อาจจะเพราะบุริศร์ถามไปตรงๆ เลยทำให้นงลักษณ์นิ่งไป
“ถามมาเถอะ”
เธอยิ้มอ่อน จากนั้นจึงหยิบแก้วชาตรงหน้าขึ้นมาจิบ
บุริศร์รู้ว่าตัวเองเริ่มกะทันหันไปหน่อย แต่กลับไม่หลีกเลี่ยง “คุณนงลักษณ์ คุณเข้าไปพัวพันกับอำนาจในประเทศ F มาหลายปีแล้ว ขอถามหน่อยเถอะครับ คุณถูกเปิดโปงแล้วก็น่าจะมีมาตรการป้องกัน คงจะไม่จนตรอกแบบนี้แน่?”
มือของนงลักษณ์สั่น ความเจ็บปวดบางอย่างพาดผ่านดวงตาของเธอ
“ถูกต้อง ฉันได้เตรียมทางหนีทีไล่ของตัวเองไว้แล้ว แม้ว่าจะถูกเปิดเผย มันจะไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่ฉันไม่คิดเลยว่า จะมีคนทรยศได้ปรากฏตัวขึ้นใต้อำนาจของฉัน ฉันประมาท ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคนทรยศหักหลังฉันกับมิลิน ฉันคงไม่จนตรอกแบบนี้แน่”
บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร
คนทรยศเป็นข้อแก้ตัวที่ดีจริงๆ และก็เป็นเหตุผลที่ทำให้นงลักษณ์ต้องจนตรอก
แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่ธรรมดา เขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง อย่างอื่นเขายังชอบที่จะพูดด้วยข้อเท็จจริง
“พวกคุณไม่เชื่อฉันใช่ไหม?”
นงลักษณ์รู้ว่าตัวเองจู่ๆ ก็มาปรากฏตัวที่เมืองชลธีอย่างนี้ ด้วยความระแวดระวังภัยของบุริศร์และนรมนก็คงไม่เชื่อเธอแน่นอน
เธอยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนพูด “ช่างเถอะ ทำว่าฉันไม่เคยมาหาพวกคุณเถอะ เรื่องของฉันก็ให้ฉันจัดการเอง”
“คุณป้า พวกเราไม่ได้บอกว่าจะไม่ช่วยนะคะ บ้านพวกเราก็หาให้แล้ว แต่ฉันกับบุริศร์คิดอยากจะไปประเทศF อีกรอบ อย่างไรกล้าณรงค์ก็คิดอยากจะให้ฉันตายมาเสมอ ฉันได้รับข่าวว่าเขาจะลงมือกับฉันในวันส่งท้ายปีเก่า น่าเสียดายที่ไม่มีข่าวสารอะไรเลย นี่ไม่สอดคล้องกับนิสัยของเขา และในจุดที่ละเอียดอ่อนนี่คุณก็กลับมา พวกเราก็แค่ถามทั่วไป”
นรมนยิ้มบาง ไม่ต่ำต้อยแต่ก็ไม่สูงส่ง
คิ้วของนงลักษณ์ขมวดกันเป็นปม
“เกรงว่ากล้าณรงค์จะไม่มีเวลามาฆ่าเธอแล้ว”
“หมายความว่าอะไรคะ?”
บุริศร์และนรมนนิ่งไปนิด
นงลักษณ์ยิ้มหยันพลางพูด “กล้าณรงค์ต้องการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของชาวประมง เห็นราเชนกับทศพลสู้ให้ตายกันไปข้าง ไม่นานมานี้ ทศพลกระจายข่าวว่าราเชนเป็นคนรักร่วมเพศ พยายามทำลายการแต่งงานระหว่างราเชนกับลูกสาวของเสนาบดีฝ่ายขวา จริงที่ราเชนเป็นลูกชายของฉัน เตรียมพร้อมก่อนที่ฝั่งตรงข้ามยังไม่ส่งมา ข่าวของทศพลเพิ่งออกมา ทางฝั่งของราเชนก็ทำการโจมตี การต่อสู่ระหว่างสองคนนั้นดำเนินมาถึงจุดที่ดุเดือด เกือบที่จะถึงจุดที่รุนแรงแล้ว ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าใครทำลายชีวิตของกล้าณรงค์ ได้ยินว่าเขาเป็นพี่ชายต่างมารดาของราเชน น้าแพรวาเป็นแม่แท้ๆของเขา ตอนนี้ผู้นำประเทศได้เริ่มตรวจสอบแล้ว กล้าณรงค์ถูกกักบริเวณแล้ว”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ นรมนกับบุริศร์ก็นิ่งไป
ตัวตนของกล้าณรงค์พวกเขารู้มานานแล้ว และเคยคิดว่าจะใช้ราเชนให้เป็นประโยชน์ แก้ปัญหาโดยการให้ราเชนและทศพลทำร้ายกันเอง แค่สร้างปัญหา ราเชนจึงค่อยมีโอกาสหายใจ
แต่เขาไม่คิดว่าข่าวจะแพร่สะพัดไวขนาดนี้
บุริศร์ต้องคิดให้ดีก่อน
“อย่างไรราเชนก็อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีแล้ว ใช้ประโยชน์จากสื่อและความเห็นสาธารณชนคงทำได้คล่องมือดั่งใจคิด”
แต่นงลักษณ์กลับพูดอย่างกลัดกลุ้ม “ผู้นำประเทศไม่เพียงแต่สืบสวนชีวิตของกล้าณรงค์เท่านั้น แต่ยังกักบริเวณพี่น้องราเชนและทศพลด้วย”
“ทำไมคะ?”
จุดนี้ทำให้นรมนไม่ค่อยเข้าใจ
นงลักษณ์ยิ้มอย่างขมขื่นว่า “แต่ไหนแต่ไรมาผู้นำประเทศก็ไม่เคยเชื่อใจใครมาก่อน เขาเองไม่ชอบราเชนและทศพล ตอนนี้กล้าณรงค์คือลูกชายของเขา เรื่องนี้แม้ได้รับการยืนยันแล้ว ไม่ต้องให้ราเชนและทศพลต่อสู้กัน ไม่แน่ว่าผู้นำประเทศอาจจะให้ตำแหน่งนี้ส่งต่อแก่กล้าณรงค์”
“ทำไมละคะ?”
นรมนรู้สึกสมองตัวเองมีไม่มากพอ
นงลักษณ์มองไปข้างนอก ไม่รู้ว่าด้านนอกหิมะจะตกเมื่อไหร่
เธอไม่ได้พูดอะไร บุริศร์สามารถเข้าใจอะไรบางอย่างได้จากคำพูดของหล่อน
“ก่อนหน้านี้ ผู้นำประเทศจงใจทำให้ราเชนและทศพลต่อสู้กันเหรอครับ?”
“อะไรนะ?”
นรมนนิ่งไปนิด ก่อนถาม “จะจงใจได้อย่างไรกัน? ราเชนและทศพลต่างก็เป็นลูกของเขานะ!”
“สำหรับผู้นำประเทศแล้วลูกชายไม่มีอะไรเหมือนกัน ไม่มีค่าอะไร เขาสนใจที่ราเชนและทศพลทะเลาะกันแน่นอน เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ทศพลมีอิทธิพลที่กล้าแกร่งมากในประเทศ เขาต้องการเอาคนออกเพื่อรักษาสมดุล”
นงลักษณ์พูดเบาๆ ก่อนจะหัวเราะเยาะตัวเอง “ฉันคิดมาเสมอว่าตัวเองแกล้งตายเนียนมาก แต่ไม่แน่ผู้นำประเทศอาจจะรู้มาก่อนแล้ว ที่ไม่เปิดเผยฉัน ก็เพราะราเชน ราเชนเป็นลูกชายของฉัน ขอแต่เขาตั้งใจจะให้ราเชนเริ่มยึดอำนาจเพื่อทานอิทธิพลของทศพล ถ้าเพื่อถ่วงดุลทศพล ไม่มีใครกล้าพูด อย่างน้อยฉันก็จะแอบสนับสนุนและช่วยราเชนให้ยึดอำนาจ ถ้าเป็นอย่างนี้ ถึงแม้ทุกคนจะมองราเชนไม่ดี ราเชนยังคงสามารถเข้าถึงจุดถ่วงดุลร่วมกับทศพลได้”
นรมนไม่เข้าใจการเมือง
ไม่ว่าจะเป็นราเชนหรือทศพล ก็ไม่ได้เป็นลูกชายของผู้นำประเทศหรอกหรือ?
เขาสนับสนุนให้ราเชนยึดอำนาจ แต่จุดประสงค์คือเพื่อถ่วงดุลอำนาจกับทศพล
มันหมายความว่าอะไร
แต่บุริศร์กลับเข้าใจแล้ว
“สิ่งที่ผู้นำประเทศรักที่สุดตอนนี้คือตำแหน่ง พูดตามตรง เขาไม่ต้องการให้ตำแหน่งกับใคร ดังนั้นเขาจึงให้ลูกชายถ่วงดุลซึ่งกันและกัน นี่คือวิถีของจักรพรรดิ เขาต้องการรับประกันความเท่าเทียมของอำนาจการบริหาร”
บุริศร์เข้าใจอย่างรวดเร็ว ทำให้นงลักษณ์ตะลึงเล็กน้อย เธอยิ้มและพูดว่า “ผู้ชายนี่เข้าใจผู้ชายด้วยกันจริงๆ เสียแรงเปล่าที่ฉันคิดว่าตัวเองแกล้งตายประสบความสำเร็จมาหลายปี แต่ไม่คิดว่าจะอยู่ในการคำนวณของผู้นำประเทศมา ตั้งแต่ต้น เกม ผู้นำประเทศเริ่มวางแผนตั้งแต่วินาทีที่ฉันแกล้งตาย หลังจากที่ปล่อยให้ราเชนออกจากบ้านไปทำมาหากินด้วยตนเองข้างนอกมานานหลายปี เมื่อรับรู้ถึงความสัมพันธ์และความรู้สึกระหว่างราเชนและซินดี้ เขาไม่สนไม่ถาม ปล่อยให้มันพัฒนา ท้ายที่สุดเขาก็ปล่อยกล้าณรงค์ฆ่าซินดี้ กระตุ้นให้ราเชนโกรธแค้น และทำให้เขาต้องกลับไปยึดอำนาจเพื่อล้างแค้น ผู้นำประเทศคำนวณทุกย่างก้าวอย่างแม่นยำ คำนวณแม้กระทั่งใจของคน จู่ๆฉันก็เกิดรู้สึกกลัวในภายหลัง ถ้าหากเขาต้องการให้ฉันตายไปก่อนหน้า ฉันคงอยู่มาไม่ถึงวันนี้ แต่ตอนนี้คนของฉันมีคนทรยศ คนทรยศนี่เป็นคนของผู้นำประเทศ ครั้งนี้ เขาต้องการให้ฉันตาย”
เสียงของนงลักษณ์แฝงความเศร้า
ไม่มีอะไรน่าสิ้นหวังไปกว่าคนร่วมเรือนเคียงหมอนของตัวเองต้องการให้เธอตาย และคนข้างๆเธอนี่ก็เป็นคนที่ปิดท้องฟ้าด้วยมือเดียว
บุริศร์และนรมนต่างก็เงียบ
พวกเขาไม่ต้องการสอดแนมลักษณะสภาพประเทศหรือเรื่องราวของประเทศF แต่ตอนนี้เกรงว่าไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งคงไม่ได้แล้ว
“ได้ยินคุณพูดอย่างนี้ ผู้นำประเทศคนนี้ดูท่าจะน่ากลัวมาก”
“อืม”
นงลักษณ์พยักหน้า ไม่อยากพูดอะไรแล้ว
ความสงสัยในตัวเธอของบุริศร์หายไปเยอะมาก
ถ้าหากสิ่งที่นงลักษณ์พูดเป็นความจริง ด้วยอำนาจของผู้นำประเทศF จะเป็นเรื่องง่ายในการกำจัดนงลักษณ์แน่
แต่ทำไมละ?
ทำไมผู้นำประเทศต้องฆ่านงลักษณ์
ในหัวนรมนมีแต่คำถาม แต่เธอกลับคิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง
“คุณป้า ฉันอยากถามคุณมาตลอด คุณรู้ไหมว่า คนร้ายที่ลักพาตัวคุณออกไปจากเมืองชลธีในปีนั่นคือใคร?”
นงลักษณ์นิ่งไป ก่อนส่ายหัว
“ฉันไม่รู้หรอก ฉันถูกครอบครัวธรรมดารับไปเลี้ยง ตอนแรกฉันนึกว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง จนกระทั่งฉันบังเอิญเห็นขั้นตอนการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมจึงได้รู้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นพ่อแม่ตัวจริงของฉัน แต่เขาก็ปฏิบัติต่อฉันดีมาก”
นงลักษณ์รู้สึกเศร้าเล็กน้อยหลังจากพูดจบ
“ภายหลังฉันไปสอบถามและเสาะหาชีวิตของตัวเอง สุดท้ายจึงได้รู้ว่าฉันเป็นลูกสาวของตระกูลพรโสภณ”
นรมนนิ่งไป เธอไม่ได้พูดอะไร
ทั้งสองนั่งด้วยกันสักครู่ นรมนเอาที่อยู่ของบ้านให้กับนงลักษณ์ ซึ่งเป็นบ้านเดิมที่นภดลเคยอาศัยอยู่
นงลักษณ์ขอบคุณ ก่อนที่บุริศร์และนรมนจะออกมา
บุริศร์จูงมือนรมน ก่อนถามเสียงต่ำ “คุณว่าไงบ้าง?”
“ฉันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งค่ะ”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์นิ่งไปนิด ยิ้มก่อนจะเกลี่ยผมบนหน้าผากเธอ
“คุณเป็นคนตรงไปตรงมา ผมนึกว่าเพราะเธอเป็นคุณป้าของคุณ แล้วคุณจะเชื่อคำพูดของเธอทุกคำ”
“เป็นไปได้อย่างไรละคะ? ฉันไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ที่ใครพูดอะไรก็เชื่อไปเสียหมด”
นรมนจ้องบุริศร์ด้วยสายตารักใคร่
ทันใดสายตาของบุริศร์ก็มีประกายเกิดขึ้นรวดเร็ว
แต่นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ เขาต้องระงับเอาไว้
“คุณคิดว่าคำพูดไหนของหล่อนที่เป็นเท็จ?”
“ที่บอกว่าตัวเองไม่รู้กำพืดของตัวเธอเอง ช่องโหว่มันเต็มไปหมด”
นรมนไม่รู้ว่าทำไมนงลักษณ์ไม่ต้องการบอกพวกเขาว่าใครลักพาตัวเธอมาตั้งแต่แรก แต่นรมนรู้สึกได้ชัดเจนว่า นงลักษณ์รู้ ไม่เพียงแต่รู้ แต่ยังรู้ลึกถึงรายละเอียดของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
ความรู้สึกนี่มาอย่างกะทันหัน แต่กลับไม่กล้าฟันธง
บุริศร์ดึงเธอเข้ามากอดแน่น ริมฝีปากบางเย็นเฉียบจูบเธอเบาๆ และพูดว่า “เรื่องนี้มีอันตรายซ่อนเร้น ถ้าเธอรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร แต่กลับไม่ได้ใช้มาตรการอะไรก็ตามในหลายปีมานี้ และยังไม่กลับไปหาคุณตา มีบางอย่างอยู่ในนี้ ถ้าเราไปอย่างนี้ แล้วให้คุณตาอยู่คนเดียวในเมืองชลธี เกรงว่าจะเป็นอันตราย”
นรมนถูกกระตุ้นโดยจูบของบุริศร์ ก่อนจะตกใจกับคำพูดของเขา
“คุณกลัวว่าเธอจะทำร้ายคุณตาไหม?”
“ไม่รู้สิ แต่ไม่ป้องกันไม่ได้”
บุริศร์รู้ว่าเขาเลือดเย็นเล็กน้อยเมื่อพูดแบบนี้ แต่มันไม่มีทาง ตอนนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษ ทำอะไรก็ต้องระมัดระวัง
นรมนเงียบ
เธอไม่คิดจะไปเดาว่านงลักษณ์ไม่ดี และไม่คิดจะรู้ด้านมืดของหล่อน อย่างไรก็เป็นลูกสาว ถ้าเป็นไปได้เธอหวังไว้จริงๆว่าอยากให้นงลักษณ์อยู่ด้วยกันกับคุณตา เรื่องอื่นเธอไม่สนใจ
แต่คำพูดของบุริศร์ก็ถูก ถ้าหากนงลักษณ์คิดไม่ดีกับคุณตาละ?
คนหนึ่งคือลูกสาวแท้ๆ และอีกคนหนึ่งคือบิดาผู้ให้กำเนิด นงลักษณ์จะทำอะไรกับคุณตาได้จริงนะเหรอ?
นรมนไม่รู้ เธอกังวล เศร้าและไม่สบายใจ
“เอาละ เรื่องนี้พวกเราก็รอดูความเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องกังวลไป ผมไม่มีทางให้ใครมาทำร้ายคุณตาหรอก”
คุณท่านตนุวรเป็นคนที่นรมนห่วงใยที่สุด บุริศร์จะไม่มีทางทำให้นรมนเสียใจ
ทั้งสองขึ้นรถ ก่อนขับรถมุ่งไปยังบ้านตระกูลพรโสภณ บุริศร์รับโทรศัพท์สายหนึ่ง
ชัยยศโทรมา
“ประธานบุริศร์ นงลักษณ์ออกจากบ้านแล้วครับ คนของเราตามไปอยู่ เธอไม่ได้ไปยังที่อยู่ของนภดล แต่ไปบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาครับ”
คำรายงานของชัยยศ ทำให้นรมนนิ่งงัน
นงลักษณ์ไปทำอะไรที่บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา?