นาวินเห็นโทรศัพท์บุริศร์ดัง ก็รีบยืนขึ้นมา
“พี่ งั้นผมกลับไปเก็บของก่อนนะครับ”
“โอเค ขับรถระวังหน่อยนะ”
บุริศร์พยักหน้า
นาวินหยิบกุญแจรถเดินออกไป
บุริศร์เหลือบมองเบอร์ที่โทรศัพท์ แล้วกดเลื่อนรับสายทันที
“ประธานบุริศร์ ระบบกล้องวงจรปิดทางด้านคุณท่านตนุวรมีบางอย่างเกิดขึ้น”
ชัยยศโทรมา
“ว่ามา”
บุริศร์พูดขึ้นเรียบๆ
ชัยยศพูดเสียงทุ้ม “โทรศัพท์บ้านของคุณท่านตนุวรเพิ่งโทรออกเบอร์หนึ่ง ไม่ใช่เบอร์ในเมืองนี้ ผมสืบตามแล้ว เป็นเบอร์ประเทศFครับ”
“ประเทศFเหรอ?”
คิ้วบุริศร์ขมวดเล็กน้อย
“รู้แล้ว สืบต่อไป”
หลังจากพูดจบ บุริศร์ก็วางสาย
นรมนเดินลงมาจากด้านบน ไม่เห็นนาวินก็โล่งใจ
“นาวินไปแล้วเหรอ?”
“อืม เดี๋ยวย้ายกลับมาตอนกลางคืน ฉันให้หุ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของบริษัทกับเขา”
คำพูดบุริศร์ทำให้นรมนตกตะลึงเล็กน้อย
“ใจกว้างจัง? คุณไม่ได้ติดหนี้เขา คนที่ติดหนี้เขาคือธิดาวีร์”
“ฉันรู้ หุ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์นั่นก็ของธิดาวีร์”
คำพูดบุริศร์ทำให้นรมนตกตะลึงอีกครั้ง
“สามี นี่คุณภายนอกดูดีแต่ข้างในใจร้ายเกินไปไหม?”
“ต่อไปธิดาวีอยู่ในคุกระหว่างประเทศ แบ่งไปก็ไม่ได้ใช้ ให้นาวินดีกว่า ถ้าลูกคลอดออกมาแล้ว นาวินต้องเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งต้องใช้เงินเยอะมาก และตระกูลโตเล็กเราติดหนี้ตระกูลนาคชำนาน ธิดาไม่เข้าใจสถานการณ์เกินไปจริงๆ”
ถึงบุริศร์จะพูดเช่นนี้ แต่อารมณ์ก็ไม่ได้ผันผวนมากนัก
นรมนรู้ว่าเขาหัวใจสลายไปแล้ว
ผิดหวังธิดาอย่างสมบูรณ์
นรมนกลัวเขาจะพูดเรื่องนี้ต่อไป จึงรีบพูดขึ้น “ตอนบ่ายฉันจะไปบ้านคุณตา”
“ตุลยาก่อเรื่องให้สับสนเหรอ?”
คำพูดบุริศร์ทำให้นรมนยิ้มขึ้นมา
“คุณไม่รู้อะไรเลย ตุลยาคนนี้น่ะ ไม่รนหาที่ตายก็ไม่ตายหรอก”
นรมนเล่าเรื่องที่บ้านคุณท่านตนุวรอย่างชัดเจน
หลังจากบุริศร์ฟังจบ ก็พูดขึ้นทันที “เมื่อกี้ชัยยศโทรมาบอกฉัน บอกว่าที่บ้านคุณตามีคนใช้เบอร์โทรศัพท์บ้านติดต่อคนประเทศF คุณว่าจะเป็นคุณตาไหม?”
นรมนตกตะลึงทันที
“เป็นไปได้ไง? ถึงคุณตาจะอยากเจอนงลักษณ์ ก็ไม่มีทางรู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอ ถึงให้คนไปสืบ คุณว่านงลักษณ์แกล้งตายมาตั้งหลายปี จะใช้ชื่อจริงของตัวเองเปิดซิมโทรศัพท์เหรอ? ถ้าไม่มีซิมโทรศัพท์ชื่อนงลักษณ์ คุณตาจะสืบเจอเบอร์โทรศัพท์นงลักษณ์ได้ยังไง?”
คำพูดนรมนทำให้ดวงตาบุริศร์หรี่ลง
“งั้นเหลือความเป็นไปได้เดียว ตุลยาเป็นคนโทร”
“เธอเหรอ? เธอรู้เบอร์โทรศัพท์ของนงลักษณ์ได้ยังไง?”
นรมนรู้สึกน่าขำเล็กน้อย
บุริศร์กลับพูดขึ้นเรียบๆ “เธอไม่รู้เบอร์โทรศัพท์นงลักษณ์ แต่มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าเธอจะรู้เบอร์กล้าณรงค์ อย่าลืมนะ ครั้งหนึ่งชาวีเคยร่วมมือกับกล้าณรงค์”
คำพูดนี้ปลุกนรมนให้ตื่นทันที
นี่ตุลยาตั้งใจจะร่วมมือกับกล้าณรงค์จริงๆ เพื่อจัดการเธอกับคุณท่านตนุวรเหรอ?
สีหน้านรมนหนักอึ้งขึ้น
“สืบเบอร์โทรศัพท์อีกฝ่ายได้ไหม?”
“ฉันลองดูได้”
ในเมื่อบุริศร์พูดคำนี้ แน่นอนว่าจัดการได้
ดวงตานรมนมีความไม่แยแส
“ถ้าตุลยามันร่วมมือกับกล้าณรงค์จริงๆ งั้นเธอก็ใกล้จะรนหาที่ตายแล้ว”
“แค่คนคนเดียวไม่ต้องใช้ความพยายามมากหรอก ฉันจัดการเองก็พอ”
คำพูดบุริศร์ทำให้นรมนส่ายหน้า
“ไม่ ฉันต้องทำเอง ยังไงแล้วเธอก็เป็นน้องสาวแท้ๆ ของฉัน ถึงจะพาเธอไปสู่ความตาย ก็ต้องให้เธอแพ้อย่างสุดจิตสุดใจ”
นรมนพูดแบบนี้ บุริศร์ก็ทำได้แค่เคารพความคิดของเธอ
“เอาล่ะ ไม่พูดเกี่ยวกับเธอแล้ว คืนนี้อยากกินอะไร?”
“แล้วแต่เลย”
นรมนรู้สึกค่อนข้างเหนื่อย
เธอพิงโซฟา พูดเสียงทุ้ม “วันนี้ตอนบ่ายฉันไปหลายที่ และปาณีบอกฉันว่าเธอสงสัยว่าตุลยาจะวางยาพิษคุณตา แต่ครั้งนี้หล่อนฉลาด ไม่ได้วางมันไว้โจ่งแจ้ง แต่ใช้กลิ่นสองชนิดข่มกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย”
นรมนเล่าคำพูดปาณีอีกครั้ง
บุริศร์ฟังจบดวงตาก็มีความโกรธแค้น
“ไม่ว่ายังไง คุณตาก็เป็นคุณตาแท้ๆ ของเธอ ไม่คิดว่าเธอจิตใจโหดเหี้ยมแบบนี้?”
“ตุลยาโดนชาวีทำให้เสียคนไปแล้ว ไม่รู้จักอะไรผิดอะไรถูกต้องนานแล้ว มีแค่ความสุขกับความทุกข์ ใครทำให้เธอทุกข์ เธอก็ต้องการชีวิตคนนั้น ผู้หญิงคนนี้ถูกเลี้ยงให้เสียตั้งแต่แรกแล้ว”
นรมนส่ายหน้า ถอนหายใจเล็กน้อย
ว่ากันว่าคนที่สนิทมากที่สุดในโลกก็คือญาติทางสายเลือด แต่ญาติอย่างตุลยาคนนี้ เธอชอบไม่ลงจริงๆ
ถ้าคิมยังมีชีวิตอยู่ บางทีเธออาจจะคำนึงถึงความรู้สึกคิม ตอนนี้คิมไม่อยู่แล้ว เธอก็ไม่อยากให้ตัวเองได้รับความไม่เป็นธรรม ยิ่งไม่อยากทำร้ายคนใกล้ตัวที่สุดเพราะสิ่งที่เรียกว่าความเห็นอกเห็นใจและความใจดีของตัวเอง
บุริศร์ดึงมือเธอมาวางไว้บนฝ่ามือตัวเอง
ฝ่ามือเขาแห้งและอบอุ่น ทำให้รู้สึกอบอุ่นมาก นรมนรู้สึกตัวเองได้รับการรักษาในพริบตาเดียว
“สามี คุณเป็นผู้ชายอบอุ่นจริงๆ”
“งั้นเหรอ? คนนอกบอกว่าฉันเย็นชากันหมด”
บุริศร์เพิ่งได้ยินคำว่าผู้ชายอบอุ่นจากปากภรรยาเป็นครั้งแรก
ผู้ชายอบอุ่นเหรอ?
เขาเป็นงั้นเหรอ?
มุมปากบุริศร์ยกขึ้นมาเบาๆ โดยไม่รู้ตัว
นรมนรีบพูดอวยจนโอเวอร์ “ใครพูด? สามีฉันอบอุ่นที่สุด คนพวกนั้นไม่รู้จักคุณต่างหาก”
“เอาล่ะ ปากหวานแบบนี้ พูดมาสิ อยากให้ฉันทำอะไร?”
นรมนยิ้มขึ้นมาทันที
“ปวดขามากเลย”
“สำออยแล้ว”
ถึงบุริศร์จะพูดเช่นนี้ แต่ก็ยังปล่อยมือนรมน ม้วนแขนเสื้อขึ้น ยื่นมือไปนวดขานรมน
“โอ้ว สบายจัง แต่คุณเบาหน่อย”
นรมนร้องขึ้นมา เสียงนั้นเย้ายวนแท้ๆ เกือบทำให้บุริศร์ควบคุมตัวเองไม่อยู่
“กลางวันแสกๆ คุณอย่าร้องยั่วยวนแบบนี้ได้ไหม? ถ้าต้องการก็พูดให้มันชัดๆ ฉันเกือบจะได้แล้วนะ”
บุริศร์พูดคำนี้ไม่ดัง มีแค่สองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
หน้านรมนแดงขึ้นมาทันที
“คุณมันหน้าไม่อาย”
“ฉันได้รับการอนุญาตจากประเทศ มีการสนับสนุนของกฎหมาย หน้าไม่อายได้ยังไง?”
บุริศร์ถามกลับทำให้นรมนไม่มีแรงที่จะหักล้างจริงๆ
เธอเบือนหน้าหนี แต่มือบุริศร์ยังนวดที่ขาเธอ มันสบายเป็นพิเศษเลยจริงๆ
เหมือนจะพึมพำออกมาทำยังไงดี?
นรมนกัดปากอดทนไว้ ไม่สนใจสีหน้าแววตาของบุริศร์ที่เปลี่ยนไปเลยสักนิด
ผู้หญิงคนนี้จงใจใช่ไหม?
ทั้งร้องทั้งกัดปาก ตอนนี้ยังมองตนแล้วครวญครางอีก นี่มันความปรารถนายากที่จะเติมเต็มจริงๆ?
บุริศร์กระแอมไอ แล้วพูดเสียงทุ้ม “คืนนี้ลูกๆ ไม่รู้กลับมาตอนไหน ไม่งั้นเดี๋ยวเรากลับห้องไป……”
“หยุดได้แล้ว”
นรมนรีบชักขากลับมา คอแดงหมดแล้ว
“คุณรีบไปสืบเบอร์กล้าณรงค์ที่ตุลยาโทรหาดีกว่าว่าเป็นเบอร์อะไร”
ขณะที่พูดเธอก็ลุกขึ้นจะเดินไป แต่บุริศร์จับข้อมือเอาไว้
“สั่งให้ฉันทำงานก็ควรให้รางวัลหน่อยไม่ใช่เหรอ?”
เห็นบุริศร์ทำท่าขอจูบ นรมนก็ย่อตัวลงไปอย่างอายๆ นิดหน่อย เพื่อหอมแก้มบุริศร์หนึ่งที
ตอนแรกนึกว่าทำแบบนี้แล้วจะจบ ใครจะไปคิดว่าบุริศร์จะดึงจนนรมนเสียการทรงตัวทันที ล้มลงไปในอ้อมแขนบุริศร์
“คุณ……อื้อ……”
เธอยังไม่ได้พูดอะไรออกไป ก็ถูกบุริศร์จับด้านหลังศีรษะ กดจูบเอาแต่ใจและร้อนแรงลงไปทันที
นรมนรู้สึกตัวเองจะหายใจไม่ออกแล้ว
ชายคนนี้คงไม่อยากได้เธอตรงนี้หรอกนะ?
สมองนรมนสับสนนิดหน่อย ออกซิเจนที่หน้าอกก็เหลือไม่มากแล้ว
ขณะที่เธอแทบหมดลมหายใจ บุริศร์ถึงปล่อยเธอ
“นี่ต่างหากรางวัล จำไว้นะ”
เสียงบุริศร์แหบพร่า แววตาเปล่งประกาย ทำให้คนจมลงไปอย่างอดไม่ได้
เห็นท่าทางสวยงามน่าทึ่งของนรมนแบบนี้ บุริศร์ก็พึงพอใจอย่างมาก
“ยังต้องการเหรอ? ฉันไม่ถือสานะ ไม่งั้นเรากลับห้องกันก่อนไหม?”
นรมนได้สติกลับมาทันที ผลักบุริศร์ออกไป
“คุณไปให้พ้นเลย”
พูดจบเธอก็ขึ้นไปข้างบนเหมือนวิ่งหนี
มองแผ่นหลังนรมน บุริศร์รู้สึกว่าภรรยาตัวเองน่ารักเกินไปจริงๆ
ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้นะ?
สองคู่รักที่แต่งงานกันมานานแต่ยังเขินอายแบบนี้ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
แต่นรมนไปแล้ว บุริศร์ก็ไม่ได้ว่าง หยิบโน้ตบุ๊กออกมาทันที เชื่อมเส้นทางของบ้านคุณท่านตนุวร นิ้วเรียวยาวเคาะรหัสบนแป้นพิมพ์
ไม่นานนักก็สืบสิ่งที่เขาต้องการได้แล้ว
บุริศร์เห็นว่าตุลยาติดต่อกล้าณรงค์อย่างที่คิดไว้ ดวงตาสองข้างนั้นก็หนักอึ้งอย่างช่วยไม่ได้
รนหาที่ตายจริงๆ สินะ!
บุริศร์หยิบเบอร์โทรศัพท์ไปที่ห้องนอน
นรมนกำลังวิดีโอคอลกับพริมาอยู่ หารือกันเกี่ยวกับเรื่องบริษัทผลิตภาพยนตร์
“ทางด้านราเชนยังไม่ตอบฉันกลับ อัลบั้มทางด้านคมทิพย์MTVปล่อยออกมาก่อน รอทางนั้นมีข่าวคราวค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้หลักๆ คือณัจยา ละครเรื่องนี้ฉันดูแล้ว บทละครไม่เลว แค่การแสดงของณัจยาได้มาตรฐาน ก็สามารถเดินขึ้นไปได้อีกขั้น”
นรมนได้ยินเสียงเคาะประตู หันศีรษะไปเห็นบุริศร์ก็หารือกับพริมาต่อ
พริมาก็รู้ว่านรมนพูดถูก จึงพูดเสียงทุ้ม “ทางด้านณัจยาไม่มีปัญหาแล้ว ฉันหาผู้จัดการจัดเตรียมทั้งหมดแล้ว ตอนนี้มีนักแสดงอีกสองคนต้องเซ็นสัญญาบริษัทเรา ประธานนรมนคุณว่าเซ็นได้ไหม?”
นรมนตกตะลึงทันที นึกถึงตัวเองตกเป็นเป้า ถึงจะเป็นบริษัทใหม่ แต่เพราะเป็นคนใหม่ เมื่อเข้าวงการบันเทิงไปแล้ว ก็ไม่รู้ไปขโมยผลประโยชน์ใคร ถึงได้เจอเรื่องณัจยาแบบนี้
ครั้งนี้โชคดี สามารถเปลี่ยนเหตุร้ายให้กลายเป็นดีได้ทันเวลา แต่ครั้งหน้าล่ะ?
คิ้วนรมนขมวดเล็กน้อย คิดสักพักแล้วพูดขึ้น “อย่าเพิ่งเซ็น สืบให้รู้เรื่องก่อนว่าเบื้องหลังนักแสดงสองคนนี้มีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับพื้นเพยังไงค่อยว่ากัน”
“แต่นักแสดงบริษัทเราน้อยเกินไป แบบนี้มันไม่เหมาะกับการพัฒนา”
พริมาค่อนข้างเป็นทุกข์
นรมนพูดขึ้นทันที “ไปโรงเรียนเพื่อเซ็นสัญญาคนใหม่ คนใหม่จะสะอาดที่สุด และเซ็นสัญญาง่าย เดี๋ยวไปขุดหาผู้จัดการดีๆ มาสองสามคน ไม่กลัวว่าจะไม่สำเร็จ ทางด้านทรัพยากรฉันจะคิดหาวิธี”
“ได้ค่ะ”
พริมาเห็นนรมนมีแผนการ ก็วางสายวิดีโอคอล
บุริศร์เห็นเธอวางสายวิดีโอคอลแล้ว ก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “ดูเป็นเจ้านายขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ”
“ก็จริง เฝ้าท่านประธานใหญ่บุริศร์ ยังไงก็ต้องเรียนรู้มาบ้างนิดหน่อยไม่ใช่เหรอคะ?”
นรมนอวยจนโอเวอร์
บุริศร์ค่อนข้างรู้สึกดี ส่งเบอร์โทรศัพท์ในมือให้
“อย่างที่คุณคิดไว้จริงๆ ตุลยาติดต่อกับกล้าณรงค์ นี่เบอร์โทรศัพท์กล้าณรงค์”
เห็นเบอร์ในมือบุริศร์ สีหน้านรมนก็หนักอึ้งขึ้น
ในเมื่อตุลยารนหาที่ตายแบบนี้ เธอไม่ทำให้หล่อนสมหวังก็เหมือนทำผิดกับตัวเองแล้ว