แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1260 นี่คุณเองก็ใช้การเดาเป็นด้วยเหรอ

บทที่ 1260 นี่คุณเองก็ใช้การเดาเป็นด้วยเหรอ

“เกวลินเหรอ? คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? เกิดเรื่องขึ้นกับวินเซนต์แล้วเหรอ?”

นี่เป็นความคิดแรกของนรมน

เกวลินส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “วินเซนต์ให้ฉันกลับมาช่วยเขาเอาของ”

“ของอะไร?”

ครั้งนี้บุริศร์เป็นคนเปิดปากพูดขึ้น

ถึงแม้จะไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เกวลินทำให้วินเซนต์บาดเจ็บ แต่ว่าพอรู้สถานะที่แท้จริงของเกวลินแล้ว และรู้ความคิดของวินเซนต์มานั้น บุริศร์ก็ไม่อยากจะทำให้เธอลำบากใจมากเท่าไหร่

ในเมื่อเธอจะได้กลายเป็นภรรยาของวินเซนต์แล้ว

ที่จริงเกวลินนั้นรู้สึกกลัวบุริศร์อยู่

ผู้ชายคนนี้ไม่เหมือนกับวินเซนต์ ความเย็นชาของเขานั้นมาจากข้างในกระดูก แล้วแฝงความเยือกเย็นที่ผลักไสคนให้ไปไกล ๆ เอาไว้ แต่กลับทำให้คนรู้สึกกลัวจนตัวสั่น

ส่วนความเย็นของวินเซนต์นั้นเป็นการออกมาโดยตรง ราวกับถ้ำน้ำแข็ง แฝงไว้ด้วยความโหดเหี้ยมและแรงสังหาร ทำให้คนแค่มองก็รู้สึกกลัว ความรู้สึกแบบนี้กลับทำให้เกวลินยอมรับได้

แล้วตอนนี้อยู่ ๆ บุริศร์ก็มาถามคำถามตัวเอง เกวลินจึงอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันไม่รู้ เขาให้ฉันกลับไปหาป้ายหยกที่มีรูปนกอินทรีที่ห้องนอนของเขา”

สีหน้าของบุริศร์ดูไม่ได้ขึ้นมาทันทีเลย น้ำเสียงก็ไม่ดีมากเช่นกัน

“เขาให้คุณกลับมาเอาเหรอ?”

“อืม ใช่ค่ะ”

เกวลินไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิด รู้สึกแต่เพียงว่าสีหน้าของบุริศร์ดูไม่ดีมากเลย หนำซ้ำแม้แต่กลิ่นอายก็ยังมีแรงสังหารจนทำให้คนรู้สึกกลัว

เธอกลืนน้ำลายลงคอคำหนึ่งอย่างอัตโนมัติ แล้วก็หลบไปข้างหลังนรมนอย่างรวดเร็ว

นรมนเองก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของบุริศร์ จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ทำไมเหรอคะ? ก็แค่ป้ายหยกอันหนึ่งไม่ใช่เหรอ?”

สายตาที่บุริศร์จ้องมองเกวลินมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ที่สุดแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็พานรมนจากไปเลย

พอเขาเดินไปปุ๊บ เกวลินก็เกือบจะยืนไม่อยู่เลย

บุริศร์คนนี้ช่างน่ากลัวมากจริง ๆ

น่ากลัวมากกว่าวินเซนต์ซะอีก

หวังว่าต่อไปคงจะไม่มีต้องมีโอกาสยืนอยู่ด้วยกันกับเขาแล้ว

เกวลินคิดไปแบบนี้ แล้วก็วิ่งเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว

ตลอดระยะทางบุริศร์เอาแต่เงียบขรึม

นรมนดูออกว่าเขามีเรื่องในใจ แต่ว่าก็ไม่ได้เปิดปากถาม บุริศร์ก็เป็นอย่างนี้ ในตอนที่เขาอยากจะพูดก็จะพูดเอง ถ้าไม่อยากจะพูด คุณถามเขาไปก็ถามเสียเปล่า

ทั้งสองคนมาถึงห้องผู้ป่วยที่โรงพยาบาลของวินเซนต์อย่างรวดเร็ว

บุริศร์เปิดประตูเข้าไปโดยตรงเลย

พยาบาลกับหมอกำลังล้างแผลให้วินเซนต์อยู่

นรมนยืนอยู่ที่หน้าประตูไม่ได้เดินเข้าไป แต่บุริศร์กลับพูดขึ้นเสียงเย็นว่า “ไม่ต้องล้างแล้ว ล้างไปแล้วก็ยังบาดเจ็บอยู่ดี จะทำให้มากเรื่องแบบนี้ทำไม?”

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยกลิ่นดินปืนปะทุอยู่เต็มที่ทำให้วินเซนต์อึ้งไปครู่หนึ่ง พอเงยหน้าขึ้นมาก็สบเข้ากับดวงตาที่ไร้ความอบอุ่นของบุริศร์ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นขึ้นมาคำหนึ่ง “คุณนี่ยังไงกัน? ทำอย่างกับว่าผมติดเงินคุณไว้ยังไงอย่างงั้นแหละ”

“สิ่งที่นายติดค้างฉันมันไม่ใช่เงิน”

คำพูดของบุริศร์พูดได้อย่างหนักหน่วง

รอยยิ้มของวินเซนต์แข็งค้างไว้บนใบหน้า จากนั้นก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณเจอกับเกวลินเข้าแล้วเหรอ?”

“นายกะว่ะปิดบังฉันไว้เหรอ? แล้วให้เธอไปเอาป้ายหยกรูปนกอินทรีทำไม? ฉันจำได้ว่าตอนนั้นเคยพูดไว้ว่า ป้ายหยกนี่จะสามารถให้นายสมหวังได้อย่างหนึ่ง นายกะว่าจะใช้กับตัวเธอเหรอ? นายรู้หรือเปล่า ทุกวันทุกเดือนทุกปีที่นายผ่านไป มีอันตรายอยู่เยอะแยะมากมาย ป้ายหยกอันนี้สามารถช่วยชีวิตนายตอนที่ช่วงเวลาสำคัญได้นะ แต่ตอนนี้นายกลับจะเอาออกมาใช้บนตัวเกวลิน! นายรู้สึกว่าฉันจะต้องเอาชีวิตเธอให้ได้เลยใช่ไหม? เพื่อที่จะปกป้องเธอแล้ว นายถึงกับมองฉันแบบนี้เลยเหรอ? เป็นพี่น้องกันมาหลายปีขนาดนี้ ฉันอยู่ในสายตานายแล้วเป็นคนที่ไม่มีน้ำใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”

บุริศร์รู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง

วินเซนต์รีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่นะ พี่ใหญ่ ที่ผมให้เธอไปเอาป้ายหยกนั้น ไม่ใช่เพื่อที่จะเอามาให้คุณปล่อยเธอไป ผมรู้ว่าคุณรู้จักผมดี และก็สามารถรู้ได้ด้วยว่าผมจะทำยังไง แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง เกวลินก็ได้กลายเป็นผู้หญิงของผมแล้ว ในส่วนนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และผมเองก็ไม่อยากเปลี่ยนแปลงด้วย คุณดีกับผมมากจริง ๆ แน่นอนว่าจะต้องยอมปล่อยเธอเพราะการตัดสินใจของผม แต่ว่าเธอได้ทำให้ผมบาดเจ็บ แล้วทำร้ายพี่น้องของเรา สำหรับจุดนี้ผมจำเป็นจะต้องให้คำตอบกับพี่น้องของเราอย่างหนึ่ง”

อาจจะเพราะว่าพูดทีเดียวเยอะขนาดนี้ วินเซนต์ก็เลยไอขึ้นมาเล็กน้อย

บุริศร์อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ยังเอาน้ำจากข้าง ๆ มาแก้วหนึ่งแล้วยื่นให้เขาไป

“ให้คำตอบกับพี่น้องคำตอบหนึ่งนายจะเอาป้ายหยกมาทำไม?”

“ทุกคนต่างก็รู้ถึงความหมายที่ป้ายหยกมีต่อผม เกวลินทำผิดไปแล้ว ก็จะต้องได้รับการลงโทษ แต่ว่าเธอเป็นผู้หญิงของผม แน่นอนว่าผมต้องรับโทษแทนเธอแน่ แต่ว่าถ้าผมทำแบบนี้แล้ว คาดว่าต่อหน้าพี่น้องในสหภาพQTคงจะปล่อยเธอไป แต่ว่าในลับหลังคงอยากจะสร้างความลำบากให้เธอ ป้ายหยกเลยเป็นของที่ผมกะว่าจะมอบไว้ให้เธอเป็นของป้องกันตัว”

คำพูดของวินเซนต์ทำให้สีหน้าของบุริศร์ดูดีขึ้นมาหน่อย

“ไม่ได้เอามาใช้บนตัวฉันก็ดีแล้ว”

“ไม่หรอก ชีวิตผมยังมีค่ามากอยู่ ต่อไปยังจะต้องมาบังแดดบังฝนให้ภรรยา โอกาสเพียงหนึ่งเดียวนี้ผมจะต้องรักษาไว้ให้ดีแน่”

วินเซนต์ยิ้มอ่อน ๆ ไป ในดวงตามีแววมีชีวิตชีวาขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง

อยู่ ๆ บุริศร์ก็รู้สึกว่าบางทีวินเซนต์คนเดิมอาจจะค่อย ๆ กลับมาแล้วก็ได้

เกวลินไม่ใช่ทรรศยา แต่ว่ากลับเป็นน้องสาวของทรรศยา ในวินาทีที่วินเซนต์ได้ครอบครองเกวลิน บางทีเขาอาจจะได้ทำการตัดสินใจแล้ว

ว่าผู้หญิงคนนี้เขาจะต้องเอาให้ได้

นี่ถึงจะคือวินเซนต์ คือวินเซนต์ที่บุริศร์คุ้นเคย เขาจะรู้อยู่ตลอดว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการคืออะไร และที่สำคัญจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนและจะไปทำให้ดีที่สุด

บุริศร์ตบบ่าของวินเซนต์เล็กน้อย แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ตัวนายเองมีขอบเขตหน่อย อย่าให้มันเกินไปก็พอ อ๋อ ใช่แล้ว ฉันกับนรมนจะไปแล้วนะ กานต์จะอยู่ที่นี่ต่อ นายรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แล้วช่วยฉันดูแลลูกชายด้วย”

“พวกคุณจะไปแล้วเหรอ? จะไปไหนครับ? ตอนแรกไม่ได้กะว่าจะไปเร็วขนาดนี้ไม่ใช่เหรอครับ?”

วินเซนต์นึกว่าบุริศร์มาแล้ว ตัวเองจะได้ลอยชายหลายวันหน่อย อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังเป็นผู้ป่วยอยู่ไม่ใช่เหรอ?

แต่ไม่ว่ายังไงก็คิดไม่ถึง ว่าบุริศร์จะไปเร็วขนาดนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะหดหู่เล็กน้อย

บุริศร์เองก็รู้สึกเกรงใจเล็กน้อย แต่ว่าพอคิดถึงเรื่องของทางนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “ต้องลำบากนายแล้ว ถ้าหากว่ายุ่งไม่ไหวจริง ๆ ก็หาคนมาช่วยได้นะ”

“จะหาใครได้ละครับ?”

“คนของคุณชายธเนศพล”

คำพูดของบุริศร์ทำให้วินเซนต์อึ้งไปทั้งตัวเลย

“ใครนะครับ?”

“ธเนศพล ก่อนหน้านี้เขาโทรศัพท์หาฉัน ได้บอกเอาไว้แล้ว พวกเราสามารถช่วยเขาจัดการธุระอย่างลับ ๆ เรื่องบางเรื่องเขาสามารถจัดการได้”

คำพูดของบุริศร์พูดได้อย่างปกปิดเล็กน้อย แต่ว่าวินเซนต์เองก็ฟังเข้าใจแล้ว

จิตใจหวั่นไหวไหม?

เขาไม่รู้ เพียงแต่แค่รู้สึกว่าตรงตำแหน่งหัวใจเจ็บจี๊ด ๆ เล็กน้อย

โดนปล่อยปละละเลยมานานหลายปีขนาดนี้ อยู่ ๆ ก็หาองค์กรเจอ และที่สำคัญอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าจะได้รับการยอมรับด้วย แถมข้อมูลไฟล์ของตัวเองอาจจะกลายเป็นยิ่งลึกลับมากขึ้น ความรู้สึกแบบนี้มันช่างคุ้นเคย ร้อนแรงมากขนาดนั้น เขาเหมือนกับว่าจะเห็นท่าทางอมยิ้มของทรรศยาอีกแล้ว

เธอจ้องมองเขาอย่างอ่อนโยนและพูดขึ้นว่า “วินเซนต์ ยินดีต้องรับกลับบ้านค่ะ”

อยู่ ๆ ดวงตาของวินเซนต์ก็มีความเปียกชื้นขึ้นมา

เขารีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองไว้ แล้วก็พูดขึ้นอย่างอัดอั้นว่า “ผมจะลองไปคิดดู ขอให้คุณเดินทางปลอดภัยนะ ผมคงจะไม่ส่งคุณแล้ว”

“รักษาร่างกายให้ดี ๆ ตอนที่แต่งงานอย่าลืมส่งข่าวมานะ ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนฉันก็จะรีบมา”

บุริศร์รู้ว่าในใจของวินเซนต์นั้นรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และก็ไม่ได้บีบบังคับเขา แค่ตบไหล่เขาเบา ๆ จากนั้นก็ก้าวเท้าแล้วเดินจากไป

ตั้งแต่ต้นจนจบนรมนไม่ได้พูดอะไรเลย แต่พอบุริศร์เดินออกมาจากห้องผู้ป่วยแล้ว ก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เหมือนกับว่าวินเซนต์จะตื่นเต้นมากเลยนะคะ”

“อืม ไม่ว่าจะยังไง ช่วงหลายปีมานี้เขาก็อยากจะไปเยี่ยมทรรศยาอยู่ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีสิทธิ์ มาวันนี้ขอแค่เขาตอบตกลง ต่อไปชีวิตความเป็นอยู่จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ว่าเขาจะมีสิทธิ์ แล้วก็มีสถานะนั้นที่จะได้เข้าไปในสุสานวีรชนผู้กล้าแล้วไปเยี่ยมทรรศยาได้ สำหรับเขาแล้วนี่ถือว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยาก”

บุริศร์กุมมือของนรมนเอาไว้แน่น

ตอนนี้เขาสามารถจับมือของนรมนเอาไว้ได้ นั่นก็คือความสุขแล้ว ถ้าเทียบกับวินเซนต์แล้ว บุริศร์รู้สึกว่าตัวเองจำเป็นต้องคว้าความสุขนี้ไว้แน่น จะให้มันโบยบินไปไม่ได้เด็ดขาด

นรมนสามารถรู้สึกได้ถึงเรี่ยวแรงของบุริศร์ แต่ว่าเธอไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ปล่อยให้เขาบีบไอย่างนั้น

ทั้งสองคนจูงมือกันไปบนถนน อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกว่าอยากจะกลับไปดูที่คฤหาสน์สไตล์โบราณสักครั้ง

“พวกเรากลับไปดูคฤหาสน์สไตล์โบราณกันหน่อยเถอะ ฉันรู้สึกชอบที่นั่นมากเลย”

“ได้”

สำหรับการร้องขอของภรรยา แน่นอนว่าบุริศร์ไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว

ในตอนที่ทั้งสองคนเดินจูงมือมาถึงคฤหาสน์สไตล์โบราณนั้น เสียงไพเราะของไวโอลินก็ดังขึ้นที่ข้างหู นรมนอดไม่ได้ที่จะหยุดฝีเท้าลงครู่หนึ่ง

“เอ๊ะ? ทำไมที่นี่ถึงมีคนที่เล่นไวโอลินได้ดีขนาดนี้อยู่ด้วยนะ”

ที่นรมนชอบไวโอลินนั้น บุริศร์เองก็รู้อยู่

เขายืนอยู่ข้างนรมน และฟังเสียงที่ไพเราะของไวโอลินไป จะไม่พูดก็ไม่ได้ ว่าคนที่เล่นไวโอลินนี้เล่นได้ดีมากเลย

เหมือนกับว่าจะนรมนจะลุ่มหลงเข้าแล้ว หัวคิ้วยังมีท่าทางขยับตามจังหวะขึ้นมา

บุริศร์ชอบนรมนที่เป็นอย่างนี้เป็นอย่างมาก เหมือนอย่างกับที่เจอกันครั้งแรกตอนปีนั้นที่เรียนมหาลัย ใสสะอาด บริสุทธิ์

หลังจากที่ไวโอลินเล่นจบไปเพลงหนึ่งแล้วนั้น อีกฝ่ายก็หยุดลง

อยู่ ๆ นรมนก็เกิดมีความรู้สึกอยากจะไปดูคนเล่นไวโอลินนี้สักหน่อย

“บุริศร์ คุณลองเดาดูซิว่าคนที่เล่นไวโอลินนี้เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?”

“ผู้ชาย ที่สำคัญอายุยังมาเยอะด้วย”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนอึ้งไปเล็กน้อย

“ยังไงคะ?”

“เสียงนี้เล่นได้ไม่มีปัญหา แต่แรงที่ใช้ไม่ได้เยอะขนาดนั้น สามารถบอกได้ว่าคนที่เล่นไวโอลินมีปัญหาเรื่องเรี่ยวแรง”

นรมนค่อย ๆ คลี่มุมปากขึ้น แล้วถามขึ้นอีกครั้งว่า “งั้นได้ฟังออกได้ยังไงคะว่าอายุไม่เยอะ?”

“ผมเดาเอา”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะร่าขึ้นมา

“ประธานบุริศร์ นี่คุณก็ใช้การเดาเป็นเหรอคะ?”

“ก็ใช่นะซิ ผมก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ทำไมเหรอ? อยากจะไปดูเหรอ?”

บุรศร์แทบจะไม่ต่างอะไรกับการเป็นพยาธิในท้องนรมนเลย

หลายปีมานี้ถึงแม้ว่านรมนจะไม่ได้สัมผัสหรือติดตามเรื่องดนตรีมากเท่าไหร่ แต่ว่าบุริศร์รู้ เรื่องสวยงามนั้นนรมนมักจะชอบอยู่ตลอด

พอได้ยินบุริศร์ถาม นรมนก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าขึ้น

“งั้นก็ไปกันเถอะ”

แล้วบุริศร์ก็จูงมือนรมนแล้วเดินไปตามเส้นทางตรงกันข้าม

ที่นี่มีเพียงพ่อบ้านแก่ ๆ คนหนึ่ง ในตอนที่เห็นบุริศร์และนรมนเดินมานั้นก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย ตอนที่เขารู้ว่าพวกเขาจะมาเจอคนที่เล่นไวโอลินนั้น พ่อบ้านก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “คนที่เล่นไวโอลินคือคุณชายน้อยของพวกเรา ตอนนี้เจ้านายของเราไม่อยู่ ส่วนคุณชายน้อยก็มาฝึกเล่นไวโอลินที่นี่ เพื่ออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าจะเข้าร่วมการแข่งขันไวโอลินเยาวชน เพราะฉะนั้นน่าจะไม่มีเวลามาพบพวกคุณหรอก ต้องขอโทษด้วย”

พ่อบ้านไม่ใช่คนเมืองชลธี แล้วก็ไม่ค่อยจะสนใจคนมีชื่อเสียงในวงการธุรกิจเท่าไหร่ แน่นอนว่าจะต้องไม่ค่อยคุ้นเคยกับบุริศร์อยู่แล้ว และเพื่อความปลอดภัยของคุณชายน้อยบ้านตัวเอง เขาจึงปฏิเสธการของพบของบุริศร์และนรมนไปอย่างมีมารยาท

นรมนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ได้สร้างความลำบากให้กับคนอื่น

ในตอนที่บุริศร์ยังอยากจะพูดอะไรขึ้นมานั้น ก็โดนนรมนดึงชายเสื้อเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายหน้าให้เขา

พอเห็นว่านรมนไม่อยากจะก่อเรื่อง ถึงแม้ว่าในท้องของบุริศร์จะมีลมโกรธอยู่บ้าง แต่ก็ได้แต่จากไปพร้อมกับนรมน

“รอก่อน!”

แล้วในเวลานั้นพอดี ที่ข้างในก็มีเสียงอ่อนหวานของเด็กดังลอยมา แล้วก็ทำให้ฝีเท้าของนรมนและบุริศร์หยุดลงทันที

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท