แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1308 หมดสติอยู่ตลอด

บทที่ 1308 หมดสติอยู่ตลอด

“ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้วเหรอ?”

พอมิลินและบุณพจน์เห็นสีหน้าของนรมนดูไม่ดีนัก ก็อดไม่ได้ที่ถามขึ้นมาคำหนึ่ง

“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันกลับไปก่อนสักครู่นะ มิลิน คุณช่วยดูพรวลัยอยู่ที่นี่ให้ดี ๆ นะ”

นรมนไม่ได้พูดว่าเป็นเรื่องอะไร แต่กลับไปกับนงลักษณ์อย่างร้อนรน

มิลินรู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้จากไป และอยู่ตรวจร่างกายให้พรวลัยอย่างละเอียดรอบหนึ่ง และดูว่าจะยังสามารถฟื้นฟูยังไงได้บ้าง

บุณพจน์ส่งสัญญาณมือให้กับข้างนอกทีหนึ่ง จากนั้นคนสองคนก็รีบร้อนติดตามนรมนไป และคอยปกป้องอยู่อย่างเงียบ ๆ

หลังจากที่นรมนและนงลักษณ์จากไปแล้ว ก็รีบเดินกลับไปหมู่บ้านดารายนอย่างรวดเร็ว

“ที่คุณพูดมาเป็นความจริงหมดนะ? บุริศร์กลับมาแล้วจริง ๆ เหรอ”

“ใช่ กลับมาแล้ว แต่ว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

สีหน้าของนงลักษณ์ก็รู้สึกร้อนใจอยู่บ้าง

พอนรมนได้ยินว่าสถานการณ์ของบุริศร์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็ร้อนใจขึ้นมาทันที

“บาดเจ็บเหรอคะ”

“บาดเจ็บนิดหน่อย แต่ว่าเขาได้หมดสติอยู่ตลอดเวลาเลย”

นงลักษณ์พูดไปแบบนี้ นรมนก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งเลย

“ทำไมเมื่อกี้ไม่บอกล่ะว่าหมดสติอยู่ตลอดเวลา? แล้วฉันก็ทิ้งมิลินไว้ที่นี่แล้ว แล้วทางบุริศร์จะทำยังไงล่ะ?”

“กิจจากำลังดูแลอยู่ เขาบอกว่าตอนนี้ยังไม่ต้องการมิลินชั่วคราว เพียงแต่แค่ให้ฉันมารายงานเธอ”

คำพูดของนงลักษณ์ทำให้นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ไม่ถามอะไรอีกเลย จากนั้นก็ขับรถกลับมาถึงหมู่บ้านดารายนอย่างรวดเร็ว

พอเธอกลับมาถึงแล้วก็ไปที่ห้องนอนทันที ในตอนที่เห็นกิจจานั้นในใจของนรมรก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อย

“บุริศร์อยู่ไหน?”

“แด๊ดดี้อยู่บนเตียงครับ”

กิจจาหลบทางให้

นรมนเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว ก็เห็นบุริศร์นอนอยู่บนเตียงอย่างสงบนิ่ง เหมือนอย่างกับนอนหลับปกติยังไงอย่างงั้น

นี่แค่ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน นรมนก็รู้สึกเหมือนกับว่าผ่านมานานแสนนานเลย

เธอเดินเข้าไปอย่างเบามือเบาเท้า เหมือนกลัวว่าจะทำให้บุริศร์ตื่น

ในตอนที่มือของเธอแตะโดนหน้าของบุริศร์นั้น อุณหภูมิที่อบอุ่นนั่นถึงจะทำให้เธอเชื่อว่าบุริศร์กลับมาแล้วจริง ๆ

“เขาเป็นอะไรไปเหรอ?”

“ไม่รู้ครับ ผมตรวจเช็กไม่เจอปัญหาอะไรเลย เพียงแต่บนร่างกายมีแผลเล็ก ๆ ไม่กี่แผลเท่านั้น แต่ว่ากลับหมดสติมาตลอด เหมือนกับว่ากำลังนอนหลับอยู่ครับ”

กิจจาพูดเสียงต่ำไป แต่กลับทำให้ใจของนรมนตื่นตระหนกขึ้นมา

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำไมหนูยังไม่ให้มิลินกลับมาอีกล่ะ?”

ในจุดนี้นรมนรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเลย

กิจจาครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “หม่ามี้ครับ นี่เป็นความหมายของแด๊ดดี้ครับ”

“อะไรนะ?”

นรมนอึ้งไปเลยทันที

“ไหนหนูบอกว่าเขาหมดสติมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ครับ แต่ว่าในฝ่ามือของแด๊ดดี้กำสิ่งนี้เอาไว้ตลอดเลยครับ”

กิจจาเอากระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งยื่นให้กับนรมน

บนกระดาษเป็นลายมือของบุริศร์ ข้างบนเขียนไว้ว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงผม และก็ไม่ต้องตามใครมาดูอาการให้ผม เรื่องที่ผมกลับมาแล้วจะต้องเก็บไว้เป็นความลับ”

นรมนไม่รู้ว่าที่บุริศร์พูดแบบนี้ตกลงมันหมายความว่าอะไรกัน ที่หมู่บ้านดารายนนี้มีผู้คนเต็มไปหมด จะปิดบังคนทั้งหมดนั้นมันจะเป็นไปได้ยังไง?

และที่สำคัญตกลงตอนนี้บุริศร์เป็นอะไรกันแน่?

หรือว่าจะมีอาการเหมือนกับบุณพจน์เหรอ?

“กิจจาจ๊ะ ตอนนี้หนอนพิษทองคำของแด๊ดดี้ของหนูเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาเหมือนกันหรือเปล่า? เป็นอาการเดียวกับบุณพจน์ก่อนหน้านั้น รอผ่านไปสักช่วงหนึ่งก็จะตื่นขึ้นมาเองใช่ไหม?”

พอเจอกับคำถามของนรมน กิจจาได้แต่ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ครับ ตอนนั้นคุณลุงใหญ่เพิ่งกินหนอนพิษทองคำเข้าไป ร่างกายเกินการต่อต้าน เพราะฉะนั้นถึงได้นอนหมดสติ แต่ว่าแด๊ดดี้กับหนอนพิษทองคำหลอมรวมกันมานานขนาดนี้แล้ว น่าจะไม่เกิดอาการแบบนี้แล้ว แต่ว่าชีพจรของแด๊ดดี้สงบนิ่ง เหมือนกับว่ากำลังนอนหลับอยู่ ผมตรวจเช็กดูแล้ว มันไม่มีปัญหาอะไรจริง ๆ ครับ หม่ามี้ หม่ามี้ไม่ต้องห่วงนะครับ ที่แด๊ดดี้ไม่อยากจะให้ใครรู้ว่าเขากลับมาแล้ว ก็น่าจะมีแผนการอะไรอยู่ รอให้แด๊ดดี้ตื่นขึ้นมาแล้วพวกเราก็จะรู้เองนะครับ”

ถึงแม้จะรู้ว่าที่กิจจาพูดไม่ผิด แต่ว่านรมนก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี

ขอแค่บุริศร์ยังไม่ตื่นขึ้นมา เธอก็ไม่วางใจอยู่ดี

“แต่ว่าตอนนี้คนตัวเป็น ๆ อย่างนี้อยู่ทั้งคน จะมาปิดบังไว้ได้ยังไงกัน? และอีกอย่างขอแค่มิลินกลับมาแล้วก็จะต้องรู้แน่ ฉันคงจะให้เธออยู่แต่นอกประตูไม่ให้เข้ามาไม่ได้หรอกมั้ง?”

ถึงแม้ว่านรมนไม่รู้ว่าทำไมบุริศร์ถึงต้องมีข้อเรียกร้องแบบนี้ แต่ว่าจะซ่อนคนคนหนึ่งไว้ในหมู่บ้านดารายนนั้นช่างยากจริง ๆ “อ๋อใช่แล้ว บุริศร์กลับมาได้ยังไง? เขาไม่อยากจะให้ใครรู้ว่าเขากลับมาแล้ว งั้นเขาใช้วิธีอะไรกลับมากันแน่?”

“ห้องโถงบูชาบรรพบุรุษครับ”

คำพูดของกิจจาทำให้นรมนอึ้งไปเล็กน้อย

“ห้องโถงบูชาบรรพบุรุษเหรอ?”

“แด๊ดดี้ขึ้นมาจากช่องทางใต้ดินตรงใต้โต๊ะบูชาในห้องโถงบูชาบรรพบุรุษครับ”

นรมนอึ้งไปครู่หนึ่งทันที

ตอนนั้นที่เธอตกลงไปนั้น ก็รู้จักกับปีวราในนั้น ที่นั่นไม่ใช่แค่ช่องใต้ดินหรอกเหรอ? แต่กลับเป็นเส้นทางใต้ดินเหรอ? ถ้าหากมีอยู่ละก็ ก็น่าจะคือปีวราที่รู้จักละมั้ง

เพราะฉะนั้นปีวราเป็นคนส่งบุริศร์ออกมาเหรอ?

ในเมื่อสามารถส่งบุริศร์กลับมาได้แล้ว งั้นทำไมไม่ส่งกมลกลับมาพร้อมกันด้วยล่ะ?

คำถามมากมายปรากฏขึ้นมาในหัวสมองนรมน แต่กลับหาคำตอบที่แน่ชัดไม่ได้สักอัน

“หนูไม่มีเรื่องอะไร ไปที่ห้องโถงบูชาบรรพบุรุษทำไมจ๊ะ?”

นรมนเพิ่งจะพบปัญหานี้ขึ้นมา

กิจจาพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “กมลเป็นคนบอกผมครับ”

“กมลเหรอ? ระหว่างพวกเธอติดต่อกันยังไง?”

พอได้ยินข่าวกมล นรมนก็ร้อนรนเป็นอย่างมากขึ้นมา

กิจจาเอาโทรศัพท์ออกมายื่นให้กับนรมน

“เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วกมลโทรศัพท์มาหาผม บอกให้ผมไปรับแด๊ดดี้ที่ห้องโถงบูชาบรรพบุรุษ สัญญาณทางเธอไม่ดีเอามาก ๆ เลย พอพูดจบก็ไม่มีสัญญาณแล้วครับ”

กิจจาเองก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

นรมนไม่รู้ว่าตกลงกมลและบุริศร์กำลังเล่นอะไรกันแน่ แต่ว่าตอนนี้บุริศร์กลับมาแล้ว เธอก็เหมือนกับว่ามีที่พึ่งทางใจแล้วยังไงอย่างงั้น

“งั้นตอนนี้มีที่ไหนที่สามารถซ่อนคนได้บ้างล่ะ?”

พอเจอคำถามนี้ของนรมนเข้า กิจจาก็ได้แต่ส่ายหน้าเล็กน้อย

“ไม่รู้ครับ”

หมู่บ้านดารายนนี้ก่อสร้างได้โปร่งโล่งมาก ถึงแม้ว่าจะเอาบุริศร์มาไว้ในห้องนอน ก็ไม่มีทางที่จะไม่โดนคนอื่นพบเห็นเข้า

นรมนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย

หลังจากที่นรมนกลับมาแล้ว นงลักษณ์ก็ไปที่ห้องของตัวเองเลย แล้วก็ส่งคนไปตรวจสอบตัวตนของพิรุณต่อไป

ในขณะที่นรมนหดหู่อยู่นั้น อยู่ ๆ กานต์ก็โทรศัพท์เข้ามา

“หม่ามี้ คุณบุริศร์อยู่หรือเปล่าครับ?”

นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็รีบพูดขึ้นว่า “กำลังพักผ่อนอยู่จ้ะ มีอะไรเหรอ? หาแด๊ดดี้หนูมีธุระอะไรเหรอ?”

“อยู่ ๆ ผมก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ นึกขึ้นมาได้ตอนที่เล่นเกมในวันนี้”

“เรื่องอะไรเหรอ?”

นรมนรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง

กานต์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ตอนที่ย่าโอเจอกับผมตอนที่อยู่ในคุกที่เมืองหลวง เหมือนกับจะบอกผมเกี่ยวกับเรื่องของหมู่บ้านดารายนบางอย่าง ตอนนั้นผมลืมบอกไป และระยะเวลาห่างมานานขนาดนี้ผมก็เกือบจะลืมไปแล้ว แต่ว่าตอนเล่นเกมเมื่อกี้ก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ครับ”

นรมนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง

“ย่าโอเหรอ? โอเหรอ?”

“ครับ”

กานต์พยักหน้าเล็กน้อย

แต่นรมนกลับรู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อยว่าโอจะบอกอะไรกับกานต์ไปบ้าง

“เธอพูดว่ายังไงบ้างเหรอ?”

“เหมือนกับว่าย่าโอจะบอกผมว่า หมู่บ้านดารายนมีช่องทางลับอันหนึ่งที่สามารถทะลุผ่านไปข้างนอกได้ เหมือนกับว่าจะอยู่ตรงที่ห้องโถงบูชาบรรพบุรุษนะครับ บอกว่าตอนนั้นเอาไว้ใช้เป็นช่วงทางหลบภัยฉุกเฉิน แต่ว่าตอนวันที่หมู่บ้านดารายนโดนทำลายนั้น ไม่มีใครทันได้ไปถึงที่นั่น ยังมีอีกอย่าง ตำแหน่งตรงนั้น ยังมีห้องลับอีกแห่งหนึ่ง เดี๋ยวผมส่งตำแหน่งไปให้หม่ามี้ทางWeChatนะครับ”

กานต์พูดจบก็วางสายโทรศัพท์เลย หนำซ้ำยังส่งตำแหน่งมาให้นรมนทางWeChatอีกด้วย

นรมนค้นหาตามตำแหน่งที่กานต์ส่งมาไปครู่หนึ่ง แต่ก็พบว่าอยู่ในห้องนอนของตัวเอง

เป็นความบังเอิญเหรอ?

นรมนมักจะรู้สึกว่ากานต์น่าจะรู้อะไรบางอย่าง และที่แห่งนี้ป้าโอเป็นคนบอกกานต์หรือเปล่านั้น นรมนก็ไม่รู้ แต่ว่าตอนนี้กลับแก้ไขความทุกข์ร้อนอย่างมากของเธอไปได้

เธอและกิจจาหาอยู่ในห้องนอนนานมาก ถึงพบว่าที่กำแพงข้างหลังตู้เหมือนกับว่าจะมีช่องว่าง

ทั้งสองคนลองเคาะ ๆ คลำ ๆ ไปตั้งนอนถึงพบว่ากลไกในการเปิด พอเข้าไปแล้วก็เป็นห้องลับจริง ๆ แถมยังมีลมพัดผ่านด้วย

“ตอนนั้นคนที่ออกแบบหมู่บ้านดารายนคือโสธร หรือว่าคนที่ทิ้งทางลับและห้องลับพวกนี้ไว้จะเป็นเขาเหรอ? แต่ว่าตอนนี้โสธรอยู่ที่ประเทศF และพวกเราก็โดนตัดขาดกับประเทศFแล้ว แล้วเขาจะส่งข่าวออกมาได้ยังไงกัน?”

ดวงตาของนรมนมีแววเคร่งขรึมพาดผ่านเสี้ยวหนึ่ง

กิจจาพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ไม่แน่คุณอาโสธรอาจจะบอกทิ้งไว้ก่อนไปก็ได้ครับ”

นรมนพยักหน้าเล็กน้อย

โสธรจะสามารถรู้จักใครที่นี่ได้ล่ะ?

เรื่องที่เป็นความลับขนาดนี้ เขาก็คงจะบอกกับแต่คนรุ่นหลังของหมู่บ้านดารายนละมั้ง

หรือจะเป็นปีวราเหรอ?

ถ้าโสธรไม่ได้บอกกับมิลิน แต่กลับเอาเรื่องนี้ไปบอกกับปีวราละก็ งั้นก็เห็นได้ชัดว่าโสธรเชื่อมั่นปีวรา งั้นเรื่องที่ปีวราหลอกใช้ให้มิลินตามบุริศร์และกมลไปตามหาคริชณะก็อาจจะต้องคิดวิเคราะห์ใหม่แล้วนะ

ชั่วขณะหนึ่งคิดเรื่องอะไรได้มากมาย แต่ว่าก็ยังย้ายบุริศร์เข้าไปอย่างรวดเร็ว

“กิจจา แด๊ดดี้ของหนูไม่เป็นอะไรจริง ๆ นะ?”

“ไม่เป็นอะไรจริง ๆ ครับ แด๊ดดี้แค่เหมือนกับว่าเหนื่อยเกินไป และกำลังพักผ่อนอยู่ หม่ามี้ดูซิที่ขอบตาของเขาเป็นรอยดำทั้งรอบเลย”

กิจจาชี้ไปที่ขอบตาล่างของบุริศร์ นรมนเองก็พบว่าขอบตาของเขาดำมาก แต่ว่าพอเห็นเขาที่มักจะกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดแต่กลับนอนหลับลึกได้เช่นนี้ เธอก็เลยรู้สึกไม่สบายใจอยู่เล็กน้อย

หลังจากที่จัดแจงให้บุริศร์เรียบร้อยแล้ว นรมนเองก็อยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ เพราะเกรงว่าคนข้างนอกจะหาตัวไม่เจอ เธอจึงได้แต่เดินตามกิจจาออกไป

หลังจากที่มิลินตรวจร่างกายให้พรวลัยเรียบร้อยแล้ว และเขียนใบสั่งยาบำรุงให้ไม่กี่ชุดแล้วก็กลับมาเลย

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาใช่หรือเปล่า?”

มิลินเห็นว่านรมนจากไปอย่างรีบร้อน ก็เลยเป็นห่วงมาก จึงรีบกลับมาหานรมน

“ไม่มีอะไร แค่สืบค้นข่าวของพิรุณเจอนิดหน่อย”

สำหรับสถานะของพิรุณนั้น นงลักษณ์แค่บอกกับนรมนคนเดียว และนรมนก็แค่บอกกับบุณพจน์คนเดียวเท่านั้น แล้วตอนนี้บุณพจน์ไม่ได้กลับมาด้วย แล้วพอมิลินมาถามแบบนี้ และเพื่อไม่ให้ความเคลื่อนไหวของบุริศร์โดนเปิดเผยไป นรมนจึงได้แต่เอาข่าวของพิรุณออกมาพูดเลย

ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เชื่อมิลิน แต่ว่าเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างจะพิเศษ ในเมื่อบุริศร์กำชับมาอย่างนี้แล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีการวิเคราะห์สำหรับคำสั่งนี้มาแล้ว เพราะฉะนั้นนรมนจึงได้แต่ต้องปิดบังไว้

ในตอนที่มิลินได้ยินนรมนพูดว่าพิรุณคนนี้ไม่ใช่พิรุณตัวจริงนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

“พิรุณคนนี้นี่ทำให้คนอื่นคาดเดาไม่ได้จริง ๆ เลย ถึงกลับกล้าแอบอ้างชื่อคนตายคนหนึ่งมานานหลายปีขนาดนี้ แถมยังสามารถทำได้ถึงขั้นที่ไม่มีคนสังเกตเห็นด้วย ไม่พูดไม่ได้ว่านี่มันช่างเหลือเชื่อมากจริง ๆ คิดว่าอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของเขาน่าจะไม่ธรรมดาแน่”

นรมนพยักหน้าเล็กน้อย

“ใช่ เพราะฉะนั้นเรื่องของหมู่บ้านดารายนในตอนนั้นบางทีอาจจะยังมีเรื่องที่พวกเราไม่รู้อีก ถ้าจะเป็นเพียงแค่เรื่องเส้นทางแร่ละก็ ฉันรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้แน่ เรื่องนี้ถ้ายิ่งสืบค้นเข้ามาก็จะยิ่งรู้สึกว่าลับลมคมในเต็มไปหมด บางทีอาจจะมีแค่ตามหาพิรุณให้เจอถึงจะรู้เรื่องบางอย่างได้ แต่ว่าตอนนี้ไม่รู้เบาะแสของพิรุณเลย และร่างกายของพรวลัยก็ยังไม่หายดี ไม่รู้ว่าพวกเรายังจะสามารถเสียเวลาได้อีกเท่าไหร่”

นรมนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย

มิลินเงียบขรึมไปครู่หนึ่ง แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณนาย หรือว่าเราจะลองไปถามอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาดู ไม่แน่อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอาจจะรู้สถานะของพิรุณก็ได้”

คำพูดประโยคนี้ทำให้นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง

อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเหรอ?

ในเวลาตอนนี้ไปเจอกับอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะปลอดภัยจริง ๆ เหรอ? ฟังจากความหมายของมิลินแล้ว อารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาน่าจะอยู่ละแวกใกล้ ๆ นี้ ใจของนรมนเกิดคลื่นขึ้นมาระลอกหนึ่งทันที

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท