“เธอหมายความว่าไง? พูดอะไรฉันไม่เข้าใจ”
เทย่าเบนศีรษะไปทันที ไม่มองตานรมน
นรมนยิ้ม แต่ยิ้มไม่ถึงดวงตา
“ไม่เข้าใจเหรอ? แล้วทำไมต้องหลบตาฉันล่ะ?”
“ฉันแค่ไม่อยากมองเธอ”
เทย่าก้มศีรษะลง เอ่ยพึมพำ
“ไม่อยากมองฉันหรือว่าไม่กล้ามองฉัน? หรือจะบอกว่าคุณสำนึกผิด? มองฉันตรงๆ ไม่ได้? ตอนคุณวางยาฉันบนเครื่องบิน ทำให้ฉันหลับไปทำไมไม่รู้สึกไม่กล้ามองหน้าฉันล่ะ?”
ถึงแม้ปาณีจะอยู่ไกล แต่ก็ได้ยินชัดเจนและเข้าใจ ตอนที่เธอได้ยิน ดวงตาก็เบิกกว้างทันที
“คุณนาย คุณไม่ได้นั่งเครื่องบินนานเลยเวียนหัวเหรอคะ?”
นรมนยิ้มเรียบๆ ขณะพูดขึ้น “เครื่องบินไปยูนนานลำนี้ ฉันนั่งมาแล้วไม่รู้กี่รอบ ทุกครั้งไม่เมาเครื่องบินเลย เพิ่งจะมาเมาเหรอ? ถึงฉันจะท้อง แต่ฉันก็เคยถามหมอแล้ว สภาพร่างกายฉันดีมาก ไม่มีทางเกิดอาการนี้ขึ้น ดังนั้นตอนที่เมาเครื่องบินฉันก็เลยสงสัยคุณ แต่เครื่องบินดันเกิดเหตุขัดข้อง ต้องเปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนเครื่องไม่เท่าไร โตษินดันหายตัวไป ฉันเดาว่าคนของคุณเอาตัวโตษินไปใช่ไหมล่ะ? ทำไมไม่ให้เขาอยู่ข้างฉัน? เพราะพวกคุณกลัวโตษิน เพราะพวกคุณกลัวโตษินส่งข้อความหาคุณตาฉัน ทำลายแผนพวกคุณใช่ไหม? แต่สิ่งที่คุณไม่รู้ก็คือ ตอนที่โตษินไปซื้อตั๋วเครื่องบินให้คุณ เขาได้ส่งข้อความหาคุณตาฉันแล้ว”
“ว่าไงนะ?”
เทย่าตกใจไปทั้งร่าง
เธอคิดว่าความสัมพันธ์ของนรมนกับเจตต์ดีมาก ตัวเองก็เป็นน้าของนรมน นรมนจะไม่ระมัดระวังตัวเองเลย ดังนั้นตอนแรกเริ่มเธอจึงระมัดระวังโตษิน ถึงแม้โตษินจะไปซื้อตั๋วเครื่องบินให้ เธอก็ให้คนแอบเฝ้ามอง แต่ไม่คิดว่าโตษินจะส่งข่าวออกไปแล้ว
“พวกเธอติดต่อกันยังไง? ฉันกล้ารับประกันว่าโตษินแตะโทรศัพท์ไม่ได้”
“ในค่ายทหารมีภาษามือคุณไม่รู้เหรอ? ไม่ต้องมีโทรศัพท์ ไม่ต้องมีภาษา แค่ใช้ภาษามือ ฉันก็รู้แล้วว่าเขาต้องการจะพูดอะไร และคุณอยู่ในสถานพักฟื้นตั้งหลายปี จะพกบัตรประชาชนติดตัวได้ยังไง? ตั้งแต่ตอนที่คุณซื้อตั๋วเพิ่ม ฉันก็สงสัยแล้ว”
คำอธิบายของนรมนทำให้เทย่าหมดคำจะพูด
“ไม่คิดว่าเธอจะมีภาษามือในกองทัพจริงๆ”
“บุริศร์เคยเป็นทหาร เขาเป็นสามีฉัน และเป็นครูทหารของฉัน! ฉันจะทำไม่เป็นเหรอ?”
นรมนพูดจบ ดวงตาก็มีความผิดหวัง
“คุณน้า ทำไม? ทำเรื่องแบบนี้กับคนสำคัญที่ตัวเองรัก คุณทำไปเพราะอะไรกันแน่?”
“เพราะอะไร? คนสำคัญที่รัก? ตาเธอกับแม่เธอ เคยมองฉันเป็นคนสำคัญและคนที่รักไหม? ตั้งหลายปีแล้ว ตั้งแต่ฉันโดนไล่ออกจากตระกูลพรโสภณ แม่เธอไม่เคยมาเจอฉันสักครั้ง ฉันถึงขนาดเคยไปตามหาหล่อน แต่หล่อนไม่มาเจอฉัน ฉันขอร้องให้หล่อนมาเจอฉันที่ประตูทางเข้าโรงเรียนหล่อน น่าเสียดายที่หล่อนใจแข็ง ไม่สนความเป็นความตายของฉัน พี่สาวแบบนี้ฉันยังต้องเป็นมิตรอะไรอีก?”
ขณะที่เทย่าพูด แววตาก็ดุร้าย ไม่เหมือนผู้หญิงที่อ่อนโยนก่อนหน้านี้เลย
นรมนมองเธอ รู้สึกสงสารเล็กน้อย
“เพราะเรื่องนี้เหรอ? ไม่ใช่เรื่องอื่นเหรอ? ที่คุณรออยู่ข้างนอกที่พักของคุณตา จริงๆ แล้วก็เพื่อให้ฉันพาคุณไปหาว่าแม่ฉันอยู่ที่ไหนใช่ไหม? คุณรู้ว่าฉันถูกคุณตาเอาตัวไป รู้ว่าบุริศร์มารับฉันแต่ไม่สำเร็จ คุณรู้ทุกอย่างนี้ คุณรู้จักเรณุกาด้วยใช่ไหม? บางทีทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรณุกา อาจจะเกี่ยวข้องกับคุณใช่หรือเปล่า?”
นรมนไม่อยากคิดแบบนี้ แต่เธอไม่ใช่คนโง่ อยู่เคียงข้างบุริศร์มาหลายปี ถึงแม้จะโง่แค่ไหนก็เรียนรู้อะไรบางอย่างได้
เธอไม่ใช่นรมนเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่ถูกหลอกและโดนวางแผนได้อีกต่อไป ตอนนี้เธอคือคุณนายบุริศร์ เป็นแม่ของลูก และเป็นคนที่ผ่านอุปสรรคมากับบุริศร์
เทย่าไม่ได้ปฏิเสธ และไม่ได้ยอมรับ
นรมนหัวเราะเยาะ พูดขึ้น “น่าเสียดายเจตต์เป็นคนดีมาก เขารู้ว่าคุณเป็นคนแบบนี้ใช่ไหม? ตอนนั้นเจตต์เป็นสมาชิกเขตทหาร ฉันเดาว่าที่เขาไปเป็นทหารเพราะเป็นความตั้งใจของคุณใช่ไหม? ไม่งั้นด้วยสภาพร่างกายและจิตใจของคุณ เจตต์ไม่มีทางทิ้งคุณแล้วไปเป็นทหารเด็ดขาด จุดประสงค์ที่คุณให้เขาไปเป็นทหารคืออะไร? คุณหลอกใช้แม้กระทั่งลูกชายแท้ๆ ของตัวเองเหรอ? เขาได้รับความทุกข์ยากลำบากเพื่อคุณ คุณทำกับเขาได้ยังไง? ครั้งนี้คุณไล่เขาออกไปใช่ไหม? เพราะคุณกลัวว่าเขาจะเห็นคุณหลอกใช้ฉันจัดการแม่ฉันและคุณตาฉัน หรือแม้กระทั่งคนทั้งประเทศด้วยซ้ำใช่ไหม?”
“เธอฉลาดเกินไปแล้ว ผู้หญิงอย่างเธอมีชีวิตได้ไม่นานหรอก”
จู่ๆ เทย่าก็เอ่ยปาก แต่สิ่งที่พูดทำให้นรมนชะงักไป
“งั้นเหรอ? แล้วคุณไม่ฉลาดเหรอ? ใช้ประโยชน์ที่พรรษานอกใจสร้างเรื่องว่าตัวเองโดนรังแก สร้างภาพลักษณ์ผู้หญิงอ่อนแอรักความคลั่งไคล้ ซ่อนตัวในสถานพักฟื้นสอดแนมทุกอย่างด้านนอก ถึงขนาดจัดการทุกอย่างลับๆ ควบคุมทุกอย่าง คุณไม่ฉลาดเหรอ?”
“ใช่แล้ว ฉันก็เลยใกล้ตายยังไงล่ะ”
เทย่ายิ้มอย่างค่อนข้างขมขื่น
นรมนกลับส่ายหน้าพูดขึ้น “เกรงว่าพิษของคุณจะเป็นของปลอมล่ะมั้ง แค่เป้าหมายคุณบรรลุ ประสบความสำเร็จแล้ว คุณก็จะล้างพิษให้ตัวเอง คุณใช้เรื่องธัญญามายุ่งวุ่นวายฝีเท้าเรา จริงๆ แล้วเป็นการสู้เวลาให้กับธัญญา ให้เธอติดต่อคนในครอบครัวตัวเองทำอะไรบางอย่างที่ต้องเป็นความลับ คุณน้า คุณมีชีวิตอยู่นานมาก สิ่งที่เป็นพื้นฐานอย่างผิดถูกชั่วดีก็แยกไม่ออกเหรอ?”
“เธอรู้อะไรเกี่ยวกับผิดถูกชั่วดี? นรมน เธอยังเด็กเกินไป บางเรื่องเธอไม่เข้าใจ บางคนฉันก็ซ่อนไม่ได้ มันคือภารกิจของฉัน ตระกูลพรโสภณติดหนี้พวกเราสองแม่ลูก ต้องชดใช้”
“แล้วประเทศติดหนี้อะไรคุณ? คุณให้ธัญญาทำทุกอย่างไม่ใช่เพื่อผู้ก่อการร้ายต่างแดนเหรอ? มันเป็นความลับทางการทหาร ฉันไม่ถาม แต่ไม่ใช่ว่าฉันเดาไม่ออก แล้วอำนาจอะไรที่สามารถทำให้คุณตาฉันเพียรพยายามเล่นละครแบบนี้ทั้งๆ ที่เป็นทหารเก่าเกษียณแล้ว? แล้วยังมีบุริศร์ของเราที่ไม่แต่งงานกับฉันชั่วคราวร่วมมือเล่นละครด้วย? นอกจากผลประโยชน์ของประเทศ ฉันก็คิดเรื่องอื่นไม่ออก ตอนแรกฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณตาฉันต้องการปล่อยตัวเรณุกา ตอนนี้ฉันเดาออกแล้ว แค่ฉันเดาไปถึงจุดเริ่มต้น ไม่คิดเลยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจะเป็นคุณจริงๆ ฉันรู้ข้างนอกเป็นคนของคุณ แต่คุณน้า คุณคิดว่าคุณยังติดต่อพวกเขาได้ไหม?”
คำพูดนรมนทำให้เทย่ามืดมนไปทั้งร่าง
“ไม่ต้องมองฉันแบบนี้ ฉันคิดว่าตอนนั้นที่แม่ฉันไม่อยากเจอคุณเพราะมีเหตุผล แม่ฉันกำลังจะตาย คุณไม่มีความเป็นมิตรพี่น้องเลยสักนิด ฉันเสียใจมากจริงๆ ฉันคิดมาตลอดว่าคุณชอบฉัน ตอนนี้ดูแล้ว ที่คุณเข้าใกล้ฉัน ถึงขนาดใช้ความรักของลูกชายที่มีต่อฉันมาทำให้ฉันเกิดความรู้สึกดีกับคุณ ทุกอย่างมันก็แค่กลยุทธ์และแผนการของคุณ ผู้หญิงอย่างคุณมันน่ากลัวมากจริงๆ”
จิตใจนรมนเย็นยะเยือก
ตอนแรกเทย่าให้ความอบอุ่นเธอมากเท่าไร ตอนนี้ก็มีน้ำแข็งเกาะอยู่ด้านในมากเท่านั้น
เธอไม่เข้าใจ
ทั้งๆ ที่เป็นญาติทางสายเลือดกัน ทำไมต้องต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อสิ่งที่ไม่จำเป็น?
เทย่าขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น
“เธอคิดจะทำอะไร?”
“ทำ ทำสิ่งที่ฉันควรทำ คุณเป็นน้าฉัน เรื่องนี้ฉันไม่ปฏิเสธ แต่ด้านผลประโยชน์ของประเทศ ฉันเป็นแค่พลเมืองธรรมดาเท่านั้น คุณน้า ขอโทษนะ”
นรมนพูดจบ ก็ทำร้ายเธอจนสลบทันที
“คุณนาย ตอนนี้เราควรทำยังไง?”
ปาณีไม่เคยประสบเหตุการณ์พวกนี้มาก่อน แต่เธอเข้าใจคำพูดนรมน ไม่ว่าอย่างไร เทย่าตรงหน้าก็เหมือนเป็นคนเลว
นรมนถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดขึ้น “ที่นี่มีหน้าต่าง เราปีนออกไปกัน”
“ฮะ?”
ปาณีตกตะลึงไปทั้งร่าง
“แต่ฉันปีนไม่ได้ ฉันกลัว”
“ไม่มีอะไรต้องกลัว ฉันจะรับเธออยู่ด้านล่าง พอเธอขึ้นไปแล้วก็กระโดดลงไป ต้องมีคนมาช่วยเหลือเธออยู่แล้ว”
คำพูดนรมนทำให้ปาณีตกตะลึงอีกครั้ง
“มีคนมาช่วยเหลือเราเหรอคะ? ใครน่ะ?”
“รีบขึ้นไป สายไปแล้วจะไม่ทัน เราเข้ามานานมากแล้ว ถ้ายังไม่ออกไปข้างนอกจะถูกสงสัย ถึงตอนนั้นอยากหนีก็หนีไม่ได้ คนพวกนั้นไม่ใช่อาชญากรธรรมดา ที่ตัวพวกมันอาจจะพกปืน”
คำพูดนรมนทำให้ปาณีหน้าซีด แต่ก็ยังปีนหน้าต่างด้วยความสั่นกลัว
หลังจากที่เธอปีนขึ้นไปหน้าต่างก็ไม่คิดว่าจะเห็นคนที่รอพวกเขาอยู่ด้านล่างคือนภดล!
นภดล?
ปาณีนึกว่าตัวเองแค่เกิดภาพลวงตา
เกิดอะไรขึ้นกับนภดล?
เขาไม่ได้อยู่เมืองชลธีเหรอ?
ตามพวกเขามาที่ยูนนานตั้งแต่เมื่อไร?
“รีบกระโดด! รออะไรอยู่!”
นภดลขมวดคิ้วเล็กน้อย เสียงไม่แยแสคลอไปด้วยความเย็นชา ถึงทำให้ปาณีรู้สึกถึงความเป็นจริง
มีนภดลคอยรับอยู่ด้านล่าง เห็นท่าทางเขายื่นแขนออกมา ทันใดนั้นปาณีก็รู้สึกดีใจ
ทำไมเธอถึงไม่กล้ากระโดดล่ะ?
บางทีตัวเองอาจจะได้รับการอุ้มแบบเจ้าหญิง คุ้มค่ามาก!
เมื่อคิดแบบนี้ ก็หลับตากระโดดลงไปทันที
ไม่ได้เจ็บอย่างที่คาดคิดไว้ แต่กลับเป็นหน้าอกที่อบอุ่น และเสียงหัวใจเต้นเหมือนกลองสงคราม
ปาณีรู้สึกช่วงเวลานี้มีความสุขเกินไป
“ยังไม่ลงมาอีก คิดอะไรอยู่?”
เสียงเย็นยะเยือกของนภดลดังเหนือศีรษะ ทำให้ปาณีค่อนข้างหลงใหล
“บ้าผู้ชาย”
นภดลปล่อยมือทันที
“โอ๊ย!”
ปาณีถูกโยนลงพื้นทันที บั้นท้ายเกือบแตก
“นภดล นายเป็นสุภาพบุรุษหน่อยได้ไหม?”
“จะบ้าผู้ชายไปถึงเมื่อไร? คุณนายกับใครยังอยู่ข้างใน? คนรอบๆ ก็เป็นคนของพวกมันหมด เธอยังอืดอาดอีก”
ครั้งนี้นภดลพูดเยอะมาก แต่กลับทำให้ปาณีอับอายเล็กน้อย
“รออยู่ข้างๆ อย่าขวางฉัน”
นภดลไล่ปาณีไปข้างๆ นรมนก็ส่งเทย่าไปที่หน้าต่างแล้ว
เทย่าถูกเธอปิดปากไว้แล้ว และถอยลงมาทันที
นภดลรับไว้อย่างมั่นคง และนำเทย่ายัดเข้าใส่ในรถทันที
ปาณียังไม่ได้พูดอะไร ก็เห็นนรมนกระโดดลงในแนวตั้ง ปาณีตกใจกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้น
“คุณนาย คุณทำได้หรือเปล่าคะ!”
เธอรีบวิ่งเข้าไป ขณะที่นรมนกระโดดลงมา ก็เอาตัวเข้าไปเป็นแผนรองเท้านรมนทันที
“โอ๊ย……”
ปาณีรู้สึกทั้งร่างจะแตกสลาย แต่นภดลตกตะลึงไปทั้งร่าง
“เธอ……”
เขาพูดไม่ออก
ผู้หญิงคนนี้เข้าไปโดยไม่ลังเลแบบนี้ มันทำให้นภดลเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่ด้วยความชื่นชม
และนรมนรีบลุกขึ้นมา ดึงปาณีขึ้นมา
“เป็นยังไงบ้าง? เจ็บหรือเปล่า? ฉันเคยฝึกกับบุริศร์ ความสูงระดับนี้ไม่มีปัญหา เธอวิ่งมาทำไม?”
“แต่ตอนนี้คุณนายท้องอยู่นี่คะ กระโดดไม่ได้”
ปาณีลูบบั้นท้ายตัวเองอย่างน้อยอกน้อยใจ
และในขณะนี้ ด้านนอกจู่ๆ ก็เกิดเสียงวุ่นวาย