ทำไมคุณถึงได้ยืนกรานเรื่องนี้เหลือเกิน
บุริศร์รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ตอนนี้นิสัยไม่ดีแล้ว
อารมณ์อันลึกซึ้งเช่นนี้ ตอนที่กำลังเคลิบเคลิ้มหลงใหล คิดไม่ถึงว่าเธอยังจะนึกถึงเรื่องที่ให้แต่งเป็นหญิง เสน่ห์ของเขาคนนี้ลดลงแล้วใช่ไหม?
หรือว่าไอคิวของผู้หญิงคนนี้สูงขึ้น?
นรมนเห็นท่าทางกลุ้มใจของบุริศร์ จึงอดกล่าวด้วยรอยยิ้มไม่ได้ “ฉันสามารถอนุญาตให้คุณรอกองทัพส่วนมากไปก่อนแล้วค่อยสารภาพรักกับฉัน เป็นอย่างไร?คุณพอใจไหม?”
บุริศร์ยังจะพูดอะไรได้?
เขาทำได้เพียงหัวเราะแห้ง ๆ จากนั้นปล่อยนรมนออก
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้คงยากที่จะสานต่อจริงไม่จริง
นรมนเห็นเขาลุกขึ้น ถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
โชคดีที่เขาไม่ทำต่อ ไม่อย่างนั้นตนเองไม่รู้ว่าจะอดทนได้ไหม ในช่วงเวลาที่สำคัญร่างกายส่วนนั้นยังไม่ฟื้นคืนสู่สภาพเดิม ช่างเร่าร้อนเกินไป ไม่ดี ไม่ดี
หลังจากนรมนลุกขึ้นก็เทน้ำเย็นให้บุริศร์แก้วหนึ่ง
“นี่ ลดความร้อนรุ่ม”
บุริศร์อดรู้สึกน่าขำไม่ได้
“น้ำเย็นสามารถลดความร้อนรุ่มได้เหรอ?”
“ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย พอถูไถได้”
นรมนนั่งห่างจากเขาไกลเล็กน้อย
มองเห็นท่าทางแบบนี้ของนรมน บุริศร์รู้สึกน่าขำ
ผู้หญิงคนนี้กลัวร่างกายที่ยังไม่ฟื้นคืนกลับมาของเขาจะควบคุมตนเองไม่ได้ เขาจะไม่พูดที่มักจะยั่วเย้า พะว้าพะวังในใจตลอดเรื่องแต่งหญิงสารภาพรัก และไม่รู้ว่าควรจะพูดกับเธออย่างไรถึงจะดี
บุริศร์ดื่มน้ำหมดภายในครั้งเดียว
ลูกกระเดือกของเขาเกลิ้ง นรมนกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว
เยี่ยม!
กินน้ำก็ดูน่าสนใจแบบนี้ ยังจะปล่อยให้คนมีชีวิตอยู่หรือเปล่า?
หรือว่าเธอมีความต้องการจริง ๆ รอแทบจะไม่ไหวแล้ว?
นรมนรีบส่ายหน้า และเบือนหน้าหนี ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของบุริศร์ดังขึ้น
“ได้ยินมาว่าคุณจ่ายไปสิบล้านเพื่อซื้อชุดเครื่องมือแพทย์ให้กิจจาที่ตลาดมืด?”
นรมนชะงักไปเล็กน้อย
“ใครมันปากมากมาเล่าให้คุณฟัง? นภดลเหรอ?”
“สำคัญด้วยเหรอ?”
บุริศร์ยิ้มบาง ๆ แววตาเป็นมิตร
“คุณดีกับกิจจาจังเลย”
“แน่นอนอยู่แล้ว เขาคือลูกชายของฉัน ฉันไม่ดีกับเขาแล้วจะให้ดีกับใครล่ะ?ลูกชายเปรียบเหมือนเสื้อคลุมขนมิงค์ของหม่ามี้นะ”
ท่าทางที่เป็นไปโดยธรรมชาติของนรมน บุริศร์เห็นแล้วรู้สึกซาบซึ้งใจ
เขารู้ว่า นรมนเห็นกิจจาเป็นลูกชายแท้ ๆ จริง ๆ
“มิลินล่ะ?”
จู่ ๆ บุริศร์ก็เปลี่ยนหัวข้อ ทำเอานรมนแปลกใจ แต่ก็ตอบอย่างเรียบเฉย “คนเหล่านั้นของเธอมีเรื่องต้องจัดการ คุณก็รู้ ฉันไม่สะดวกที่จะตามไป ฉันจึงกลับมากับนภดล”
“ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ คุณอย่าทำอะไรคนเดียว ผมเป็นห่วง”
ได้ยินว่าบุริศร์ห่วงใยตนเองเช่นนี้ นรมนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เข้าใจแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะตัวติดกับคุณดีไหม?”
“ดี”
บุริศร์กลับตอบอย่างสบาย ๆ
“ไม่อายเลย”
นรมนบ่นพึมพำ แต่ใบหน้ามีรอยยิ้ม
“เอาล่ะ พักมานานแล้ว ออกไปเดินเล่นกับฉันเถอะ แค่แสดงด้านหล่อที่สุดของคุณในฐานะผู้ชายสักหน่อย”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์หัวเราะขึ้นมาทันที
“บัตรธนาคารของผมก็ให้ไปแล้ว คุณจะให้ผมเอาบัตรที่ไหนไปรูด?จะดึงด้านหล่อของผมออกมาอย่างไร?”
“บุริศร์ คุณแกล้งจนต่อหน้าฉันให้มันน้อยหน่อย คุณเอาบัตรธนาคารให้ฉันแล้ว บัตรเครดิตล่ะ?ฉันไม่เชื่อว่าคุณไม่ใช่บัตรเครดิต ไม่เต็มใจจ่ายเงินให้ฉัน คุณคิดจะเก็บเอาไว้ให้บ้านเล็กบ้านน้อยใช่ไหม?หือ?”
นรมนสองมือเท้าสะเอว ท่าทางดูเป็นภรรยาที่เหี้ยมโหด แต่บุริศร์กลับยิ่งหัวเราะหนักกว่าเดิม
“มีบ้านเล็กบ้านน้อยที่ไหน ถึงแม้จะมีก็ตกใจกลัวท่าทางอาจหาญของคุณจนหนีไปหมดแล้ว”
“บุริศร์ คุณกล้าพูดว่าฉันอาจหาญเหรอ ?คุณอยากโดนใช่ไหม?”
นรมนพูดแล้วก็ทำท่าทางจะลงโทษบุริศร์
บุริศร์รีบลุกขึ้นวิ่งออกไปข้างนอก
“สุภาพบุรษตกลงกันด้วยวาจาไม่ใช่ด้วยกำลัง!”
“ฉันเป็นผู้หญิง เป็นผู้หญิงใจแคบด้วย!”
นรมนไล่ตามไปทันที โจมตีไปที่รักแร้ของบุริศร์
ครั้งนี้บุริศร์ไม่ปล่อยให้เธอทำสำเร็จ จับนรมนอุ้มขึ้นมาทันที เดินออกไปข้างนอก
“สวัสดีครับท่านหัวหน้าบุริศร์!”
ทหารคนหนึ่งผ่านมาพอดี นรมนตกใจเสียงที่ดังกังวานจนรีบมุดเข้าไปในอ้อมแขนของบุริศร์
น่าขายหน้าจริง ๆ !
แต่งงานกันมานานแล้ว ยังถูกเขาอุ้มออกมาแบบนี้ แถมยังมีทหารเห็นเข้าอีก มีอะไรจะเศร้าไปกว่าเธอไหม?
นรมนหยิกเอวของบุริศร์ด้วยความโมโห
“อืม!”
บุริศร์ส่งเสียงอู้อี้ พยักหน้าให้ทหาร
ทหารคนนั้นรู้สึกว่าเสียงของบุริศร์แปลกไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สนใจ รีบเดินจากไป
ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย!
ทำให้หัวหน้าเสียเวลาพลอดรักกับภรรยา เขากลัวจะตกที่นั่งลำบากจริง ๆ
บุริศร์เห็นทหารเดินจากไปแล้ว ถึงจะกล่าวเสียงเบา “คุณนายบุริศร์ ช่วงนี้คุณก่อกวนบ่อยจังเลยนะ”
“นี่เรียกว่าการแสดงความรัก”
นรมนพูดด้วยรอยยิ้ม
“หมายความว่าอะไร?”
“ตบคือจูบด่าคือรักไงล่ะ”
นรมนตอบอย่างลื่นไหล
อยู่ดี ๆ บุริศร์ก็เอาหน้าเข้าไปใกล้นรมน กล่าวด้วยรอยยิ้ม “งั้นคืนนี้ให้สามีจูบคุณ รักคุณนะ”
“หือ?”
สมองของนรมนเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
บุริศร์เห็นเธอน่ารักแบบนี้ จึงอดกระซิบข้างหูเธอไม่ได้ นรมนหน้าแดงขึ้นทันที
“บุริศร์ คุณมันไอ้คนบ้า!”
“ฮา ๆ ๆ !”
บุริศร์หัวเราะอย่างมีความสุข
หลังจากเขาอุ้มนรมนเข้าไปในรถ จึงขับรถพานรมนไปเดินเล่นด้วยตนเอง
ความจริงแล้วที่นี่มีสถานที่ที่สามารถเดินเล่นได้ไม่เยอะ แต่นรมนอารมณ์ดีมาก บุริศร์จึงถือโอกาสอยู่ด้วยกันสองต่อสองซึ่งหาได้ยาก
แสงแดดยามบ่ายตกกระทบลงบนร่างกายของนรมน ทำให้ทั้งตัวของเธอเหมือนกับเคลือบไปด้วยสีทอง มุมปากของเธอยกขึ้นเบา ๆ ใบหน้าที่มีรอยยิ้มทำให้บุริศร์มีความสุขเหลือเกิน
นรมนเดินเล่นไปตรงนู้น ตรงนี้เหมือนเป็นเด็ก แต่กลับไม่ได้ซื้ออะไรมาก
บุริศร์รู้ว่าเธอคิดถึงคมทิพย์ จึงพูดกับเธอ “ตรงนั้นมีร้านขายเพชรอยู่ ไปดูไหม?”
“ไม่ว่าฉันจะซื้อเท่าไหร่คุณก็จ่ายให้ใช่ไหม?”
“เงินคืออะไร?เงินคือกระดาษของครอบครัวเรา คุณใช้ไปเถอะ ใช้ไม่หมดผมรู้สึกไม่สบายใจ”
ประโยคนี้ของบุริศร์ทำให้นรมนหัวเราะเบิกบานทันที
“คุณสามีหล่อที่สุด!”
“งั้นต้องให้รางวัลสักหน่อย?”
บุริศร์ยื่นใบหน้าหล่อ ๆ ของตนเองเข้าไป
นรมนก็ไม่งอแงไร้เหตุผล จุ๊ฟที่ใบหน้าของบุริศร์ตรงถนน
ผู้คนรอบตัวที่เดินผ่านไปมาผิวปากทันที
นรมนยังคงหน้าแดงเล็กน้อย บุริศร์กลับยื่นมือออกไปจับมือของเธอ มุมปากโค้งกำลังดี ทำให้คนไม่อาจละสายตาได้
ทั้งสองคนเหมือนคู่รักทั่วไป เดินจูงมือเข้าร้านเพชร
นรมนรู้สึกว่าเพชรที่นี่สวยงามจริง ๆ
เธอสนใจจี้เพชรแฟนซี น่าจะขับผิวของคมทิพย์ได้สวยงามมาก
“คุณสามี อันนี้สวยไหม?”
“สวยดี แต่คุณสวยกว่า”
นรมนรู้สึกดีมากกับการอวยจนเวอร์ของบุริศร์
“ไม่ได้ซื้อให้ตัวเอง ฉันจะซื้อให้คมทิพย์”
“งั้นคุณต้องถามพฤกษ์ ผมไม่ค่อยแน่ใจ”
นรมนหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
อีคิวของบุริศร์นับวันยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้งสองคนเลือกซื้อของไปไม่น้อย
เมื่อบุริศร์กำลังจะรูดบัตรจ่าย สายตาของพนักงานเหมือนจะจับจ้องอยู่ที่บุริศร์
ทันใดนั้นนรมนรู้ไม่สบายใจ
รู้ว่าสามีของเธอดีเลิศ แต่ถูกคนมองอย่างหิวกระหายเช่นนี้เธอรู้สึกอึดอัด
นรมนก้าวขึ้นไปแย่งบัตรเครดิตจากมือบุริศร์และส่งให้
“รูดบัตร!”
พนักงานสาวถูกนรมนบดบังสายตา ก็อดชะงักไปไม่ได้ เพียงแต่มองเห็นท่าทางโกรธนิดหน่อยของนรมน จึงรับบัตรเครดิตมาทำการชำระเงิน
บุริศร์รู้สึกพึงพอใจกับการหึงหวงของนรมนมาก
เมื่อสักสองออกมาจากร้ายเพชร นรมนยังคงรู้สึกโมโหเล็กน้อย
“ต่อจากนี้ออกไปไหนต้องใส่แว่นกันแดด !ไม่สิ ตอนนี้ไปหาซื้อแว่นกันแดดมาใส่เลย”
นรมนไปซื้อแว่นกันแดดมาให้บุริศร์ใส่ด้วยความหึงหวง
หลังจากใส่แล้วนรมนรู้สึกเสียใจ
ผู้ชายคนนี้ใส่แว่นกันแดดแล้วยิ่งดูมีเสน่ห์
เธอขมวดคิ้ว เกือบจะขมวดเป็นสามเส้น
บุริศร์เห็นเธอเป็นเช่นนี้ จึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาเถอะ ซื้อของเสร็จแล้วพวกเราไปจากที่นี่กัน ไปที่ที่มีเพียงแค่เราสองคนดีไหม?”
“มีเพียงแค่เราสองคน?”
แววตาของนรมนเป็นประกายทันที
“อืม”
บุริศร์ลูบไล้เส้นผมของเธออย่างเอาอกเอาใจ
นรมนถึงจะอารมณ์ดีขึ้นมามาก
เมื่อทั้งสองเดินผ่านร้านขายเสื้อ จู่ ๆ นรมนก็หยุดเดิน
“อยากซื้อเสื้อผ้าเหรอ?”
“ไม่ ซื้อให้คุณดีกว่า คืนนี้คุณจะได้เตรียมตัวสารภาพรัก”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์หัวเราะไม่ออก
ถึงแม้เขาจะไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่ตราบใดที่นรมนมีความสุข เขายังคงเดินตามนรมนเข้าไป
นี่คือร้านเสื้อผ้าผู้หญิง
บุริศร์มองนรมนเลือกอย่างไม่ปริปากพูดอะไรออกมา ตนเองทำได้เพียงไว้อาลัยให้แก่ตนเองในใจ
นรมนเลือกชุดราตรีหางปลาส่งให้บุริศร์
มุมปากของบุริศร์กระตุกขึ้นทันที
“คุณคิดว่าผมใส่ได้ไหม?”
“แน่นอน สามีของฉันเท่ขนาดนี้ ใส่อะไรก็ดูดี ถึงแม้สวมชุดผู้หญิงก็ดูดีกว่าผู้หญิง คุณไม่ลองเข้าไปสวมดูเหรอ?”
แววตาของนรมนเต็มไปด้วยความหวัง
คำปฏิเสธของบุริศร์ค้างอยู่ในลำคอ
นรมนยืนกรานเช่นนี้ ดูเหมือนตนเองจะหลบไม่พ้น จะไปต่อหรือถอยหลังก็ตายเหมือนกัน ช่างมันเถอะ
บุริศร์กัดฟัน หยิบชุดราตรีหางปลาเข้าไปในห้องลองเสื้อ
พนักงานของร้านต่างพากันงุนงง
เมื่อนรมนซื้อชุดราตรีหางปลาพวกเขายังคิดว่านรมนจะเป็นคนใส่เอง ทำไมถึงกลายเป็นผู้ชายที่ดูเท่ตรงหน้าเป็นคนลอง?
นรมนไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เธอโบกมือเรียกพนักงานมา “มีวิกผมไหม?”
“มีค่ะ คุณนาย”
“มีเครื่องสำอางไหม?”
“มีค่ะ คุณนาย”
นรมนเห็นพนักงานนำของออกมาเตรียมเรียบร้อย จึงเดินไปหาบุริศร์ที่ห้องลองชุด
บุริศร์ยังคงหยิบชุดราตรีหางปลามองด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง นรมนเปิดประตูห้องลองเสื้อเดินเข้าไป
“คุณสามี ฉันมาช่วยคุณแต่งหน้า”
“ผมปฏิเสธได้ไหม?”
คิ้วของบุริศร์ขมวดเข้าหากันแน่น
“ไม่ได้”
นรมนยิ้มอย่างอวดดี
สุดท้ายบุริศร์ก็ไม่อาจทนเห็นเธอผิดหวังได้ นั่งลงบนเก้าอี้ปล่อยให้นรมนทรมานอย่างว่านอนสอนง่าย
ทั้งแต่งหน้าทั้งใส่วิก จนแม้แต่ปัดมาสคาร่าให้บุริศร์ด้วยซ้ำ ขนตางอนยาวทำให้นรมนเห็นแล้วรู้สึกอิจฉา
ผู้ชายตัวโตคนหนึ่ง ทำไมขนตาถึงได้งอนแบบนี้?
หลังจากนรมนสวมชุดราตรีหางปลาให้บุริศร์ เธอก็อดตะลึงงันไม่ได้