“กิจจาอยู่ในอันตราย”
ข้อความในวีแชทที่ถูกส่งโดยมิลิน
นรมนรีบค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของมิลินแล้วกดโทรออกทันทีแต่ก็ไม่มีคนรับสาย ใจของเธอพลันเป็นกังวลขึ้นมา
“หม่ามี้เป็นอะไรคะ? ทำไมสีหน้าไม่ดีเลย?”
เมื่อกมลเดินออกมาก็เห็นใบหน้าของนรมนขาวซีด จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
นรมนกลับวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ
บุริศร์ที่ยังคุยกับเขมทัตเกี่ยวกับปัญหาของกมลอยู่ เมื่อมองเห็นนรมนวิ่งมาอย่างร้อนรนก็ทักขึ้นทันที
“มีอะไรเหรอ?”
“กิจจาตกอยู่ในอันตราย มิลินเพิ่งส่งข้อความมาบอกฉัน แต่พอโทรกลับไปก็ไม่มีคนรับสาย คราวที่แล้วได้ยินว่าเขาไปที่แอฟริกา บุริศร์ ฉันกลัว”
จากคำพูดของนรมนทำให้เขมทัตนึกขึ้นมาได้
“คุณบุริศร์ไม่นานมานี้เกิดเหตุจลาจลการจากผู้ก่อการร้ายในแอฟริกา ได้ยินว่ามีคนถูกจับไปเป็นตัวประกันจำนวนมาก”
ข้อมูลของเขมทัตมาจากเขตทหาร เชื่อถือได้อย่างแน่นอน
สีหน้าของบุริศร์กับนรมนพลันเปลี่ยนไปทันที
“ฉันจะไปแอฟริกาเดี๋ยวนี้”
บุริศร์รีบติดต่อหาชัยยศ เพื่อเคลื่อนเฮลิคอปเตอร์
นรมนกล่าว:” ฉันไปด้วย”
“เธอไม่ต้องไปหรอก ในบ้านยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมาก อีกทั้งตุลยาก็จะมาหา ยังมีปัญหาที่บริษัทของเธอที่ต้องแก้ไข ที่นี่ก็ต้องการการปลอบโยน นรมนภารกิจของเธอหนักหนากว่าฉันอีก ฉันรับประกันว่าหลังจากที่ฉันไปฉันจะโทรหาเธอทุกครั้งที่มีเวลา ให้เธอได้รับรู้แบบเรียลไทม์โอเคไหม?”
บุริศร์มองนรมนอย่างห่วงใย
เขารู้ว่านรมนเป็นห่วงกิจจาอยากจะไปด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ควรที่จะพาเธอไปด้วยได้
นรมนรู้ว่าที่บุริศร์พูดมาถูกต้องทั้งหมด แต่ ณ เวลานี้ก็ยังแอบกังวลใจอยู่บ้าง
“การจลาจลยังไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง? เนื่องจากพื้นที่ทหารตื่นตระหนก สถานการณ์คงไม่ดีนัก บุริศร์ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นคุณต้องพากิจจากลับมาให้ได้นะ”
“ฉันทำได้ วางใจเถอะ เขาเป็นเลือดเนื้อเพียงหนึ่งเดียวของพี่ชายของฉัน ฉันจะพยายามสุดชีวิตและรับประกันเรื่องความปลอดภัยของกิจจา”
“อย่าพูดพล่อยๆ คุณก็ต้องกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับฉัน รับปากสิ”
นรมนปิดปากบุริศร์อย่างรวดเร็ว
“ฉันรู้แล้ว ไม่ใช่ว่ายังมีเวลาอีกสามวันเหรอ? วางใจเถอะฉันจะรีบกลับมา”
พูดจบบุริศร์ก็หันไปหาเขมทัต
“อย่าคิดว่าเรื่องของลูกสาวฉันจะจบลงแค่นี้ รอฉันช่วยลูกชายกลับมาได้ก่อนแล้วจะกลับมาคิดบัญชี
พูดจบ บุริศร์ก็ให้คนพานรมนกลับไปส่งที่ตระกูลพรโสภณส่วนตัวเขาเองก็รีบออกไปจากลานใหญ่อย่างรวดเร็ว
คุณท่านตนุวรเองก็รู้ข่าวแล้ว เมื่อเห็นนรมนกลับมาถึงก็ถามอย่างกังวลใจ:” เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? ฉันไม่ยินว่าบุริศร์ออกไปแล้ว ฉันจะให้โตษิณไปช่วยเขา”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณตา บุริศร์น่าจะเอาอยู่ หนูแค่เป็นห่วงกิจจา”
“เด็กคนนั้นทำไมถึงไปถึงแอฟริกาล่ะ?”
คุณท่านตนุวรก็รู้สึกกังวลใจ
“หม่ามี้ พี่กิจจาเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
กมลถามคิ้วขมวด
“ไม่เป็นไร กิจจาแค่มีปัญหานิดหน่อย พ่อของหนูไปหาเขาอย่างกล้าหาญแล้ว สบายใจเถอะ”
นรมนพยายามปั้นหน้ายิ้มต่อหน้าของกมล แต่ก็ยังปรากฏร่องรอยความกังวล
มีสายเข้าจากบุริศร์ นรมนรีบกดรับโดยทันที
“ไมค์กับตุลยาขึ้นเครื่องบินแล้ว คืนนี้ประมาณสองทุ่มกว่าน่าจะถึง”
“ฉันรับรู้แล้ว ที่นี่ฉันจะดูแลให้เอง คุณก็ดูแลตัวเองด้วย จริงสิ ยาแก้ปวดเอาไปด้วยหรือเปล่า?”
นรมนนึกขึ้นได้ถึงอาการปวดเส้นประสาทของบุริศร์ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมา
“ฉันให้ป้องเอามาส่งให้ที่สนามบิน ฉันจะเคลื่อนเฮลิคอปเตอร์จากสนามบินเธอวางใจได้แล้ว กานต์เองก็รู้ข่าวแล้ว คิดว่าเขาน่าจะไปกับฉันด้วย”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนย่นคิ้วนิดหน่อย
“เขาไปทำอะไร?”
“น่าจะเป็นเรื่องของทหาร ฉันขึ้นเฮลิคอปเตอร์ก่อนเขาจะไปกับฉัน วางใจเถอะลูกต้องไม่เป็นไร ฉันจะพาพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัยเอง วางก่อนนะ”
พูดจบบุริศร์ก็วางสายทันที
นรมนจิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ถ้ากิจจายังไม่รู้เรื่องการก่อการจลาจลล่ะจะเป็นอย่างไร กานต์ก็ไปด้วย เธอจะวางใจลงได้อย่างไร?
แต่กังวลใจไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี ที่เมืองชลธียังมีเรื่องมากมายรอให้เธอแก้ไขอยู่
“คุณตา ตุลยาจะถึงคืนนี้สองทุ่มกว่าๆ คุณเรียกคนจากที่นั่นไปรับได้เลย ฉันต้องพึ่งพาคุณแล้ว
“ได้”
คุณท่านตนุวรรู้ว่านรมนต้องการจะทำอะไร และคงห้ามไม่ได้
“ฉันจะพากมลกลับไปด้วย ให้เธออยู่ที่นี่ ฉันกลัวว่าตุลยาจะปฏิบัติไม่ดีกับเธอ”
นรมนไม่ได้หลีกเลี่ยงข้อนี้
คุณท่านตนุวรเองก็รับปาก
นรมนพากมลกลับมาที่บ้านตระกูลโตเล็ก และส่งต่อให้ป้าหวานดูแล ตัวเธอกดต่อสายหาปาณี
“เธอกับนภดลรีบหาเที่ยวบินที่เร็วที่สุดกลับมาที่เมืองชลธี เราต้องการพวกคุณ”
“รับทราบ คุณนาย”
ปาณีเก็บกวาดธุระในมือแล้วไปหานภดล
นภดลอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กำลังค้นหาข้อมูล เมื่อเห็นปาณีเข้ามาก็ตกใจเล็กน้อย
จากเรื่องที่เกิดเมื่อครั้งที่แล้ว ทั้งสองคนก็ไม่เคยเจอกันโดยลำพังอีกเลย ยิ่งปาณีไม่เคยมองหาเขาเลย แต่มาวันนี้ที่จู่ ๆ ก็มาทำให้นภดลค่อนข้างประหลาดใจ
“มีเรื่องเหรอ?”
“คุณนายให้เรารีบกลับเมืองชลธีด่วน ที่นั่นต้องการพวกเรา”
ปาณีค่อนข้างลำบากใจ
เธอชอบนภดลจริง ๆ แต่เธอรู้ว่าใจของ นภดลตายไปพร้อมฉัตรยาที่ตายไปแล้ว
ทุกวันนี้ถ้าไม่พบไม่พูดคุยยังพอควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ยืนอยู่ต่อหน้านภดล ปาณีรู้สึกว่าที่ตัวเองพยายามมาตั้งหลายวันนั้นไม่มีประโยชน์เลย
การรักคนๆ หนึ่งนั้นเป็นเรื่องยาก แต่การลืมคนๆ หนึ่งนั้นยากยิ่งกว่า
“รับทราบ”
นภดลก้มหน้า ไม่ได้มองปาณี ท่าทีเย็นชานั้นทำร้ายและแทงหัวใจอย่างสุดซึ้ง
ถ้าหากเป็นไปได้เธออยากอยู่ที่นี่จริงๆ การเริ่มที่ผิดกับนภดล พออยู่กับเขาแล้วทำให้ตัวเธอเองลำบาก
ปาณีหันหลังเดินกลับออกไป แววตาเศร้าสร้อย
หางตาของนภดลมองเห็นหลังของเธอที่ดูเหงาหงอยก็ขมวดคิ้ว ดวงตาปรากฏแววบางอย่างแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
เขาและเธอมันเป็นไปไม่ได้เลย ในเมื่อรู้ผลลัพธ์อยู่แล้วจะไปทำให้มันยุ่งยากทำไม?
นภดลถอนหายใจออกมาแผ่วเบา เก็บกวาดข้อมูลเอกสาร แล้วจึงเดินตามปาณีออกไป
พริมาใช้ความสามารถในการประชาสัมพันธ์ของตระกูลโตเล็กเรื่องของณัจยาก็ถูกระงับลง แต่พ่อแม่ของเธอเป็นคนไร้สัจจะมาร้องไห้โหวกเหวกอยู่หน้าประตูบริษัท ทำให้พริมาเป็นผู้ถูกกระทำ
“ประะานนรมน ครั้งนี้ฉันทำงานไม่ราบรื่น”
พริมารีบต่อสายหานรมน
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ เป็นเพราะศัตรูแข็งแกร่งเกินไป ฉันจะให้คนสืบหาหลักฐานต่อไป เธอหยุดเรื่องของณัจยาทั้งหมดเอาไว้ก่อน อย่าปล่อยให้เธอออกไปไหนหลังจากที่เรื่องนี้ยังไม่คลี่คลาย
“รับทราบค่ะ”
พริมาวางสาย
ดวงตาของนรมนปรากฏแววความโกรธ
ชาวีทำเกินไปจริงๆ
แต่เดิมเธอตั้งใจจะเล่นกับเขาอย่างช้าๆ ในเมื่อตุลยาขึ้นเครื่องบินไปแล้ว งั้นเธอก็คงไม่ต้องเกรงใจแล้ว
นรมนโทรศัพท์หานภดล
“ขึ้นเครื่องบินหรือยัง?”
“ยังครับ กำลังรอตรวจเช็กความปลอดภัย
คำตอบของนภดลทำให้นรมนตะลึงชั่วขณะ ไม่คิดว่าพวกเขาจะรวดเร็วกันขนาดนี้
“ตรวจสอบชาวีให้ฉันที แล้วให้คนก่อเหตุทางการแพทย์หน้าโรงพยาบาลของเขา ทำให้สื่อสนใจได้ยิ่งดี แล้วก็ตรวจสอบดูว่าชีวิตส่วนตัวของ ชาวีมีอะไรมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ฉันหวังว่ากิจการของเขาจะมีปัญหาภายในหนึ่งวัน ทำให้มือไม้อ่อนจนทำอะไรไม่ถูกไปเลยยิ่งดี
“รับทราบ”
นภดลหลังจากวางสายก็เปิดคอมพิวเตอร์ทันที
ดวงตาของนรมนฉายแววเย็นชา
เธอกังวลเกี่ยวกับบุริศร์ และกังวลเกี่ยวกับกิจจากับกานต์ ยิ่งตัวเธอมีเรื่องพรรค์นี้มาพัวพันยิ่งทำให้อารมณ์เสีย
นรมนหลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จก็รอปิดอินเทอร์เน็ต
เธอไม่สามารถให้ตัวเองว่างได้ พอว่างเธอก็จะคิดต่างๆ นานา
ระงับอารมณ์เสร็จ นรมนก็ตรงไปที่ห้องเก็บของ
เจตต์และขวัญตาพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ลูกพี่ลูกน้องของเธอก็ส่งของขวัญไปเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
คุณท่านตนุวรก็ให้ห้องมาหนึ่งชุด แล้วตัวเธอเองให้อะไรบ้าง?
นรมนมาถึงห้องเก็บของ หวังจะหาของติดไม้ติดมือออกไป พลันมองไปเห็นชุดเจ้าสาวที่แขวนอยู่ในห้องเก็บของ
ชุดเจ้าสาวนี้เธอใส่ตอนที่แต่งงานกับบุริศร์เมื่อแปดปีที่แล้ว ตอนนั้นก็รู้ว่าไม่ได้ถูกเตรียมไว้ให้เธอแต่ขณะนั้นไม่มีเวลาให้คิดเยอะ ไหน ๆ ก็เตรียมงานแต่งแล้ว ไม่คิดว่าบุริศร์จะยังไม่ทิ้งไปไหน เขายังเก็บไว้ที่นี่
ใจของนรมนก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ถ้าไม่ได้ถูกเตรียมไว้ให้ตัวเอง งั้นคงถูกเตรียมไว้เพื่อเขมิกาเหรอ?
ของที่ถูกเตรียมไว้ให้เขมิกายังคงถูกเก็บไว้ที่นี่ เป็นเพราะลืมหรือมีความตั้งใจอื่นกันแน่?
นรมนพบว่าเธอเริ่มคิดไปต่างๆ นานา แล้ว
ถ้าพูดตามความรู้สึกของบุริศร์ที่มีต่อเธอแล้ว สามารถบอกได้ว่าไม่มีความรู้สึกใดๆ ให้เขมิกาแล้ว ดังนั้นชุดแต่งงานนี้คงไม่ได้เป็นสิ่งที่ระลึกหรอก แต่แล้วทำไมถึงยังไม่ทิ้งไปล่ะ?
นรมนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ยื่นมือออกไปลูบชุดแต่งงาน
ชุดแต่งงานนี้ไม่ว่าจะใช้วัสดุอะไรก็ถูกออกแบบมาเพื่อยิ่งใหญ่ ถึงแม้จะผ่านมาแปดปีแล้วแต่นรมนก็ยังคงชอบมากอยู่ดี
แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ถูกทำขึ้นมาเพื่อเธอ ใจเธอยังคงขุ่นเคืองเล็กน้อย
ตอนนี้บุริศร์ไปแอฟริกาแล้ว ตัวเธอเองก็ไม่อยากเอาเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไปรบกวนเขา
นรมนยื่นมือออกไปเพื่อเก็บชุดแต่งงานให้เรียบร้อย แต่กระดาษออกแบบชุดก็หล่นออกมาจากในชุดแต่งงาน บนกระดาษออกแบบชุดปรากฏลายมือที่คุ้นเคย นรมนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
เธอก้มลงไปเก็บขึ้นมา พบว่าเป็นขนาดสัดส่วนที่ปรากฏค่อนข้างคุ้นตา คล้ายจะเป็นสัดส่วนของเธอเมื่อแปดปีที่แล้ว
ราวกับจะยืนยันความคิดของนรมน ด้านหลังกระดาษออกแบบถูกเขียนชื่อของนรมนเอาไว้
ชุดแต่งงานนี้ถูกออกแบบเพื่อเธอโดยเฉพาะ?
ไม่น่าจะใช่!
ตอนแรกเธอต้องแต่งงานกับบุริศร์เพราะเรื่องอื้อฉาว เวลาที่กำหนดก็เร่งรีบ จะมีเวลานานพอที่จะออกแบบชุดแต่งงานให้เธอได้อย่างไร?
นรมนคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ แต่ในใจกลับมีความสุขจนแทบบ้า
ชุดแต่งงานนี้ถูกออกแบบไว้เพื่อเธอตั้งแต่แรก?
ใช่อย่างนี้ไหม?
มุมปากของนรมนยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
และในตอนนั้นเองก็มีสายเข้าจากพฤกษ์
นรมนตกตะลึงเล็กน้อย พยายามเก็บความรู้สึกดีใจเอาไว้
“คุณนาย คุณติดต่อประธานบุริศร์ได้ไหม? ผมมีธุระกับเขา แต่เขาปิดโทรศัพท์
นรมนพูดเสียงต่ำ:” เขาน่าจะอยู่บนเครื่องบิน กิจจาเกิดเรื่องที่แอฟริกาใต้ เขากำลังรีบไปหา คุณมีธุระอะไรกับเขาหรือเปล่า?
“มีเรื่องนิดหน่อย ผมต้องการคนและม้าจำนวนหนึ่ง ทางนี้กำลังไม่พอแล้ว”
คำพูดของพฤกษ์ทำให้นรมนชะงักไปทันที
เขาไปทำอะไรที่นั่น? ทำไมถึงยังต้องการคนช่วย