แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 880

ตอนที่ 880

พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนกลับมาแล้วจริง ๆ เพียงแต่พวกเขากำลังรุมล้อมอยู่รอบ ๆ ผู้หญิงคนหนึ่ง ราวกับเป็นทาสที่คอยเอาใจผู้หญิงคนนั้น

“เนตรา เอานี่ กินส้มสิ”

แม่นรมนปอกส้มมองผู้หญิงคนนั้นด้วยใบหน้ามีความหวัง แต่หญิงสาวกลับพูดอย่างรำคาญว่า: “โธ่เอ๊ย ฉันไม่กิน แม่อย่าเอามาให้ฉันได้ไหม ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ตอนนี้คิดจะมาทำดีกับฉัน ทำไมเมื่อก่อนไม่สนใจล่ะ?”

คำพูดนี้ออกมา แม่นรมนอึ้งไปทันที แววตามีความเจ็บปวด

พ่อนรมนไม่ชอบใจ เอ่ยเสียงทุ้มต่ำว่า: “เนตรา ทำไมถูกถึงพูดกับแม่ของลูกแบบนี้?”

“ฉันพูดแบบนี้แล้วจะทำไม?ฉันพูดแบบนี้ก็ยังเบาไปด้วยซ้ำ พ่อกับแม่ทำให้หายไปตั้งแต่เด็ก กลับเลี้ยงลูกของคนอื่นแทน พ่อกับแม่ดูสิ ตอนนี้เธอมีชีวิตอย่างไร แล้วฉันมีชีวิตอย่างไร ?เดิมทีทั้งหมดนี้ควรจะเป็นของฉัน!แล้วตอนนี้ล่ะ?ฉันนั่งอยู่ตรงนี้เหมือนเป็นคนนอก พ่อกับแม่จะให้ฉันพูดดีได้อย่างไร?”

เมื่อนรมนฟังมาถึงตรงนี้ความดีอกดีใจเมื่อสักครู่ก็หมดไป เธอนึกขึ้นได้ทันทีว่า ตอนแรกพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนจากไปเพื่ออะไร และรูปภาพที่สอดอยู่ในรูปภาพของเธอ ไม่ใช่เนตราตรงหน้าแล้วจะเป็นใคร?

เนตรา?

แม้แต่นามสกุลก็เปลี่ยนแล้วเหรอ?

ดังนั้นพูดได้ว่าผู้หญิงคนนี้คือลูกสาวที่แท้จริงของพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธน?

นรมนรู้สึกแย่อย่างพูดออกมาไม่ได้ ในตอนนี้ยืนอยู่ตรงนี้ จะเข้าก็ไม่เข้า จะออกก็ไม่ออก พ่อแม่ที่เคยสนิทกับเธอที่สุด ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นเหินห่าง

กานต์มองนรมน ถึงแม้นรมนจะไม่พูดอะไร แต่เขามองออกว่านรมนรู้สึกไม่ดี

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นยิ้มขึ้นมา และส่งเสียงเรียกออกไป: “คุณตาคุณยาย ทั้งสองคนกลับมาแล้วเหรอครับ?”

เมื่อพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนได้ยินเสียงของกานต์จึงรีบหันมาทันที มองเห็นนรมนจูงมือกานต์ยืนอยู่ตรงทางเข้าห้องรับแขก และไม่รู้ว่ากลับมานานหรือยัง สีหน้ากระอักกระอ่วนอย่างอดไม่ได้

“นรมนกลับมาแล้วเหรอ? รีบเข้ามานั่งสิ”

ถือว่าแม่นรมนมีปฏิกิริยาตอบสองเร็ว รีบวางส้มในมือลง ร้องเรียกให้นรมนเข้ามา

นรมนเกิดภาพลวงตาขึ้นมา นี่ไม่ได้กลับมาที่บ้านของตนเอง แต่กลับมาที่ตระกูลธนาศักดิ์ธน

นรมนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม พากานต์เดินเข้าไป

เนตราเอาแต่มองนรมน เมื่อเธอเห็นว่านรมนหน้าตาดีกว่าตนเองมาก จึงเอ่ยถามอย่างฉับพลันว่า : “เธอทำหน้ามาหรือเปล่า?”

“เนตรา!”

แม่นรมนรีบดึงแขนเสื้อของเธอ

คนอื่นไม่รู้ว่าเพราะอะไรนรมนจึงต้องศัลยกรรมใบหน้า แต่พวกเขารู้แล้ว ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเนตราต้องการซ้ำเติมใบหน้าของนรมน เธอจึงรีบห้าม

แต่เนตรากลับไม่ค่อยพอใจ

“ฉันพูดอะไรผิด?แม่จะมาดึงฉันทำไม!แค่เห็นหน้าของเธอก็รู้แล้วว่าทำมาหรือไม่จริง?ตนเองทำศัลยกรรมจะไม่ให้คนอื่นพูดเหรอ?เลี้ยงดูด้วยตนเองอยู่ข้างกายมันแตกต่างกันอย่างที่คิดเอาไว้”

หัวใจของนรมนเหมือนถูกแทง จนปวดหนึบๆ อยู่ข้างใน

“คุณเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาพูดกับคุณยายของผมแบบนี้?”

กานต์ไม่รอให้นรมนเอ่ยปาก เอ่ยถามเนตราโดยตรง

เนตราคิดไม่ถึงว่านรมนจะไม่พูดอะไร และเด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่งกลับไม่มีความเคารพต่อเธอ จึงส่งเสียงออกทางจมูกอย่างเย็นชาทันทีและกล่าวว่า: “ฉันเป็นใคร? แกถามยายของแกดูสิ ว่าแท้จริงแล้วฉันเป็นใคร”

ในเวลานี้ ทั้งห้องรับแขกเงียบลงทันที

ตอนแรกที่พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนไปไม่ได้บอกนรมนว่าตนเองจะไปทำอะไร เพียงแค่พูดว่าไปเที่ยว วันนี้พาลูกสาวที่แท้จริงกลับมา จึงทำให้พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะอธิบายกับนรมนอย่างไร

สีหน้าของพ่อนรมนก็มีความกระอักกระอ่วนใจ

“เอ่อ นรมน เธอชื่อว่าเนตรา”

พ่อนรมนครุ่นคิดอยู่นานถึงจะเอ่ยประโยคนี้ออกมา

“อ่อ”

นรมนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แววตาดูคลุมเครือไม่ชัดเจน

ทันใดนั้นเองพ่อนรมนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ จึงหันไปมองแม่นรมนเพื่อขอความช่วยเหลือ

แม่นรมนไอออกมา และรีบเทน้ำให้นรมน

“นรมน รีบน้ำหน่อยสิ”

“ค่ะ”

นรมนรับแก้วน้ำมาจิบอย่างเชื่อฟัง จากนั้นนั่งลงบนโซฟา

บรรยากาศตึงเครียดอีกครั้ง

เนตราเห็นแค่เพียงพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนพูดชื่อของตนเองและไม่พูดอะไรต่อ จึงรู้สึกไม่พอใจอย่างช่วยไม่ได้

“ทำไมเหรอ?พ่อกับแม่กลัวเธอทำอะไรเหรอ?ถึงแม้เธอจะเป็นคุณนายบุริศร์ แต่ถ้าไม่มีพ่อกับแม่อบรมเลี้ยงดูมา ตอนนี้ไม่รู้ว่าเธอจะไปเก็บขยะอยู่ที่ไหนเลย ฉันทำให้พ่อกับแม่ขายหน้า? ทำให้พ่อกับแม่พูดไม่ออกเหรอ?”

“เนตราใช่ไหม?”

ถึงแม้นรมนจะรู้สึกอึดอัดมากกับสิ่งที่พ่อแม่บุญธรรมทำ แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้คนอื่นพูดกับพ่อแม่บุญธรรมแบบนี้ สีหน้าของเธอบึ้งตึงลงหลายเท่าอย่างอดไม่ได้

“เชิญเธอนั่งลงแล้วค่อยพูดค่อยจาดีกว่า ฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร”

“เธอรู้?”

เนตราแปลกใจเล็กน้อย

“ใช่ ฉันรู้ เธอคือลูกสาวที่แท้จริงของพ่อกับแม่”

นรมนพูดออกไป แม่นรมนกับพ่อนรมนมองมาทางเธอทันที ต่างอึ้งกันไปหมด

“นรมน ลูก……”

“หนูรู้นานแล้วค่ะ ตั้งแต่พ่อกับแม่ออกไปจากเมืองชลธี ตั้งแต่บอกว่าจะไปเที่ยว หนูก็รู้แล้วว่าพ่อกับแม่จะไปทำอะไร อันที่จริงหนูไม่ได้ตามสืบพ่อกับแม่ เพียงแค่กลับบ้านไปเก็บของ ชนเข้ากับกรอบรูปบนหัวเตียงของหนูอย่างไม่ได้ตั้งใจ สิ่งของข้างในจึงหล่นออกมา”

นรมนพูดเบา ๆ ไม่ได้มีอารมณ์แปรปรวนอะไรมาก ทำให้พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วลึก ๆ ในใจของเธอคิดอย่างไร

ลูกคนนี้ตั้งแต่แต่งเข้ามาในตระกูลโตเล็ก ก็เหมือนกับยิ่งทำให้พวกเขาอ่านใจไม่ออกขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ก่อนเธอยังเปิดใจ และระบายความเจ็บปวดในใจให้พวกเขาฟัง ตอนนี้แม้แต่การแสดงออกบนใบหน้าคนก็มองไม่ออก มักจะทีท่าทีสงบจิตสงบใจ แต่กลับทำให้คนไม่อาจละสายตาได้

แน่นอนว่าพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนรู้ว่ามีอะไรอยู่ในกรอบรูป วันนี้ได้ยินนรมนพูดเช่นนี้ ใบหน้าของคนแก่จึงแดงขึ้นมาเล็กน้อย

“นรมน พ่อกับแม่ไม่ได้มีเจตนาที่จะปิดบังลูกนะ เพียงแค่ตอนนั้นข้อมูลยังไม่ชัดเจน พวกเราเพียงแค่อยากไปเจอสักหน่อย”

แม่นรมนพูดอธิบายถูฝ่ามือไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูก

“แม่ นั่งลงเถอะ หนูไม่ได้ถือโทษพ่อกับแม่ ในเมื่อพ่อกับแม่เลี้ยงดูหนูมาตั้งหลายปี คิดจะตามหาลูกที่แท้จริงของตนเองกลับมาก็ไม่ได้ผิดอะไร หนูยังรู้สึกยินดีมากกับพ่อและแม่”

คำพูดของนรมนทำให้แม่นรมนถอนหายใจโล่งอกอย่างห้ามไม่ได้

“ไม่ถือโทษพวกเราก็ดีแล้ว พวกเราก็อายุเยอะแล้ว เดิมทีไม่ได้มีความคิดอะไร แต่อยู่มาวันหนึ่งได้รู้ว่าลูกสาวของพวกเรายังมีชีวิตขึ้นมากะทันหัน พวกเราจะไม่ตามกลับมาได้อย่างไร? ในเมื่อเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพวกเราเอง”

แม่นรมนพูดไปพูดมาขอบตาแดงก่ำ

นรมนรู้ ปีนั้นถ้าไม่ใช่เพราะคิม ตนเองคงไม่ได้เติบโตขึ้นมาอย่างดีในตระกูลธนาศักดิ์ธน วันนี้พวกเขาตามหาลูกสาวที่แท้จริงของตนเองเจอแล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี

“แม่คะ หนูเข้าใจค่ะ”

“เธอเข้าใจอะไร?ถ้าเธอเข้าใจ ทำไมตัวเองถึงได้เสวยสุขอยู่ในตระกูลโตเล็ก ไม่สนใจพ่อแม่ที่ต้องลำบากวิ่งเต้น?ตั้งนานมากแล้ว ก็ไม่เห็นเธอโทรไถ่ถามพ่อแม่สักคำ ไม่ได้คลอดออกมาเองก็ไม่เหมือนกันอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ ”

คำพูดของเนตราไม่น่าฟัง ทำให้พ่อนรมนโมโหขึ้นมาทันที

“เนตรา อย่าพูดเรื่องไร้สาระ อาศัยตามเวลาเกิด ลูกควรเรียกว่าพี่นรมน”

“พี่สาว?เธอคู่ควรเหรอ!เธอแย่งพ่อแม่ของฉัน ทำให้ฉันต้องอยู่ในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าถูกคนรังแกจนโต ยึดครองฐานะของฉัน แล้ววันนี้ยิ่งได้แต่งงานเข้าตระกูลโตเล็ก กลายเป็นผู้หญิงที่มีหน้ามีตาและร่ำรวยที่สุดในเมืองชลธี แย่งทุกอย่างที่เดิมทีเป็นของฉันไป พ่อกับแม่ยังจะให้ฉันเรียกมันว่าพี่สาว ?พ่อกับแม่คิดอะไรอยู่กันแน่?”

คำพูดที่หยาบคายของเนตราทำให้คิ้วของนรมนขมวดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ฉันแย่งพ่อแม่ของเธอ แต่หลังจากนั้นชีวิตคนเราจะเป็นอย่างไรมันก็แล้วแต่เธอ เนตรา ตระกูลธนาศักดิ์ธนภูมิมีหลังครอบครัวที่ดี กรุณาระวังท่าทีของตนเองด้วย”

“ท่าที ?ภูมิหลังที่ดี?ถ้าฉันได้เกิดและเติบโตในตระกูลธนาศักดิ์ธน ฉันก็คงจะสูงส่งเหมือนเธอ เธออย่าดีแต่พูด ถ้าเธอคิดว่าฉันควรจะกลับมาจริง ๆ ก็ได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะอาศัยอยู่ที่นี่”

คำพูดของเนตราทำให้นรมนคิ้วขมวดยิ่งขึ้น

“อาศัยอยู่ที่นี่?”

“ทำไม?ไม่เต็มใจเหรอ?เธอแย่งความรักของพ่อแม่ไปจากฉันยี่สิบกว่าปี ยึดครองห้องนอนในตระกูลธนาศักดิ์ธนที่ควรจะเป็นของฉันมายี่สิบกว่าปี ตอนนี้ฉันต้องการที่จะอยู่บ้านของเธอสักช่วงหนึ่ง เธอไม่ยินดีเหรอ?”

เนตราเถียงข้าง ๆ คู ๆ

แม่นรมนกลัวนรมนโมโห รีบกล่าวว่า: “คือว่าแบบนี้ นรมน พวกเราตัดสินใจกลับไปตกแต่งปรับปรุงบ้านใหม่ ห้องของลูกยังเก็บเอาไว้เหมือนเดิม พวกเราอยากทำห้องขึ้นมาให้เนตราคนเดียว แต่ช่วงก่อสร้างเนตราไม่มีที่พักอาศัย ดังนั้นพวกเราจึงหวังให้เธอมาอาศัยอยู่ที่นี่สักพัก ลูกวางใจได้ ไม่นานหรอก พวกเราทำเสร็จแล้วก็จะย้ายเธอกลับไป”

นรมรรู้สึกลำบากใจ

ไม่ใช่ว่าไม่ต้องการให้เนตราอยู่ แต่ที่สำคัญคือเรื่องของคุณอารองกับภาริชในช่วงนี้ยังไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร เนตราอาศัยอยู่ที่นี่ กลัวจะพบกับอันตราย พ่อแม่บุญธรรมตามหาลูกสาวกลับมาไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนที่นี่ เธอกลัวจริง ๆ ว่าพ่อแม่บุญธรรมจะรับไม่ไหว

คิดถึงตรงนี้ นรมนกล่าวเสียงเบาว่า: “พ่อคะแม่คะ ตามปกติแล้วหนูไม่ชอบปฏิเสธคำข้อร้องจากพ่อกับแม่ แต่ช่วงนี้ที่บ้านเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ไม่เหมาะที่จะให้เนตรามาอาศัย เอาแบบนี้ดีไหม หนูมีคฤหาสน์ในเขตชานเมืองด้านตะวันตก ให้เนตราไปอาศัยอยู่ที่นั่น หนูจะส่งบอดี้การ์ดสองสามคนไป และหาคนรับใช้สองสามคนให้เธอ พ่อกับแม่คิดว่าไงคะ?”

พ่อนรมนกับแม่นรมนได้ฟังเช่นนี้ ก็รู้สึกเห็นด้วย แต่เนตรากลับไม่ยินดี

“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะอยู่ที่นี่ ใครก็รู้ว่าบ้านที่ดีที่สุดในเมืองชลธีคือบ้านตระกูลโตเล็ก นี่เป็นสิ่งปลูกสร้างเก่าอายุนับร้อยปี สามารถเข้ามาอาศัยได้ก็แสดงถึงสัญลักษณ์ทางสถานะ ตอนนี้เธอให้ฉันออกไปอยู่ที่อื่น เพราะกลัวฉันจะแย่งผู้ชายของเธอหรือว่ากลัวฉันจะแย่งความสนใจของเธอ?เธอจำใส่สมองเอาไว้นะ เดิมทีทั้งหมดนี้ควรจะเป็นของฉัน เป็นของฉัน!”

เนตรากำแหงอย่างยิ่ง

นรมนคันไม้คันมือ แต่เห็นแก่หน้าของพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนเธอจึงเอาแต่เก็บไว้ในใจ ตอนนี้เห็นพวกเขาไม่ห้ามปรามเนตรา จึงอดหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชาไม่ได้

“ พ่อกับแม่ก็รู้สึกแบบนี้ใช่ไหม? ทุกอย่างในตอนนี้ของหนูควรจะเป็นของเนตราเหรอ?ความสัมพันธ์ระหว่างหนูกับบุริศร์ก็ควรจะเป็นของเธอด้วย?”

ระหว่างนรมนกับบุริศร์ตอนแรกเริ่มต้นขึ้นอย่างไร พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนต่างรู้ดี ตอนนี้นรมนถามเช่นนี้อย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้พวกเขานิ่งไป และรู้สึกอึดอัดทันที

“นรมน สภาพแวดล้อมที่เนตราเติบโตขึ้นมาไม่เหมือนกัน จึงพูดจาหยาบคายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลูกอย่าไปถือสาเธอเลยนะ”

แม่นรมนพูดเช่นนี้ นรมนอึดอัดใจจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

“ได้ เธออยากอยู่ก็อยู่ไป แต่ฉันขอพูดไว้ตรงนี้ก่อนนะ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่ ฉันจะไม่รับผิดชอบ”

พูดจบ นรมนก็ดึงกานต์ให้ลุกขึ้นเดินออกไปที่ห้องนอน ความปีติยินดีก่อนหน้านี้ถูกชะล้างจนไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว

เนตรายังพูดอะไรอยู่ในห้องรับแขก นรมนไม่อยากฟัง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่า ไมตรีจิตของตนเองกับตระกูลธนาศักดิ์ธนอาจกำลังใกล้จะหมดลง

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท