ฝ่ายชายอึ้งไปอย่างเห็นได้ชัดเจน
“คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย ถ้าผมไม่ใช่บุริศร์แล้วจะเป็นใคร?”
ตอนนี้นรมนยิ่งมองเห็นว่าเขาไม่เหมือนบุริศร์
ถึงแม้ว่าเขาจะมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกันมาก แต่คิ้วและตาของเขา บุคลิกของเขา และนิสัยของเขาไม่ใช่บุริศร์
แต่ก่อนตนเองอาจจะเป็นเพราะคมทิพย์วางแผนให้ตนเองตามืดบอด ทำให้เธอเห็นทั้งหมดเป็นความใจแคบของบุริศร์ ถ้าไม่ใช่เพราะกานต์ค้นพบความระแคะระคาย เธอคงคิดไม่ถึงจุดนี้
คนที่คมทิพย์พูดถึงจะเป็นเขาหรือเปล่า?
ถ้าเป็นเขา แล้วบุริศร์ตัวจริงไปไหน?
นรมนยิ่งคิดยิ่งเป็นห่วง
“คุณเป็นใครกันแน่ ?บุริศร์อยู่ที่ไหน? คุณทำอะไรกับเขา?”
นรมนถามสามคำถามต่อเนื่องกัน
ถ้าบุริศร์เคลื่อนไหวได้อิสระ ไม่มีทางที่จะปล่อยให้ของปลอมนี้มาปฏิบัติเช่นนี้กับลูกสาวของตนเองที่นี่
นรมนแอบเหลือบมองกานต์ เขาเข้าใจความหมายของนรมน แต่กลับสองจิตสองใจ
ฝ่ายชายมองเห็นความดื้อรั้นในแววตาของนรมน จึงยกมือขึ้นทันที ใช้รีโมตปิดประตูห้องทำงาน พร้อมกับล็อกเอาไว้ด้วย
หัวใจของนรมนหล่นวูบ รู้ว่าไม่มีทางส่งกานต์ออกไปได้แล้ว
ฝ่ายชายนั่งพิงเก้าอี้ทั้งตัว เอ่ยถามอย่างเย็นชาว่า: “คุณเป็นคุณนายบุริศร์มันไม่ดีอย่างไร?ทำไมต้องมาสืบสาวราวเรื่องด้วย?ไม่เพียงแค่นั้น ยังพาลูกมาด้วย คุณไม่คิดถึงผลที่จะตามมาบ้างเหรอ?”
นรมนเห็นเขายอมรับทางอ้อม ใจหายวูบไม่หยุด
“ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะกล้าทำอะไรฉัน?คุณสามารถต้านทานตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับตระกูลพรโสภณที่อยู่เบื้องหลังฉันได้เหรอ?”
“แน่นอนว่าผมไม่มีความสามารถต่อต้านที่จะตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับตระกูลพรโสภณได้ แต่คุณรู้ได้อย่างไรว่าคนที่อยู่เบื้องหลังผมจะไม่มีความสามารถ?คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณจะไม่ฟังผม?”
ฝ่ายชายหัวเราะอย่างไม่แยแส เหมือนกับกุมทุกอย่างไว้ในกำมือ
ดวงตาของนรมนมืดมนเล็กน้อย ถามอย่างเย็นชาว่า: “คุณเป็นคนจัดการตระกูลเจริญไชยใช่ไหม?คุณฆ่าแม่ของคมทิพย์ใช่ไหม?”
“ถ้าคุณหมายถึงตระกูลเจริญไชยที่เมืองB ล่ะก็ ใช่ผมเป็นคนทำเอง ทำอะไรไม่ได้ พวกเขายั่วยุเจ้านาย”
คำพูดของฝ่ายชายทำในนรมนกำสองมือแน่น
“ใครคือเจ้านายของคุณ?”
“คือพ่อของผมเอง คุณสามารถเรียกเขาว่าคุณอารองเหมือนกับบุริศร์ได้ เพียงแต่เขาคือพ่อที่แท้จริงของสามีคุณ”
ถึงแม้คำพูดของฝ่ายชายจะไม่ละเอียด แต่นรมนเข้าใจ
ปีนั้นได้ยินว่าตระกูลโตเล็กมีลูกแฝด คุณอารองเชษฐ์กับหัวหน้าตระกูลโตเล็กก็คือฝาแฝด เดาว่าหน้าตาเหมือนกัน ผู้ชายคนนี้พูดว่าคุณอารองถึงจะเป็นพ่อของบุริศร์ สิ่งนี้ทำให้นรมนสงสัย
ฝ่ายชายจุดบุหรี่ ไม่สนใจลูกในท้องของนรมนสักนิดเดียว ดูเหมือนเขาจะรู้ว่านรมนสงสัย จึงเอ่ยอย่างเย็นชา: “แปลกใจมากใช่ไหม?อันที่จริงก็ไม่ได้เข้าใจยากหรอก ป้าโอกับพ่อของผมเป็นคู่รักกัน ตอนนั้นป้าโออุ้มบุญ ทำเด็กหลอดแก้ว เพื่อรับรองอัตราการมีชีวิตรอด ตอนแรกทำเด็กหลอดแก้วเป็นตัวอ่อนสี่คน สุดท้ายรอดมาได้สามคน ผมพูดแบบนี้คุณเข้าใจไหม?”
“พวกคุณคือแฝดสาม?”
นรมนตะลึงงัน
ฝ่ายชายกลับหัวเราะขึ้นมา
“คุณนี้ฉลาดจริง ๆ แค่นี้ก็เข้าใจแล้ว พวกเราคือแฝดสาม เพียงแต่พ่อของผมยกบุริศร์กับตรินท์ให้ป้าโอ ให้เธอกลับไปตระกูลโตเล็ก เหลือผมไว้คนเดียวเลี้ยงดูข้างกายเขา วันนี้บุริศร์จัดการตระกูลโตเล็กทั้งหมดได้ดีมาก น่าเสียดายที่ตรินท์มาตายเร็วเกินไป วัตถุประสงค์ที่ผมกลับมานั้นง่ายมาก แค่จะรับช่วงอำนาจที่แต่เดิมเป็นของตรินท์ นี่คือกฎเกณฑ์ที่ยึดถือของตระกูลโตเล็ก แต่บุริศร์บอกว่าเขาเลิกล้มอาณาจักรรัตติกาลไปแล้ว พี่ชายคนโตของผมคนนี้ ไม่ไหวเลยจริง ๆ ถ้าเลิกล้มอาณาจักรรัตติกาล แล้วคนในมือของนภดลจะเป็นอย่างไร?เดิมทีอาณาจักรรัตติกาลที่อยู่ใต้บังคับบัญชาได้ติดต่อนภดลแล้ว หน่วยข่าวกรองก็อยู่ในมือของนภดล พี่ชายคนนี้ของผมไม่คิดจะส่งให้ผม ผมจึงทำได้เพียงสวมรอยเขาในฐานะหัวหน้าตระกูลโตเล็ก”
คำพูดของฝ่ายชายทำให้ดวงตาของนรมนหรี่ลง
“ดังนั้น พวกคุณทำอะไรกับบุริศร์?”
“วางใจเถอะ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เขาก็คือลูกชายของพ่อ พ่อเพียงแค่จะเก็บเขาไว้สักพักหนึ่ง เดี๋ยวจะให้พวกคุณได้เจอกัน ช่วงนี้คุณก็ร่วมมือกับผมอย่างโดยดี ไม่อย่างนั้นผมไม่กล้ารับประกันว่าพ่อจะทำอะไรกับเขา และจะทำอะไรกับลูก ๆ ของคุณ บางทีตระกูลเจริญไชยอาจจะเป็นกรณีศึกษาของพวกคุณก็ได้”
ฝ่ายชายยิ้มชั่วร้าย การแสดงออกไม่เหมือนกับบุริศร์โดยสิ้นเชิง
“คุณชื่อว่าอะไร?”
“ภาริช!”
ภาริชไม่แยแสที่นรมนถามชื่อของตนเอง สำหรับเขาแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้มีความสำคัญอะไร และไม่สามารถทำอะไรเขาได้
นรมนจดจำชื่อนี้และกล่าวอย่างเย็นชา: “คุณอย่าคิดเอาเงินออกไปจากฉันที่นี่ สิ่งเหล่านี้บุริศร์ต่อสู้เองอย่างสุดชีวิต เขาทำมากมายขนาดนี้ พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาชุบมือเปิบ?คุณก็อยู่ที่บริษัทเมื่อช่วงเช้า พบว่าไม่มีทางโอนเงินของบริษัทไปได้เลยใช่ไหม?ไม่รู้สาเหตุล่ะสิ?ฉันจะบอกคุณให้!”
ในขณะที่พูด นรมนก้าวขึ้นไปข้างหน้า ผลักภาริชออก และใส่คำสั่งลงไปในคอมพิวเตอร์ ทันใดนั้นคอมพิวเตอร์ก็ปรากฏโหมดปลดล็อกที่ซ่อนอยู่
ดวงตาของภาริชมืดมนลงทันที
“คิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะให้คุณผู้หญิงคนเดียวเป็นคนควบคุมทรัพย์สมบัติมูลค่ามหาศาลเช่นนี้?”
“พูดให้ถูกต้องไม่ใช่ควบคุม บุริศร์มอบบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดและตระกูลโตเล็กทั้งหมดแก่ฉัน ถ้าไม่มีการตรวจสอบลายนิ้วมือกับรูม่านตาของฉัน คุณก็เอาเงินออกไปจากที่นี่ไม่ได้”
นรมนมองเห็นท่าทางลนลานของภาริช จึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
แต่ก่อนยังรู้สึกว่าการที่บุริศร์โอนกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สมบัติทุกอย่างให้แก่ตนเอง ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง ตอนนี้กลับเคารพในการมองการณ์ไกลของบุริศร์
เห็นนรมนมีท่าทางลำพองใจอย่างยิ่ง จู่ ๆ ภาริชกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม: “คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมจะไม่มีทางได้ลายนิ้วมือกับรูม่านตา?ผมแค่ตัดนิ้วของคุณออก และควักลูกตาคุณออกมา ผมก็สามารถทำให้ทรัพย์สินเหล่านี้กลายเป็นของตนเองแล้ว”
ความป่าเถื่อนของภาริชทำให้นรมนตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัว
“คุณกล้าเหรอ!”
“คุณสามารถลองดูได้นะ อีกอย่างคุณคิดว่าวันนี้คุณจะออกไปจากห้องทำงานนี้ได้เหรอ?”
นรมนกัดฟันมองท่าทางกำเริบเสิบสานของภาริช
“คุณคิดจะกักบริเวณฉัน?”
“อย่าพูดอะไรไม่น่าฟังแบบนั้นสิ คุณไม่อยากเจอบุริศร์เหรอ?ผมสามารถทำให้คุณสมหวังได้ เพียงแต่คุณต้องโอนเงินออกมาให้ผมจำนวนหนึ่งก่อน”
นรมนมองการทำงานของคอมพิวเตอร์ ดวงตาของเธอหรี่ลงทันที
“คิดไม่ถึงว่าพวกคุณต้องการใช้บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดฟอกเงิน?”
“พี่สะใภ้ อย่าแปลกใจขนาดนั้นสิ ถึงอย่างไรก็ได้กำไร ได้กำไรไม่ดีเหรอ?”
นรมนมองออก ภาริชไม่ใช่คนที่มีหลักการ
จากตัวตนของภาริช นรมนสามารถจินตนาการออกว่าคุณอารองคนนั้นเป็นคนอย่างไร คิดไม่ถึงว่าคนแบบนี้จะเป็นพ่อกับน้องแท้ ๆ ของบุริศร์ น่าสะอิดสะเอียนเกินไปจริง ๆ
เธออดรู้สึกโชคดีไม่ได้ที่บุริศร์เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมปกติแบบนี้ ไม่เติบโตมาเหมือนกับภาริช
“แล้วถ้าฉันไม่ให้ความร่วมมือล่ะ?”
“งั้นผมก็จะไม่เกรงใจแล้ว”
ภาริชเตรียมลงมือกับนรมนในขณะที่พูด
สำหรับเขา นรมนเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง และยังเป็นผู้หญิงที่กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย ไม่จำเป็นต้องออกแรงเต็มที่ก็สามารถควบคุมนรมนเอาไว้ได้แน่นอน แต่นรมนเคลื่อนไหวทันทีเมื่อเขาลงมือ
เธอชกไปที่ท้องของภาริชอย่างแม่นยำ
หมัดนี้ ออกแรงอย่างเต็มกำลัง
ภาริชร้องโอดโอย ทั้งคนและเก้าอี้กระเด็นไปที่หน้าต่างทรงสูงในชั่วพริบตา
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ดวงตาของภาริชเย็นชาลงทันที
“ดูถูกคุณไปจริง ๆ ไม่คิดว่าคุณก็มีมุมที่โหดเหี้ยม ดี!ผมชอบความเร้าใจแบบนี้!”
ภาริชลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ พุ่งเข้าโจมตีนรมนเต็มกำลัง
นรมนไม่กล้าคิดเรื่องอื่น สู้กับภาริชอย่างสุดจิตสุดใจ
ส่วนกานต์ที่ทำเหมือนตนเองไม่มีตัวตนอยู่ตลอด หลังจากเห็นนรมนต่อสู้กับภาริช เขาก็รีบนั่งยอง จากนั้นใช้แรงไถลเข้าไปใต้โต๊ะ รีบค้นหารีโมตเปิดประตูห้องทำงานออก
“ไอ้เด็กบ้า แกรนหาที่ตายซะแล้ว!”
ภาริชก็ลืมกานต์ไปสนิทเลย ตอนนี้มองเห็นประตูห้องทำงานเปิดออก จึงพุ่งเข้าใส่กานต์ทันที
“กานต์ วิ่งเร็ว!”
นรมนคอยขัดขวาง กั้นภาริชเอาไว้อีกครั้ง
กานต์ลังเล เขามองเห็นนรมนกำลังตะลุมบอนกับภาริช ในที่สุดจึงกัดฟัน วิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
เขาวิ่งตรงไปที่ลิฟต์อย่างไม่คิดชีวิต
เขาจะต้องหาคนมาช่วยหม่ามี้ให้ได้!
ในใจของกานต์คิดเช่นนี้ พุ่งเข้าไปทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก แต่เหมือนกับเขาปะทะเข้ากับอ้อมแขนของคนอื่นทันที
“ทำอะไรอยู่ทำไมลนลานแบบนี้?”
เสียงที่คุ้นเคยทำให้กานต์เงยหน้าขึ้นทันที ก็มองเห็นแววตาที่เป็นห่วงคู่นั้นของบุริศร์
“คุณบุริศร์?”
“ไม่งั้นแกคิดว่าเป็นใคร?”
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ค่อยได้เห็นกานต์มีท่าทางลนลาน คล้ายกับนึกอะไรขึ้นมาได้ทันที รีบถามว่า: “หม่ามี้ของแกล่ะ?”
“อยู่ในห้องทำงาน กำลังสู้กับภาริชคนนั้นอยู่”
ทีแรกกานต์ยังไม่กล้าเชื่อว่าสิ่งที่ภาริชพูดทั้งหมดคือความจริง ในเวลานี้มองเห็นบุริศร์อีกคนปรากฏตรงหน้าตนเอง และเมื่อเห็นว่าเป็นแด๊ดดี้ของตนเองจริง ๆ เขาถึงจะเชื่อ
“ดูแลกานต์ให้ดี”
บุริศร์ดันกานต์ไปด้านหลัง คนของเขารีบก้าวออกจากประตูลิฟต์อย่างรวดเร็ว
กานต์จึงพบว่า คนที่ยืนอยู่ด้านหลังบุริศร์คือนาวิน
“คุณอานาวิน?คุณอากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”
“ผมอยู่ด้วยตลอดครับ การออกไปฮันนีมูนเป็นเพียงฉากบังหน้าของประธานบุริศร์ เรื่องนี้ประธานบุริศร์จะเล่าให้พวกคุณฟังให้ชัดเจนหลังจากนี้ นายน้อยกานต์ครับ กรุณากลับไปกับผมก่อน”
นาวินจับมือของกานต์
“แต่ผมเป็นห่วงหม่ามี้”
กานต์ยังคงลังเล
นาวินรีบกล่าวว่า: “มีประธานบุริศร์อยู่ คุณยังจะต้องกังวลอะไรอีก?คุณวางใจเถอะครับ ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของประธานบุริศร์”
พูดแล้วเขาก็พากานต์ลงไป
เมื่อบุริศร์เข้ามาในห้องทำงาน มองเห็นภาริชลงมือกับนรมนอย่างเอาเป็นเอาตาย ดวงตาของเขาเย็นชา เตะเข้าไป ทำให้ภาริชถอยออกมาทันที
“คิดว่าหน้าตาเหมือนฉัน แล้วจะสวมรอยฉันได้ นั่งให้ตำแหน่งของฉันได้จริงเหรอ?”
บุริศร์พานรมนมาปกป้องเอาไว้ที่ด้านหลัง เห็นเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงมองไปที่ภาริชอย่างเย็นชา
ภาริชอึ้งไปทันที เมื่อมองเห็นบุริศร์
“นายออกมาได้อย่างไร? แล้วพ่อล่ะ?