ทางด้านธรณีก็รู้สึกผิดนิดหน่อย ในขณะเดียวกันก็เป็นห่วงเล็กน้อย
“เมื่อกี้ยังอยู่เลย ตอนนี้ไม่รู้ไปไหนแล้ว เดี๋ยวฉันไปตามหา”
พูดจบธรณีก็วางสายไป
หัวใจนรมนจะบินไปแล้ว แต่อย่างไรแล้วข้างหน้ารถติดหนักมาก เธอลงรถทันที แล้ววิ่งไปที่ร้านอาหาร
ทางด้านกมลไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ใหญ่สองสามคนกำลังพลิกฟ้าเพื่อตามหาเธอ
เธอแค่เห็นเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งกำลังเล่นเปียโนบนเวที เล่นได้ไพเราะมากเลย
และเขาก็หน้าตาดีด้วย
กมลถูกดึงดูดไปเองโดยไม่รู้ตัว
เธอเดินมาข้างๆ เด็กผู้ชายตัวน้อยเป็นไปอย่างธรรมชาติ ใช้นิ้วมือจิ้มเขาแล้วพูดเสียงทุ้ม “เข้าไปข้างในหน่อย”
เด็กผู้ชายตกตะลึง แต่เมื่อเห็นกมลก็ประหลาดใจเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
“กมล?”
“เอ๋? พี่รู้จักฉันเหรอ?”
กมลประหลาดใจมาก
ธนธีรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
“เธอจำฉันไม่ได้เหรอ?”
“ฮะ? ดูเหมือนมีความทรงจำนิดหน่อย”
กมลพูดอย่างกระอักกระอ่วน แต่จริงๆ แล้วในหัวสมองไม่มีความทรงจำเลยสักนิด
พี่ชายหน้าตาดีคนนี้คือใครกันนะ?
แต่ถ้าบอกว่าไม่รู้จักจะทำให้เขาเสียความภาคภูมิใจตัวเองหรือเปล่านะ?
ธนธีเห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ พูดขึ้นอย่างเอาอกเอาใจ “อยากกินอะไร? พี่จะไปซื้อให้เธอ”
เพื่อพูดถึงของกิน ดวงตากมลก็เป็นประกายทันที มันส่องประกายระยิบระยับอย่างมาก
“ฉันอยากกินสตรอว์เบอร์รี เมื่อกี้ที่หัวมุมนั้นมีคนขายสตรอว์เบอร์รี มันอร่อยมาก!”
เมื่อกี้ตอนที่กมลมากับธรณีก็เห็นมัน น่าเสียดายธรณีรีบไปเจอแฟนสาว เธอทำได้แค่ไปเจอแฟนสาวเป็นเพื่อนปู่ธรณี
ตอนนี้พวกเขาสองคนคุยกันอย่างมีความสุข ตัวเองวิ่งออกมาดูว่าหญิงชราขายสตรอว์เบอร์รีไปหรือยัง
ในขณะนี้ได้ยินธนธีบอกว่าจะซื้อของกินให้เธอ ก็ดีใจขึ้นมาทันที และไม่สนว่าก่อนหน้านี้จะไม่รู้จักเขา ก็ดึงมือเขาเดินไป
“เร็วหน่อย ไม่งั้นไม่มีแล้ว”
ธนธีเห็นมือเล็กจ้ำม่ำของเธอดึงนิ้วของตน ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
น่ารักจริงๆ เลยนะ
“โอเค”
ธนธีเหลือบมองกมล มองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้น “ไม่ต้องบอกคนในครอบครัวเธอก่อนเหรอ?”
“ไม่ต้อง พวกเขายุ่งอยู่ คาดว่าเรากินสตรอว์เบอร์รีกันเสร็จแล้วพวกเขายังยุ่งไม่เสร็จเลยมั้ง”
กมลพูดขณะก้าวขาเล็กเดินออกไปข้างนอก
ธนธียิ้มอย่างเอาอกเอาใจ ตามเธอออกไปข้างนอกทันที
ที่หัวมุมมีขายสตรอว์เบอร์รีจริงๆ ด้วย แต่จะขายหมดแล้ว
กมลเห็นว่าเป็นแบบนี้จึงรีบปล่อยมือธนธี แล้วรีบวิ่งไปหาหญิงชรา
“คุณย่าคะ คุณย่าหนูอยากซื้อสตรอว์เบอร์รี!”
“กมลเธอช้าหน่อย”
ธนธีเห็นแล้วก็อกสั่นขวัญหาย รีบเอ่ยเตือน น่าเสียดายกมลเท้าลื่น ทั้งร่างล้มลงไปข้างหน้า
“อ๊าก!”
เธอกรีดร้อง
ธนธีขมวดคิ้วเล็กน้อย พุ่งเข้าไปบังเนื้อเธอทันที
“โอ๊ย……ฉันล้มเกือบตายแล้ว!”
กมลปิดตาไม่กล้ามอง
ธนธีแค่ทำเสียงฮึดฮัดอุดอู้ รู้สึกกมลควรลดน้ำหนักแล้วจริงๆ
หนักมาก!
เจ็บมาก!
กมลตะโกนเสร็จก็ไม่เจ็บอย่างที่คิดไว้ รีบปล่อยมือมาดู เห็นว่าตัวเองนอนบนตัวธนธี
ธนธีนอนใต้ร่างเธอ ใบหน้าหล่อเหลาค่อนข้างแดงอมม่วง แต่ผิวขาวดีมากเลยอ่า
เหมือนเยลลี่เลย
กมลคิดแบบนี้ ก็ยื่นมือไปหยิกแก้มธนธีทันที
ว้าว!
เด้งมากอ่า
ธนธีตกตะลึงทันที จากนั้นสีหน้าก็แดงก่ำทันที
“หอมทีหนึ่ง แค่ทีหนึ่ง”
กมลรู้สึกธนธีแบบนี้เหมือนเยลลี่พุดดิ้ง ต้องอร่อยมากแน่ๆ
เธอไม่รู้สักนิดว่าคำพูดตัวเองน่ากลัวแค่ไหน ทำให้ธนธีตกใจตัวแข็งไปทั้งร่าง เห็นกมลก้มหน้าลงมาทันทีแล้วจุ๊บแก้มเขาหนึ่งที
ดวงตาธนธีเบิกกว้างทันใด
นี่เขาถูกเด็กผู้หญิงตัวน้อยหอมเหรอ?
กมลไม่รู้ความวุ่นวายในใจธนธี คิดว่าหอมธนธีแล้วรู้สึกดีมาก มันมีรสชาติหวานนิดๆ ด้วยซ้ำ
เธอจูบปากธนธีลงไปโดยไม่รู้ตัว
เสียงหึ่งดังขึ้น ทั้งร่างธนธีจะระเบิดแล้ว
“ทำไมเธอ……”
เขาโตมาเจ็ดแปดขวบแล้ว เป็นครั้งแรกที่ติดอ่าง
“อร่อย”
กมลยื่นลิ้นเลียริมฝีปากอย่างพอใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นมาจากตัวธนธี
“พี่ นี่พี่แอบกินลูกอมมาใช่ไหม? ปากพี่หวานมากอ่า”
กมลมองธนธีอย่างไม่ค่อยพอใจ
มีลูกอมไม่แบ่งเธอ พี่ชายคนนี้แย่มาก
ธนธีร้องไห้ไม่ค่อยออกแล้ว
“พี่ไม่มีลูกอม”
เขาพูดเสียงเบา ใช้มือปิดปากตัวเองโดยไม่รู้ตัว
“โกหก”
กมลคิดว่าธนธีกำลังหลอกเธอ ไม่งั้นจะปิดปากไม่ให้เธอดูทำไม?
ราวกับรู้สึกว่ากมลกำลังคิดอะไรบางอย่าง ธนธีจึงพูดขึ้นอย่างยอมรับชะตากรรม “ไม่ใช่ว่าอยากกินสตรอว์เบอร์รีเหรอ? ถ้าไม่ไปจะหมดแล้วนะ”
“อ่อ จริงด้วย สตรอว์เบอร์รีของฉัน!”
กมลถึงได้นึกถึงสตรอว์เบอร์รีขึ้นมา ก้าวขาเล็กวิ่งไป
ธนธีถอนหายใจอย่างรุนแรง
จูบแรกของเขานะ!
แต่เห็นท่าทางมีความสุขของกมล มุมปากเขาก็ยกขึ้นมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
“เธอวิ่งช้าๆ หน่อย”
ธนธีตามไป
กมลโอบกอดสตรอว์เบอร์รีที่เหลือเอาไว้ แต่เห็นธนธีไม่เปล่งเสียง
ธนธีควักเงินในกระเป๋าตัวเองยื่นออกไปอย่างยอมรับชะตากรรม
หางตากมลยิ้มเป็นเส้นตรง
“ขอบคุณค่ะพี่ชาย พี่ชายดีจัง พี่ต้องยิ่งโตยิ่งหล่อแน่ๆ ใครเห็นใครก็ชอบ ฉันไปก่อนน้า”
ในกรณีปกติกมลเวลาได้ของกินแล้วก็รีบถีบหัวส่งเลย
ธนธีไม่อยากให้เธอจากไปแบบนี้ ดึงคอเสื้อเธอไว้ทันทีแล้วพูดขึ้น “ยังไม่ได้ล้างเธอจะกินยังไง? ไปกันเถอะ พี่รู้ร้านอาหารนี้มีห้องพัก พี่จะพาเธอไปล้างสตรอว์เบอร์รีก่อนค่อยกิน”
กมลนึกขึ้นได้ว่าตัวเองต้องล้างสตรอว์เบอร์รี น้ำเย็นขนาดนั้น ช่างมันดีกว่า ให้พี่ชายตัวน้อยคนนี้ทำแทน
“โอเค”
กมลพยักหน้าตอบตกลง แต่หอบสตรอว์เบอร์รีเอาไว้แน่น กลัวธนธีจะแย่งของเธอไป
รอยยิ้มธนธีกว้างขึ้น
เขาพากมลเข้าไปในร้านอาหารจากประตูหลัง ไปที่ห้องพักVIPด้านหลังทันที
คนหนึ่งที่ดูเหมือนพ่อบ้านเห็นธนธี ก็รีบเดินมาข้างหน้า
“คุณชาย คุณไปไหนมาครับ?”
“ลุงชู ช่วยผมเอาสตรอว์เบอร์รีกล่องนี้ไปล้างหน่อย”
ธนธีไม่ได้อ่อนโยนเหมือนอยู่ต่อหน้ากมล เมื่อเห็นลุงชูก็สีหน้าสำรวมขึ้นมา
“ครับ คุณชาย”
ลุงชูเหลือบมองกมลโดยไม่รู้ตัว
ช่างเป็นคนน่ารักราวกับแกะสลักอย่างระมัดระวัง
“คุณชาย เด็กผู้หญิงคนนี้คือ……”
“อะไรที่คุณไม่ควรถามก็ไม่ต้องถาม”
คิ้วธนธีขมวดขึ้นเล็กน้อย แผ่ความน่าเกรงขามออกมาอย่างช่วยไม่ได้
แต่กมลเติบโตอยู่เคียงข้างบุริศร์มาตั้งแต่เล็ก แน่นอนว่าไม่กลัวความน่าเกรงขามแบบนี้
เธอเดินมาที่หน้าโซฟาแล้วปีนขึ้นไปอย่างคุ้นเคย จากนั้นก็นั่งดีๆ สองขาเล็กแกว่งตามอำเภอใจ พูดขึ้นอย่างเบื่อหน่ายมาก “พี่ เมื่อไรจะได้กินสตรอว์เบอร์รี?”
“เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”
เสียงธนธีอ่อนโยนขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
น้อยครั้งที่ลุงชูเห็นธนธีอ่อนโยนแบบนี้กับผู้อื่น จึงอดตกตะลึงไม่ได้ แต่ดวงตาธนธีในวินาทีต่อมาก็ยิงมาเหมือนดาบคม ทำให้เขาตกใจรีบไปล้างสตรอว์เบอร์รี
หลังจากล้างสตรอว์เบอร์รีเสร็จแล้ว ธนธีก็ให้ลุงชูเอาขนมออกมาบางส่วน
กมลรู้สึกช่วงเวลานี้มีความสุขเหลือเกิน
“พี่ชาย ฉันนึกขึ้นได้ พี่เหมือนให้เครื่องประดับหยกฉันหนึ่งชิ้นใช่ไหม? มันสวยมาก แต่แม่ฉันเก็บไปแล้ว”
คำพูดกมลทำให้ธนธีรู้สึกได้รับการปลอบโยนเล็กน้อยในที่สุด
สาวน้อยคนนี้นึกขึ้นได้แล้วว่าตนเป็นใคร
“อืม เธอเอากิ๊บติดผมอันโปรดของเธอให้พี่ด้วยล่ะ”
“อ่อ”
กมลทานสตรอว์เบอร์รีไปด้วยขณะตอบรับตามใจชอบ
กิ๊บติดผมอันโปรดคืออันไหนนะ?
เธอนึกสักพัก ไม่มีความทรงจำแม้แต่ครึ่งเดียว
ช่างเถอะ ไม่คิดแล้ว
กมลเห็นธนธีมองตนทานอยู่ตลอดเวลา ก็ยื่นสตรอว์เบอร์รีหนึ่งชิ้นให้ธนธีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย
“พี่ กินสิ”
“โอเค”
ตอนแรกนึกว่าธนธีจะพูดว่าไม่กิน ใครจะไปรู้ว่าธนธีอ้าปากทันที กลืนสตรอว์เบอร์รีในมือกมลภายในคำเดียว
กมลรู้สึกหดหู่ทันที
สตรอว์เบอร์รีของเธอ……
เมื่อเธอเห็นธนธีบอกว่าอร่อย ก็กอดสตรอว์เบอร์รีที่เหลือไว้ในอ้อมแขนโดยไม่รู้ตัว
เห็นเธอปกป้องอาหารแบบนี้ ธนธีก็ยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่เล่นเปียโนให้เธอฟังดีไหม?”
“ดี”
กมลรีบพยักหน้า
แค่ไม่แย่งสตรอว์เบอร์รีเธอทาน เขาบอกว่าจะซิทอัพก็ไม่มีปัญหา
ธนธีนึกว่ากมลชอบฟังตนเล่นเปียโน ก็ดีใจมากอย่างช่วยไม่ได้ และไม่รู้สึกว่าโน้ตเพลงน่าเบื่อนั้นมันน่ารำคาญ
เขานั่งเปียโนข้างๆ สร้างอารมณ์สักพัก โน้ตเพลงราวกับเมฆลอยน้ำไหลก็เต็มไปทั่วห้องส่วนตัว
กมลไม่สนว่าเขาจะเล่นอะไร เห็นธนธีเล่นอย่างใจจดใจจ่อ เธอก็ยัดสตรอว์เบอร์รีเข้าปากทีละอันสองอัน ปากเล็กถูกยัดจนเต็ม จนปูดนูน ยากที่จะกลืนลงไป
แย่แล้ว!
ติดคอ!
กมลเริ่มสะอึกทันที
เธอต้องการเรียกธนธี แต่ธนธีจมอยู่กับจังหวะเพลง ไม่เห็นสภาพกมลในขณะนี้เลย
กมลจะร้องไห้แล้ว
อย่าเล่นแล้ว!
โอ๊ย!
มองเธอหน่อยสิ!
ช่วยด้วย!
กมลสะอึกอย่างต่อเนื่อง รีบทิ้งสตรอว์เบอร์รีแล้วกระโดดลงจากโซฟาไปหยิบน้ำ แต่เพราะออกแรงมากเกินไป จึงล้มนั่งกับพื้นด้วยสภาพหมากินอึ
แงๆ เจ็บมาก!
น้ำตากมลไหลออกมาทันที
ในที่สุดธนธีก็ได้ยินเสียง หันศีรษะมาทันทีก็เห็นกมลนั่งอยู่บนพื้นแบบนี้ ร่างกายสั่นสะท้าน
“กมล!”
เขาตกใจรีบวิ่งมา หิ้วนรมนขึ้นมันที ลูบหลังเธออย่างแรง
เกิดเสียง “แหวะ” สตรอว์เบอร์รีในลำคอของกมลถูกลูบจนออกมาในที่สุด พุ่งออกมาบนหน้าธนธีโดยตรง
ทั้งร่างธนธีแย่แล้ว
แต่ไม่รอให้ธนธีมีการตอบสนองอะไร กมลแหวะแล้วก็ร้องไห้ขึ้นมา
“เจ็บมาก!”
เธอนวดหัวเข่าตัวเอง ร้องไห้ด้วยความเศร้าอย่างยิ่ง
ธนธีรู้สึกละอายใจนิดหน่อยทันที
“ขอโทษนะ เมื่อกี้พี่ไม่เห็นเธอ กมล ไม่ร้อง ไม่ร้องนะ พี่เป่าให้ เป่าก็ไม่เจ็บแล้ว”
ธนธีรีบเข้าไปอุ้มกมลไปที่โซฟา ยกกระโปรงเธอขึ้น เห็นเข่าเธอแดงช้ำวงใหญ่ ทันใดนั้นก็สงสารเหลือเกิน
“ลุงชู ลุงชู!”
เสียงธนธีเปลี่ยนไปแล้ว
ลุงชูนึกว่าธนธีเกิดเรื่องอะไร จึงรีบผลักประตูเข้ามา
“คุณชาย เกิดอะไรขึ้นครับ?”
เขารีบเข้ามา เห็นธนธีคุกเข่าข้างเดียวอยู่ที่พื้น ในมือประคองเข่ากมลแล้วเป่าให้เธอเบาๆ
ในช่วงขณะหนึ่ง ลุงชูนึกว่าตัวเองตาลาย