“แกจะทำอะไร? เถียงสู้คนอื่นไม่ได้ก็จะใช้ปืนเหรอ แกนี่มันเป็นผู้ชายจริง ๆ !”
นรมนมองชัยณรงค์อย่างเหยียดหยามโดยตรง ไม่สนใจการกระทำของเขาสักนิดเดียว
“แต่ถึงแม้แกจะเอาปืนมาฆ่าฉัน ฉันก็ยังจะพูดว่า สามีของฉันหล่อจริง ๆ หล่อกว่าแกเยอะ!”
ประโยคที่ซ้ำเติมนี้ทำเอาชัยณรงค์โมโหจนหนังตาเป็นตะคริว
ผู้หญิงคนนี้เกิดมาชอบพูดไม่คิดหรือไง ?หรือว่าสมองมีปัญหาจริง ๆ ?
เขาไม่เชื่อว่าผู้หญิงไหนเห็นผู้ก่อการร้ายเยอะขนาดนี้แล้วจะไม่หวาดกลัว!
“แก ออกมา!”
ชัยณรงค์เรียกผู้หญิงคนหนึ่งออกมาทันที ผู้หญิงคนนั้นตกใจจนรีบร้องขอชีวิต
“อย่าฆ่าฉันเลย ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน!”
หญิงสาวตกใจน้ำหูน้ำตาไหลออกมา
ชัยณรงค์ถึงจะพบว่านี่คือความรู้สึกที่แท้จริง
ใช่แล้ว!
นี่ถึงจะเป็นท่าทางที่แท้จริงของตัวประกันที่มีต่อผู้ก่อการร้าย
เขาเหลือบมองนรมนอีกครั้ง หลังจากเห็นนรมนชายตามองเขาอย่างดูถูก และหันกลับไปมองหน้าจอกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ริมฝีปากเผยรอยยิ้มสุขสันต์
“สามีของฉันขับรถแล้วหล่อจัง”
ชัยณรงค์รู้สึกปวดหัวตุบ ๆ
“ปิดหน้าจอกล้องวงจรปิดให้ฉันซะ!”
“แต่ว่าลูกพี่ ถ้าปิดแล้วจะตรวจสอบตำแหน่งของบุริศร์ไม่ได้นะครับ”
ลูกน้องพูดตัวสั่น
ฝ่ามือของชัยณรงค์ฟาดเข้าไป
“แกโง่หรือเปล่า?ปิดการตรวจสอบตำแหน่งที่นี่แล้ว พวกแกจะไม่ออกไปดูเหรอ?”
“ครับ ๆ ๆ”
ลูกน้องโดนตบอย่างไม่คาดคิด จึงรีบปิดกล้องวงจรปิดและวิ่งออกไป
นรมนมองไม่เห็นบุริศร์แล้ว จึงรู้สึกผิดหวังไม่น้อย
“ฉันออกไปรอสามีของฉันที่ประตูได้ไหม?”
“แกรออยู่ตรงนี้ดี ๆ เถอะ!”
ชัยณรงค์รู้สึกปวดหัวไม่น้อย
ผู้หญิงคนนี้กลัวจะเป็นคนโง่หรือไง?
นี่มันเวลาไหนแล้ว คิดไม่ถึงว่าเธอจะยังบ้าผู้ชายอีก?
ที่สำคัญคือพวกเขามีลูกกันแล้ว จะรักกันมากขนาดนี้ไปให้ใครดู?
รังแกคนไม่มีแฟนอย่างเขาเหรอ?
ชัยณรงค์รู้สึกหดหู่ใจ
เขารู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ก่อการร้ายได้อย่างน่าผิดหวังมาก คิดไม่ถึงว่าจะถูกผู้หญิงสมองกลวงทำให้โมโหจนแทบจะกระทืบเท้า
ชัยณรงค์ถลึงตามองนรมนอย่างโหดเหี้ยม หันตัวเดินไปสูบบุหรี่
“แกออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกได้ไหม?”
นรมนฉุนจนไอออกมา
ชัยณรงค์คนนี้ สูบบุหรี่ยังสูบเป็นยาเส้น ทำด้วยมือ กลิ่นแรงเป็นพิเศษ
ชัยณรงค์กลับกล่าวด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “ฉันเป็นผู้ก่อการร้าย แกคิดว่าฉันจะฟังแกเหรอ?”
“ก็จริง”
นรมนพยักหน้าอย่างจริงจังมาก จากนั้นจึงหาที่นั่งลงไป
เมื่อไหร่บุริศร์จะมานะ?
เธอคิดถึงเขาจริง ๆ
ชัยณรงค์เห็นนรมนเงียบไม่พูดจา ก็ไม่สนใจเธอ
เสียงรถด้านนอกดังเข้ามา
ลูกน้องรีบเข้ามารายงาน
“ลูกพี่ บุริศร์มาแล้ว”
นรมนค่อย ๆ ลุกขึ้น ก้าวเท้าเดินออกไปข้างนอก กลับถูกชัยณรงค์ดึงคอเสื้อเอาไว้
“แกจะทำอะไร?”
“ทำหน้าที่เป็นตัวประกันของแกไง อย่าลืมสิ ลูกชายของฉันยังอยู่ในมือของแก”
ชัยณรงค์ควัก AK47ออกมาดันไปที่เอวของนรมน
นรมนถึงจะรู้สึกถึงความเจ็บปวด
แผ่นหลังของเธอ!
โชคร้ายจริง ๆ
นรมนถูกชัยณรงค์ใช้ปืนดันออกไปที่ห้องโถงสำนักงาน
ภายใต้แสงแดด บุริศร์ในชุดลายพรางเท่ ๆ แพรวพราวเป็นพิเศษ
เขาพิงประตูรถ เมื่อเห็นนรมนออกมา แววตาห่วงใยเหมือนเครื่องเอกซเรย์กวาดมองไปทั่วร่างกายของนรมน เมื่อเห็นเธอไม่ได้รับบาดเจ็บถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
“คุณสามี!”
นรมนยิ้มกว้าง
เธอทำเหมือนบุริศร์เลิกงานกลับมาตามปกติ ตะโกนเรียกสามีเสียงหวาน ทำให้บุริศร์ความเหนื่อยล้าในร่างกายทั้งหมดของบุริศร์หายไป
ในสถานการณ์แบบบนี้ ยากที่เธอจะยังแสดงความรักและผูกพันเช่นนี้
“กลัวไหม?”
บุริศร์เอ่ยถาม เสียงที่สุขุมเหมือนกับเปิดไวน์แดง กลมกล่อมมีเสน่ห์
นรมนรู้สึกว่าตนเองกำลังจะเมาไปกับความอ่อนโยนของเขา
“ไม่กลัว ฉันจะบอกคุณให้ ฉันจัดการชาวีแล้ว แถมยังทำร้ายคนของกล้าณรงค์ ฉันเก่งไหม?”
นรมนร้องขอความดีความชอบเหมือนเด็ก
“สุดยอด ภรรยาของผมเก่งที่สุด”
บุริศร์ยังคงอวยนรมนอย่างโอเวอร์เหมือนเดิม
“แน่นอน ไม่เห็นเหรอว่าฉันเป็นภรรยาของใคร”
นรมนคุยกับบุริศร์เหมือนรอบตัวไม่มีใคร และไม่สนใจปืนที่จออยู่ข้างหลัง
ชัยณรงค์รู้สึกอิจฉาอย่างอธิบายไม่ได้
ยิ่งพวกเขาเป็นแบบนี้ ชัยณรงค์ยิ่งโมโห
พี่สาวของเขาตายตาไม่หลับ บุริศร์จะมีสิทธิ์ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแบบนี้ได้อย่างไร
“พอแล้ว!”
ชัยณรงค์คำรามขึ้นมาทันที ตัดบทสนทนาของนรมนกับบุริศร์
“แกทำให้ฉันกลัวนะ”
นรมนขมวดคิ้ว น้ำเสียงเงียบหงอย
ชัยณรงค์โกรธจนมือสั่น
“แกหุบปากไปซะ อย่าลืมสิ แกเป็นตัวประกันของฉันนะ!”
พูดจบเขาก็มองไปที่บุริศร์ แววตามีความโหดเหี้ยมมาก
“บุริศร์ แกยังจำรมัยพี่สาวของฉันได้ไหม?”
นัยน์ตาของบุริศร์มืดมนลงหลายเท่า
“ชัยณรงค์ ถ้าแกยังจำพี่สาวของตัวเองได้ ก็หยุดทุกอย่างที่ทำในตอนนี้เถอะ พี่สาวของแกคือผู้เสียสละ เธอมีเกียรติแม้ว่าเธอจะตายไปแล้ว แต่ตอนนี้แกทำอะไร?แกกำลังทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียง”
“แกพูดจาเหลวไหล!พี่สาวของฉันตายไปแล้ว แกยังจะเอาเรื่องนี้มาขยี้ฉันอีกเหรอ?บุริศร์ พี่สาวของฉันมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อแก เพื่อแกเธอไม่สนใจชีวิตของตนเอง แกมีค่าต่อเธออย่างไร?”
การฟ้องร้องของชัยณรงค์ทำให้บุริศร์หมดคำพูด
“รมัยเป็นเพื่อนร่วมรบของฉัน ไม่ใช่คนรักของฉัน ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอรู้สึกดีกับฉัน ชัยณรงค์ แกอย่าปั้นน้ำเป็นตัวเลย”
“ฉันปั้นน้ำเป็นตัว?จดหมายของพี่สาวถึงครอบครัวก่อนตายเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อแก แกอย่าพูดว่าไม่รู้ ผู้หญิงคนหนึ่งคิดกับผู้ชายอย่างไรแกดูไม่ออกเหรอ?”
อารมณ์ของชัยณรงค์เดือดพล่านมาก เสียงยิ่งดังขึ้น เสียงดังจนนรมนหูอื้อ
บุริศร์มองเห็นท่าทางโกรธเคืองของนรมน จึงอดไม่ได้ที่จะลดเสียงลง
“ตอนนั้นจิตใจของฉันจดจ่อกับการรักษาบาดแผลโดยเร็วที่สุดเพื่อกลับไปฝึกซ้อมในหน่วย ส่วนรมัยรู้สึกกับฉันอย่างไรฉันไม่รู้จริง ๆ”
“แกอย่ามาพูดจาเหลวไหล ฉันไม่เชื่อ!บุริศร์ แกก็แค่อยากปัดความรับผิดชอบ แกมันไม่ใช่ผู้ชายจริง ๆ !”
ชัยณรงค์เพิ่งจะพูดออกไป นรมนก็ทนไม่ไหวกล่าวขึ้นมาว่า “แกจะตะโกนทำไม? ถึงแม้แกจะตะโกนให้คอแตก พี่สาวของแกจะฟื้นขึ้นมาไหม?ชัยณรงค์ ฉันจะบอกแกให้นะ ผู้ชายของฉันเกิดมาเพื่อรอฉันจึงได้อยู่ในเขตทหารเหมือนท่อนไม้ไม่ค่อยพูดจา เขาไม่รู้สึกถึงมิตรภาพของพี่สาวแก นั่นแปลว่าพวกเขาไม่มีวาสนาต่อกัน ถึงแม้รมัยจะเสียสละเพื่อบุริศร์ นี่จะแสดงให้เหตุอะไร?แกอยากให้บุริศร์ทำอะไร?แต่งงานกับป้ายหลุมศพของพี่สาวแกแล้วกลับบ้านไปเซ่นไหว้บูชา จากนั้นเฝ้าป้ายหลุมศพของพี่สาวแกไปตลอดชีวิตโดยไร้ความปรารถนา นี่เป็นสิ่งที่ผู้ชายควรทำเหรอ?”
ชัยณรงค์ถูกนรมนด่าจนพูดไม่ออก
“ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ควรจะเป็นอย่างในตอนนี้ พี่สาวของฉันตายเพื่อเขา เขาไม่ควรใช้ชีวิตอย่างอิสระแบบนี้!”
“พูดตามตรงนะ แกกำลังอิจฉา อิจฉาที่บุริศร์มีครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสุข อิจฉาที่เขามีคนรัก แต่แกไม่มีอะไรเลยจริงไหม?การกระทำในตอนนั้นของรมัยอาจเป็นเพราะชอบบุริศร์ หรืออาจเพราะหน้าที่ของทหาร ฉันคิดว่าถ้าเปลี่ยนเป็นเพื่อนร่วมรบคนอื่น ไม่แน่รมัยก็อาจจะเลือกแบบเดิม นี่คือคุณลักษณะของความศรัทธาและความน่าเกรงขามของทหาร คนธรรมดาอย่างแกจะไปเข้าใจได้อย่างไร?แกรู้ไหมว่าตอนนี้แกอยากทำอะไร?แกก็เหมือนเด็กที่ไม่ได้ขนม ไม่ได้กินองุ่นก็รังเกียจหาว่าองุ่นเปรี้ยว แกทำแบบนั้นได้อย่างไร?จะเก่งอะไรนักหนา?บนโลกใบนี้มีเรื่องมากมาย ทำไมแกถึงไม่จัดการทีละเรื่อง จะอิจฉาทำไม?ไม่เหนื่อยแย่เหรอ?”
นรมนด่าออกมามากมายในลมหายใจเดียว ทันใดนั้นก็รู้สึกคอแห้ง
“เอาน้ำมาให้ฉัน!ถ้าทำให้ฉันคอแห้งตาย สามีของฉันไม่ปล่อยพวกแกเอาไว้แน่!ถ้าฉันตาย แกจะมีอะไรมาข่มขู่สามีของฉันได้อีก?”
นรมนพูดคำนี้ชัยณรงค์แทบจะสำลักเลือดของตนเองออกมา
“ฉันจะฆ่าแกตอนนี้แหละ!”
เขายกปืนพกขึ้นมาทันที เล็งไปที่ขมับของนรมน
“แกอย่าทำอะไรเธอนะ!”
หัวใจของบุริศร์เต้นรัว
“ชัยณรงค์ แกไม่ได้ต้องการให้ฉันชดใช้ชีวิตของพี่สาวแกเหรอ?แกปล่อยเมียของฉันไป แล้วฉันจะยกชีวิตให้แก!”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนใจหายวูบทันที
“คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย?คุณยกชีวิตให้เขา แล้วฉันจะทำอย่างไร? ลูกจะทำอย่างไร?คุณอย่าคิดให้ฉันเลี้ยงลูกนะ ฉันไม่อยากเหนื่อยขนาดนั้น ถ้าคุณกล้ายกชีวิตให้เขา วันที่ทำพิธีแห่ขบวนศพของคุณฉันจะหาคนแต่งงานด้วยใหม่ พวกเราจะได้จัดงานมงคลและงานอวมงคลพร้อมกัน ถึงตอนนั้นลูกชายลูกสาวของคุณจะเรียกผู้ชายคนอื่นว่าแด๊ดดี้ ร้องไห้ส่งคุณไป พร้อมกับตะโกนให้แด๊ดดี้คนอื่นหยิบซองแดงให้ คุณลองคิดถึงภาพนั้นดูนะ”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์สำลักออกมา
ผู้หญิงคนนี้กล้าพูดทุกอย่างจริง ๆ
“นรมน คุณเงียบไปเลยนะ”
บุริศร์ขมวดคิ้วส่งเสียงตำหนิ
“โอ้โห ฉันกลายเป็นตัวประกันของคนอื่น คุณยังตวาดฉัน? บุริศร์ คุณไม่รักฉันแล้วใช่ไหม?”
นรมนรู้สึกน้อยใจทันที
“เปล่านะ ผมแค่……”
“บุริศร์ คุณอย่าลืมนะ คุณยังติดค้างความปรารถนาของฉันข้อหนึ่ง”
“หา?”
“คุณเคยสัญญากับฉันว่าจะสวมชุดผู้หญิงสารภาพรักกับฉันที่ริมถนน คุณยังไม่ได้ทำเลย?คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ยังจะมาตวาดฉันอีก!คุณดูสิตอนนี้ฉันกลายเป็นตัวประกันของคนอื่นแล้ว ทำไมคุณไม่ทำความปรารถนาของฉันให้เป็นจริงล่ะ ?”
คำพูดของนรมนทำให้มุมปากของบุริศร์ยกขึ้นทันที
ชัยณรงค์รู้สึกหัวจะระเบิด
นี่นรมนเป็นตัวประกันของตนเองจริงหรือเปล่า?
ทำเขาจึงรู้สึกว่าตนเองหาเรื่องใส่ตัว
“ฉันบอกให้แกหุบปากไม่ได้ยินเหรอ?ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปห้ามพูดเด็ดขาด!”
ชัยณรงค์ตะโกนสุดเสียง นรมนรู้สึกเจ็บศีรษะเล็กน้อยเพราะปืนในมือ
“หนวกหูโว้ย!”
นรมนหันตัวโดยพลัน แขนเสื้อมีเข็มฉีดยาเลื่อนลงมาทันที
เธออาศัยจังหวะที่ชัยณรงค์แปลกใจ ใช้เข็มแทงลงไปที่ลำคอของชัยณรงค์ทันที
บุริศร์เห็นเช่นนี้ จึงรีบยกมือขึ้น ทำสัญญาณมือ
ภายในชั่วพริบตา กองทัพจำนวนหนึ่งออกมาจากทุกทิศทาง ห้อมล้อมคนของชัยณรงค์ทันที
ร่างกายของชัยณรงค์เซไปมา คิดจะยิงนรมนอย่างไม่ยอม กลับถูกนรมนเตะปืนลอยออกไป
“หนวกหูจริง ๆ รีบนอนไปได้แล้ว ฉันเหนื่อยแทบแย่ กว่าจะทำให้แกผ่อนคลายความระมัดระวัง ฉันพูดจนปากแห้งหมดแล้ว ถ้าแกยังไม่ให้โอกาสฉันอีก ฉันจะเป็นบ้าแล้วนะ”
นรมนเตะชัยณรงค์ออกไปทันที
ลูกน้องของชัยณรงค์ยังคิดพยายามดิ้นรนเพื่อมาแย่งตัวชัยณรงค์ กลับมองเห็นคนด้านนอกทะลักเข้ามาโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว
เพื่อป้องกันตนเอง พวกเขาทำได้เพียงโต้ตอบ
นรมนหันตัวไปก็ถูกบุริศร์กอดเอาไว้แน่น
ร่างกายของเขาสั่นไหวเล็กน้อย น้ำเสียงแหบแห้ง
“ผู้หญิงอย่างคุณนี่มันซนจริง ๆ สถานที่อันตรายแบบนี้ และการกระทำที่อันตรายแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าคุณจะเข้ามาล่อศัตรูในถ้ำเสือเพียงคนเดียว คุณบ้าไปแล้วหรือไง?คุณไม่รู้เหรอว่าผมเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน?”
บุริศร์เพิ่งจะพูดจบ นรมนก็เขย่งปลายเท้าโอบรอบลำคอของบุริศร์ทันที ในชั่วพริบตาริมฝีปากอุ่นประทับลงบนริมฝีปากบางอันเย็นเฉียบของเขา