นรมนไม่รู้ว่าแววตาของราเชนสื่อความหมายอย่างไร และตอนนี้ก็ไม่คิดอยากรู้
เธอดึงคมทิพย์ เพื่อให้เธอหยุดพูด
เพราะใบหน้าของราเชนโดนต่อย จึงไม่สามารถรับหน้าที่อัดเสียงต่อไปได้ จึงแนะนำศิลปินคนอื่นให้ริชาร์ดเพื่อเข้ามาทำหน้าที่แทนตนเองด้วยความรู้สึกผิดอย่างยิ่ง เพียงแต่ชื่อเสียงไม่ได้น้อยไปกว่าราเชน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ริชาร์ดทำได้เพียงยกเลิก
หลังจากราเชนพาซินดี้กลับไป ทางฝั่งทีมของริชาร์ดจึงเริ่มพูดจาอย่างคับแค้นใจ
“เธอคิดว่ามีใครบางคนนำความซวยมาให้ไหม แม้แต่ทีมของพวกเราก็พาซวยไปด้วย
“ก็จริงนะ ก่อนหน้านี้ทีมของพวกเราสามัคคีกันมาก สุดท้ายเพราะมีคนนอกเข้ามา ไม่ต้องพูดถึงที่วริษาถูกย้าย วันนี้ก็เจอเลือดอีก แถมราเชนก็มาถูกคนต่อย นี่ไม่ได้เป็นเรื่องมงคลเลยนะ”
คนจำนวนหนึ่งถึงแม้จะซุบซิบอยู่ด้านข้าง แต่เสียงก็ดังจนนรมนกับคมทิพย์ได้ยินเข้า
“พวกคุณพูดอะไรกัน?”
คมทิพย์แค่ได้ยินก็รู้ว่าคนเหล่านี้โจมตีนรมน จึงรู้สึกไม่ชอบใจทันที
นรมนดึงคมทิพย์ มองผู้คนรอบ ๆ อย่างเย็นชาและกล่าวว่า“การที่ฉันมาที่นี่ดูเหมือนจะไม่ได้ล่วงเกินใครคนไหนนะ”
“ไม่มีแล้วจะยังไงล่ะ?ราวกับว่าตนเองไม่มีความผิด คุณดูสิหลังจากที่คุณมาเกิดเรื่องขึ้นกี่ครั้งแล้ว?หรือคุณกล้าพูดว่าเรื่องเหล่านี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคุณเลย?”
นรมนไม่สามารถตอบได้
เรื่องเหล่านี้ตนเองไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น แต่แน่นอนว่ามีความเกี่ยวข้องกับเธอ
“พวกคุณมันช่างไร้เหตุผลจริง ๆ ”
คมทิพย์รู้สึกว่าคนเหล่านี้รังแกคนเกินไป
นรมนกลับกล่าวอย่างไม่แยแส“ฉันไม่ได้อยากให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นแต่มันก็เกิดไปแล้ว ฉันทำได้เพียงพูดคำว่าขอโทษ ส่วนอย่างอื่น ฉันไม่มีความเห็น”
ริชาร์ดกลับมาในตอนนี้พอดี มองเห็นทุกคนเปลี่ยนไปไม่สามัคคีกันเพราะเรื่องนี้ จึงเกิดความคิดเล็กน้อย
“ถ้าพวกคุณสามารถพาอันนากลับมาได้ งั้นประธานนรมนก็สามารถไปจากที่นี่ ตอนนี้หัวใจสำคัญคือพวกเราต้องการเวลา หากพวกคุณสามารถรับรองว่าจะผลิตอัลบัมนี้ออกมาได้ในระยะเวลาสั้นที่สุด จะพูดอะไรผมก็ไม่สนใจ แต่ตอนนี้พวกคุณทำได้ไหม?”
เห็นริชาร์ดโมโห คนอื่นจึงเงียบลงทันที ถึงแม้จะไม่พอใจนรมนก็ไม่กล้าส่งเสียง
นรมนพูดขอโทษ“นักประพันธ ขอโทษค่ะ”
“ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก เล่นให้ดี คนที่ราเชนแนะนำใกล้จะมาถึงแล้ว เตรียมตัวเริ่มได้”
ริชาร์ดไม่อยากพูดอะไรมาก แต่นรมนมองออก ริชาร์ดก็ค่อนข้างโมโห
เธอส่งเสียงถอนหายใจเบา ๆ ไม่พูดอะไร นั่งลงเริ่มบรรเลงทันที
ราเชนไม่อยู่ การอัดเสียงเป็นไปอย่างราบรื่นจนน่าแปลกใจ
เลิกงานช่วงกลางคืน สีหน้าของริชาร์ดดูดีขึ้นมาหน่อย
“การแสดงวันนี้เป็นไปด้วยดี หลังจากนี้หวังว่าทุกคนจะรักษาเอาไว้ วันนี้ให้ทุกคนกลับไปพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำ พรุ่งนี้ทุกคนเจอกันตอนหกโมงเช้า พวกเราต้องเร่งมือให้มากกว่านี้”
คนอื่นตกปากรับคำโดยปริยาย
นรมนก็ไม่ได้พูดอะไร
ถึงแม้หกโมงเช้าจะค่อนข้างเช้าไปหน่อย แต่ตอนนี้เธอเป็นคนในทีม แน่นอนว่าไม่สามารถทำตัวพิเศษไปกว่าใครได้
คมทิพย์รู้สึกว่าลำคอของตนเองแหบแห้งแล้ว
“ใบหน้าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง?จะไปโรงพยาบาลไหม?”
คมทิพย์เห็นผ้าพันแผลบนใบหน้าของนรมนมีเลือดซึมออกมา จึงถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร”
นรมนกลับไม่ได้รู้สึกว่าเจ็บมาก เพียงแค่รู้สึกเซ็งจนหมดคำพูดที่ถูกคนในทีมบีบด้วยเรื่องนี้
เธอแค่ไปเข้าห้องน้ำ ตอนกลับมาพิณโบราณก็พัง เห็นได้ชัดเจนว่ามีคนตัดสายสตริง
คมทิพย์ก็สนใจเรื่องสายสตริง
“คนกลุ่มนี้มากเกินไปจริง ๆ พวกเขาต้องการบีบให้เธอออกไป!”
“ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ฉันเป็นเด็กใหม่”
นรมนรู้เรื่องสถานการณ์ในที่ทำงานเพียงบางส่วน ตนเองมาแทนตำแหน่งของอันนาอย่างไม่มีสาเหตุ คนเหล่านี้น่าจะมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับอันนาและเพราะตนเองทำให้วริษาถูกไล่ออกอีก และวันนี้เพราะตนเองจึงทำให้ราเชนต้องออกไปจากกลุ่ม ส่วนหลังจากนี้การออกแผ่นเสียงจะขายดีหรือเปล่านี่คือปัญหา ทุกคนคิดบีบเธอก็สามารถจินตนาการได้
“เธอจะทนแบบนี้เหรอ?”
คมทิพย์รู้สึกว่านี่ไม่ใช่นิสัยของนรมน
นรมนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไรล่ะ?ให้ฉันไปหาคนมาสู้เหรอ?หาใครล่ะ?สู้กับทั้งทีมอย่างสุดกำลังเหรอ?เธอไม่เห็นท่าทางของริชาร์ดในวันนี้หรือไง?ถึงแม้ฉันจะไม่ผิด แต่เพราะฉันทำให้ทั้งทีมไม่สามัคคีกัน ฉันคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ริชาร์ดอยากเห็นหรอก”
ได้ฟังนรมนพูดแบบนี้ คมทิพย์รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง
“นี่เป็นแค่การบันทึกเสียงออกอัลบัมไม่ใช่เหรอ? ทำไมเรื่องราวถึงได้วุ่นวายแบบนี้?”
“เข้าวงการบันเทิง ต่อจากนี้จะมีเรื่องวุ่นวายอีกเยอะ เธอหน่ะ ควรจะเลิกนิสัยขี้โวยวายแบบนี้ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะเสียเปรียบนะ จริงสิ มีผู้จัดการส่วนตัวหรือยัง?”
นรมนนึกถึงปัญหานี้ จึงรีบถาม
“ยังไม่มี แต่น่าจะเหมาะกันฉัน ประธานนรมน?”
คมทิพย์หยอกล้อนรมน
นรมนไม่มีทางให้คมทิพย์ได้รับความไม่เป็นธรรมแน่นอน เมื่อแน่ใจว่าทางฝั่งริชาร์ดไม่ได้จัดหาผู้จัดการส่วนตัวให้คมทิพย์ นรมนถึงจะส่งข้อความหาพริมาให้เธอหาผู้จัดการส่วนตัวเก่ง ๆ ให้คมทิพย์
แน่นอนว่าทางฝั่งของพริมาก็ปฏิบัติตาม
นรมนมองไปที่พิณโบราณที่พังและไม่ได้สนใจมันอีก ลากคมทิพย์ออกไปจากอาคารฟอร์จูนทันที จากนั้นไปหาของกินเล่นแถวนี้
ต่อจากนี้ถ้าคมทิพย์ดังขึ้นมาจริง ๆ เดาว่าคงไม่มีช่วงเวลาแบบนี้แล้ว
ทั้งสองคนกินปิ้งย่างและดื่มเบียร์ รู้สึกสดชื่นสุด ๆ
เพราะพะว้าพะวังลำคอของคมทิพย์ นรมนจึงไม่กล้าให้เธอดื่มเยอะ เพียงแค่นิดหน่อยเท่านั้น
คมทิพย์เป็นคนที่เก็บคำพูดไว้ในใจไม่ได้
เธอดื่มเบียร์ไปเล็กน้อยและกล่าวว่า“เธอคิดว่าตอนนี้ในทีมเกิดอะไรขึ้น?ปกติอันนาคนนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับทุกคน วริษาก็เป็นคนไม่ค่อยพูด ตลอดทางไม่มีการสื่อสารกัน แต่ตอนนี้พวกเขากลับใช้ข้ออ้างนี้มาบีบเธอ มันมากเกินไปจริง ๆ ”
นรมนสามารถมองเห็นได้
“บางครั้งพวกเขาก็จำเป็นต้องหาข้ออ้างระบายอารมณ์ ไม่จำเป็นต้องคุ้นเคยมาก”
“หมายความว่าอะไร?”
คมทิพย์ไม่ค่อยเข้าใจ
“เดี๋ยวเธอก็จะเข้าใจเอง”
“งั้นตอนนี้เธอจะทำอย่างไรดี พวกเขาบีบเธอแบบนี้ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะแอบทำอะไรอีก”
คมทิพย์คิดแล้วก็ปวดหัว
นรมนเคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ตอนนี้นรมนอาจจะเป็นดาวดวงใหม่ในวงการออกแบบ เพื่อเธอ เธอล้มเลิกการออกแบบของตนเอง มาในวงการบันเทิงที่อันตรายทำบริษัทภาพยนตร์ คิดถึงตรงนี้ คมทิพย์รู้สึกแย่มาก
“ทั้งหมดเป็นเพราะฉัน ถ้าไม่มีฉัน ตอนนี้ชีวิตของเธอคงจะอยู่ในโลกอื่น”
“พูดอะไรโง่ ๆ แบบนั้น ฉันไม่เสียใจในสิ่งที่ได้ทำลงไป หรือจะพูดอีกอย่าง ตอนนี้คนพวกนั้นดูถูกพวกเรา รอหลังจากนี้หนึ่งปี ไม่ช้าก็เร็วชื่อเสียงของบริษัท splendor เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัดของพวกเราจะต้องแพร่กระจายออกไป”
นรมนมั่นใจเต็มร้อย
คมทิพย์กอดนรมนด้วยความซาบซึ้งใจ ร้องไห้ฮือ ๆ
“นรมน ถ้าไม่มีเธอ ฉันจะทำอย่างไร?เธอรู้หรือเปล่า มีหลายครั้งที่ฉันอยากจะยอมแพ้ แต่คิดถึงเธอขึ้นมา ฉันบอกตัวเองว่าไม่สามารถล้มได้ ถ้าฉันล้ม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทุ่มเทเพื่อฉันจะทำอย่างไร?”
“ยัยบ๊อง ไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะเธอหรือไง กินเสร็จแล้วเหรอ? กินเสร็จแล้วพวกเรากลับบ้านกันเถอะ!”
นรมนรู้ว่าคมทิพย์รับไม่ค่อยได้
ตนเองถูกคนในทีมกดดัน เธอรู้สึกไม่สบายใจยิ่งกว่าใคร
แต่มีบางเรื่องไม่ราบรื่นจริง ๆ
คมทิพย์ก็รู้สึกว่าตนเองขายหน้า
เธอผละออกจากอ้อมอกของนรมน เช็ดน้ำตาอย่างเก้อเขิน กล่าวด้วยรอยยิ้ม“ ห้ามเล่าให้ใครฟังนะ”
“แน่นอน”
นรมนหัวเราะ รู้สึกว่าคมทิพย์ที่เป็นแบบนี้น่ารักมาก
ทั้งสองคนจ่ายเงิน ยังไม่วางแผนที่จะกลับไป แต่จูงมือเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า
มาอยู่เมืองBนานมากแล้ว คมทิพย์เอาแต่ฝึกฝนอย่างหนักหน่วง ส่วนนรมนก็ไม่ได้ออกมาเพราะเรื่องอื่น วันนี้ทั้งสองคนรู้สึกชิวมาก และที่สำคัญที่สุดคือคมทิพย์คิดจะซื้อพิณโบราณให้นรมน
พิณโบราณนั้นไม่สามารถใช้ได้แล้วแน่นอน ไม่ว่าจะพูดอย่างไร อัลบัมยังบันทึกเสียงไม่เสร็จ นรมนยังคงต้องใช้งาน
ทั้งสองไปที่ร้านเครื่องดนตรีในระแวกนั้น
ด้านในมีเครื่องดนตรีเยอะมาก นรมนกับคมทิพย์เลือกตามอำเภอใจ
ทันใดนั้นเองคมทิพย์ก็ดึงชายเสื้อของนรมน และทำปากยื่นออกมา
“อะไรเหรอ?”
นรมนถือโอกาสมองตามไป ก็มองเห็นหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งกำลังแนะนำเครื่องดนตรีให้แก่ลูกค้า จึงรู้สึกสงสัยขึ้นมา
คมทิพย์กระซิบบอก“นั่นคืออันนา ไหนเธอบอกว่าขอลาเพราะที่บ้านมีเรื่องด่วน?ทำไมถึงได้มาขายเครื่องดนตรีอยู่ตรงนี้?ฉันรู้แล้ว ตอนนี้ร้านเครื่องดนตรีให้ค่าคอมมิชชั่น ตราบใดที่ขายเครื่องดนตรีราคาสูงออก แค่ค่าคอมมิชชั่นก็เท่ากับรายได้ในทีมหนึ่งเดือน ไม่แปลกใจที่ยอมเลิกเล่นพิณโบราณในทีมมาเอารายได้ที่นี่ ไม่ได้การล่ะ ฉันต้องถ่ายให้คนในทีมดู แท้จริงแล้วเป็นปัญหาของอันนาหรือปัญหาของเธอกันแน่ ไม่ใช่ว่าเรื่องอะไรก็จะเอามาลงที่เธออย่างเดียว”
ในขณะที่พูดคมทิพย์ก็หยิบมือถือออกมาถ่ายอย่างเอาจริงเอาจัง
แต่ตอนที่เธอกำลังจะส่งกลับถูกนรมนห้ามเอาไว้
“อย่าส่งนะ เก็บเอาไว้ก่อน อาจจะมีความจริงที่ปกปิดไว้ก็ได้”
“นรมน เธอใจดีเกินไปนะ นี่ยังจะมีอะไรปกปิดเอาไว้อีก?”
คมทิพย์รู้สึกว่านรมนมีจิตใจเมตตา
คนในทีมพวกนั้นทำกับนรมนอย่างไร เธอมองเห็นเองกับตา ตอนนี้อยากให้ทุกคนตบหน้าเสียจริง
นรมนกล่าวเสียงเบา“หลังจากนี้พวกเขาจะตามเธอ เธอทำให้ขุ่นเคืองทั้งทีม ถึงแม้เธอจะร้องเพลงเก่งแล้วมีประโยชน์อะไร?หัวเดียวกระเทียมลีบ คมทิพย์ วงการบันเทิงไม่ใช่สถานที่ทำงานทั่วไปภายนอก เธอไม่สามารถทำตัวตามสบายได้นะ”
ได้ยินนรมนพูดเช่นนี้ คมทิพย์จึงหยุดมือ
“แต่ฉันโมโหจนทนไม่ไหว!”
“โมโหจนทนไม่ไหวก็ต้องรู้เหตุผล ไปเถอะ เข้าไปดูกัน บางทีอันนาอาจจะมีเรื่องอึดอัดใจที่พวกเราไม่รู้ก็ได้”
นรมนพูดแล้วก็ลากคมทิพย์ไปทางอันนา
คมทิพย์ไม่เต็มใจอย่างยิ่ง จึงจงใจส่งเสียงดัง ทำให้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือสายตาของอันนา
เมื่ออันนามองเห็นคมทิพย์ จึงอดแปลกใจไม่ได้ ใบหน้าขาวซีดเหมือนกระดาษในชั่วพริบตา
เธอคิดจะหนี แต่ก็กัดฟัน ยืนตะลึงอยู่ที่เดิม มองคมทิพย์ดึงนรมนตรงมาหาตนเอง
“เอ๋ ทำไมฉันรู้สึกคุ้นหน้าสาวสวยคนนี้จัง?”
คมทิพย์รู้แล้วยังแกล้งหยอกล้ออันนา ทำให้เธอรู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง