แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1253 ถึงพี่เป็นแด๊ดดี้ของหนูก็พูดไม่ได้

บทที่ 1253 ถึงพี่เป็นแด๊ดดี้ของหนูก็พูดไม่ได้

นรมนไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการเล่นสี่มือประสานกันกับบุริศร์มันจะมีความรู้สึกที่ไม่สมจริงขนาดนี้ และสวยงามมากขนาดนี้

ข้างหูมีแต่เสียงเปียโนที่ไพเราะ เพลงที่เล่นยังคงเป็นเพลง《เฟือร์เอลิเซอ》ของเบทโฮเฟิน แต่ว่าวินาทีนี้นรมนรู้สึกว่าบทเพลงนี้มันช่างงดงามและน่าฟังมากขนาดนี้ แล้วก็มีกลิ่นอายที่ไม่เหมือนเดิมเพิ่มขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง

มือของทั้งสองคนบินว่อนไปบนคีย์บอร์ดขาวดำ และเต้นระบำไป อย่างกับภูตจิ๋วสองตน ที่หลงระเริงกับความสุขบนโลกมนุษย์อยู่

ในดวงตาของพวกเขาสองคนมีเพียงซึ่งกันและกันเท่านั้น ไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าพวกเขาทั้งสองคนเข้ากันได้ดีเช่นนี้

คนรอบข้างต่างก็ฟังกันจนอึ้งไป มีคนหนึ่งเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายคลิปไว้อย่างรวดเร็ว แล้วก็โพส์ตลงไปบนโลกออนไลน์

นรมนและบุริศร์ในตอนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

พวกเขาไม่รู้เลยว่าการกระทำธรรมดาของตัวเองจะสามารถติดเทรนฮิตขึ้นมาได้

โพนี่ที่กำลังจะคลอดลูก เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการหดเกรงของมดลูก เธอจึงเข้าไปดูWeiboอย่างเบื่อหน่ายขึ้นมา แล้วก็เห็นคลิปที่นรมนและบุริศร์เล่นเปียโนกันเข้า จึงอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเล็กน้อย

ป้องสังเกตอาการภรรยาตัวเองอยู่ตลอด พอเห็นว่าโพนี่นิ่งอึ้งไป ก็อดไม่ได้ที่จะเดินหน้าเข้ามาดูสักหน่อย แล้วก็โกรธขึ้นมาทันที

“บุริศร์นี่ยังไงกัน? ไหนว่ารักกันดีกับพี่สะใภ้รองอยู่ไม่ใช่เหรอ? แต่ตอนนี้กลับไปเล่นเปียโนอยู่กับผู้หญิงอื่นลับหลังพี่สะใภ้รองเหรอ? นี่มันเกินไปแล้วจริง ๆ! เพื่อเขาแล้วพี่สะใภ้รองต้องยอมเสียสละอะไรมากมาย ต้องสูญเสียอะไรไปมากมาย เขานี่มันเป็นผู้ชายชั่วจริง ๆ!”

โพนี่อึ้งไปเล็กน้อย

“คุณมีความสัมพันธ์ดีกับนรมนขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ?”

ผู้ชายบ้านเธอนั้น เธอรู้จักดีที่สุด

ตั้งแต่แรกป้องไม่ได้ชอบนรมนซะเท่าไหร่เลย และมักจะเอาแต่คิดว่านรมนมาฉุดให้บุริศร์ตกต่ำไป และในฐานะที่เป็นพี่น้องของบุริศร์ ช่วงหลายปีมานี้บุริศร์ต้องเจออะไรมาบ้าง แน่นอนว่าเขาต้องยืนอยู่ข้างบุริศร์อยู่แล้ว

สำหรับจุดนี้ โพนี่ไม่ได้ช่วยพูดอะไรแทนนรมน เพราะว่าความลำบากแบบนี้มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่รู้ และเธอก็เชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นป้องก็ดี คนอื่นก็ดี ช้าหรือเร็วก็จะต้องเห็นความดีของนรมนเอง และรู้ว่าที่นรมนอยู่กับบุริศร์นั้น คู่ควรกับบุริศร์ทุกอย่างแน่

เพียงแต่ว่าโพนี่คิดไม่ถึงว่าเวลาที่ป้องยอมรับนรมนนั้นจะเร็วขนาดนี้ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อย

ป้องกลัวภรรยาจะเข้าใจผิด จึงรีบพูดขึ้นว่า “อะไรคือความสัมพันธ์ของผมกับเธอดีขนาดนั้น? เธอเป็นพี่สะใภ้รองของผม แน่นอนว่าผมจะต้องปกป้องเธออยู่แล้ว แล้วอีกอย่าง เธอก็เป็นเพื่อนของคุณไม่ใช่เหรอ? เพื่อนรักของเมียผมก็จะต้องเป็นคนดีเหมือนเมียผมอยู่แล้ว”

“รู้จักแต่เลียแข้งเลียขาฉัน”

ริมฝีปากของโพนี่คลี่ขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ร้องอย่างเจ็บปวดเพราะมดลูกบีบตัวขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง

“โพนี่ สูดหายใจเข้าลึก ๆ สูดหายใจเข้าลึก ๆ นะ”

ป้องตื่นเต้นจนบนหน้าผากมีเหงื่อซึมออกมา อย่างกับว่าคนที่จะคลอดลูกไม่ใช่โพนี่ แต่เป็นเขายังไงอย่างงั้น

โพนี่จับโทรศัพท์ไว้แน่น เจ็บจนหมดเรี่ยวแรงขึ้นมาเล็กน้อยแล้วก็พูดขึ้นว่า “นั่นคือนรมน คุณอย่าพูดเรื่องตลกเลย เธอก็แค่แต่งหน้าขึ้นมาหน่อยเท่านั้น ดูดี ๆ ก็ยังสามารถมองออกได้ว่าเป็นเธอ แต่ว่าการขึ้นเทรนฮิตแบบนี้จะทำให้เปิดเผยตำแหน่งของพวกเขาหรือเปล่า? ในเมื่อตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาค่อนข้างพิเศษอยู่บ้าง”

ใจของป้องหล่นลงตุ๊บทีหนึ่ง

ใช่ซิ สถานการณ์ในตอนนี้ของบุริศร์มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่นี่

“คุณอย่าเพิ่งไปสนใจพวกเขาเลย สนใจตัวเองดีกว่า ผู้หญิงจะคลอดลูกถือเป็นจุดหนึ่งที่ต้องก้าวผ่านไป พวกเรามาก้าวข้ามผ่านจุดนี้ไปก่อนดีกว่าไหม? พี่รองมีความสามารถมากซะขนาดนั้น คุณวางใจเถอะ เขาจะต้องจัดการให้เรียบร้อยได้แน่”

คำพูดของป้องเพิ่งจบลง การติดเทรนฮิตบนโลกออนไลน์ก็ได้หายไปจนหมดเกลี้ยงแล้ว

ในขณะเดียวกัน ที่ฐานทัพใหญ่สหภาพQT สีหน้าของกานต์ยังคงขาวซีดอยู่ แต่ว่ามือทั้งคู่กำลังเคาะอยู่บนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว แล้วไม่นานก็หยุดลง

ที่หน้าจอคอมปรากฏรูปสัญญาลักษณ์จิ้งจอกเงินขึ้นมา จากนั้นก็ส่งข้อความมาประโยคหนึ่ง

“เจ้าเด็กผี ร่วมมือกันอย่างมีความสุขนะ!”

หัวคิ้วของกานต์ขมวดขึ้นมาเล็กน้อย

เจ้าเด็กผีเหรอ?

เจ้าจิ้งจอกเงินนี่ยังคงทำให้คนทั้งรักทั้งเกลียดเหมือนเดิมเลย

แต่ว่าสามารถร่วมมือกับจิ้งจอกเงินมาลบเทรนฮิตนี้ไปได้ และที่สำคัญยังไม่มีทางค้นหาเจออีกด้วย นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้คนดีใจได้อีกเรื่องหนึ่ง

จากนั้นกานต์ก็เจ็บปวดจนตัวงออยู่บนเตียง

เล่นเปียโนสี่มือประสานกันเหรอ?

ที่ร้านกาแฟอีก!

ตอนนี้เขาสงสัยมากจริง ๆ ว่าตัวเองเป็นลูกชายแท้ ๆ ของพวกเขาจริงหรือเปล่า

ในขณะที่เขาบาดเจ็บ นอนอยู่บนเตียงกำลังต้องการพ่อแม่ แต่พวกเขาสองคนกลับวิ่งไปเดินช้อปปิ้งโรแมนติกกันอยู่ แถมยังไปติดเทรนฮิตอีก พวกเขาเคยคิดถึงภาพฝังใจที่จะเกิดขึ้นในใจเขาที่เป็นลูกชายคนนี้บ้างไหม

แล้วในตอนที่กานต์กำลังเสียใจอยู่นั้น กมลกับกิจจาก็เดินเข้ามาพอดี

“พี่ พี่รู้สึกยังไงบ้าง? ยังเจ็บอยู่ไหมคะ? มาเดี๋ยวหนูเป่าให้นะคะ”

น้ำเสียงที่อ่อนหวานของกมลทำให้กานต์รู้สึกว่าโลกนี้ยังมีรักจริงอยู่

“ไม่เป็นไร ไม่เจ็บแล้ว”

กานต์คลี่ยิ้มขึ้นมาทันที แต่ว่าสีหน้าที่ขาวซีดนั่นก็ยังทำให้กมลเบ้ปากขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็พุ่งตัวเข้ามากอด

“พี่ พี่ทำให้หนูตกใจมากเลย! ต่อไปห้ามทำอย่างนี้อีกนะคะ”

กมลหลีกเลี่ยงบาดแผลของกานต์ไว้ แล้วกอดกานต์ไว้แน่น

หัวใจของกานต์รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันทีเลย

“พี่ไม่เป็นไรแล้ว นี่ก็ดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ”

“แบบนี้ก็เรียกว่าดีด้วยเหรอ?”

กิจจายกน้ำซุปบำรุงเลือดและเรี่ยวแรงเข้ามาถ้วยหนึ่ง แล้วยื่นให้กับกานต์

“ฉันให้พวกเขาทำมา นายดื่มซิ”

“ได้”

กานต์รับไป แล้วก็ดื่มรวดเดียวหมดเลย

พอเห็นกานต์ถือโน้ตบุ๊คไว้ กมลก็ถามขึ้นอย่างรู้สึกสงสัยว่า “พี่ พี่กำลังทำอะไรอยู่คะ? บาดเจ็บขนาดนี้แล้วยังไม่รู้จักพักผ่อนอีกเหรอคะ?”

“ฉันกำลังเช็ดก้นให้ใครบางคนอยู่น่ะ”

แค่กานต์คิดถึงพ่อแม่คู่นั้นขึ้นมา มันก็ เฮ้ย มีแต่น้ำตาทั้งนั้น

“ฮือ?”

กมลรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจ

กานต์รีบพูดขึ้นว่า “ไม่มีอะไรแล้ว มันจบไปแล้ว”

“งั้นก็พักผ่อนให้ดี ๆ ไม่งั้นละก็พวกเราก็ต้องอยู่ที่นี่กันไปอีกนานแน่ แล้วแบบนี้จะได้ไปหมู่บ้านดารายนเมื่อไหร่กัน”

พอได้ยินกมลพูดแบบนี้ กานต์ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาเลย

“กมล หรือเรื่องที่เธอเป็นห่วงมันไม่ใช่ร่างกายของพี่ แต่คือจะได้ออกเดินทางไปหมู่บ้านดารายนเมื่อไหร่ใช่ไหม?”

“ไม่ใช่นะ หนูก็เป็นห่วงทั้งสองอย่างแหละ แฮะ ๆ”

กมลยิ้มแฮะ ๆ ขึ้นมา ทำให้กานต์รู้สึกตำหนิต่อไปไม่ไหวแล้ว

“เธอจะไปทำอะไรที่หมู่บ้านราดายน?”

ที่แห่งนั้นกานต์รู้สึกรังเกียจอยู่เล็กน้อย ถ้าหากเป็นไปได้ล่ะก็ เขาไม่อยากจะไปสักเท่าไหร่เลย ในเมื่อมีเรื่องตั้งมากมายต่างก็เกี่ยวพันกับที่นั่น

แต่ว่ากมลกลับตั้งหน้าตั้งตารอเป็นอย่างยิ่ง นี่มันทำให้เขารู้สึกแปลกใจอยู่บ้างจริง ๆ

กิจจาเองก็จ้องมองกมลด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน

กลมกัดริมฝีปากล่างเอาไว้ แล้วพูดเหมือนกับว่าจะได้ตัดสินใจไปอย่างเด็ดขาดมากว่า “ฉันมีเรื่องบางอย่างจะต้องไปจัดการสักหน่อย”

“เธอจะไปมีเรื่องอะไรได้?”

“พี่ดนัยเป็นคนขอให้ฉันไปช่วยจัดการ แต่เขาบอกว่าไม่ต้องรีบร้อน ฉันก็เลยคิดว่า ก็คุณลุงคริชณะยังไม่กลับมาใช่ไหมล่ะ? พี่ดนัยกับพี่เวธนีและคุณป้างามสุดาก็เฝ้ารอให้คุณลุงคริชณะกลับมาอยู่ทุกวัน ถ้าหากฉันสามารถช่วยเรื่องนี้ได้ ไม่แน่คุณลุงคริชณะอาจจะได้กลับมาเร็ว ๆ ก็ได้”

ฟังกมลพูดไปแบบนี้แล้ว ท่าทีของกานต์ก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที

“นี่เธอจะพูดว่าคุณลุงคริชณะเกี่ยวข้องกับเรื่องของหมู่บ้านราดายนเหรอ? ที่เขาโดนตรวจสอบไม่ใช่เพราะว่าคดีวางระเบิดเหรอ?”

“หนูก็ไม่ค่อยชัดเจน เพียงแต่แค่ได้ยินพี่ดนัยพูดมาว่าถ้าแด๊ดดี้กับหม่ามี้เราไปหมู่บ้านราดายน ก็ขอให้หนูช่วยเขา”

“ช่วยอะไร?”

กมลส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “นี่เป็นความลับของหนูกับพี่ดนัยค่ะ หนูพูดไม่ได้”

“ฉันเป็นพี่เธอนะ”

“ถึงเป็นแด๊ดดี้ หนูก็พูดไม่ได้ค่ะ”

กมลค่อนข้างที่จะดื้อดึงและยืนกรานกับเรื่องนี้ แล้วก็ทำให้กานต์และกิจจารู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาทันที

“กมล ที่แห่งนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดหรอกนะ”

“หนูรู้ค่ะ แต่ว่าก็ไม่เป็นไร นี่ก็มีพี่ ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอคะ”

“ในเวลาแบบนี้นึกถึงฉันขึ้นมาแล้วเหรอ?”

กานต์พูดขึ้นอย่างอารมณ์ไม่ดี แต่ก็รู้จักความดื้อดึงของกมลดี

น้องสาวคนนี้ปกติเห็นว่าบ้า ๆ บอ ๆ แต่ถ้าตั้งใจจะทำเรื่องอะไรขึ้นมาจริง ๆ ละก็ วัวสิบตัวก็ยังฉุดไม่อยู่

แต่ก็ช่างเถอะ

ถ้ามีวันนั้นขึ้นมาจริง ๆ เขาก็จะพยายามปกป้องเธอให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน

กานต์พูดแบบนี้ไปในใจ แล้วก็ไม่บีบบังคับกมลอีก

นรมนกับบุริศร์ไม่รู้เลยสักนิดว่าตัวเองติดเทรนฮิตขึ้นมาอีกพักหนึ่ง แต่ว่าก็โดนคนลบทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

ธเนศพลจ้องมองโทรศัพท์ที่วินาทีแรกยังติดเทรนฮิตอยู่ วินาทีต่อมาก็หาร่องรอยอะไรไม่เจอแล้ว แล้วก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากกว้างขึ้นมา

เห็นได้ชัดเลยว่ารอบข้างบุริศร์มีแต่ยอดฝีมืออยู่เยอะแยะราวกับก้อนเมฆ

ความรวดเร็วแบบนี้ แม้แต่เขาก็ยังไม่นับถือไม่ได้

เขายิ้มขึ้นมา แล้วก็โทรศัพท์หาบุริศร์ทันที

ในเวลานี้บุริศร์กำลังเล่นจบเพลงกับนรมนพอดี รอบข้างก็เกิดเสียงปรบมือดังขึ้นราวกับฟ้าร้อง

พวกเสียงปรบมือหรือดอกไม้อะไรพวกนั้น พวกเขาสองคนต่างก็เป็นพวกที่ได้รับมาตั้งแต่เล็กจนโต ก็เลยไม่ได้รู้สึกภาคภูมิใจอะไรมาก เพียงแต่ว่าการร่วมมือกันได้เป็นอย่างดีเมื่อกี้ของทั้งสองคนต่างก็ซึมซับเข้าไปในใจอยู่นานไม่จางหายไป

“คุณเล่นได้ดีจริง ๆ”

ทั้งสองคนต่างคนต่างพูดขึ้นพร้อมกัน จากนั้นก็หัวเราะออกมา ความอ่อนโยนที่ไร้ขอบเขตแผ่ขยายใหญ่ขึ้นมาทันที

“ไปเถอะ กลับบ้านกัน”

นรมนโดนบุริศร์จูงมือไว้ แล้วเดินออกจากร้านกาแฟไปภายใต้สายตาที่อิจฉาของผู้คนรอบข้าง

แล้วโทรศัพท์ที่อยู่ข้างกายดังขึ้นมา บุริศร์อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบออกมา

ในตอนที่เขาเห็นว่าเป็นสายเข้าของธเนศพล ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง

เมื่อกี้ตัวเองเพิ่งจะจับเสนาธิการเขมทัตไป แล้วสายโทรศัพท์ของทางด้านธเนศพลก็โทรเข้ามาเลย หรือว่าจะโทรมาให้เขาปล่อยคนเหรอ?

พอคิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของบุริศร์ก็ดูไม่ค่อยดีขึ้นมาเท่าไหร่

“มีอะไรเหรอคะ? สายโทรศัพท์ของใครเหรอคะ?”

เมื่อกี้ยังรักกันหวานแหววอยู่ แล้วจู่ ๆ สีหน้าของบุริศร์ก็เปลี่ยนไป นรมนสัมผัสละเอียดอ่อนขึ้นมาทันที

“ไม่มีอะไร”

บุริศร์ลูบหัวนรมนอย่างปลอบขวัญเล็กน้อย แล้วก็รับสายต่อหน้าเธอเลย

“คุณชายธเนศพลโทรศัพท์มาหาผมในตอนนี้ หรือว่าจะให้ผมปล่อยคนเหรอ?”

“ปล่อยใครกัน? คุณจับใครไปเหรอ?”

ธเนศพลรู้สึกมึนงงเล็กน้อย

บุริศร์เองก็อึ้งไปครู่หนึ่งเหมือนกัน

หรือว่าจะไม่ได้เพื่อเสนาธิการเขมทัตเหรอ?

“คุณโทรหาผมมีเรื่องอะไรครับ?”

บุริศร์รีบเปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นมาทันที

ล้อเล่นซิ เขาจะไม่มีทางเปิดเผยเรื่องของตัวเองให้ธเนศพลแน่

คนคนนั้นแล้วสุขภาพเรียบร้อย แต่ว่าไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาแล้วว่า ธเนศพลนั้นเป็นปีศาจตัวหนึ่ง เพียงแต่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามนั่นทำให้คนอื่นเข้าใจผิดไปเท่านั้น

นรมนเองก็นึกออกแล้วว่าธเนศพลคือใคร

คนคนนั้นที่เมืองหลวงเหรอ?

เขาเคยช่วยเหลือบุริศร์มาก่อน เพียงแต่ว่าตัวตนของเขานรมนไม่ค่อยรู้จักเท่านั้น แล้วตอนนี้ก็ไม่มีความอยากรู้อยากเห็น เพียงแต่ยืนฟังอยู่อีกข้างหนึ่งเงียบ ๆ เท่านั้น

ธเนศพลเองก็ไม่ได้ถามบุริศร์ว่าเมื่อกี้หมายความว่ายังไง เพียงแต่แค่ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “คุณคงจะไม่รู้ เมื่อกี้ที่คุณและภรรยาเล่นเปียโนสี่มือประสานกันนั้นได้ขึ้นเทรนฮิตไปแล้ว”

“อะไรนะ?”

หัวคิ้วของบุริศร์ขมวดกันขึ้นเล็กน้อย

ในจุดนี้เขาได้ลืมนึกถึงเลยไป

“ไม่ต้องร้อนใจไป มีคนช่วยพวกคุณลบทิ้งไปแล้ว ผมเลยจะบอกว่ายอดฝีมือที่อยู่ข้างกายคุณคนนี้สามารถยืมให้ผมใช้หน่อยได้ไหม?”

“ไม่ได้!”

บุริศร์พูดจบแล้วก็กดวางสายโทรศัพท์ไปเลย

เขากดเข้าไปในโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว อยากจะเช็กดูร่องรอยของเมื่อกี้นิดหน่อย แต่พอดูทีหนึ่งก็รู้แล้วว่าต้องเป็นฝีมือของจิ้งจอกเงินและกานต์

อยากจะยืมลูกชายกับเขาเหรอ?

ล้อเล่นระดับโลกอะไรกัน!

แต่ว่าธเนศพลก็ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ พอโดนบุริศร์กดวางสายไปแล้ว ก็โทรWechatเข้ามาสายหนึ่งเลย

“เอาคนมาให้ผมยืม แล้วผมจะให้ข่าวที่เกี่ยวกับหมู่บ้านราดายนกับคุณข้อหนึ่ง ก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าอยากฟังหรือไม่ฟัง และยังมีเรื่องหนอนพิษทองคำด้วย มันมีความเกี่ยวข้องกับคุณอยู่นะ”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท