“เพราะฉันรู้ความจริงของเรื่องนี้ ฉันกลัวว่านภดลจะถามถึงสาเหตุการเสียชีวิตของฉัตรยา ที่กลัวกว่าคือตัวเองจะอดทนไม่ไหวบอกความจริงกับเขาไป ดังนั้นฉันจึงออกมาจากตระกูลจันทรวงศ์และซ่อนตัว เธอไม่รู้ว่าฉัตรยา ทำอะไรเพื่อนภดลบ้าง มีรอยเข็มอยู่ทั่วร่างกายของเธอ ฉันเป็นคนที่คอยปกปิดมันให้ เห็นชีวิตที่มีชีวิตชีวาแห้งขอดเพราะความรัก ฉันไม่รู้ว่าในใจเป็นเช่นไร ฉันเคยคิดว่าฉันรู้จักความรักแต่ในขณะที่ฉันเห็นฉัตรยา ฉันเพิ่งรู้ว่าจริงๆแล้วฉันไม่เข้าใจอะไรเลย”
มิลินนั่งข้างนรมน รินน้ำให้ตัวเองและนรมนหนึ่งแก้ว ก่อนจะจิบน้ำก่อนให้ชุ่มคอ
“ตอนแรกที่ฉันอยู่กับขุนอิน ฉันคิดว่าฉันรักเขา ตอนที่เขาทำเพื่อธุรกิจไม่สนใจเราสองคน ฉันคิดว่าตัวเองถูกปฏิบัติอย่างเย็นชาแล้ว ฉันคิดว่าเขารักธุรกิจมากกว่ารักพวกเรา แต่เมื่อฉันลองคิดให้ละเอียด ฉันอาจจะไม่ได้รักเขามากเท่าที่ฉันคิด เพราะตอนที่เขาตาย ถึงแม้ฉันจะเศร้าแต่ฉันก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะอยู่ได้โดยไม่มีเขาไหม ฉันรู้สึกใจของฉันมึนชา จนกระทั่งฉันเจอฉัตรยา เด็กคนนี้อายุไม่มาก แต่ความพากเพียรและการอุทิศตนเพื่อความรัก ทำให้ฉันเคารพจริงๆ ความรักที่เธอมีต่อนภดลนั้นบริสุทธิ์และจริงใจ ไม่มีอะไรมาผสมปนเป มันบริสุทธิ์ขนาดที่ว่าเพราะรักคนหนึ่งก็เลยรัก ตอนที่ฉันไป ฉันไม่สามารถช่วยเขาไว้ได้ทัน ฉายาฉันคือยมราช แต่ท้ายที่สุดฉันก็ไม่ใช่ยมราช ฉันไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตและความตายของเธอได้ ได้แต่เฝ้ามองเธอค่อยๆ เหี่ยวเฉา โรยราเพื่อคนที่เธอรักเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกไร้อำนาจเข้ามาพัวพันโดยรอบ”
น้ำเสียงของมิลินแหบพร่า
นรมนรู้สึกอึดอัดมากขึ้น
เธอคิดความจริงมาหลายประเภท แม้กระทั่งคิดว่าดร.ฐานทัตโหดร้ายเกินไปหรือไม่ หยุดคำพูดของเรณุกา แต่ตอนนี้ถึงค่อยทราบ ฉัตรยาที่ดูอ่อนโยนและอ่อนแอนั่น ไม่คิดว่าจะทำให้คนเคารพได้มากขนาดนี้ นรมนไม่รู้จะพูดอะไร ยิ่งไม่รู้ด้วยว่าอยู่ต่อหน้านภดลตัวเองจะทำอย่างไร มิลินตบบ่าเธอ พูดเสียงเบาว่า “เรื่องของฉัตรยาให้ความสะเทือนใจแก่ฉันมาก หลังจากได้พบแม่ของเธอ รู้เรื่องราวของแม่เธอที่พบเจอมา ฉันรู้สึกว่าฉันต้องใช้ชีวิตให้ดี ในเวลาที่ยังเหลืออยู่ ฉันอยากทำสิ่งที่อยากทำให้เสร็จแต่ยังไม่ได้ทำในชีวิต และอยากปฏิบัติต่อคนรอบข้างให้ดี และเธอ เธอโชคดีและมีความสุข เพราะว่าเธอมีบุริศร์ที่คอยอยู่ข้าง เธอสองมีความรักซึ่งกันและกัน ในการเผชิญกับชีวิตและความตาย ทุกสิ่งนั้นเล็กเกินไป ถ้าเป็นไปได้ ฉันคิดว่าฉัตรยาก็อยากมีชีวิตอยู่เช่นกัน และเธอต้องการแก่เฒ่าไปพร้อมกับนภดล แต่เธอไม่มีทาง ดังนั้นรักษาชีวิตที่อยู่ข้างหน้าเถอะ ผ่านวันและคืนที่ดีไปพร้อมกับบุริศร์ ไม่ให้ลูกศิษย์ของฉันกังวลมากไปก็โอเคแล้ว”
นรมนพยักหน้าขณะฟัง เธอรู้สึกหนักใจเป็นพิเศษ
“ไม่ต้องกังวล ฉันจะรักษาชีวิตตัวเองในตอนนี้ และฉันจะดีต่อนภดล”
นรมนไม่กล้าให้นภดลรู้ความจริง ถึงอย่างไรความจริงอย่างนี้ก็โหดร้ายเกินไป ทารุณเกินไป
เมื่อเธอลุกขึ้นและเปิดประตูออกไป เธอถึงพบว่านภดลกำลังยืนอยู่ที่ทางเดิน ใบหน้านองไปด้วยน้ำตา
“นภดล คุณ… …”
“ผมมาที่เพื่อถามถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของฉัตรยา ไม่คิดว่าจะเป็นเพราะผม”
นภดลเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก
เขามีดีอะไร!
เดิมทีเขาเป็นคนที่กำลังจะตาย เป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่ควรมีอยู่บนโลกใบนี้ ทำไมเขายอมแลกชีวิตตัวเองเพื่อเขา?
ความรักที่ฉัตรยามอบให้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขายิ้มในยมโลกแล้ว ทำไมไม่ให้เขาตาย? ทำไมตัวเองต้องตาย?
เธอรู้หรือไม่ว่าการปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวในโลกที่อ้างว้างนั้นน่ากลัวกว่า โดดเดี่ยวกว่า และเสียใจมากกว่าความตาย
นรมนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อมองไปยังท่าทางของนภดลแบบนี้
“นภดล ฉัตรยาทำเพื่อคุณ อย่าทำให้เธอผิดหวัง”
“ไม่ต้องกังวล ผมไม่รนหาความตายหรอก ถ้าไม่มีพ่อแม่ บางทีผมคงทำอย่างนั่น แต่ตอนนี้ผมไม่คิดอย่างนั่น ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ฉัตรยาอยู่ในใจของผม อยู่มาตลอด เธอทำเพื่อผม สละตัวเอง ผมจะไม่สามารถรักชีวิตตัวเองได้อย่างไร? ผมต้องกตัญญูแทนในส่วนของเธอ ผมจะพาเธอไปมีชีวิตที่ดีกับงานอดิเรกของเธอ จริงๆแล้ว สิ่งที่ ฉัตรยา ต้องการมากที่สุดในชีวิตของเธอคือการสามารถเดินทางข้ามแม่น้ำสามสายและภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าได้ น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาส ไม่มีเวลา จากนี้ไปผมจะไปเที่ยวพักผ่อนทุกปีด้วยความรักของฉัตรยา ผมยังหวังว่าคุณนายจะสามารถให้วันหยุดนี้แก่ผมได้ เวลาไม่นาน แค่หนึ่งเดือน”
เมื่อเผชิญกับคำขอของนภดลแล้ว นรมนจะพูดอะไรได้อีก
“ได้สิ”
“ขอบคุณครับ คุณนาย”
นภดลหมุนกายกลับหลังจากพูดจบ
เมื่อมองไปยังแผ่นหลังที่เงียบเหงาของนภดล นรมนรู้ ว่า ปาณีอาจจะไม่มีหวัง
ไม่ว่าเธอจะดีเลิศขนาดไหน แต่ไม่สามารถแข่งกับคนที่ตายได้ ยิ่งไปกว่านั่นฉัตรยาทำเพื่อนภดล
ไม่รู้ว่ามิลินมายืนข้างหลังของนภดลเมื่อไหร่ ก่อนพูดเสียงต่ำ “ในที่สุดเขาก็รู้”
“ไม่มีอะไรไม่ดี ฉัตรยาทุ่มเทลงไปมาก เขาควรรู้”
คำพูดของนรมน ทำให้มิลินถอนหายใจและพูดว่า “แต่หวังให้เราถูกเถอะ ฉันหวังว่าฉัตรยาจะเป็นวิญญาณบนทรวงสวรรค์ที่สงบสุข”
“คุณจะกลับไปที่เมืองชลธีกับเราไหม?”
นรมนเปลี่ยนเรื่องทันที มิลินเกือบจะตามไม่ทัน
“ไปสิ ฉันต้องการพบกับลูกศิษย์ของฉัน! ฉันจะไปเมืองชลธี คุณสามารถให้ฉันพาเขาไปได้หรือไม่”
“ไม่ได้! กิจจาต้องอยู่ในบ้านโตเล็ก โตแล้วค่อยออกไปสอบ ฉันไม่สน ว่าตอนนี้เขาเด็กแค่ไหน แต่ต้องอยู่กับพวกเรา แถมอาการป่วยของแม่ฉันต้องการคุณ ดังนั้นคุณกลับไปเมืองชลธีกับพวกเราเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแล้ว”
มิลินย่นจมูกลงทันที
“ทำไมฉันจะฟังความหมายของคำพูดนี้ไม่ถูกละ? เธอไม่ควรร้องขอให้ฉันกลับไปไหม?”
นรมนยิ้มทันที
“โอเค ฉันขอร้องไห้คุณตามพวกเรากลับเมืองชลธี”
มิลินกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ฉันไม่มีเงิน ไปเมืองชลธีแล้วจะให้พักที่ไหน?”
“อยู่ที่บ้านของเรา บ้านเรามีที่เยอะมาก สบายใจเถอะ ทุกเดือนจะให้เงินเดือนคุณ เป็นค่าเลี้ยงดูกิจจา เป็นไง?”
“โถ่ ปฏิบัติกับฉันเหมือนขอทานจริงหรือ? ฉันไม่ต้องการเงินของคุณ และไม่ใช่ว่าฉันหาเงินเองไม่ได้ ฉันคิดแล้ว หลังกลับเมืองชลธี ฉันจะเปิดโรงพยาบาลเป็นของตัวเอง แต่สำหรับเอกสารหรือบางอย่าง ฉันอาจต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
“ไม่มีปัญหา”
นรมนโล่งใจเมื่อมิลินตกลง เธอกลัวจริงๆว่ามิลินจะไม่กลับไปด้วย
หลังจากที่นภดลออกมาจากบ้าน เขาเดินไปที่มุมลับตาคน ก่อนจะร้องไห้อย่างเต็มที่
เขาเป็นผู้ชาย ไม่สามารถร้องไห้ได้ตามใจคิด แต่ตอนนี้เขาไม่ไหวแล้ว
เขาจำได้ว่าตอนที่เขายังเป็นเด็กมีความทุกข์ยาก เป็นฉัตรยา ที่มาหาเขา นั่งลงพร้อมกับอาหารอร่อยๆ ยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าเธอแบ่งความทุกข์มาให้ฉันได้ครึ่งหนึ่ง เธอจะสบายใจขึ้นมาก”
“จะแบ่งยังไง?”
นภดลคิดว่าสาวน้อยคนนี้น่าสนใจจริงๆ ความเจ็บปวดอยู่ในร่างกาย ในเลือด เขาจะแบ่งปันกับเธอได้อย่างไร?
ถ้ามันแบ่งได้จริงๆ เขาแทบรอไม่ไหวที่จะมอบมันทั้งหมดให้กับคนอื่น
ฉัตรยาเหยียดแขนออก เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ตีฉันสิ ร่างกายเธอเจ็บปวด ถ้าเธอตีฉัน ฉันก็เจ็บ เมื่อถึงตอนนั่นใจเธอก็จะสบาย นี่ไม่ใช่แบ่งให้ฉันครึ่งหนึ่งเหรอ?”
นภดลรู้สึกว่าเด็กหญิงตัวเล็กๆ นี่มีปัญหากับสมองของเธอ
ต่อมาเขาพบว่าเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้คือ ลูกสาวของดร.ฐานทัต ผู้หญิงที่ทรมานพ่อแม่ และผู้หญิงเลวของเขา เขาอยากตีเธอจริงๆ กระทั่งบีบคอให้ตายไป แต่เธอก็ยิ้มตลอด ไม่มีการต่อต้านพฤติกรรมหยาบคายของเขา
บางทีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นภดลรู้สึกว่าเธอเป็นนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์ ทูตสวรรค์ที่มาหาเขาโดยเฉพาะ
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนและคู่รักกัน
นภดลจำได้ว่าฉัตรยาอยู่กับเขามาหลายปีแล้ว และเขาเป็นคนเดียวในสายตาของเธอ และเขาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้น
ดร.ฐานทัตทำลายพ่อแม่ของเขา และทำลายชีวิตของเขา แต่ฉัตรยาใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อเติมเต็มทั้งหมดนี้
เขาไม่อยากได้สิ่งตอบแทนอย่างนี้!
เขาไม่ต้องการ!
เขาแค่ต้องการให้ฉัตรยามีสุขภาพแข็งแรง และเพียงต้องการให้เธอยืนอยู่ต่อหน้าเขา กวนใจเขา เล่าเรื่องของเธอให้ฟังทุกวัน ทุบหลังให้เธอ ล้างเท้าให้เธอ
ตอนนี้เขายังคงจำเสียงหัวเราะของเธอได้ ไพเราะและเสนาะหู แต่เขากลับไม่ได้ยินมันอีกแล้ว
นภดลร้องไห้เป็นเวลานาน ดวงตาของเขาแดงก่ำ และในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นยืน หยิบโทรศัพท์แล้วโทรหาคุณนายจันทรวงศ์และดร.ฐานทัต
เขาเปิดปากด้วยประโยคแรกว่า “คุณรู้ไหม ว่าสาเหตุของการเสียชีวิตของฉัตรยาคืออะไร?”
ดร.ฐานทัตเงียบ
คุณนายจันทรวงศ์ร้องไห้สะอึกสะอื้น
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่นภดลก็เข้าใจแล้ว
พวกเขารู้!
บางทีมันอาจจะสายเกินไปสำหรับพวกเขาที่จะรู้ แต่พวกเขาก็ยังรู้ นั่นเป็นเหตุผลที่คุณนายจันทรวงศ์เกลียดเขามาก และปฏิบัติต่อเขาอย่างนั้นใช่ไหม?
น้ำตาของนภดล หลั่งอีกครั้ง
“นับตั้งแต่วันนี้ พวกคุณคือพ่อแม่ของผม ผมเป็นลูกชายของคุณ เป็นลูกชายแท้ๆ ผมจะดูแลพวกคุณไปจนถึงวาระสุดท้าย ผมจะทำในส่วนของฉัตรยา แม่ไม่อนุญาตให้ผมแต่งงานชั่วชีวิตนี้ ผมสาบาน นอกจากผมนภดลคนนี้ถึงแก่ความตาย ชั่วชีวิตนี้ผมจะมีฉัตรยาเป็นภรรยาเพียงคนเดียว จะไม่เสียใจในภายหลัง จะไม่แต่งงานใหม่ ”
เมื่อฟังสิ่งที่นภดลพูด คุณนายจันทรวงศ์ร้องไห้อีกครั้งและเป็นลมไป
หลังจากที่นภดลวางสายโทรศัพท์ จัดการอารมณ์ของตัวเอง ทันทีที่เขาหันกลับมา เขาก็เห็นปาณียืนอยู่ข้างหลังเขา
ปาณีให้ความสนใจกับเขา เขารู้ แต่ในขณะนี้เขาไม่ได้แม้แต่จะเหลือบมองปาณี และเดินจากไป
“จริงไหม ที่ว่าจะไม่แต่งงานตลอดชีวิต”
เสียงของปาณีสั่น ดวงตาคลอเบ้าไปด้วยน้ำตา
นภดลหยุดฝีเท้า ก่อนพูด “อย่าเสียเวลากับฉันเลย ใจฉันไม่สามารถมีใครได้อีก”
“นภดล… …”
ปาณีต้องการจับเขา แต่ถูกเขาหลีกเลี่ยง
“มิลินบอกว่า อาการบาดเจ็บของคุณจะต้องได้รับการพักฟื้น อย่าว่าแต่มาที่นี่เลย คุณไม่ควรลุกจากเตียงด้วยซ้ำ รีบกลับเถอะ คุณนายรอให้คุณหายดีแล้วไปดูแลนะ”
หลังจากพูดจบ นภดลก็ก้าวออกไป ไม่มองปาณีสักหางตา
ปาณีในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
ยังไม่เริ่มความรักก็ตายอย่างนี้เลยหรอกเหรอ?
เธอนั่งลงและกอดตัวเองพลางร้องไห้อย่างเศร้าใจ ไม่เห็นแม้แต่เงาคนที่ค่อยๆก้าวเข้ามาหาเธอจากทางด้านหลัง