ลูกน้อยรู้สึกเหมือนถูกมีดจ่อหลัง รีบกลืนน้ำลายไม่กล้าพูดอะไร และถอยหลังไปสองก้าว
ทัตเทพสัมผัสได้ถึงเจตนาสังหารของบุริศร์ผ่านมือถือ ละล่ำละลักตอบ “ยังครับ พวกเราช่วยชีวิตไว้ได้ แต่อาการไม่สู้ดีนัก เลือดออกมากไป คนช่วยชีวิตไว้ได้ แต่สภาพจิตใจไม่ค่อยดี ถ้าหากเป็นไปได้ ประธานบุริศร์รีบส่งคนมารับเถอะครับ”
ถ้าหากนาวินตายที่เรือนจำระหว่างประเทศ ทัตเทพไม่กล้าคิดตัวเองจะต้องเจออะไรบ้างตามมา
บุริศร์กลับยิ้มเย็น “ผมต้องการขังคน พวกคุณปล่อยคนหนีไป คนไปเยี่ยมก็เกือบตาย ตอนนี้พวกคุณยังเห็นแก่ตัว ให้ผมส่งคนไปรับถือว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นหรือ พวกคุณรู้มั้ยธิดาวีร์ออกมาทำร้ายพี่น้องที่สำคัญที่สุด ตอนนี้ยังไม่รู้เป็นตายทัตเทพ ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากเปิดเรือนจำระหว่างประเทศแล้วสินะ”
พูดจบแล้ว สีหน้าของทัตเทพก็ซีดเผือด
บุริศร์มีเงิน มีเท่าไหร่ทัตเทพไม่รู้ แต่เขารู้ว่าล่วงเกินคนนี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้ความรู้สึกถูกคนชี้จมูกด่าแย่จริงๆ
คนเราล้วนมีอารมณ์ อีกอย่างหลายปีมานี้คนที่ขอร้องเรือนจำระหว่างประเทศก็มีไม่น้อย ทัตเทพเคยถูกด่าอย่างนี้เมื่อไหร่กัน พูดขึ้นเสียงเย็น “ประธานบุริศร์ คุณข่มขู่ผมหรือ”
“คุณรอดูอีกห้านาที”
พูดจบบุริศร์ก็ตัดสาย
เขาไม่พูดอะไร สั่งให้ลูกน้องเอาโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์เข้ามา นิ้วเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เข้าถึงระบบข้อมูลของเรือนจำระหว่างประเทศ
แทบจะเวลาเดียวกัน ข้อมูลของพัศดีเรือนจำระหว่างประเทศหลายคนก็เผยแพร่ในรายชื่อคนมีชื่อเสียงระหว่างประเทศ
ทัตเทพแทบจะกระอักเลือดตาย
พัศดีพวกนี้คือแขนซ้ายขวาของเขา อาศัยความลับสถานะของตัวเองมาทำงาน ตอนนี้แทบจะถูกเปิดเผยหมด ต่อไปจะเดินบนเส้นทางสีเทาได้อย่างไร
ทัตเทพลนลานแล้ว
เขารีบโทรไปหาบุริศร์ แต่น่าเสียดายครั้งนี้บุริศร์ไม่รับสาย
สองสามวันนี้บุริศร์อดกลั้นมาตลอด หงุดหงิดแทบตาย ถ้าไม่เป็นเพราะกลัวนรมนตกใจ เขาจะทนทรมานขนาดนี้ทำไม
ตอนนี้วินเซนต์สลบไม่ฟื้น นาวินก็ไม่รู้เป็นอย่างไร น่าโกรธที่สุดคือธิดาหนีออกมาได้ ตอนนี้ไม่รู้ยังอยู่ในสหภาพQTหรือไม่
ทัตเทพไม่รู้จักพูดดีๆ กับเขาก็ช่างเถอะ ตอนนี้ยังยโสโอหังให้เขาไปรับคนอีก!
คนอย่างบุริศร์เมื่อไหร่กันให้คนอื่นรังแกได้
ทัตเทพแทบจะร้องไห้แล้ว
ถ้าหากบุริศร์ยังไม่รับสาย อย่างนั้นทรัพย์สินของครอบครัวก้อนสุดท้ายก็จะถูกเขาเปิดเผยหมดหรือเปล่า
เมื่อคิดอย่างนี้ ทัตเทพอยากจะตบตัวเองสักสองฉาด
ทำไมถึงไม่ตรวจสอบก่อนบุริศร์คนนี้นอกจากเงินแล้วยังมีอะไรอีกบ้าง
ทัตเทพรีบให้คนไปตรวจสอบข้อมูลของคนรอบข้างบุริศร์ ไม่นานก็ติดต่อป้อง
ป้องไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่ทัตเทพติดต่อมา ป้องก็ค่อนข้างประหลาดใจ
“คุณโทรมาหาผมทำไมครับ”
“คุณหมอป้อง ถือว่าผมขอร้องล่ะ ผมรู้คุณสนิทกับบุริศร์ คุณช่วงผมหน่อยเถอะ ผมติดค้างน้ำใจคุณครั้งหนึ่งได้มั้ย”
เรื่องที่ทัตเทพคือผู้ก่อตั้งเรือนจำระหว่างประเทศมีไม่กี่คนที่รู้ ป้องก็ไม่รู้ สำหรับป้องแล้ว ทัตเทพเป็นแค่ญาติของคนไข้คนหนึ่ง ขอบเขตอำนาจในตระกูลมากทีเดียว
ป้องคิดนิดหนึ่ง ถามขึ้น “คุณไปทำอะไรให้พี่รองไม่พอใจ”
“ก็ไม่มีอะไร คนของผมดูแลไม่ดี ทำให้นักโทษทำร้ายคุณนาวิน ผมไม่รู้นิสัยและวิธีการของประธานบุริศร์ ก็เลยข่มขู่ประธานบุริศร์ให้ส่งคนมารับคุณนาวินไป ผมก็เลยถูกลงโทษ”
ทัตเทพเล่าไม่ชัดเจน แต่ป้องก็ยังเข้าใจ
ทั้งสองคนขัดแย้งกันเพราะนาวิน
ป้องรู้ดีนาวินมีความหมายอย่างไรกับบุริศร์
เขาพูดเรียบๆ “งั้นคุณก็เสร็จแล้ว พี่รองใส่ใจน้องเขยคนนี้มากทีเดียว ได้ยินว่าหุ้นร้อยละหนึ่งของบริษัทก็ให้เขาด้วย อีกอย่าง พี่รองเกลียดคนอื่นข่มขู่เป็นที่สุด”
“ครับๆๆ คุณหมอป้อง ผมผิดไปแล้ว ผมผิดจริงๆ แต่คุณได้โปรดช่วยผมได้มั้ย คุณจะให้ผมทำอะไรก็ยอม”
ทัตเทพตอนนี้เสียใจสุดๆ
ป้องพูดยิ้มๆ “ผมจะลองดู ไม่แน่ว่าจะได้ผล แต่ถ้าสำเร็จแล้ว ผมได้ยินว่าคุณมีบัวหิมะเทียนซันอยู่ต้นหนึ่ง…”
“ผมจะให้คนส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ให้คุณหมอป้องทันที”
ทัตเทพตอนนี้อย่าว่าแต่บัวหิมะเทียนซันต้นหนึ่ง ต่อให้เป็นโสมพันปีก็ต้องให้
ป้องวางสายแล้วโทรไปหานรมน
บุริศร์ยังคงขุดข้อมูลภายในของทัตเทพต่อไป ได้ยินเสียงมือถือของนรมนดังขึ้นก็ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง
นรมนกลัวจะรบกวนเขา รีบถือโทรศัพท์ไประเบียงด้านหลัง
“ป้อง มีธุระอะไรคะ”
“พี่สะใภ้รอง พี่รองของผมกำลังเจาะระบบรักษาความปลอดภัยหรือเปล่าครับ”
นรมนตะลึงนิดหนึ่งเมื่อได้ยินป้องถาม แต่ก็ไม่ได้ปิดบัง
“ค่ะ ธิดาวีร์หนีออกมาจากเรือนจำระหว่างประเทศแล้ว และตอนนี้ยังฆ่าพี่น้องในสำนักงานใหญ่สหภาพQTตายไปคนหนึ่ง ตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ นาวินก็ถูกเธอแทงบาดเจ็บเกือบตาย ตอนนี้ฝ่ายเรือนจำระหว่างประเทศพูดจาไม่ดี ข่มขู่บุริศร์ให้ไปรับนาวิน บุริศร์ก็เลยโกรธค่ะ”
แม้จะไม่ได้สนิทสนมกับป้อง แต่นรมนก็รู้ว่าป้องไม่มีเจตนาร้ายกับบุริศร์ หวังดีกับบุริศร์เสมอ จึงเล่าเรื่องสั้นๆ ให้ป้องฟัง
สมองของป้องทำงานอย่างว่องไว เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทันที
“ทัตเทพที่แท้เป็นคนก่อตั้งเรือนจำระหว่างประเทศนี่เอง ทำไมเขาถึงร้อนใจขนาดนั้น แต่เรื่องนี้ต้องขอให้พี่สะใภ้รองช่วยหน่อยครับ ทัตเทพมีบัวหิมะเทียนซันอยู่ต้นหนึ่ง ผมอยากได้ โพนี่ใกล้คลอดแล้ว สุขภาพของเธอไม่ค่อยดี มีบัวหิมะเทียนซัน ผมค่อยมั่นใจหน่อย ของนี้ราคาสูงมาก ผมซื้อไม่ไหว”
น้อยครั้งที่ป้องจะเรียกนรมนพี่สะใภ้รอง ตอนนี้เพราะโพนี่จึงพูดจาเคารพตัวเอง นรมนรู้สึกดีใจมาก
“ได้ค่ะ ฉันจะเกลี้ยกล่อมบุริศร์ให้เขาหยุด เรื่องนี้แค่สั่งสอนฝ่ายนั้น ไม่ได้อยากจะทำให้ใหญ่โต ไม่อย่างนั้นต่อไปเจอหน้ากัน จะมองหน้ากันไม่ติด”
“ใช่ๆๆ ผมก็รู้สึกอย่างนี้ พี่รองไม่น่าจะถึงขั้นขุดรากถอนโคน ผมก็เลยหน้าหนาฉวยโอกาสนี้ตบทรัพย์ และหวังว่าพี่รองกับพี่สะใภ้รองจะช่วยให้สมหวัง”
ป้องรีบพูด
นรมนยิ้ม “ไม่เป็นไร โพนี่เป็นเพื่อนที่ดีกับฉัน ฉันก็เป็นห่วงเธอ ในเมื่อบัวหิมะเทียนซันมีประโยชน์ อย่างนั้นก็ใช้ให้คุ้มค่าละกัน”
นรมนรู้สึกว่าตัวเองเรียนรู้ที่จะนิสัยไม่ดีซะแล้ว
ชัดๆ ว่ารีดไถ ทัตเทพ แต่เธอรู้สึกว่ามันเหมาะสมแล้ว
ป้องรีบพูดขอบคุณอีกหลายคำ
นรมนยิ้มวางสาย รู้สึกว่าป้องดูแลโพนี่เหมือนกับบุริศร์ดูแลตัวเอง
คนอื่นรู้สึกว่าเธอเป็นภาระของบุริศร์ แต่บุริศร์ไม่คิดอย่างนี้
จุดยืนของคนเราต่างกัน มุมมองต่อเรื่องราวไม่เหมือนกัน ผลที่ออกมาก็แตกต่างกันไป
แต่ป้องไม่ได้มีปัญหากับเธอมากเกินไป ถือว่าเข้าใจได้
นรมนเก็บมือถือแล้ว เดินกลับมานั่งข้างบุริศร์ เห็นบุริศร์ยังขุดบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของอีกฝ่าย ก็ยื่นมือไปดึงปลั๊กโน้ตบุ๊กออก
“คุณทำอะไร”
บุริศร์เห็นหน้าจอมืด ก็ขมวดคิ้ว สายตาโหดเหี้ยมทำให้รู้สึกขนลุก
นรมนกลับพูดอย่างไม่แยแส “พอแล้วค่ะ คุณคิดจะบีบเขาให้ตายเลยหรือไง แม้ว่าคุณจะมีความสามารถ แต่เรือนจำระหว่างประเทศไม่ใช่จะหาเรื่องได้ง่ายๆ พอคุณบีบเขาแล้วจริงๆ พังพินาศไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย คุณคิดว่าเหมาะสมมั้ยคะ อีกอย่างนาวินยังอยู่กับเขานะ ไม่ว่าเรื่องธิดาวีร์จะจัดการยังไง จะไม่สนใจนาวินไม่ได้ใช่มั้ยคะ”
ความโหดเหี้ยมในสายตาบุริศร์ พูดอย่างหงุดหงิด “เจรจาสันติแบบนี้ ผมรู้สึกอึดอัด”
“ต่อให้ไม่มีการยั่วยุและข่มขู่ของทัตเทพ คุณก็รู้สึกอึดอัดใจอยู่ดี ดังนั้นบุริศร์ อย่าทำตามอารมณ์ได้มั้ยคะ ทัตเทพโทรไปหาป้อง ขอให้ป้องช่วยขอร้องพวกเรา เมื่อกี้ป้องบอกแล้ว โพนี่ใกล้คลอด ต้องการบัวหิมะเทียนซันในมือของทัตเทพคุณถือว่าทำเพื่อป้องละกัน ปล่อยเขาไปก่อนเถอะ”
เมื่อก่อนบุริศร์ไม่มีทางทำเรื่องที่กำจัดให้สิ้นซาก แต่บุริศร์ในตอนนี้นรมนรู้สึกว่าไม่ปกติ เห็นท่าทางบุริศร์โหดเหี้ยม เธอกลัวจริงๆ บุริศร์จะกำจัดคนที่ทำให้ไม่พอใจ สร้างศัตรูมากเกินไป
บุริศร์ได้ยินเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับป้องและโพนี่ ก็โยนโน้ตบุ๊กไปทางหนึ่ง
“ทัตเทพโชคดีแล้ว”
พูดจบเขาก็รับโทรศัพท์
ฝ่ายทัตเทพรู้สึกขอบคุณสวรรค์
“ประธานบุริศร์ ผมผิดไปแล้ว ไม่กล้าทำอีกแล้ว ผู้ใหญ่ไม่ถือสาผู้น้อย ใจดีปล่อยผมไปเถอะ แขนซ้ายขวาของผมถูกเปิดเผยสถานะอย่างนี้ เรือนจำระหว่างประเทศของเราต่อไปคงไม่รอดแน่”
“หาคนส่งนาวินมาให้ผมละกัน เดี๋ยวจะให้ที่อยู่ อย่าลืมล่ะ เรื่องนี้เรือนจำระหว่างประเทศของคุณติดค้างผม ส่วนเรื่องธิดาวีร์ พวกคุณต้องให้ความร่วมมือช่วยหาตัวเธอ และจับขังไว้ ชาตินี้อย่าให้เธอออกมาได้อีก ไม่อย่างนั้นผมพังเรือนจำระหว่างประเทศแน่”
บุริศร์ไม่ได้ล้อเล่นแน่นอน
ทัตเทพย่อมไม่กล้าประมาท
“ครับๆๆ ผมจะรีบให้คนส่งคุณนาวินกลับไป ส่วนเรื่องธิดาวีร์ พวกเรารู้ตำแหน่งของเธอครับ”
“พวกคุณรู้งั้นหรือ”
บุริศร์ค่อนข้างแปลกใจ
ทัตเทพรีบอธิบาย “ครับ ใครก็ตามที่เคยเข้าเรือนจำระหว่างประเทศจะมีเครื่องติดตามตัว ต่อให้หนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวก็อย่าได้คิดหนีการติดตามของพวกเราพ้น พวกเราสืบตำแหน่งที่แน่ชัดของเธอได้แล้ว ถ้าประธานบุริศร์ต้องการ ผมจะส่งให้ทันที”
“ส่งมาละกัน”
บุริศร์รู้ว่าตัวเองเพิ่งลงมือทำให้ทัตเทพกลัว ไม่อย่างนั้นทัตเทพคงไม่มีทางบอกเรื่องที่เป็นความลับขนาดนี้แน่
น่าสนใจ
เรือนจำระหว่างประเทศมีความสามารถอย่างนี้ด้วย
บุริศร์รีบส่งแชทของตัวเองบอกพิกัดตำแหน่งให้ ทัตเทพ
ทัตเทพก็ส่งพิกัดตำแหน่งของธิดาวีร์กลับมาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อบุริศร์เห็นพิกัดแล้ว ก็ลุกพรวดขึ้นทันที สีหน้าหนักใจอย่างบอกไม่ถูก