“นรมน เธอหมายความว่ายังไง น้าฟังไม่เข้าใจ”
นรมนกลับยิ้มเย็น “คุณน้าฟังไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจคะ ฉันกลับมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว คุณน้าไม่สงสัยหรือคะธิดาเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่ฉันเข้าบ้านมาจนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่ได้ยินคุณน้าถามถึงธิดาสักคำ”
แพรวาสีหน้าเคร่งขรึมนิดหนึ่ง แต่ยังคงยิ้มแย้ม “เธอเป็นพี่สะใภ้ของเขา เป็นคนพาเขาไปตรวจครรภ์ เขาไม่ได้กลับมาด้วย ก็ต้องอยู่โรงพยาบาลใช่มั้ย เด็กคนนี้ช่วงนี้สุขภาพไม่ค่อยดี ฉันก็เตรียมใจไว้แล้ว ถึงไม่ได้ถาม อีกอย่างเธอก็เป็นพี่สะใภ้เขา ไม่มีทางทำร้ายเขาใช่มั้ยล่ะ”
คำพูดนี้ทำให้นรมนไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร อย่างที่คิดแพรวามองขาดเธอไม่มีทางไม่สนใจธิดา
นรมนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะตัวเอง
“คุณน้าใจกว้างจัง วางใจฉันมากขนาดนี้เชียว”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
แพรวายอมรับ
นรมนวางมือบนถ้วยน้ำแกง พูดยิ้มๆ “ในนี้ไม่ได้ใส่ยาเสพติด ถ้าอย่างนั้นฉันให้หมอมาตรวจหน่อยดีมั้ยคะ”
“เธอหมายความว่ายังไง”
แพรวาไม่อาจรักษารอยยิ้มบนใบหน้าได้อีก เริ่มร้อนตัวขึ้นมาแล้ว
นรมนเทน้ำแกงลงบนพื้น พูดเรียบๆ “ระหว่างทางฉันไปเจอนาวิน เขาจู่ๆ ก็เป็นลมอยู่ข้างถนน เกร็งไปทั้งตัว ฉันพาเขาไปส่งโรงพยาบาล ลองเดาสิคะหมอบอกว่ายังไง”
แพรวาหลบสายตา
ทันใดนั้นเธอก็กวาดโต๊ะกระจาย
นรมนเตรียมตัวอยู่แล้ว เธอรีบถอยหลัง อาหารเกือบจะกระเด็นถูกตัว ขณะที่แพรวาฉวยโอกาสนี้คิดจะหนี แต่ถูกสมจิตล็อกตัวกดติดกำแพง
“ฝีมือแค่นี้ ยังคิดจะอวดดีต่อหน้าฉันหรือ”
สมจิต ดูถูก
แพรวาถูกจับกดติดกำแพงหนีไม่ได้ แต่ยังคงพูดจากระแทกหน้า “นรมน ต่อให้เธอจับฉันได้ เธอก็หนีไม่พ้นอยู่ดี ข้างนอกมีแต่คนของฉัน ตอนนี้บุริศร์ถูกขังอยู่ ไม่มีทางเหาะมาช่วยได้ ถ้าเธอแตะฉันแม้ปลายเล็บ รับรองได้เธอตายหาศพไม่เจอแน่”
นรมนแคะหู ไม่ค่อยเข้าใจความยโสของแพรวา
“น้าฉลาดขนาดนี้ ตอนนี้ทำไมถึงโง่ขึ้นมาละคะ บุริศร์ไม่อยู่ก็จริง แต่ฉันยังเป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ฉันยังมีตาของฉัน คิดหรือว่าพวกคนที่อยู่ข้างนอกจะทำอะไรฉันได้ จะต้านทานตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและตระกูลพรโสภณไหวหรือ”
“ฉันรู้ว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับตระกูลพรโสภณมีความสามารถ แต่กว่าเธอจะโทรไปหาพวกเขา คนของพวกเขาต้องใช้เวลามาที่นี่ ตอนนั้นเธอก็ถูกคนของฉันจัดการแล้ว พวกเขาไม่ต้องฟังฉันแต่โดยดีหรือ”
คำพูดของแพรวาสะกิดเตือนนรมนให้ระวังตัว
เธออยู่มาได้ถึงวันนี้ ไม่ใช่คนใจร้อนเห็นประโยชน์เฉพาะหน้าแน่ และยิ่งไม่ใช่คนโง่ แต่แพรวาถูกพวกเธอจัดการได้ง่ายเกินไปหรือเปล่า
นรมนรู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างผิดปกติ
“คุณนาย อย่าไปเสียเวลาพูดกับเธอ กำจัดเธอเลย ผู้หญิงใจอำมหิตอย่างนี้ อยู่ไปก็เปลืองอากาศ”
สมจิตเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็คิดจะใช้กำลังจัดการ
นรมนกลับส่ายหน้า “ไม่ใช่ แพรวาเธอแอบวางแผนอะไรอีก นาวินฉันอาจจะบังเอิญเจอ แต่ร่างกายธิดาน้าจะเอามาล้อเล่นไม่ได้ ไม่มีทางใช้เธอมาล่อให้ฉันติดกับ แต่สติปัญญาของน้า ทำไมถึงถูกฉันจับได้ง่ายๆ แล้วยังฉีกหน้าฉันเร็วขนาดนี้”
แพรวามองเธอแวบหนึ่ง สายตามีแววชื่นชม
“นรมน ฉันต้องยอมรับ ถ้าเธอไม่ใช่เมียของบุริศร์ ฉันอาจจะปล่อยเธอไปก็ได้”
นรมนย่นคิ้วนิดหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
“ซวยแล้ว!”
นรมนทันใดนั้นรู้สึกอะไรบางอย่าง รีบวิ่งออกไปข้างนอก แต่ข้างนอกเงียบกริบจนน่ากลัว
สมจิตกลัวเธอจะมีอันตราย รีบปล่อยแพรวา ดึงนรมนกลับมา
“คุณนาย ทำอะไรคะ”
“คนของเรา…”
“สายไปแล้ว พวกเขาถูกจัดการหมดแล้ว”
แพรวายิ้มเย็น ยืนขึ้นไม่รีบร้อน กระทั่งจัดการเสื้อผ้าของตัวเอง ใบหน้าที่มองนรมนชื่นชม
“เธอฉลาดมากนรมน น่าเสียดายเธอช้าไปก้าวหนึ่ง”
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
สมจิตยังงงงวย เห็นแพรวาหยิ่งผยองขนาดนี้ โกรธจนอยากจะเข้าไปจับเธออีกรอบ แต่นรมนห้ามไว้
“ช่างเถอะ สมจิตพวกเราแพ้แล้ว”
“อะไรนะ”
สมจิตสีหน้าสับสน
นรมนมองแพรวา พูดเรียบๆ “ธิดาร่างกายมีปัญหา นาวินก็ตรวจพบไอซ์ ส่วนประกอบยาเสพติด เรื่องพวกนี้ถูกวางแผนไว้ก่อนแล้ว หรืออาจพูดได้ว่าแพรวาพยายามทำเพื่อล่อให้ฉันติดกับ ฉันพูดถูกใช่มั้ยคะ”
“ใช่แล้ว”
ไม่ปฏิเสธ ยิ้มบางๆ “ธิดาท้องสามเดือน ครรภ์ปกติแล้ว ต่อให้ฉันให้ยากระตุ้นเลือดลมเธอ ก็ใช้แค่พอเหมาะ แค่เลือดออกนิดหน่อย ไม่ถึงกับแท้ง ฉันเป็นแม่ของเธอ ย่อมไม่ทำอะไรที่ทำให้ลูกสาวเสียใจ”
“นี่ยังเรียกแม่อีกหรือ แพรวาฉันรู้สึกว่าเธอเข้าใจคำว่าแม่ผิดไปแล้ว”
นรมนสายตาเย็นเยียบ
เธอถึงกับกล้าให้ธิดากินยากระตุ้นเลือดลม!
นี่มันอันตรายมากแค่ไหน!
ธิดาเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเธอ!
แพรวากลับยิ้ม “คนทำเรื่องใหญ่ไม่สนใจเรื่องเล็กๆ อีกอย่างฉันเคยพูดแล้ว ฉันกะปริมาณไว้ดีแล้ว อีกอย่างเธอเป็นห่วงธิดาขนาดนี้ ย่อมไม่ทำให้เธอเกิดเรื่อง ฉันรู้ด้วยเธอรู้จักกับโพนี่และรมิดา ไม่ว่าใครก็ต้องช่วยให้ลูกสาวฉันปลอดภัยได้แน่”
“แต่ถ้าช่วยไม่ทันล่ะ”
นรมนกำมือแน่น
แพรวาพูดไม่แยแส “ไม่ทันก็ไม่ทันแค่นั้น เด็กยังไม่เป็นตัวก็เท่านั้น อย่างมากก็แค่วันหลังท้องอีก พูดตามตรง ฉันไม่ได้ชอบลูกเขยอย่างนาวิน ไม่คู่ควรกับลูกสาวของฉัน”
“เธอใส่ยาเสพติดในอาหาร เพราะลึกๆ ไม่คิดจะให้เขาเป็นลูกสะใภ้ของเธองั้นหรือ เธอก็แค่อยากจะควบคุมเขา ให้เขาทำเรื่องต่างๆ ให้เท่านั้น”
“ใช่แล้ว ความรู้สึกของผู้ชายคนหนึ่งต่อผู้หญิงจะยืดยาวสักเท่าไหร่ โลกนี้จะมีคนแบบเชษฐ์สักกี่คน ถึงเชษฐ์จะรักเดียวใจเดียว แต่มีประโยชน์อะไรล่ะ เขาก็ให้ความสุขทั้งชีวิตกับอชิระไม่ได้อยู่ดี เขาล้มแล้ว คนที่พึ่งพิงเขาก็พังกันหมด พูดไปแล้ว ผู้หญิงพึ่งผู้ชายไม่ได้ ต้องพึ่งตัวเอง ลูกสาวของฉัน ต่อให้เธอต้องการผู้ชาย ก็ต้องเป็นผู้ชายที่เกื้อหนุนเธอได้ เหมือนนาวินอย่างนั้นจะให้อะไรธิดาได้ ลูกชายของเขาเกิดมาก็แค่เศษเดน”
แพรวาไม่ปิดบังความรังเกียจดูถูกนาวินแม้แต่น้อย
นรมนรู้สึกว่าคำพูดของแพรวาดึงให้ตัวเธอตกต่ำลง
สมจิต พูดอย่างโมโห “ผู้หญิงอย่างเธอน่าจะไปลงนรก โหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนี้ ไม่กลัวลูกสาวเธอรู้แล้วจะเสียใจหรือไง”
“นรมนไม่มีทางให้ลูกสาวฉันรู้เธอมีแม่ทำอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เอาลูกสาวฉันกับลูกเขยตัวดีนั่นไปซ่อนหรอก”
ต้องยอมรับ แพรวามองนรมนทะลุปรุโปร่งจริงๆ
สถานการณ์แบบนี้ นรมนย่อมไม่คิดว่าจะชนะ
เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะตัวเอง
แต่เดิมในสายตาคนอื่น เธอก็เป็นคนที่ไม่ซับซ้อนอยู่แล้ว
สมจิตเห็นสีหน้านรมนไม่ค่อยดี อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง
“คุณนายคะ คุณอย่าถูกเธอยั่วโมโห ฉันให้คนของเราจัดการคนของเธอก็ได้แล้ว”
“สมจิตเธอยังไม่เข้าใจอีกหรือ ข้างนอกไม่มีคนของเราแล้ว”
นรมนเห็นสายตาสับสนของสมจิต ก็พูดต่อ “วางหมากกระดานใหญ่ขนาดนี้ ถึงกับใช้ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองเป็นเหยื่อ เป้าหมายของเธอไม่ใช่ฉัน แต่เป็นบอดี้การ์ดสุดยอดฝีมือที่บุริศร์ทิ้งไว้ต่างหาก”
“อะไรนะ”
สมจิตยังไม่เข้าใจ
นรมนมองแพรวา พูดช้าๆ “ใครๆ ก็รู้ บุริศร์มีฐานฝึกของตัวเอง ฝึกสอนบอดี้การ์ดที่เก่งกาจและภักดี แต่ไม่มีใครรู้พวกเขาอยู่ไหน มีแต่บุริศร์ที่ใช้พวกเขาได้ แพรวาอยากจะได้ตระกูลโตเล็ก ก็ต้องกำจัดบุริศร์ไปก่อน ตอนนี้เธอทำได้แล้ว บุริศร์ถูกใส่ความฆ่าคนตาย ตอนนี้ถูกจับขัง แต่บอดี้การ์ดชั้นยอดพวกนั้นก็จะช่วยเธอขจัดอุปสรรคที่มาจากตระกูลโตเล็ก เธอถึงได้ใช้ธิดาเป็นเหยื่อล่อ เปิดเผยตัวเองเพื่อล่อฉันให้ติดกับ ถ้าฉันเดาไม่ผิด เธอคงเป็นคนติดเครื่องดักฟังสัญญาณในบ้านนี้ใช่มั้ย”
“ฉันทำเอง”
แพรวาพยักหน้ายอมรับ
สมจิตถึงได้เข้าใจทุกอย่าง
“เธอนี่พิษสงเยอะจริงๆ! คำสั่งที่เธอส่งออกไปเมื่อกี้ตั้งใจให้ฉันรู้ แล้วให้ฉันเรียกบอดี้การ์ดของตระกูลโตเล็กใช่มั้ย”
“ใช่แล้ว คนที่บุริศร์ไว้ใจที่สุดคือพฤกษ์ ตอนนี้พฤกษ์เป็นอัมพาตไปแล้ว ฉันคิดว่าเขาจะให้สิทธิ์สั่งบอดี้การ์ดกับ นรมน แต่บุริศร์ไม่ได้ทำอย่างนั้น เขากลับให้สิทธิ์กับชัยยศ ชัยยศซื่อสัตย์มาก ฉันเคยลองเลียบเคียงพูดกับเขาแล้ว เขาเป็นคนประเภทที่หลอกไม่ได้ ช่วยไม่ได้ ฉันก็เลยต้องคิดวิธีอื่น”
แพรวาพูดอย่างได้ใจ “บุริศร์เกิดเรื่องแล้ว นรมนจะต้องกลับมาช่วยแน่ บุริศร์ไม่มีทางยอมให้นรมนเกิดอันตรายไม่สนใจอะไรเลย เขาถึงได้ยืมกำลังของตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับตระกูลพรโสภณปกป้องเธอนรมน เวลานี้คือตอนที่เขามอบสิทธิ์สั่งการบอดี้การ์ด ฉันคาดเดาไว้แล้ว ตระกูลทวีทรัพย์ธาดามีเบื้องหลังจากทหาร บุริศร์ไม่มีทางให้สิทธิ์เขา ส่วนคุณท่านตนุวร ก็เกษียณแล้ว และยังเป็นตาของเธอ หลังจากคิมแม่ของเธอตาย คนที่เขาเป็นห่วงที่สุดก็คือเธอ จะต้องทุ่มเทดูแลเธอเต็มที่ ความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือบุริศร์ให้สิทธิ์กับคุณท่านตนุวร และเธอมีบอดี้การ์ดอย่างสมจิตข้างตัวฉันก็รู้แล้ว ฉันเดาถูก”
สมจิตโกรธจนควันออกหู
“ทำไมผู้หญิงอย่างเธออันตรายขนาดนี้”
“พอเถอะสมจิต พวกเรายอมรับว่าแพ้แล้วเถอะ แพรวามองพวกเราทะลุปรุโปร่ง พวกเราไม่มีความหวังจะชนะแล้ว ชนะเป็นเจ้าแพ้เป็นโจร เกมนี้ พวกเราแพ้แล้ว”
นรมนจำต้องนับถือแพรวา เธอโหดเหี้ยมจริงๆ
แพรวาหัวเราะ พูดอย่างเสียดาย “ที่จริงฉันไม่อยากเป็นศัตรูกับเธอ แต่เธอผิดตรงที่ไม่ควรรักบุริศร์ ไม่ควรแต่งเข้า ตระกูลโตเล็ก ใครก็ตามที่ขวางลูกสาวของฉันนั่งตำแหน่งประธานตระกูลโตเล็ก ฉันจะขุดรากถอนโคน เธออย่าโทษฉันล่ะ”
พูดจบ แพรวาก็สั่งการ ทันใดนั้นก็มีหลายคนกรูเข้ามา ล้อมนรมนกับสมจิตอย่างรวดเร็ว
นรมนมองทุกคน คนพวกนี้คือทหารรับจ้างฝีมือดี!