แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1134

ตอนที่ 1134

“มีอะไรเหรอ?”

บุริศร์เห็นว่าสีหน้าของนรมนดูไม่ปกตินัก จึงรีบลุกขึ้นมาแล้วเดินไปทางนั้น

นรมนนั่งเหม่ออยู่ตลอด

บุริศร์เดินมาเห็นว่าในถุงนั้นเต็มไปด้วยเลือดและกลิ่นคาวสัตว์ป่าคละคลุ้ง

มีไก่ป่า กระต่ายป่าอะไรพวกนั้น แต่ว่าทุกอย่างต่างก็เลือดสาดกระเซ็น บางตัวยังชักแหง็ก ๆ และขยับเขยื้อนอยู่ ที่มุมปากมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

ภาพแบบนี้ค่อนข้างที่จะสะเทือนใจคน ถ้าหากเป็นคนที่ขวัญอ่อน คาดว่าน่าจะตกใจจนร้องไห้ออกมาแล้ว ถึงแม้ว่านรมนจะไม่ได้ร้องไห้ แต่ว่าก็พยายามอดกลั้นความสะอิดสะเอียนและอยากจะอวกอยู่ตลอด จนรู้สึกไม่ค่อยสบายนัก

“นี่คือของขวัญปีใหม่จากตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเหรอ?”

สีหน้าของคุณท่านตนุวรดูไม่ค่อยดีนัก แล้วก็จะให้โตษินโทรศัพท์หาธรรศเลย แต่กลับโดนนรมนห้ามไว้ซะก่อน

“คุณตาคะ โทรศัพท์สายนี้หนูเป็นคนโทรเองดีกว่าค่ะ”

สีหน้าของนรมนแฝงไว้ด้วยความขอร้องเสี้ยวหนึ่ง ไม่ว่ายังไงคุณท่านตนุวรก็ตัดใจปฏิเสธไม่ได้ เขาถอนหายใจทีหนึ่งแล้วก็หันหน้าไป แต่ว่าสีหน้ากลับไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่

เขาจะดูก่อนว่าทางตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะว่ายังไง ถ้าพูดไม่ดี เขาจะไม่มีทางปล่อยเจ้าเด็กสองคนนั้นไปแน่

ร่างกายของนรมนยังคงสั่นเทาอยู่บ้าง บุริศร์พูดขึ้นอย่างเป็นห่วงบ้างว่า “หรือไม่ผมเป็นคนโทรเองดีกว่า? คุณวางใจเถอะ ผมจะคิดก่อนพูดแน่ ๆ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่คุณอาส่งของขวัญปีใหม่มาให้ฉันก็ถือได้ว่าเป็นความรักและเป็นห่วงในตัวฉันแล้ว ฉันในฐานะที่เป็นรุ่นเด็กกว่าก็ควรจะโทรไปพูดขอบคุณสักหน่อยซิ”

นรมนพยายามให้อารมณ์ของตัวเองสงบนิ่งลงมา จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาธรณี

ตอนนี้ไม่รู้ว่าธรรศจะยุ่งอยู่ในกรมทหารหรือเปล่า ยังไงธรณีก็อิสระและผ่อนคลายกว่าหน่อยหนึ่ง

ธรณีมองเห็นสายของนรมนโทรเข้ามา ทั้งตัวก็อึ้งไปเลย พอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อครั้งที่รวมญาติกันนั้น ก็รู้สึกผิดอยู่บ้าง จึงอดไม่ได้ที่น้ำเสียงจะอ่อนลงมาเล็กน้อย

“นรมน โทรศัพท์หาฉันในเวลาแบบนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

นรมนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “คุณอาเล็ก เมื่อกี้หนูได้รับของขวัญปีใหม่จากตระกูลทวีทรัพย์ธาดา หลากหลายอย่างมากเลยนะคะ พวกไก่ป่ากระต่ายป่าพวกนั้นยังตายไม่สนิท เลือดสด ๆ ยังพุ่งไหลออกมาอยู่เลยค่ะ ได้ยินมาว่าต้มนึ่งตอนที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นจะสดมากกว่า ขอบคุณอาเล็กที่ยังจำได้ว่าต้องเพิ่มสัตว์ป่ามาให้หนูด้วย”

ธรณีอึ้งไปเล็กน้อย แล้วก็พูดขึ้นโดยสัญชาตญาณว่า “ไก่ป่ากระต่ายป่าอะไร? ฉันไม่เคยส่งของแบบนี้ไปเลยนะ! ฉันแค่ซื้อของบำรุงนิดหน่อยแล้วก็ให้คนส่งไปให้เธอนะ”

“ไม่ใช่อาเล็กเป็นคนส่งเหรอคะ? งั้นจะเป็นไปได้ไหมคะว่าจะเป็นอาสามส่งมา?”

น้ำเสียงของนรมนเพิ่งจบลง ธรณีก็พูดขึ้นโดยตรงเลยว่า “เป็นไปไม่ได้ อาสามของเธอออกไปปฏิบัติภารกิจต่างพื้นที่ ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย”

พอคำพูดนี้พูดออกมา ใจของนรมนก็กระตุกขึ้นทีหนึ่ง แต่ว่าก็ยังยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “งั้นอาจจะเป็นของป่าที่คนอื่นส่งมา แล้วก็มาปนรวมกันกับของอาเล็ก ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูค่อยลองถามดูอีกที”

“ได้ ถ้าหากว่ามีเรื่องอะไรจะต้องโทรศัพท์หาฉันด้วยนะ”

ธรณีรู้สึกไม่ค่อยวางใจนัก

“ได้ค่ะ ได้ค่ะ อาเล็กไปทำงานต่อเถอะค่ะ”

พูดจบนรมนก็วางสายไปเลย

บุริศร์อยู่ข้างกายเธอ แน่นอนว่าได้ยินชัดเจนอยู่แล้ว หัวคิ้วก็ขมวดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

คุณท่านตนุวรเห็นท่าทีแบบนี้ของนรมน ก็รีบถามขึ้นว่า “ใช่เจ้าเด็กตระกูลทวีทรัพย์ธาดาสองคนนั้นส่งมาหรือเปล่า?”

“ไม่ใช่ค่ะ”

นรมนบอกเล่าคำพูดของธรณีออกมาอีกรอบหนึ่ง ในห้องรับเขาก็เงียบขรึมลงทันที

กล้าอ้างชื่อของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาส่งของมาให้ตัวเอง ของที่ส่งมายังเป็นแบบนี้อีก ข้างในนี้ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ไม่ใช่เรื่องดี

“ผมว่าบอกกับอาเล็กคำหนึ่ง ให้เขาช่วยเช็กให้หน่อยว่าคนมาส่งของนั้นมันเรื่องอะไร แล้วทางเราก็เอาของป่านี้โยนทิ้งไปเถอะ ของที่ใครก็ไม่รู้ส่งมา อย่ากินจะดีกว่า”

บุริศร์เสนอความคิดเห็น

เรื่องที่นรมนโดนหนอนพิษยังทำให้เขามีความกังวลอยู่ในจิตใจ ตอนนี้ก็รับเรื่องราวแบบนี้ไม่ไหวอีกแล้ว

คุณท่านตนุวรก็แสดงท่าทีว่าเห็นด้วย

นรมนเห็นว่าพวกเขาทั้งสองคนมีความคิดเห็นเหมือนกัน ก็เลยให้คนเอาสัตว์ป่านั่นไปทิ้งซะ

ทางด้านธรณีพอได้รับข่าวแล้ว ก็เริ่มตรวจเช็กคนที่ไปส่งของให้นรมน แต่น่าเสียดายระหว่างทางที่คนคนนั้นกลับมาได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ตอนที่ไปตรวจสอบนั้นตัวยังไม่ฟื้นเลย

ข่าวนี้ทำให้นรมนรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้าง

เรื่องนี้ทำไมดูแล้วไม่เหมือนกับว่าจะเป็นอุบัติเหตุง่าย ๆ และที่สำคัญของป่าพวกนั้นก็ทำให้คนรู้สึกไม่ดีจริง ๆ เลย

ธรณีสาบานว่าจะตรวจสอบให้ถึงที่สุด บุริศร์และคุณท่านตนุวรก็ไม่ได้โต้แย้ง

คุณท่านตนุวรขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นว่า “หรือไม่ย้ายไปพักที่บ้านฉันดีกว่า คนเยอะก็ทำให้ลงมือยาก นรมนในตอนนี้ทำให้ฉันเป็นกังวลเป็นอย่างมาก และอีกอย่างก็ใกล้จะตรุษจีนแล้ว เจตต์ก็ใกล้จะแต่งงานแล้ว ไปพักกับฉันพวกเธอก็ช่วยเสนอความคิดได้ง่ายด้วยใช่ไหม?”

ถ้าหากว่าไม่มีเรื่องส่งของขวัญเกิดขึ้น นรมนนั้นไม่ได้อยากจะไป ในเมื่อได้อยู่กันสองต่อสองกับบุริศร์นั้นจะดีมากแค่ไหน ถ้าคนเยอะขนาดนั้น ตัวเองอยากจะออดอ้อนหรือว่าทำอะไรก็จะต้องอดทนเอาไว้ แต่ว่าตอนนี้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น นรมนรู้ ทั้งคุณท่านตนุวรและบุริศร์ต่างก็เป็นกังวลเป็นอย่างมาก ยังมีพวกเด็ก ๆ อีก ถึงแม้ว่าเด็กทั้งสองคนจะไม่ได้พูดอะไรในช่วงที่เธอโดนหนอนพิษ แต่ว่านรมนก็สามารถดูออกได้ว่า พวกเขานั้นเป็นห่วงเธอมาก

พอคิดมาถึงตรงนี้ นรมนก็จ้องมองบุริศร์ทีหนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “งั้นจะย้ายไปเหรอคะ?”

“ย้ายไปเถอะ”

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบุริศร์คือจะต้องรับประกันความปลอดภัยในชีวิตนรมน ถ้าหากไม่มีเรื่องโดนหนอนพิษละก็ เขาก็จะยังไม่กลัวขนาดนี้ ตอนนี้เขาเป็นกังวลทั้งวันทั้งคืน ความรู้สึกแบบนี้มันไม่ดีเลย

นรมนเห็นว่าบุริศร์เองก็พูดแบบนี้แล้ว ก็ไม่พูดอะไรมากอีกเลย

คุณท่านตนุวรเห็นว่านรมนยอมตอบตกลงแล้ว ก็ดีใจแทบแย่ แล้วก็ให้โตษินรีบพาตัวเองกลับบ้าน จะรีบไปเก็บกวาดห้องในนรมนให้เรียบร้อย

โตษินเห็นคุณท่านตนุวรดีใจ ตัวเองก็ดีใจขึ้นมาเหมือนกัน แล้วก็ยิ้มและพูดว่า “นายท่าน พวกเรายังจะต้องไปหาคุณชายเจตต์อีกนะครับ”

“ใช่ ใช่ ใช่ ยังจะต้องไปหาเจตต์อีก ต้องเอาของไปให้เจ้าบ่าวอีกสักหน่อย”

พูดแล้วคุณท่านตนุวรก็ลุกขึ้นแล้วขอตัวลาไปเลย

พวกเขาจากไปแล้ว ในห้องรับแขกก็เหลือแต่บุริศร์และนรมนสองสามีภรรยา

นรมนพิงอยู่ในอกของบุริศร์ แล้วถามเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณกลัวว่าตัวเองจะปกป้องฉันได้ไม่ดีเหรอคะ?”

“อืม ที่บ้านคุณตาจะปลอดภัยมากกว่า ทางด้านคุณตาต่างก็เป็นทหารหน่วยพิเศษปลดประจำการออกมา ผมจะวางใจมากกว่า และที่สำคัญภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีผู้คนมากมายแล้ว คนอื่นก็ไม่กล้าทำอะไรโอ่อ่าแล้ว”

บุริศร์เองก็พูดแบบนี้แล้ว แน่นอนว่านรมนต้องไม่ปฏิเสธแน่

“พวกเด็ก ๆ ก็ส่งตรงไปที่บ้านคุณตาเลยดีกว่า”

“ได้”

นรมนหาวขึ้นมาทีหนึ่ง

บุริศร์เห็นเธอเหนื่อยแล้ว ก็พูดเสียงอ่อนหวานขึ้นว่า “ผมอุ้มคุณขึ้นไปนอนพักสักหน่อยดีกว่า?”

“ได้ค่ะ แต่ว่าฉันยังคิดอยู่เลยว่าจะออกไปซื้อของขวัญปีใหม่สักหน่อย แล้วก็ซื้อเครื่องประดับให้พี่สะใภ้สักหน่อย ถึงแม้จะให้ของขวัญพวกเขาไปบ้างแล้ว แต่ว่าเด็กผู้หญิง ซื้อเครื่องประดับให้สักหน่อยยังไงก็ดีกว่า”

นรมนพูดไปก็หาวไป

บุริศร์พยักหน้าเล็กน้อย แล้วตอบตกลง

“รอคุณนอนตื่นมา ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณ”

“สามีดีจังเลยค่ะ”

นรมนจุ๊บที่แก้มของบุริศร์ทีหนึ่งอย่างซุกซน จากนั้นก็โดนบุริศร์ช้อนตัวอุ้มขึ้นมาเลย แล้วก็เดินไปที่ห้องนอน

นรมนไม่ได้รู้สึกว่ามีตรงไหนไม่สบาย เพียงแต่แค่รู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลียหน่อย แล้วก็มักจะรู้สึกง่วงนอนเท่านั้น

บุริศร์นอนเป็นเพื่อนเธอไปพักหนึ่ง นรมนก็นอนตื่นขึ้นมาแล้ว เห็นได้ชัดว่าสภาพร่างกายก็ดีขึ้นมากแล้ว

นรมนโทรศัพท์หาขวัญตา ทางด้านนั้นก็เหมือนกับว่าเพิ่งนอนตื่นมาเหมือนกัน น้ำเสียงยังสะลึมสะลือขี้เกียจอยู่บ้าง

เธอก็หัวเราะขึ้นมาทันทีแล้วพูดว่า “โยว่ กลางวันแสก ๆ พี่ชายก็ไม่รู้จักพักผ่อนสักบ้าง พวกคุณเป็นแบบนี้จะทำให้คนอื่นรู้สึกอิจฉานะรู้ไหม?”

ขวัญตาหน้าแดงเล็กน้อยขึ้นมาทันที

“นี่ นรมน ในสมองของคุณทั้งวันมีแต่เรื่องพวกนี้เหรอ? ใครบอกคุณว่าฉันกับเจตต์ทำเรื่องอย่างนั้นกลางวันแสก ๆ เหรอ?”

“อย่างไหนเหรอ?”

อารมณ์ของนรมนดีขึ้นมากแล้ว มีอารมณ์มาหยอกล้อขวัญตาเล่นแล้ว

ขวัญตาแทบจะหน้าแดงไปทั้งหน้าแล้ว ยิ้มแล้วบ่นด่าขึ้นว่า “ไม่อยากจะพูดกับเธอแล้ว ตกลงโทรศัพท์มาทำไม?”

“จะนัดเธอออกไปเดินช้อปปิ้งไง ไปหรือเปล่า?”

คำพูดของนรมนทำให้ขวัญตาหันไม่มองเจตต์ทีหนึ่ง

หลังจากที่เทย่าตายแล้ว ปฏิกิริยาของเจตต์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก เมื่อไม่นานมานี้คุณท่านตนุวรได้เคยมาแล้ว และบอกว่าจะจัดงานแต่งให้งานหนึ่ง เจตต์ก็ตอบตกลงแล้ว คุณท่านตนุวรให้พวกเขาย้ายไปอยู่ที่คฤหาสน์กับทุกคน เจตต์ก็ตอบตกลงแล้ว แต่ว่าขวัญตาสามารถมองออกได้ว่า ในใจของเจตต์ยังมีบาดแผลหนึ่งอยู่ จะเยียวยาให้หายนั้นยังต้องการเวลาอยู่

ถ้าหากเวลานี้ให้เขาไปอยู่ด้วยกันกับนรมน บางทีอาจจะมีผลพลอยได้ก็ได้?

ในใจของขวัญตาคิดไป จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่าในใจยังรู้สึกแปลก ๆ นิดหนึ่งอยู่ ในเมื่อผู้ชายของตัวเองยังต้องการให้ผู้หญิงอื่นมาปลอบโยน เรื่องนี้พูดยังไงก็ไม่ค่อยสบายใจนัก แต่ว่าขวัญตาเชื่อมั่นในตัวนรมนและเจตต์ ตอนนี้พวกเขาเป็นญาติกัน บางครั้งการอยู่เคียงข้างกันของญาติพี่น้องก็ขาดไม่ได้จริง ๆ

พอคิดมาถึงตรงนี้ ขวัญตาก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณรอเดี๋ยวนะ ฉันถามคนขับรถบ้านฉันก่อนว่าจะไปด้วยกันหรือเปล่า? ในเมื่อข้างนอกยังหิมะตกอยู่ ถ้าไม่มีคนขับรถพวกเราสองคนช้อปกันไม่สนุกหรอก”

“ได้”

นรมนพูดจบก็วางสายไป

บุริศร์กลัวเธอจะหนาว ก็เลยลวดคว้ามือของเธอมากุมไว้ในมือตัวเอง

“เจตต์ก็จะไปด้วยเหรอ?”

บุริศร์ถามขึ้น

นรมนนึกว่าบุริศร์หึงหวงอีกแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “เขาไปด้วยก็ไม่กระทบต่อตำแหน่งที่คุณอยู่ในใจฉัน วางใจได้เลยค่ะ”

พูดจบนรมนก็ยิ้มได้อย่างสดใสร่าเริงมาก

บุริศร์รู้ว่านรมนเข้าใจผิดแล้ว แล้วอยากจะอธิบาย แต่สุดท้ายก็ทอดถอนใจทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “เทย่าตายแล้ว อยู่ ๆ ก็กล้ามเนื้อหัวใจวาย แล้วช่วยไว้ไม่ทันกาล”

“ห๊ะ?”

นรมนอึ้งไปเล็กน้อย

เธอนึกว่าตัวเองได้ยินผิดไป

เทย่าที่อดกลั้นมานานหลายปีขนาดนี้ เทย่าที่ไม่เคยรักใครสนใจลูกชายตัวเองด้วยซ้ำ ทำไมถึงได้ตายไปอย่างง่ายดายขนาดนี้?

“คุณเป็นคนทำเหรอคะ?”

นรมนจ้องมองดูบุริศร์ ในใจยังมีความตื่นตระหนกอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าทุกคนต่างก็รู้ว่าเทย่าสมควรตาย แต่ว่าเธอจะมาตายด้วยมือของบุริศร์ไม่ได้

ไม่ว่าจะพูดยังไง เทย่าก็เป็นแม่ของเจตต์ เจตต์เกลียดเธอ โกรธแค้นเธอ แต่ว่าก็คงจะไม่สามารถทนเห็นคนอื่นลงมือกับแม่ของตัวเองได้

นรมนไม่มีความมั่นใจ เพียงแต่แค่จ้องมองบุริศร์อยู่อย่างตื่นตระหนก

เธอนั้นค่อนข้างเป็นห่วงเจตต์ วินาทีนี้บุริศร์รู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง แต่ว่าเขาก็รู้ความในใจที่นรมนมีต่อตัวเอง เพราะฉะนั้นก็ปรับเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองไปอย่างรวดเร็ว แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ไม่ใช่ผม ตอนที่ผมไปถึงนั้น ทั้งเจตต์และขวัญตาต่างก็อยู่ แต่เทย่าได้ตายไปแล้ว เธอได้ตายไปต่อหน้าต่อตาเจตต์ ผมรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นจุดจบที่ดีที่สุดของเธอแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะทำเรื่องร้ายแรงมามากขนาดนั้น แต่ว่าสุดท้ายก็ยังมีลูกชายมาช่วยเธอเก็บศพและส่งศพด้วย ผมได้ยินมาว่าเจตต์เอาเธอไปฝังไว้ที่ภูเขาทางด้านทิศตะวันออก ฮวงจุ้ยของที่ทางนั้นไม่เลวเลย ถือได้ว่าเป็นที่ที่ดีแห่งหนึ่ง”

คำพูดของบุริศร์ทำให้หัวคิ้วของนรมนค่อย ๆ ขมวดขึ้นมา

ตายต่อหน้าต่อตาเจตต์เหรอ?

นี่มันคือความบังเอิญหรือว่าเป็นอย่างอื่น?

ชั่วขณะหนึ่งนรมนรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจนัก

แล้วก็ในเวลานี้พอดี อยู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา แล้วก็ทำให้นรมนที่กำลังครุ่นคิดอยู่ตกใจจนสะดุ้งเลย

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท