่ยปากถาม แต่ลำคอแห้งผาดราวถูกแผดเผา น้ำเสียงเหมือนกลองที่ถูกตีจนแตกพร่า

ดวงตาของบุริศร์รื้นชื้น

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ผมรินน้ำให้”

บุริศร์กดออดฉุกเฉินเรียกพยาบาล จากนั้นรินน้ำให้นรมน ค่อยๆพยุงเธอขึ้น กอดไว้แนบอก แล้วประคองแก้วน้ำไปแตะริมฝีปากของเธอ

นรมนเม้มปาก รู้สึกลำคอดีขึ้น

เธออ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปทั้งตัว ลูบหน้าอกบุริศร์อย่างแผ่วเบา พูดเสียงค่อย“ขอโทษนะคะ ทำให้คุณเป็นห่วง ฉันไม่ดีเอง ไม่เชื่อฟังคุณ จนเปิดช่องให้รเมศจับตัวไป คุณอย่าโทษตัวเองเลย เรื่องบางอย่างเราหยุดมันไม่ได้ แต่ฉันเชื่อมั่นว่าคุณหาฉันเจอแน่นอน”

“ไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้คุณต้องพักผ่อนมากๆ คุณอยู่ในห้องเย็นนานเกินไป ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง มือเท้าไม่สบายตรงไหนมั้ย”

บุริศร์อยากจะให้นรมนตื่นมาด่าทอเขาเหลือเกิน หรือทุบตีก็ได้ ตอนนี้เธอไม่เพียงแต่ไม่ แต่ยังปลอบใจเขา ทำให้เขารู้สึกแย่เหลือเกิน

นรมนได้ยินบุริศร์พูดดังนี้ ถึงได้รู้สึกอึดอัดขึ้นมา

“คัน คันมาก แขน ขา คันไปหมดทั้งตัว”

นรมนบิดตัว รู้สึกไม่ค่อยชิน

บุริศร์พูดอย่างปวดใจ“คุณโดนแช่แข็งจนบาดเจ็บ คันน่ะอยู่แล้ว เดี๋ยวหมอมา ให้หมอดูนะว่าเป็นไงบ้าง ไม่เป็นไร ผ่อนคลายหน่อย”

เขายิ้มอ่อนให้นรมน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

นรมยพยักหน้า จู่ๆคิดอะไรได้ คว้าข้อมือบุริศร์แล้วถาม“ลูกล่ะ ลูกของเราเป็นไงบ้าง หนาวขนาดนั้น ฉันอยากจะปกป้องลูกเหลือเกิน แต่ฉัน……”

“ไม่ต้องห่วง นรมน ลูกไม่เป็นไร”

บุริศร์รีบกุมมือนรมน ปลอบโยนเธอ

“อย่าโกหกฉันเลยค่ะ ฉันรู้ ที่หนาวขนาดนั้น ขนาดฉัน ลูกต้องไปแล้วใช่ไหมคะ”

เมื่อคิดถึงลูกน้อยที่ได้มาด้วยความยากลำบาก แต่เพราะความประมาทของตัวเองต้องจากไป นรมนจึงตบหน้าตัวเองสองที

ทำไมถึงได้เอาแต่ใจแบบนี้นะ ทำไมไม่ระวังเลย

ทั้งที่บุริศร์บอกแล้วว่าให้อยู่กับนภดล ทำไมจะต้องอยู่คนเดียวด้วย ถ้าลูกไปแล้ว เธอจะทำยังไง

พอคิดถึงเรื่องลูกและท่าทางเป็นทุกข์ของบุริศร์ นรมนจึงร้องไห้ออกมา

“ขอโทษ ฉันขอโทษจริงๆ ฉันไม่ดีเอง รักษาลูกไว้ไม่ได้ ฉันผิดเอง!”

เธอร้องไห้ตัวโยน บุริศร์เองก็เหม่อลอย

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท