“เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าเอาออกไปแล้วเหรอ? ทำไมมันยิ่งร้อนแรงกว่าเดิมล่ะ?”
พ่อนรมนหายใจไม่ออก หลังจากโกรธจนสลบไป แม่นรมนก็โทรหานักเรียนของเขา
ทางนั้นหลังจากได้ยินก็สืบเล็กน้อย ก็รู้ว่าเป็นฝีมือของบุริศร์
บุริศร์เป็นใคร?
ทั้งเมืองชลธี ไม่มีใครไม่ให้เกียรติเขา
เมื่อนักเรียนบอกแม่นรมนเกี่ยวกับผลการสืบนี้ แม่นรมนก็รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“นรมน! นรมนจริงๆ ด้วย! เจ้าเด็กนั่นมันแทงข้างหลังเรา! ทำไมเธอกลายเป็นแบบนี้ได้?”
แม่นรมนรับไม่ค่อยได้เกี่ยวกับความจริงเช่นนี้
ดวงตาพ่อนรมนค่อนข้างมืดลง พูดเสียงทุ้ม “ฉันจำได้ตอนที่ฉันวาดรูปนั้น เธออายุเจ็ดขวบ เด็กขนาดนั้นไม่คิดว่าความจำจะดีมาก จำได้มาตลอดตั้งหลายปี ดูเหมือนเราจะประเมินกลอุบายนรมนต่ำไปซะแล้ว”
“เธอมีกลอุบายอะไร? เธอก็แค่……”
คำพูดแม่นรมนยังพูดไม่จบ ก็ถูกแววตาพ่อนรมนปราบเอาไว้
“ฉันได้ยินว่าตอนนี้เธอเปิดบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์แห่งหนึ่งในเมืองB ปัจจุบันยังไม่มีชื่อเสียงอะไร ในเมื่อเธอไร้ความปรานี ก็อย่าโทษที่ฉันไม่ยุติธรรมก็แล้วกัน โทรไปที่หนังสือพิมพ์ บอกว่าฉันต้องการเผยข้อมูล”
“คุณคิดจะทำอะไร?”
แม่นรมนค่อนข้างกังวล
พ่อนรมนพูดอย่างเย็นชา “อย่างเลวร้ายที่สุดก็สู้กันตายไปทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ ยังไงฉันก็ต้องเตรียมอะไรบางอย่างให้ลูกสาวแท้ๆ ของฉัน นรมนมันก่อเรื่องแบบนี้ ความสัมพันธ์คอนเน็กชั่นของฉันต้องได้รับผลกระทบแน่ และเรื่องการลอกเลียนแบบนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง ในเมื่อเธอกระโดดออกมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ปล่อยไปแน่นอน”
ไม่นานนัก ข่าวบนอินเทอร์เน็ตก็เผยออกมาอีกครั้ง
บอกว่าภาพวาดที่ลอกเลียนแบบในตอนนั้นของพ่อนรมนคือภาพวาดของนรมน
ตอนนั้นเธอเป็นแค่เด็กเจ็ดขวบ อยากลองฝีมือวาดภาพของตัวเอง จึงวาดภาพนี้ขึ้นมา ต่อมาให้พ่อนรมนแก้ไขเพิ่มเติม เพราะกลัวว่าลายเซ็นของลูกยังเด็กเกินไปจะถูกคนวิจารณ์ พ่อนรมนจึงเขียนชื่อตัวเองลงไป
เมื่อข้อมูลนี้เผยออกมา ทั้งWeiboก็เป็นอัมพาตอีกครั้ง
พ่อนรมนพูดด้วยความเศร้าว่าตอนนั้นตัวเองมองไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นภาพวาดของปนัสนา ตัวเองแค่รักลูกด้วยใจจริง ถ้าทุกคนเต็มใจที่ไม่ให้อภัย เขาก็ยอมแบกรับข้อกล่าวหาทั้งหมดนี้เพื่อลูกสาว
เมื่อนรมนเห็นทุกอย่างนี้ ก็ยิ้มเยาะเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
ทำไมเธอไม่เคยรู้เลยว่าพ่อนรมนจะไร้ยางอายเช่นนี้?
โยนความผิดทั้งหมดให้เด็กอายุเจ็ดขวบคนหนึ่ง และเมื่อก่อนเธอดันเป็นนักออกแบบ ความสามารถในการวาดภาพก็เผยออกมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นเมื่อพ่อนรมนพูดแบบนี้ แน่นอนว่าจะมีคนเชื่อ
นอกจากนี้ลูกศิษย์ของพ่อนรมนยังเป็นพยานทั้งหมดในเรื่องนี้ นรมนจึงถูกผลักเข้าไปในการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนอย่างโหดร้ายและดุดันอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เมื่อดราม่านี้เผยออกมาได้ไม่นาน สื่ออื่นก็รายงานว่า ลูกหลานปนัสนาบอกว่าการลอกเลียนแบบของพ่อนรมนนั้นนรมนเป็นคนใช้เงินจ้างมา เหตุผลคือลูกสาวแท้ๆ ของพ่อนรมนเนตรากลับมาแล้ว ได้รับความห่วงใยจากพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธน นรมนจึงไม่เต็มใจให้มันเป็นเช่นนี้
ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์นี้ยังเผยว่าไม่นานมานี้นรมนใช้ความสัมพันธ์ของบุริศร์บังคับยึดครองทรัพย์สินพ่อนรมน และส่งเนตราเข้าคุกด้วยข้อหาที่ไม่จำเป็น พ่อนรมนจึงต้องทิ้งทรัพย์สินของครอบครัวจนหมดสิ้นเพื่อช่วยลูกสาวออกมา
เพราะกลัวว่านรมนจะทำให้ลูกสาวตัวเองลำบากใจอีกครั้ง พ่อนรมนจึงส่งลูกสาวไปต่างประเทศในชั่วข้ามคืน
ในเวลานี้ พ่อนรมนติดต่อเนตราไปแล้ว อยากให้เธอพิมพ์ข้อความใหม่ในWeibo ถึงขนาดแสร้งทำเป็นอนาถก็ได้ ถึงตอนนั้นนรมนและบุริศร์จะมีความสามารถมากแค่ไหนก็พลิกตัวกลับมาไม่ได้แล้ว
อย่างไรแล้วความรุนแรงบนโลกอินเทอร์เน็ตมันก็มากพอที่จะทำลายคนคนหนึ่ง
เมื่อนรมนเห็นถึงตรงนี้ มุมปากก็ยกยิ้มเยาะขึ้นมาเองอย่างอดไม่ได้
“เพื่อลูกสาวแท้ๆ ของเขา พ่อใส่ร้ายฉันสุดความสามารถจริงๆ!”
นรมนนอนบนเตียง แผลด้านหลังเจ็บปวดแสบปวดร้อน
ทั้งๆ ที่เธอเป็นเหยื่อ แต่ไม่คิดว่าจะถูกกัดกลับ
พ่อนรมนคิดจริงๆ เหรอว่าตนจะไม่ลุกขึ้นมาหาความยุติธรรมให้ตัวเอง?
สีหน้าบุริศร์ก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง
พ่อนรมนคนนี้มันต้องการทำลายนรมน!
ลูกสาวที่ตัวเองเลี้ยงดูมายี่สิบกว่าปี ลูกสาวที่รักด้วยใจจริงมายี่สิบกว่าปี ทำไมเมื่อแตกคอกันแล้วก็โหดเหี้ยมห้าเท่าเลยล่ะ?
“เรื่องนี้ให้ฉันจัดการ ฉันรับประกันว่าจะคืนความบริสุทธิ์ให้กับคุณ”
คำพูดบุริศร์แน่นอนว่านรมนช่างน้ำหนักอย่างชัดเจน
เธอคิดสักพัก แล้วพูดเสียงทุ้ม “พ่ออยากโยนความผิดเรื่องลอกเลียนแบบผลงานมาที่ฉัน และอยากดูว่าฉันจะเห็นด้วยไหม คิดจริงๆ เหรอว่าโยนโถขี้มาบนหัวฉัน แล้วฉันจะต้องรับมัน?”
“คุณมีวิธีหรือยัง?”
บุริศร์มองตานรมน จู่ๆ ก็หลงรักเล็กน้อย
เขาชอบท่าทางฉลาดและมองการณ์ไกลของนรมนมากจริงๆ
คราวก่อนเมื่อเห็นเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจ เฉิดฉายเปล่งประกาย ก็คือตอนที่นรมนพูดถึงภาพวาดออกแบบ เธอในตอนนั้นแพรวพราวเหมือนดวงดาวที่ส่องแสงเลย
ในขณะนี้เห็นเธอเปล่งประกายเช่นนี้อีกครั้ง บุริศร์ก็ใจเต้นอย่างแรง
แน่นอนว่านรมนไม่ได้ละเลยการแสดงออกในดวงตาบุริศร์
ดังนั้น ผู้หญิงน่ะ ต้องมีธุรกิจเป็นของตัวเองถึงจะดี
ช่วงเวลาในอดีตเธอโง่เขลาเช่นกัน ไม่คิดว่าจะอยู่ที่บ้านอย่างเชื่อฟังเป็นคุณนายบุริศร์ เกือบทำลายชีวิตอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเสียแล้ว
ในขณะนี้เธอพบเป้าหมายของชีวิตและเส้นทางความมุ่งมั่นต่อสู้ของตัวเองแล้ว และถือเป็นการแก้ไขการวางแผนของตัวเองได้ทันเวลา
นรมนส่ายหน้า วางวิธีเหล่านี้ลงก่อนชั่วคราว แล้วพูดเสียงทุ้ม “ตอนนั้นฉันยังเด็ก ฉันจำได้ว่าตอนที่พ่อฉันวาดภาพนี้ และพูดเรื่องนี้ ฉันกำลังฟังเครื่องเล่นพกพา ตอนนั้นเพื่อเรียนร้องเพลงใหม่ ฉันมีฟังก์ชันการบันทึกเสียง แค่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะหาเครื่องเล่นพกพาอันนี้เจอไหม ถึงจะเจอ บันทึกเสียงในนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเล่นออกมาได้ไหม”
“อันนี้ง่าย ฉันจะให้คนไปหาที่ตระกูลธนาศักดิ์ธน เรื่องนี้นอกจากคุณแล้วยังมีคนอื่นรู้ไหม?”
“ไม่มีแล้ว ตอนนั้นแม่กับพ่อไม่ได้ป้องกันฉัน และคงไม่คิดถึงสิ่งของอย่างเครื่องเล่นพกพา ถ้าฉันเดาไม่ผิด ของชิ้นนั้นน่าจะวางอยู่ในห้องเก็บของ”
นรมนเพิ่งพูดจบ บุริศร์ก็โทรหาชัยยศ ให้เขาไปหาเครื่องเล่นพกพาอันนั้นที่ตระกูลธนาศักดิ์ธน
เห็นเขากระตือรือร้นแบบนี้ นรมนก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “ถึงจะหาเจอ ก็ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ ยังไงแล้วบันทึกเสียงนี้ พ่ออาจจะบอกว่าเราจงใจสร้างของปลอมมาก็ได้”
“ในเมื่อเขามีผลงานลอกเลียนแบบหนึ่งชิ้น ผลงานชิ้นอื่นๆ ของเขาก็ต้องมีร่องรอยการลอกเลียนแบบแน่นอน ฉันจะให้คนไปตรวจสอบภาพวาดทั้งหมดของเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา อาจจะมีเบาะแสบางอย่างก็ได้”
แต่บุริศร์กลับอดทนไม่รู้สึกยุ่งยาก
นรมนได้ยินเขาพูดแบบนี้ ก็มีเรื่องหนึ่งดังขึ้นในหัวสมองทันที
“จริงสิ ฉันนึกขึ้นได้แล้ว ที่ฉันมีภาพวาดหนึ่งของพ่อ ตอนแรกที่เนตราอยากเรียนไวโอลิน พ่อเอาภาพวาดหนึ่งมาจำนอง ตอนนั้นฉันยังมีความเมตตา หลังจากพวกเขาจากไปแล้วก็ไถ่รูปนี้คืนมา ตอนแรกตั้งใจว่าจะหาโอกาสคืนให้พ่อ ยังไงแล้วเขาก็ชอบภาพนั้นมาก แต่บางเรื่องเมื่อยืดเยื้อ ก็ลืมเรื่องนี้ไป ในเมื่อพ่อชอบรูปภาพนั้นมาก ฉันรู้สึกว่าบางทีอาจจะหาร่องรอยจากรูปนี้ได้”
คำพูดนรมนทำให้ดวงตาบุริศร์หรี่ลง
“คนทั่วไปชอบภาพวาดของตัวเองก็ไม่ถึงกับเก็บรวบรวมหรอกมั้ง?”
“ภาพวาดที่พ่อเก็บรวบรวมมีไม่กี่ชิ้น ล้วนเป็นผลงานที่มีชื่อเสียง เมื่อก่อนฉันไม่เคยสงสัยเลยว่าสิ่งที่เขาวาดนั้นใช่การสร้างสรรค์ของตัวเองหรือเปล่า แต่ตอนนี้ดูแล้ว เราอาจจะเจอเบื้องลึกเบื้องหลังจากภาพนี้ก็ได้”
“อืม ฉันจะทำให้”
บุริศร์ลูบศีรษะนรมน พูดอย่างอ่อนโยน “อยากกินอะไร? ฉันจะไปทำให้คุณ”
“ไม่กินแล้ว ไม่อยากอาหาร”
นรมนไม่อยากอาหารจริงๆ
ด้านหลังเจ็บปวดแสบปวดร้อน ขยับทีก็โดนเส้นประสาท เธอทานอะไรลงสิแปลก
เห็นแผลบนร่างกายนรมน บุริศร์ก็หรี่ตาทันที
“พ่อพูดเหมือนคุณเป็นคนชั่วที่ร้ายกาจมาก บอกว่าเนตราไร้เดียงสามาตลอด ถ้าให้คนอื่นรู้ว่าเนตรามันโหดเหี้ยมแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นการตบหน้าพ่ออย่างแรงเลยไหม”
น้ำเสียงบุริศร์มีพลังสังหารนิดหน่อย นรมนรู้ว่าเขาสงสารตน
“จะมีวิธีอะไรล่ะ ตอนที่เนตราทำร้ายฉันคงไม่ทิ้งวิดีโอหรือร่องรอยให้คนอื่นจับได้แน่นอน และสถานที่นั้นเป็นสถานที่ที่จอชหาเจอ เขาคงไม่ถึงกับไปหาสถานที่ที่มีกล้องวงจรปิดมาควบคุมฉันหรอก”
เมื่อนรมนพูดคำนี้ออกไป ดวงตาบุริศร์ก็หรี่ลงทันที
“ก็ไม่แน่”
“อะไรนะ?”
บุริศร์รีบโทรหาชัยยศ
“ออกหมายเรียกจอชหน่อย ถามมันว่าสถานที่ที่ลักพาตัวนรมนละแวกนั้นมีกล้องวงจรปิดไหม”
ถึงชัยยศจะไม่รู้ว่าทำไมบุริศร์ถึงออกคำสั่งเช่นนี้ แต่ก็ยังทำตามอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนัก ข้อมูลชัยยศก็ส่งกลับมาแล้ว
“ประธานบุริศร์ จอชบอกว่ามีกล้องวงจรปิดครับ”
“มีเหรอ?”
นรมนและบุริศร์ล้วนตกตะลึง ค่อนข้างคาดไม่ถึงกับคำตอบนี้
ชัยยศพูดต่อไป “ครับ จอชบอกว่าที่ไม่ให้คนมาเฝ้าที่นั่น เพราะมีกล้องวงจรปิดสอดแนมอยู่ และตอนนั้นมัดคุณนายไว้อย่างหนาแน่น ไม่กังวลว่าคุณนายจะหลบหนี เขาแค่อยากเห็นคุณนายตื่นตระหนกและหวาดกลัวผ่านกล้องวงจรปิด ทำลายจิตตานุภาพของคุณนายทีละนิด จากนั้นก็ลงมือกับคุณนาย แต่ยังไม่ทันลงมือ คุณนายก็เกิดเรื่องแล้ว”
ได้ยินคำอธิบายแบบนี้ นรมนก็พูดไม่ค่อยออกสุดๆ
จอชมันวิปริตมากจริงๆ เลยล่ะ!
แต่ก็ด้วยเหตุนี้ เป็นการให้โอกาสพวกเขาเล็กน้อย
“ฉันทำเอง”
บุริศร์เห็นสีหน้าที่นรมนมองตน ก็เข้าใจทันที
เรื่องนี้ถ้าอยากได้วิดีโอผ่านวิธีการอื่นคาดว่าไม่ค่อยเหมาะสมนัก บุริศร์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแฮกเกอร์ การแฮ็กวิดีโอนั้นแน่นอนว่าทำได้อย่างง่ายดาย
เห็นบุริศร์ออกตัวเอ่ยปาก นรมนก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “ขอบคุณค่ะสามี”
“หืม เรียกฉันว่าอะไรนะ?”
ทันใดนั้นอารมณ์ของบุริศร์ร่าเริงขึ้นมาก
นรมนก้มหน้าไม่พูดอีก แต่มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
บุริศร์รู้ เธอจงใจไม่พูด
“ไม่หย่ากับฉันแล้วเหรอ?”
เขาโอนคอเธอเบาๆ ถามอย่างค่อนข้างรักใคร่
“ต้องตรวจสอบ!”
นรมนก็ไม่ได้ปฏิเสธโดยตรง แค่พูดจาคลุมเครือ แต่สำหรับบุริศร์แล้ว นี่คือการเริ่มต้นที่ดีมากอย่างหนึ่ง
“โอเค ยอมรับการตรวจสอบทุกเมื่อ”
เขายิ้มเรียบๆ หยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมาทันที เจาะระบบคอมพิวเตอร์จอชอย่างรวดเร็ว หาภาพวิดีโอที่เนตราเฆี่ยนตีนรมนเจอโดยไม่ต้องลงแรงอะไร
ท่าทางโหดเหี้ยมดุดันของเนตรา แรงในการฟาดแส้นั้นเห็นได้อย่างชัดเจน
บุริศร์ดูหน้าจอแสดงผล ราวกับอยู่ในที่เกิดเหตุและสัมผัสประสบการณ์การทารุณนรมนอีกครั้ง หัวใจเขาท่วมท้นไปด้วยความรุนแรง กำลังจะควบคุมไม่ไหว