นรมนถูกบุริศร์อุ้มขึ้นมา
เดิมทีเธอคิดว่าเขาจะพาไปห้องพักผ่อนของอนเซ็น แต่นึกไม่ถึงบุริศร์จะอุ้มเธอเดินเข้าไปกลางขุนเขา
“คุณจะพาฉันไปไหนคะ”
นรมนมองทิวทัศน์รอบๆ อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
บุริศร์ยิ้ม “พาคุณหนีตามกันไปไง กล้ามั้ยล่ะ”
“ไม่ได้เรื่อง แต่งงานแล้ว ลูกก็โตแล้ว ยังหนีตามกันอะไรอีก”
นรมนรู้สึกว่าคืนนี้บุริศร์เป็นตัวของตัวเองมาก
บุริศร์กลับหัวเราะลั่น
“ใครกันบอกว่ามีลูกแล้วหนีตามกันไปไม่ได้ ทิ้งเด็กๆ ไว้ เราหนีไปกันสองคน”
“พูดอะไรเพี้ยนๆ อีกแล้ว”
นรมนขี้เกียจต่อปากต่อคำกับเขาแล้ว แต่รอยยิ้มที่มุมปากไม่อาจควบคุมได้
บุริศร์อุ้มพาเธอเดินไปไม่กี่ก้าว นรมนก็เห็นน้ำตกโปรยปรายลงมา
“ที่นี่ไม่ใช่สระมังกรหรือคะ”
นรมนยังจำได้สระมังกรคือสระน้ำเล็กๆ ไม่มีทางกลายเป็นน้ำตก
บุริศร์ยิ้ม “อึม น้ำตกด้านหลังสระมังกร”
“เหลือเชื่อยังมีที่สวยๆ อย่างนี้ด้วย ฉันนึกว่าสระมังกรก็คือสระเล็กๆ เก้าสระตามตำนานเสียอีก”
“ไปกัน เข้าไปดูกัน”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนอึ้ง
“เข้าไปหรือคะ ล้อเล่นอะไรกันคะ นี่น้ำตกนะ!”
นรมนรู้สึกหัวของบุริศร์มีความเป็นไปได้
บุริศร์ไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วเรียกให้คนเอาชุดกันฝนมาให้นรมนใส่ ตัวเองก็ใส่เช่นกัน แล้วจูงมือนรมนเดินเข้าไป
น้ำไม่เย็นจัด ถึงกับอุ่นนิดหน่อย
“นี่คือน้ำพุร้อนหรือคะ”
นรมนแปลกใจมาก
บุริศร์พยักหน้ายิ้ม “คาดไม่ถึงหรือ”
“เรียกได้ว่าคาดไม่ถึงค่ะ”
เธอปลื้มทิวทัศน์ตรงหน้ามาก
สองคนเดินเคียงข้างกันเข้าไปในน้ำตก
ในหัวนรมนมีจินตนาการหนึ่งแวบเข้ามา เหมือนเธอกับบุริศร์เดินทะลุเข้าไปในสวรรค์ จูงมือกัน รักกันไม่เสื่อมคลาย
เธอเอียงหน้ามองบุริศร์ ใบหน้าด้านข้างของเขาทำให้ใจหวั่นไหว
เมื่อก่อนบุริศร์เย็นชา และเก็บอารมณ์ แต่ตอนนี้เขาอยากจะทำเซอไพรส์ให้ภรรยา ทำให้ผู้หญิงรักเขาหมดหัวใจ
นรมนรู้สึกขนลุกทั้งตัว
ความรู้สึกของเธอกับผู้ชายคนนี้เหมือนเหมาะหมักชั้นดี ยิ่งบ่มยิ่งเข้มข้น
“เลิกมองผมได้แล้ว ต่อไปยังมีเวลาเหลือทั้งชีวิตให้คุณมองผม ตอนนี้ดูแลเท้าก่อน ระวังทางลื่นนะครับ”
คำพูดของบุริศร์ดึงนรมนกลับมาจากภวังค์ หน้าแดงระเรื่อ
ถูกจับได้แล้ว
น่าขายหน้าชะมัด
โชคดีที่ราตรีมืดมิด มองเห็นหน้าแดงของเธอไม่ชัด
นรมนกุมมือบุริศร์เดินทีละก้าวผ่านก้อนหินด้านล่าง มองเห็นน้ำตกอยู่ตรงหน้า
“ถ้ามีกล้องถ่ายรูปก็คงจะดีนะคะ”
นรมนรู้สึกเสียดาย
น้ำตกที่นี่ใหญ่มาก มือถือคงจะเปียกน้ำ ถึงตอนนั้นถ่ายรูปก็ไม่สวย มือถือเสียแล้วก็คงซ่อมไม่ได้
“พรุ่งนี้ตอนกลางวันผมจะให้คนมาช่วยถ่ายให้”
บุริศร์กลับไม่ปฏิเสธข้อเสนอของนรมน
“จริงหรือคะ”
นรมนรู้ว่าบุริศร์ไม่ใช่คนที่ชอบถ่ายรูป ส่วนใหญ่เป็นรูปที่เธอแอบถ่าย แต่นึกไม่ถึงตอนนี้บุริศร์จะตกลง เธอดีใจตื่นเต้นมาก
“ผมจำได้ตอนที่พวกเราแต่งงานกันรีบร้อนถ่ายรูปแต่งงาน ถ้าคุณชอบที่นี่ พรุ่งนี้ผมให้ทีมงานถ่ายภาพมาถ่ายรูปครอบครัวให้พวกเราได้ ตอนนี้ดูเหมือนจะนิยมถ่ายรูปท่องเที่ยวกัน”
ข้อเสนอของบุริศร์ทำให้นรมนตกตะลึง
“ขนาดถ่ายรูปท่องเที่ยวยังรู้ โอ้โห ประธานบุริศร์ของเราก้าวหน้าแล้ว”
“อยู่แล้ว ผมก็ต้องตามเมียให้ทันสิ”
ท่าทางหน้าด้านของบุริศร์ทำให้เหมือนนรมนรู้จักเขาใหม่อีกครั้ง
นรมนเล่นน้ำร่าเริง ถ้าไม่เป็นเพราะอุณหภูมิน้ำพอเหมาะ บุริศร์คงจะไม่ตามใจเธออย่างนี้ มองดูนรมนยิ้มเบิกบาน ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าทั้งหมดนี้ช่างควรค่า
สองคนเล่นสนุกกันพักหนึ่ง นรมนก็เดินตามบุริศร์เข้าไปด้านในน้ำตก
“คุณแน่ใจหรือคะข้างหลังน้ำตกเดินเข้าไปได้”
นรมนไม่แน่ใจ
บุริศร์เพียงแต่ยิ้ม จากนั้นก็จูงมือนรมนเข้าไปด้านในน้ำตก
กระแสน้ำไหลแรงทำให้นรมนเกือบสำลัก ขณะที่สูดลมหายใจลึก หัวโผล่เข้าไปในน้ำตก นรมนก็รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย
ด้านหลังน้ำพุคือทางเดินหิน
“ว้าว เหลือเชื่อข้างในนี้จะมีสวรรค์ซ่อนอยู่”
เพราะน้ำพุร้อน ข้างในนี้อบอุ่นมาก นรมนถึงกับรู้สึกว่าสวมเสื้อกำมะหยี่ค่อนข้างร้อน
“ที่นี่ทะลุไปที่ไหนคะ”
นรมนถามอย่างสงสัย รู้สึกตัวเองเหมือนข้ามผ่านแล้ว
“ฉันจำได้เคยอ่านนิยาย ในนั้นก็มีสวรรค์แบบนี้ นึกไม่ถึงในชีวิตจริงก็มี”
นรมนเหมือนเด็กดีใจ พูดจาจิ๊จ๊ะ
“นิยายหรือ เรื่องอะไรครับ”
บุริศร์ชะงักนิดหนึ่ง ถามอย่างไม่รู้ตัว
นรมนยิ้ม “ไม่บอกค่ะ”
เธอเดินเข้าไปข้างในอย่างเร็ว
เดินเข้าไปราวร้อยเมตร เบื้องหน้าชัดเจน ปรากฏแปลงดอกไม้
ในแปลงดอกไม้มีดอกไม้หลายชนิด สีสันสะดุดตาและงดงามมาก
ที่ด้านหลังแปลงดอกไม้มีห้องหิน รวมสี่ห้องนอน ดูเหมือนยูโทเปียมาก
“คืนนี้พวกเรานอนที่นี่หรือคะ”
นรมนมองบุริศร์แปลกใจ เห็นบุริศร์พยักหน้าก็อุทานดีใจ
“วู้! เยี่ยมเลย! คุณหยิกฉันเร็ว ดูสิฉันฝันไปหรือเปล่า”
บุริศร์มองท่าทางเซ่อๆ ของนรมนจนเผลอยิ้มออกมาอีกครั้ง
“หม่ามี้ แด๊ดดี้ ก็มาแล้วหรือคะ”
พวกกมลวิ่งออกมาจากในห้อง ใบหน้าแดงเรื่อ ถึงกับใส่เสื้อชั้นเดียว แต่นรมนรู้ ที่นี่ไม่หนาว
ที่นี่เพราะเป็นน้ำพุร้อน อุณหภูมิอยู่ที่ราวยี่สิบองศา เสื้อตัวเดียวเหมาะสม
“พวกเด็กๆ มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“เร็วกว่าพวกเราอีก”
บุริศร์จูงมือนรมนเดินเข้าไปในห้อง
การตกแต่งในห้องเป็นสไตล์โบราณ กำแพงด้านนอกมีไม้เลื้อย เขียวชอุ่ม ดูแล้วรู้สึกสบายปลอดโปร่ง
“ถ้าได้อยู่ที่นี่ทั้งชีวิต ฉันก็ไม่รู้สึกเบื่อ”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์หัวเราะอีกครั้ง
สองคนเข้าไปในห้องนอนหลัก
กมลตื่นเต้นอยากจะพูดอะไรกับนรมน แต่ถูกกานต์กับกิจจาลากไป
“ไม่มีตาหรือไง ไม่เห็นหรือพวกเขารู้สึกว่าเธอเป็นส่วนเกินน่ะ”
คำพูดของกานต์ทำให้กมลทำปากจู๋
“พี่สิส่วนเกิน หึ!”
เด็กหญิงกระโดดขึ้นเตียง
นี่คือเตียงหิน แต่ด้านล่างมีน้ำพุร้อน ร้อนจัด อย่าสบายจนเกินไป
นรมนนั่งบนเตียงกับบุริศร์ มองดูเครื่องใช้สมัยใหม่ในห้อง ก็อดถามไม่ได้ “ที่นี่มีแค่หลังเดียว ถ้ามีคนอื่นมาเที่ยว ก็พักไม่ได้สิคะ”
“ที่นี่ผมสร้างเอง มีแต่ผมกับครอบครัวถึงมาอยู่ได้”
บุริศร์ทำให้นรมนอึ้งไป
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ก็หมายความว่า ภูเขาสระมังกรทั้งลูกนี้เป็นของผมบุริศร์ และเป็นของคุณนายบุริศร์ด้วย คนอื่นอยากจะมาเยี่ยมชมได้ จ่ายเงินซื้อตั๋วปีนเขา แต่อาคารข้างในนี้ ต้องขอโทษด้วย ไม่เปิดให้คนนอกเข้า”
บุริศร์อธิบายอย่างอดทน เห็นนรมนอ้าปากค้างและสายตาประหลาดใจ
เข้าก้มลงหอมเธอทีหนึ่ง แล้วยิ้มออกมา “ด้านหลังมีสระอนเซ็น ถ้าหากคุณอยากแช่ล่ะก็ สบายใจได้ มันเป็นห้องเดี่ยว”
นรมนยังตกตะลึงอยู่ ได้ยินบุริศร์เล่าก็พยักหน้าอัตโนมัติ
กระทั่งบุริศร์ออกไปจากห้อง เธอถึงได้รู้สึกตัว
ว้าว!
ภูเขาทั้งลูกนี้เป็นของบุริศร์หรือ
มิน่าล่ะเขาไม่กลัวว่าจะมีคนมาเจอพวกเขา
คิดถึงสถานการณ์ตอนนี้ของบุริศร์ นรมนคิดว่า ถ้าอยู่ที่นี่สักครึ่งเดือนหรือเดือนหนึ่ง ก็ไม่เลวทีเดียว ในเมื่อที่นี่เหมือนภาพวาด เธอชอบมาก
ไม่นานนักบุริศร์ก็ถือผลไม้กลับเข้ามา
“เราปลูกเองที่นี่ ไม่มีสารเคมีตกค้าง กินได้สบายใจ”
บุริศร์วางผลไม้ลงบนโต๊ะ
นรมนเป็นห่วงเด็กๆ บุริศร์พูดขึ้น “ของพวกเขาก็มีเหมือนกัน วางใจเถอะ รีบกินของคุณเร็ว”
ได้ยินอย่างนี้ นรมนก็ค่อยกินผลไม้
เป็นผลไม้ที่เธอชอบกินทั้งหมด บุริศร์ทำหน้าที่ปอกเปลือก นรมนรับผิดชอบกิน รับส่งเป็นจังหวะกลมเกลียว
ไม่นานนรมนก็อิ่มมากทีเดียว
“ไม่กินแล้วๆ ขืนกินอีกนอนไม่หลับแน่”
สองคนยิ้มให้กัน แล้วนอนลงบนเตียงอบอุ่น
“อยากดูดาวมั้ย”
“ที่นี่เป็นถ้ำไม่ใช่หรือคะ ดูดาวได้ตรงไหน”
นรมนรู้สึกว่าบุริศร์แหย่ให้ตัวเองดีใจเท่านั้น
บุริศร์ได้ยินก็ปิดไฟ จากนั้นก็กดเปิดปุ่มหนึ่ง เพดานก็เปลี่ยนไปทันที
หมู่ดาวกะพริบวิบวับบนท้องฟ้า มองเห็นกระทั่งหมู่ดาว
นรมนตกตะลึง
“นี่คือ”
“เทคโนโลยี5D เป็นยังไง ชอบมั้ยครับ”
นรมนรีบพยักหน้า
“เยี่ยมมาก”
“นอนเถอะ”
บุริศร์โอบนรมน มองดวงดาวเหนือศีรษะ ยิ้มที่มุมปาก
นรมนกลับทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ
วิวสวยอย่างดีไม่ถ่ายรูปช่างเป็นการสิ้นเปลือง
คิดอย่างนี้ นรมนก็ควักมือถือออกมา ถ่ายรูปดวงดาวบนฟ้า จากนั้นก็ส่งเข้าไปในโซเชียลมีเดีย
“นอกอยู่บนสวรรค์กับคนที่รักที่สุด มีฟ้าเป็นกระท่อมมีดินเป็นผ้าห่มในอ้อมกอดด้วยกัน ช่างมีความสุขจัง!”
นรมนส่งข้อความนี้แล้ว ก็ดึงดูดให้หลายคนเข้ามากดไลค์
บุริศร์เห็นเธอพิมพ์ตอบอย่างมีความสุข รอยยิ้มยิ่งอบอุ่นขึ้น
เสียงติ๊งดังขึ้น มือถือบุริศร์มีเสียงดังขึ้น น่าจะเป็นเสียงข้อความ ไม่ดึงความสนใจของนรมน
บุริศร์หยิบขึ้นมาอ่าน ขมวดคิ้ว
“พี่ใหญ่ ผลตรวจร่างกายของเจตต์ออกมาแล้วครับ”
ข้อความสั้นส่งมาจากวินเซนต์
ผลตรวจร่างกายด้านล่างเป็นภาษาเทคนิค แต่วินเซนต์วงกลมสีแดงไว้ทำให้สีหน้าของบุริศร์เคร่งเครียด
ร่างกายของเจตต์เป็นอย่างนี้ได้ยังไง
เขาสงสัย และแปลกใจ และอดที่จะมองนรมนไม่ได้
นรมนพิมพ์มือถือดีใจ เหมือนนางฟ้า ถ้าให้เธอรู้เรื่องสภาพร่างกายของเจตต์ เธอจะยอมอยู่ที่นี่กับเขาหลบหนีโลกข้างนอกต่อไปหรือ