บุริศร์อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเล็กน้อย
ธเนศพลถึงขนาดรู้เรื่องหนอนพิษทองคำด้วย!
“คุณแกล้งผมเล่นใช่ไหม?”
น้ำเสียงของบุริศร์แฝงไว้ด้วยความโกรธอยู่เสี้ยวหนึ่ง ถึงแม้ว่าสถานะของอีกฝ่ายจะพิเศษ ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะเคยถือได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกันมาก่อน แต่ว่าวินาทีนี้ ตัวบุริศร์เต็มไปด้วยแรงสังหาร
ธเนศพลไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าต้องฟังออกได้ แต่ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ยังไง? หรือคุณจะมาจัดการผมที่เมืองหลวงเลยไหมล่ะ?”
“มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะ คุณก็รู้ ตอนนี้ผมไม่ต้องกังวลอะไรด้วยซ้ำ ผมจะไปไหนก็เหมือนกันหมด”
คำพูดของบุริศร์นี้ไม่ได้พูดผิดเลย
ถ้าหากจะพูดว่าเมื่อก่อนบุริศร์คือสัตว์ประหลาดที่โดนควบคุมตัวหนึ่ง งั้นตอนนี้เขาก็คือม้าพยศที่หลุดออกจากการควบคุม โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งที่เขากลัวได้จริง ๆ ด้วย
ธเนศพลเก็บอารมณ์ที่จะล้อเล่นขึ้น แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผมจะตรวจสอบคนคนหนึ่ง และจะให้ใครรู้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นจำเป็นจะต้องยืมคนของคุณมาใช้สักหน่อย พวกเราเป็นเพื่อนกันมานานขนาดนี้ จะถือซะว่าใช้ความสะดวกหน่อยไม่ได้เหรอ?”
“คุณขอร้องผมเหรอ?”
แล้วอยู่ ๆ อารมณ์ของบุริศร์ก็ดีขึ้นมาเยอะเลย
ธเนศพลเป็นคนยังไง?
คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่เขาบุริศร์นั้นรู้เป็นอย่างดี
คนคนนี้หยิ่งยโสเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นพี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมา เขาก็ไม่เคยที่จะวางสถานะของตัวเองลงเลย แต่ว่าสถานะของเขาก็สูงส่งมากจริง ๆ จะสามารถทำให้เขาเอ่ยปากขอร้องคน นี่ก็เหมือนกับว่าจะเป็นครั้งแรกเลยนะ
ตอนแรกบุริศร์ยังนึกว่าคำพูดกระตุ้นประโยคนี้ของตัวเองจะสามารถทำให้ธเนศพลโกรธจนวางสายไปเลย แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายไม่เพียงไม่วางสาย แต่กลับยังตอบกลับมาอย่างรวดเร็วด้วยว่า “ใช่ ผมขอร้องคุณ ขอร้องคุณช่วยเอาคนของคุณมายืมให้ผมหน่อยไม่ได้เหรอ?”
คราวนี้บุริศร์มึนงงไปทั้งตัวเลย
นี่มันไม่ใช่แนวทางของธเนศพลนี่
หรือจะบอกว่าคนที่เขาจะสืบนั้นเป็นคนที่สำคัญต่อเขามากเหรอ
บุริศร์นั้นเข้าใจธเนศพลดี หลายปีมานี้ไม่ว่าใครธเนศพลก็จะรักษาระยะห่างด้วยตลอด ถึงแม้จะเป็นพี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาก็ตาม เขาก็จะรักษาความเหินห่างไว้เสี้ยวหนึ่งเสมอ
เขามีหยิ่งยโสของเขา
ที่สำคัญอยู่ในตำแหน่งแบบเขา อยากจะตรวจใครแล้วตรวจไม่ได้บ้าง?
ขอแค่เขาโทรศัพท์ไปสายเดียว ก็มีคนเก่งมากความสามารถอยากจะช่วยเหลือเขามากมาย แล้วตกลงเป็นคนแบบไหนกันนะถึงได้ทำให้เขาต้องไปตรวจสอบอย่างเงียบเชียบและยอมลดสถานะของตัวเองลงด้วย?
“ผู้หญิงเหรอ?”
“ผู้ชาย”
บุริศร์นึกว่าธเนศพลต้องเงียบเชียบอย่างนี้เพราะความรัก แต่กลับคิดไม่ถึงว่าคำตอบของธเนศพลจะทำให้เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“คุณชอบผู้ชายเหรอ?”
“คุณไปไกล ๆ เลยนะ! ผมไม่ใช่เกย์นะ!”
สำหรับการคิดเลอะเทอะของบุริศร์ ในที่สุดธเนศพลก็รักษาสไตล์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
บุริศร์หัวเราะขึ้นมาอย่างหาได้ยาก บรรยากาศแบบเมื่อกี้ก็มลายหายไปเลย
“งั้นผมก็ไม่เข้าใจแล้วนะ คนแบบไหนกันที่สามารถทำให้คุณชายธเนศพลเป็นห่วงเป็นใยได้ แถมยังจะไม่ให้คนอื่นรู้เรื่องอีก?”
บุริศร์ถามขึ้นอย่างยิ้มแย้ม ตอนแรกนึกว่าแค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่ทางด้านโน้นกลับไม่มีเสียงของธเนศพลลอยมาตั้งนาน จึงทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง
“คุณชายธเนศพล!”
“บุริศร์ ผมสามารถบอกคุณได้ แต่ว่าคุณจะต้องรับประกันว่าเรื่องนี้มีแต่คุณกับผมสองคนเท่านั้นที่รู้เรื่อง”
ธเนศพลพูดอย่างเคร่งขรึมมาก
ท่าทีของบุริศร์ก็ความเคร่งขรึมขึ้นมาเสี้ยวหนึ่งแล้ว
“ผมไม่ฟังก็ได้ คนที่คุณจะยืมเดี๋ยวผมจะโทรศัพท์ให้เขา แต่ว่าเขาจะสามารถติดต่อคุณได้เมื่อไหร่นั้น ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกัน”
ก่อนหน้านั้นบุริศร์แค่อยากจะหยอกธเนศพลเล่นสักหน่อย ไม่ได้คิดจะอยากรู้จริง ๆ เขารู้ดีมากกว่าใครว่า อยู่ในตำแหน่งของธเนศพลนั้น ถ้าอยากจะตรวจเช็กคนคนหนึ่งจะต้องไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แน่
ถ้ารู้เยอะไปกลับจะกลายเป็นเรื่องไม่ดีได้ โดยเฉพาะต้องไปเกี่ยวข้องกับเรื่องทางเมืองหลวง บุริศร์ยังไม่ได้คิดไม่ตกขนาดนั้น
คนอย่างธเนศพลนั้นเขารู้จักดีอยู่ แล้วก็ไม่อิดออดและให้จิ้งจอกเงินไปช่วยเหลือเลย
เรื่องนี้เขาจะไม่มีทางให้กานต์มาแปดเปื้อนแน่
เด็กคนนั้นยังเล็กเกินไป เรื่องบางเรื่องถ้ามีส่วนร่วมมากเกินไปกลับจะกลายเป็นการทำร้ายเด็ก
ธเนศพลกลับไม่รู้ความในใจที่คดโค้งในตอนนี้ของบุริศร์ ในตอนที่ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้นั้น อยู่ ๆ เขาก็โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ผมเปลี่ยนความคิดแล้ว เรื่องนี้คุณจะต้องรู้จริง ๆ”
“คุณชายธเนศพล เรื่องตลกนี้ไม่น่าขำสักนิดเลย”
บุริศร์รู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง
เจ้าธเนศพลคนนี้มันจะเอาแต่ใจแบบนี้ตลอดเลย
ธเนศพลกลับพูดขึ้นอย่างไม่สนใจว่า “คนที่เกี่ยวข้องกับเมียคุณนรมน คุณไม่อยากฟังเหรอ?”
นี่มันเท่ากับว่าจับจุดอ่อนของบุริศร์ไว้ได้เลย และทำให้ชั่วขณะหนึ่งเขาไม่รู้จะปฏิเสธยังไงดีจริง ๆ
จ้องมองนรมนที่มองมาที่ตัวเองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยนั้น บุริศร์ก็ปิดไมค์ไว้ แล้วพูดกับนรมนขึ้นว่า “หรือไม่คุณไปช่วยผมสั่งกาแฟสักแก้วหนึ่ง ผมรู้สึกคอแห้งขึ้นมาหน่อยแล้ว”
นรมนรู้ว่า นี่คือการที่บุริศร์อยากจะแยกตัวเธอออกไป
เธอเองก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร ในทุกอย่างที่บุริศร์ไม่ต้องการให้เธอรู้ เธอก็ไม่อยากรู้ เพราะว่าเธอเชื่อว่าบุริศร์จะสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ให้เรียบร้อยได้
“ได้ค่ะ คุณเร็ว ๆ หน่อยนะ เดี๋ยวกาแฟเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะคะ”
นรมนยิ้มแล้วก็ก้าวเดินกลับไปตามทางเดิมเลย
จนถึงนรมนเดินเข้าไปในร้านกาแฟแล้ว ทางบุริศร์ถึงได้ถามเสียงต่ำขึ้นว่า “ใครกันที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภรรยาผม?”
ธเนศพลฟังเสียงพูดคุยกันเมื่อกี้ได้อย่างชัดเจน แล้วก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ทำไมถึงไม่ให้ภรรยาคุณฟังอยู่ข้าง ๆ ด้วยล่ะ? ไม่แน่เธออาจจะสนใจด้วยก็ได้นะ?”
“คุณชายธเนศพล ความอดทนของผมมีขีดจำกัดนะ ถ้าเกินเวลาความอดทนของผมไป ไม่แน่ผมอาจจะไม่ให้ยืมคนให้คุณแล้วนะ”
“บุริศร์ คุณแน่มาก”
ธเนศพลเองก็ไม่พูดเล่นกับเขาแล้ว และพูดต่อว่า “คนที่ผมจะให้คุณช่วยผมตรวจสอบชื่อว่าบุญทิวา”
ชื่อชื่อนี้ทำให้บุริศร์อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง
“ใครนะ?”
“อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาบุญทิวา และก็คืออารองของภรรยาคุณ”
คำพูดของธเนศพลทำให้บุริศร์อึ้งทึ่งไปหมดทั้งตัวเลย
“คุณจะตรวจสอบเขาทำไม?”
ธเนศพลสูดหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “แน่นอนว่าผมต้องมีการใช้ประโยชน์ของผม”
บุริศร์เดาประโยชน์ที่ธเนศพลจะตรวจสอบบุญทิวาไม่ออก แล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “คุณชายธเนศพล คุณอาจจะผิดหวังก็ได้ ไม่แน่อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาตอนนี้อาจจะตามไปแล้วก็ได้”
“ไม่ เขายังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีชีวิตอย่างตายทั้งเป็นก็ตาม”
ความแน่ใจของธเนศพลทำให้ใจของบุริศร์หล่นตุ๊บลงทีหนึ่ง
“คุณรู้ได้ยังไง?”
“แน่นอนว่าผมมีช่องทางของผมอยู่แล้ว คุณแค่ให้คนของคุณสืบค้นเบาะแสของบุญทิวาให้เจอก็พอ สำหรับเรื่องอื่นนั้น คุณรู้มากไปก็ไม่เป็นผลดี”
คนอย่างธเนศพลก็เป็นแบบนี้ ฝีปากแน่นเป็นอย่างมากเลย
ใจของบุริศร์รู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง
“อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไปเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องเบื้องบนของพวกคุณหรือเปล่า?”
เขาจำเป็นจะต้องรู้ถึงจุดนี้
ถ้าหากใช่ล่ะก็ ถึงจะต้องผิดใจกับธเนศพล และสร้างเรื่องถึงตายมาให้ เขาก็จะไม่มีทางตอบตกลงเรื่องนี้แน่ ในเมื่อนั่นคืออารองของนรมน เป็นคนในครอบครัวของนรมน
แน่นอนว่าธเนศพลรู้ว่าบุริศร์กำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่ เขาถอนหายใจทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องเบื้องบน เป็นเรื่องส่วนตัว ผมมีเรื่องส่วนตัวจะต้องหาเขา”
“ตอนที่อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเกิดเรื่องคุณก็แค่เพิ่งเกิดเอง คุณชายธเนศพล คุณที่เป็นเด็กแรกเกิดคนหนึ่งจะไปมีอะไรเกี่ยวข้องกับอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้? หรือว่าคุณทะลุมิติเกิดใหม่มาเหรอ?”
คำพูดของบุริศร์ทำให้ธเนศพลรู้สึกหมดคำพูดไปบ้าง
“บุริศร์ ช่วงนี้คุณดูนิยายมากเกินไปเหรอ? หัวสมองของคุณนี่มีความคิดยังไงกันนะ?”
“งั้นคุณบอกผมมาว่าคุณจะตามหาอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทำไม? ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคุณชายธเนศพล จะเป็นองค์รัชทายาท แต่ว่าอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นคนในครอบครัวฝั่งภรรยาผม ถ้าหากไม่รู้ตื้นลึกหนาบางละก็ ผมจะไม่มีทางช่วยแน่ หรืออาจจะไปยืนอยู่ฝั่งศัตรูด้วยซ้ำ”
พอได้ยินบุริศร์ข่มขู่ ธเนศพลก็รู้สึกหมดคำพูดไปบ้าง
“คุณนี่จะไปช่วยฝ่ายศัตรูได้อย่างรวดเร็วเลยนะ เจ้าคนมีผู้หญิงแล้วก็ไม่มีจิตใจ คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อก่อนใครเป็นคนช่วยคุณ?”
“เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น เรื่องที่คุณช่วยผมแน่นอนว่าผมต้องจำได้อยู่แล้ว แล้วก็จะคืนด้วย แต่ว่าเรื่องทางฝั่งครอบครัวภรรยาของผมจะมาพูดพล่อย ๆ ไม่ได้”
บุริศร์ยืนกรานอย่างหนักแน่น
ธเนศพลพูดขึ้นอย่างรู้สึกหมดคำพูดว่า “ผมไปเป็นเพื่อนกับคนแบบคุณได้ยังไงกันนะ?”
“ไม่มีทางแล้ว คุณจำเป็นจะต้องมีพี่น้องอย่างผมมาช่วยคุณประคับประคองประเทศ”
“เจ้าชั่ว!”
เมื่อก่อนธเนศพลไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าบุริศร์ที่เย็นชาเคร่งขรึมจะมีด้านที่ไร้ยางอายแบบนี้ด้วย วันนี้ถือว่าได้เห็นเต็มตาแล้ว
ถ้าเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องไปถึงนรมน บุริศร์จะไม่พูดน้ำใจอะไรกับเข้าเลยสักอย่าง
ธเนศพลครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ก็ไม่ใช่ว่าจะบอกคุณไม่ได้ แต่ว่าในเมื่อเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับข่าวฉาวของตระกูลธนเกียรติโกศลพวกเขา แน่นอนว่าจะต้องพูดกับภายนอกไม่ได้ ผมก็จะบอกแค่กับคุณเท่านั้น ถ้ามีอะไรรั่วไหลออกไปละก็ คุณรู้นะว่าจะเป็นยังไง”
“ข่มขู่ผมอีกแล้ว มันมีความหมายเหรอ?”
บุริศร์รู้ว่าธเนศพลเป็นคนยังไง ถึงแม้ว่าอยู่กับพี่น้องจะมีมาดคุณชายอยู่เสมอ แต่ว่าก็ไม่เคยปฏิบัติจริงสักครั้ง
ธเนศพลรู้สึกหมดคำพูดอยู่บ้าง
“บุริศร์ คุณเป็นแบบนี้นี่ไม่น่ารักเลยนะ”
“คำว่าน่ารักเอามาเปรียบเปรยผู้ชายไม่ได้ เพราะฉะนั้นคำเยินยอนี้ผมก็จะไม่ยิ้มรับแล้วนะ”
ทักษะการประชดประชันของบุริศร์เก่งมากขึ้นแล้ว
ธเนศพลจ้องมองเวลาเล็กน้อย ทั้งสองคนพูดเล่นไปเป็นเวลาไม่น้อยแล้ว แล้วถึงพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ที่ตามหาบุญทิวาก็เพราะว่าอาหญิงของผม”
“อาหญิงของคุณ? คุณยังมีอาหญิงอยู่อีกคนเหรอ?”
บุริศร์รู้สึกตกใจเล็กน้อย
ในเมื่อคนในตระกูลธนเกียรติโกศลมักจะได้รับความสนใจมาตลอด ถ้าหากว่าตระกูลธนเกียรติโกศลมีอาหญิงอยู่อีกคนหนึ่งก็ไม่น่าที่จะไม่มีคนรู้นี่
ธเนศพลกลับพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ก็บอกแล้วไงว่าเป็นข่าวฉาว แน่นอนว่าจะต้องมีคนรู้อยู่ไม่กี่คน และเรื่องนี้ก็โดนพวกพ่อของผมปกปิดไว้อย่างแน่นหนา ไม่อนุญาตให้คนในตระกูลธนเกียรติโกศลเอ่ยถึงอาหญิงคนนี้อีก แต่ว่าอาหญิงของผมดีกับผมมาก ผมจำเป็นที่จะต้องตามหาเธอให้เจอ”
“เกี่ยวข้องกับอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเหรอ?”
“ใช่ คนที่อาหญิงของผมชอบในตอนนั้นคืออารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาบุญทิวา แล้วตระกูลธนเกียรติโกศลเราเคยมีความวุ่นวายภายในมาก่อน คุณเองก็รู้ ความวุ่นวายในครั้งนั้นตระกูลธนเกียรติโกศลเกือบจะต้องถอนตัวออกจากเวทีประวัติศาสตร์ แล้วในตอนนั้นอาหญิงได้ถูกประมุขของตระกูลธนเกียรติโกศลผลักออกไปเป็นคู่แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ กะว่าจะให้อาหญิงแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ตำแหน่งทางการทหารของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นยังไงคุณก็รู้ ขอแค่อาหญิงแต่งงานกับลูกชายคนใดคนหนึ่งของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ตระกูลธนเกียรติโกศลในตอนนั้นก็จะมีอำนาจพอที่จะให้ยืนอยู่ในเวทีประวัติศาสตร์ต่อได้แล้ว การดูตัวในครั้งนั้นไม่ถือว่าเป็นการดูตัวอย่างเป็นทางการ คนที่มาดูตัวกับอาหญิงก็คืออารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาบุญทิวา”
เรื่องพวกนี้นั้นบุริศร์เองก็ไม่รู้เรื่อง บางทีนรมนเองก็อาจจะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าธเนศพลเอ่ยออกมา คาดว่าใครก็คงนึกไม่ออกว่าตอนนั้นตระกูลทวีทรัพย์ธาดายังจะโชคดีมีโอกาสที่ได้กลายเป็นนกโบยบินไปบนท้องฟ้าด้วย
แต่ว่าบุริศร์รู้ คนที่บุญทิวาชอบคือนงลักษณ์ แน่นอนว่าจะต้องไม่มีทางแต่งงานกับคุณหนูตระกูลธนเกียรติโกศลแน่ แต่ว่าตอนนั้นตระกูลทวีทรัพย์ธาดาคงจะไม่มีความกล้าที่จะประกาศปฏิเสธงานแต่ง เพราะถึงแม้ตระกูลธนเกียรติโกศลจะมีความวุ่นวายอยู่ แต่ก็ยังคงมีความสำคัญอยู่ในเวทีประวัติศาสตร์อยู่
บุริศร์ครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้วก็ถามขึ้นว่า “อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเห็นด้วยเหรอ?”
“ถือได้ว่าเห็นด้วยแล้วมั้ง แต่ว่าพอเรื่องงานแต่งเพิ่งจะตกลงกันได้ อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็ไปเมืองนอกเลย เห็นบอกว่าจะไปทำการวิจัยอะไร แต่ว่าใคร ๆ ต่างก็รู้ว่า อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดานั้นหนีงานแต่ง ตอนนั้นอาหญิงของผมโกรธมาก คนของตระกูลธนเกียรติโกศลเรากะว่าจะไปเอาคำอธิบายหนึ่งที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้ว แต่ทำยังไงได้ก็อาหญิงชอบบุญทิวาแล้ว และบอกว่าจะให้เวลาเขาคิดทบทวน เธอจะไม่รีบร้อนบีบให้เขาแต่งงานกับเธอ นี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสำหรับตระกูลธนเกียรติโกศลของเราในตอนนั้นเท่ากับว่าราดน้ำเกลือลงบนแผลเลย ถึงแม้ว่าอาหญิงจะรอได้ แต่ก็ไม่เห็นว่าตระกูลธนเกียรติโกศลจะสามารถรอได้ เพราะฉะนั้นตระกูลธนเกียรติโกศลก็เลยทำเรื่องต่ำช้าขึ้นมาเรื่องหนึ่ง”