แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1099

ตอนที่ 1099

นรมนเงยหน้าขึ้นมากวาดตาดูทีหนึ่ง แล้วเห็นขวัญตายืนอยู่ตรงนั้น เหมือนกับว่าโดนตรึงไว้ยังไงอย่างงั้น

เธอพูดกับบุริศร์ไปไม่กี่ประโยค จากนั้นก็มาถึงข้างกายขวัญตา

“มีอะไรเหรอ? ไหนบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำไง? ทำไมถึงได้ยืนอึ้งอยู่ที่นี่ล่ะ?”

แล้วขวัญตาถึงจะตื่นจะเพิ่งตื่นจะภวังค์ แต่สีหน้ากลับดูไม่ได้เลย

“คือเจตต์”

สำหรับนรมนแล้ว ขวัญตารู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดบัง และอีกอย่างเธอก็หวังว่านรมนจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ถึงแม้ว่าเธอจะดูแข็งแกร่ง และเป็นฝ่ายหันไปจีบเจตต์ก่อน แต่ว่ามีเรื่องบางเรื่องเธอก้าวผ่านไปไม่ได้จริง ๆ

หัวคิ้วของนรมนก็ขมวดขึ้นมาครู่หนึ่งเหมือนกัน

เจตต์มาทำอะไรที่นี่?

เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องที่เทย่าโทรศัพท์หาเจตต์

ที่เขามาที่นี่อาจจะเพื่อมาเจอเทย่าก็ได้มั้ง?

นัยน์ตาของนรมนมีแววเยือกเย็นพาดผ่านเสี้ยวหนึ่ง

ถ้าเกิดว่าเจตต์ถูกผิดไม่แบ่งละก็ เธอก็ไม่รังเกียจที่จะเตะต่อยผู้ชายคนนี้ให้หนักสักรอบหรอกนะ

“คุณรอเดี๋ยวนะ”

นรมนกลับมาที่ข้างกายบุริศร์ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “มีทางที่จะเปลี่ยนไปอยู่ห้องส่วนตัวที่อยู่ข้าง ๆ ห้อง202สักหน่อยไหมคะ?”

ถึงแม้บุริศร์จะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ในเมื่อนรมนพูดมาแบบนี้แล้ว และท่าทีของขวัญตาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวผมโทรศัพท์ไปลองดูก่อนนะ”

“ได้ค่ะ”

นรมนรู้ ด้วยความสามารถของบุริศร์ จะเปลี่ยนไปห้องส่วนตัวห้องหนึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไร

แล้วก็เป็นเช่นนั้น เพียงไม่กี่นาที บุริศร์ก็จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว

นรมนจูงมือขวัญตามาที่ห้องส่วนตัวห้องข้าง ๆ

พอทั้งสามคนเพิ่งจะนั่งลง ก็ได้ยินน้ำเสียงที่เย็นชาของเจตต์ลอยมา

“มีเรื่องอะไรจำเป็นจะต้องพูดซึ่ง ๆ หน้ากันด้วย?”

“เจตต์ ฉันได้ยินมาว่าแกเกิดอุบัติเหตุขึ้น เป็นยังไงบ้าง? ดีขึ้นบ้างหรือยัง?”

ตอนที่เสียงของเทย่าดังขึ้นมานั้น ตัวของนรมนและบุริศร์ต่างก็สั่นขึ้นทีหนึ่ง

คือเทย่าจริง ๆ ด้วย!

สีหน้าของบุริศร์ขรึมลงไปหลายส่วน

นรมนส่งสัญญาณให้เขาว่าอย่าเพิ่งรีบร้อนไป

มือของขวัญตากำไว้ด้วยกันอย่างแน่นหนา บนใบหน้าดูร้อนรนเป็นอย่างมาก

สำหรับเจตต์แล้วเทย่าเป็นปมในใจอย่างหนึ่ง ในตอนที่เจตต์สะเทือนใจแล้วออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศนั้น น่าจะหวังว่าจะได้เจอกับเทย่าอยู่มั้ง?

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เจอ จึงได้แต่ต้องกลับมา

พอมาวันนี้เทย่าโทรศัพท์หาเขา แล้วยังนัดเขามาเจอหน้ากันที่นี่ แต่เจตต์กลับไม่บอกกับเธอสักคำ

ถึงแม้จะรู้ว่าที่ตัวเองอยู่กับเขานั้นไม่ได้เป็นเพราะว่าความรัก แต่ว่าขวัญตาก็ยังเจ็บปวดมากจริง ๆ

น้ำเสียงของเจตต์แฝงไว้ด้วยความเยาะเย้ยเสี้ยวหนึ่ง

“ผมดีหรือไม่ดีคุณไม่มีตาเหรอ? มองไม่เห็นเหรอ?”

คำพูดนี้พูดไปจนเทย่าอึ้งไปครู่หนึ่ง

ในความทรงจำของเธอ เจตต์ไม่เคยพูดกับเธอแบบนี้เลยนะ น้ำเสียงแบบนี้ปกติแล้วจะเป็นน้ำเสียงที่ใช้พูดกับพรรษา ทำไมถึงมาใช้อยู่บนตัวเธอได้ล่ะ?

หัวคิ้วของเทย่าขมวดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “เจตต์ นี่มันท่าทีอะไรของแก?”

“คุณอยากจะให้ผมมีท่าทีอะไรต่อคุณ? หมากตัวหนึ่งที่แม้แต่เกิดมาก็ยังโดนแม่ของตัวเองวางแผน คุณยังอยากจะให้ผมใช้ท่าทีอะไรคุยกับคุณอีก? ต้องดูแลคุณเป็นพิเศษ เป็นแม่ที่ดีลูกที่กตัญญูเหมือนอย่างเมื่อก่อนเหรอ? คุณไม่รู้สึกว่ามันจอมปลอมมากเกินไปเหรอ?”

เจตต์หัวเราะเสียงเย็นอย่างเยาะเย้ยขึ้น

ในที่สุดสีหน้าของเทย่าก็ขรึมลงมา

“เพื่อนรมนแค่คนเดียวแกถึงกับทำอย่างนี้กับแม่ของตัวเองเลยเหรอ พ่อของแกสอนแกมาอย่างนี้เหรอ?”

“ผมคิดว่าความทรงจำของคุณคงจะผิดเพี้ยนไปนะ พรรษาหรือจะสั่งสอนผม? คุณคิดว่าเป็นไปได้เหรอ? หลายปีมานี้ผมนึกมาตลอดว่าคุณต่างหากที่เป็นความอบอุ่นของผม แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าคุณจะแทงผมเกือบตายทีหนึ่ง ตอนนี้พูดเรื่องพวกนี้ก็ไม่มีความหมายแล้ว คุณมาหาผมมีเรื่องอะไร? รีบพูดมาเถอะ”

น้ำเสียงของเจตต์ราบเรียบ ฟังอารมณ์ใด ๆ ไม่ออกเลย

เทย่ายังอยากจะสั่งสอนเจตต์ต่ออีก แต่ว่าพอเห็นท่าทางของเขาในตอนนี้แล้วก็ยั้งปากไป

เธอเงียบขรึมไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ได้ยินมาว่าแกจะแต่งงานแล้ว? อีกฝ่ายเป็นลูกสาวตระกูลปวนะฤทธิ์? ตระกูลปวนะฤทธิ์ที่เป็นจ้าวแห่งทะเลนั่นเหรอ?”

ดวงตาของเจตต์หรี่ลงเล็กน้อย แล้วก็เยาะเย้ยขึ้นมาทันที

“ยังไง? คุณอยากจะบีบบังคับเอาอะไรกับตระกูลปวนะฤทธิ์อีก? หรือว่าคุณรู้สึกว่าให้ลูกชายตัวเองไปเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านเขา แล้วให้ตระกูลปวนะฤทธิ์ให้อะไรคุณหน่อยงั้นเหรอ?”

“นี่แกพูดอะไรกันเนี่ย!”

เทย่าปัดเพรี้ยงทีหนึ่งจนแก้วชาหล่นไปเลย

เมื่อก่อนตอนที่เธอแกล้งบ้าก็มักจะขว้างปาข้าวของ แต่ตอนนั้นเจตต์รู้สึกว่าเธอน่าสงสารมาก ขอแค่ไม่ทำร้ายโดนตัวเอง จะเป็นยังไงก็ได้ แต่พอตอนนี้เห็นเทย่ายังคงขว้างปาข้าวของอยู่ เจตต์กลับรู้สึกประชดประชันแปลก ๆ

“ยังไง? ผมพูดแทงใจคุณเหรอ? คุณหลอกใช้ผมเสร็จ ก็อยากจะมาหลอกใช้ภรรยาผมอีก ใครให้หน้าคุณ ให้คุณรู้สึกว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่คิด? คุณคลอดผมมา คุณหลอกใช้ผมไปก็ช่างเถอะ แต่ว่าขวัญตาไม่ใช่ลูกสาวของคุณ คุณไม่มีอำนาจ และไม่มีสิทธิ์มาหวังผลกับเธอด้วย! เศษเสี้ยวเดียวก็ไม่ได้!”

คำพูดของเจตต์ทำให้เทย่าสะอึกไปมากพอสมควร แต่กลับทำให้ดวงตาของขวัญตามีน้ำตาระรื่นขึ้นมาชั้นหนึ่ง

เขากลับปกป้องตัวเอง!

นรมนกับบุริศร์เองก็โล่งอกไปได้เปลาะหนึ่ง

ยังดีที่เจ้าชั่วเจตต์ยังพอมีหัวสมองอยู่บ้าง ยังรู้จักรักใคร่ภรรยาตัวเองอยู่บ้าง ไม่งั้นละก็ดูซิว่าต่อไปเธอจะไปจัดการเขายังไง

เทย่าโกรธจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้น และแทบจะหัวใจวายตายไปแล้ว

เธอถลึงตาจ้องมองเจตต์ แล้วกลับพบว่าลูกชายคนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วจริง ๆ

“ไหนแกชอบแต่นรมนไม่ใช่เหรอ? แล้วสนใจลูกสาวบ้านตระกูลปวนะฤทธิ์ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”

“ผมจะชอบใครก็ไม่เกี่ยวกับคุณ แล้วอีกอย่าง คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่ชอบขวัญตา? คุณคิดว่าถ้าผมไม่ชอบเธอแล้วจะแต่งงานกับเธอเหรอ? ผมไม่ใช่คนที่แบบว่าแต่งแบบถู ๆ ไถ ๆ ไปเถอะหรอกนะ ผมไม่เหมือนคุณ คนที่ไม่รักผมไม่มีทางแต่งงานด้วยแน่นอน!”

คำพูดประโยคนี้ของเจตต์ทำให้ขวัญตาลืมตาโตขึ้นมาทันทีเลย

นี่เธอได้ยินอะไรกันเนี่ย?

นรมนเองก็รู้สึกดีใจขึ้นเล็กน้อย

ดูท่าเจตต์มีความรู้สึกกับขวัญตานั้นจะเป็นความจริงอยู่

ดีจังเลย!

แต่เทย่ากลับโมโหจนแทบตาย

“รักคนคนหนึ่ง ไม่ควรจะต้องเริ่มตั้งแต่ต้นไปจนจบเหรอ?”

“ไม่ใช่พรหมลิขิตของผม แล้วจะให้ผมรอจนตายไปทั้งชีวิตเหรอ? นรมนเป็นน้องสาวของผม เป็นความสัมพันธ์ที่ถึงจะตีจนกระดูกหักและเอ็นก็ยังเชื่อมต่อกันอยู่แบบนั้น และตั้งแต่ที่ผมคิดจะเริ่มต้นมีความรักกับนิตาเป็นต้นมา ผมก็วางความรู้สึกฉันชู้สาวกับเธอลงแล้ว แต่ว่าเธอเป็นญาติของผมอยู่ คุณก็อย่าคิดที่จะแตะต้องตัวเธอเด็ดขาด”

คำพูดนี้ของเจตต์พูดได้หยาบมาก

เทย่าโกรธจนหัวเราะแล้ว

“ฉันคลอดแกมา แต่แกกลับช่วยคนนอกแล้วพูดกับฉันแบบนี้? ฉันไม่สนว่าในใจแกจะคิดยังไง แต่แกฟังฉันให้ดีนะ ถ้าขวัญตาอยากจะมาเป็นลูกสะใภ้ของฉัน ก็จำเป็นจะต้องช่วยฉันอย่างหนึ่ง ไม่งั้นละก็เธอก็อย่าหวังว่าจะได้เข้าประตูตระกูลรัตติกรวรกุลเลย”

“เหมือนกับว่าคุณนายของตระกูลรัตติกรวรกุลในตอนนี้จะไม่ใช่คุณนะ”

คำพูดนี้ของเจตต์จี้ใจดำแล้ว

สีหน้าของเทย่ามืดขรึมลงมา

เจตต์กลับพูดขึ้นอย่างไม่สนใจสักนิดเลยว่า “ผมขอเตือนคุณว่ารีบไปจากที่นี่เถอะ ก่อนที่ผมจะมาได้แจ้งตำรวจแล้ว เดี๋ยวตำรวจก็มาถึงอย่างรวดเร็วแล้ว คุณเป็นนักโทษหลบหนี บนตัวยังมีคดีอยู่ ถ้าไม่อยากจะจนมุมอยู่ที่นี่ก็รีบจากไปซะ ผมไม่สนว่าคุณกำลังวางแผนอะไรอยู่ แต่งานแต่งของผมคุณอย่างหวังว่าจะได้ใช้ประโยชน์เลย ยิ่งอย่ามาคิดจับจ้องภรรยาของผม และเห็นแก่บุญคุณที่คุณคลอดผมมา ผมก็จะพูดถึงตรงนี้ สำหรับเส้นทางต่อไปจะเดินยังไงนั้น คุณก็ดูเอาเองละกัน”

“แกว่าอะไรนะ? แกนี่เจ้าลูกทรพี!”

เทย่าแทบอยากจะเหนี่ยวไกปืนยิงเจ้าลูกอกตัญญูนี่ให้ตาย แต่ว่าที่ไม่ไกลกลับมีเสียงไซเรนตำรวจดังขึ้นมาแล้ว

เจตต์แจ้งตำรวจริง ๆ เหรอ?

ความคิดนี้กะพริบผ่านไปในหัวของเทย่า แต่ว่าก็ไม่ทันได้คิดวิเคราะห์อะไรแล้ว เธอรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็กระโดดออกไปจากหน้าต่างชั้นสองอย่างรวดเร็ว

มุมปากของเจตต์เกิดรอยยิ้มขมขื่นขึ้นมาอันหนึ่ง

ตอนนี้ขวัญตาแทบอยากจะวิ่งไปกอดเจตต์ แต่กลับโดนนรมนรั้งเอาไว้ซะก่อน

“ตอนนี้ถ้าคุณไปก็ทำให้เขารู้แล้วนะซิว่าคุณได้ยินหมดทุกอย่างแล้ว? จะพูดว่าบังเอิญเจอก็จะบังเอิญเกินไปหน่อยไหม ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้น่าจะเป็นช่วงที่เขาอ่อนแอที่สุด และก็น่าจะไม่อยากให้คุณเห็นเขาในสภาพแบบนี้ด้วย”

ยังไงนรมนก็ยังเข้าใจเจตต์อยู่

ตอนนี้ในใจของเจตต์เจ็บปวดแทบตาย เขาอยู่ตัวคนเดียวแล้วจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบอย่างแรงทีหนึ่ง

มีแม่แบบเทย่านี้ทำให้เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี เขาไม่อยากจะส่งเทย่าเข้าคุก แต่ว่าเทย่าล่องลอยอยู่ข้างนอกวันหนึ่ง นรมนกับขวัญตาก็จะเจอกับอันตรายมากขึ้นส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะตอนนี้เทย่ายังหันเหความสนใจมาที่ตัวขวัญตาแล้วด้วย เจตต์รู้สึกเจ็บปวดมากจริง ๆ

ทำไมเทย่าถึงได้เห็นแก่ตัวขนาดนี้นะ?

ทำไมถึงได้ไม่คิดเผื่อเขาที่เป็นลูกชายคนนี้หน่อยเลย?

แต่ว่าทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงได้ไม่มีคำตอบสักอันเลย

ขวัญตาจ้องมองไปฝั่งตรงข้ามอย่างเป็นกังวล แล้วตอนนี้ก็แทบอยากจะไปปลอบใจเขาสักหน่อยจริง ๆ ผู้ชายคนนี้ทำให้คนปวดใจมากจริง ๆ แต่ว่าเธอทำไม่ได้

นรมนพูดถูก เทย่าเป็นรอยแผลเป็นในใจของเจตต์ แล้ววันนี้เทย่าก็มาแกะแผลเป็นนี่ออกเองกับมือ เลือดสด ๆ ไหลอาบ น่าอนาถเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเขาจะต้องไม่อยากให้ตัวเองเห็นแน่

พอเจอเข้ากับเรื่องแบบนี้แล้ว ทั้งขวัญตาเองก็ดี นรมนเองก็ช่าง ต่างก็ไม่มีอารมณ์กินข้าวแล้ว

นรมนพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “พวกเรากลับกันก่อนนะ คุณ……”

“ฉันขอนั่งอยู่ที่นี่สักพัก”

ขวัญตาไม่อยากจะไป

เพราะว่าเจตต์ยังอยู่ที่นี่ เธอไม่วางใจ

นรมนพยักหน้าเล็กน้อย แน่นอนว่ารู้ความในใจของเธออยู่แล้ว และไม่พูดอะไรอีก แล้วก็จูงมือบุริศร์จากไปเลย

ข้างนอกมีรถจากสถานีตำรวจอยู่ทุกที่ เหมือนกับว่ากำลังค้นหาคนอยู่ ดูท่าเจตต์จะแจ้งตำรวจแล้วจริง ๆ

นรมนรู้ ที่เจตต์ทำถึงขั้นนี้นั้นไม่ง่ายเลย ในเมื่อคนคนนั้นคือแม่ที่ตัวเองเป็นให้ความสนใจมาตลอด

เธอถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง

บุริศร์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เจตต์เป็นคนที่น่าเชื่อถือได้คนหนึ่ง ถ้าหากว่าเขาตัวคนเดียวยังพูดได้ แต่ว่าตอนนี้เขาจะเป็นสามีของคนอื่นแล้ว จะไม่คิดถึงขวัญตาเลยก็ไม่ได้ และอีกอย่างในคำพูดของเทย่าเมื่อกี้ก็พูดแล้วว่า เหมือนกับว่าเธอกำลังจะเล็งตระกูลปวนะฤทธิ์ไว้แล้ว จุดนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

“ธุรกิจหลักของตระกูลปวนะฤทธิ์ล้วนอยู่ในทะเล หรือว่าเทย่าอยากจะใช้เส้นทางเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์มาทำอะไรเหรอ?”

หัวคิ้วของนรมนขมวดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

จะปีใหม่อยู่แล้ว พวกภูตผีปีศาจพวกนี้ตกลงจะจบหรือไม่จบ?

หรือว่าปีใหม่อย่างนี้ยังจะต้องมาจับปีศาจอีกเหรอ?

พอคิดมาถึงตรงนี้แล้วในใจของเธอก็ไม่สบายใจมากเลย

“เทย่าคนนี้หนีไปได้ตั้งแต่คราวที่แล้ว ยังมีความกล้ากลับมาอีก ไม่กลัวว่าจะโดนจับได้จริง ๆ เหรอ?”

“ในเมื่อกล้ากลับมา ก็จะต้องมีแผนสำรองแน่ อาจจะไม่ใช่แค่เทย่าที่กลับมาคนเดียว ช่วงนี้คุณก็ระวังตัวหน่อย ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็อย่างวิ่งออกมาข้างนอกไปเรื่อย”

บุริศร์รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย

นรมนกลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันจะไม่ไปไหนเลยค่ะ ฉันจะกลับไปอยู่ที่บ้านคุณตา จะได้ย้อนวันวานกับตุลยาดี ๆ สักหน่อย ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้คุณตาฝึกฝนเธอไปจนเป็นยังไงบ้างแล้ว”

พอนึกถึงตุลยา บุริศร์ก็หัวเราะขึ้นมาทันทีเลย

สามารถให้คุณท่านตนุวรจัดการกับตุลยาได้ นี่ก็ถือได้ว่าเป็นความคิดที่แปลกประหลาดของนรมนแล้ว

“อ๋อใช่แล้ว ทางด้านไมค์……”

“เขาไม่เป็นไร ผมได้ติดต่อเขาแล้ว พอได้รับรู้การกระทำทั้งหมดของตุลยาแล้ว ไมค์ก็ถือได้ว่าตายใจอย่างแน่นอนแล้ว เขาได้กลับไปประเทศแล้ว สำหรับจุดจบของตุลยาเขาก็ไม่อยากรู้ บ้านเขาได้หาคู่ดูตัวไว้ให้เขา ตอนแรกเขาก็ต่อต้านเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้บอกว่าจะกลับไปดูตัวแล้ว ถ้าหากว่ารู้สึกดีล่ะก็ ก็จะลองคบหาดูใจกันดู ไม่แน่อีกไม่นานก็อาจจะแต่งงานแล้วมั้ง”

คำพูดของบุริศร์ถือได้ว่าทำให้นรมนวางใจลงได้สักที

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท