“เป็นอะไร นรมน คุณอยู่ตรงไหน”
บุริศร์รีบถาม เร่งฝีเท้าขึ้น แต่ตรงนั้นพงหญ้าสูง ทำให้เขามองไม่เห็นทิศทางของนรมน
นรมนได้ยินเสียงเรียกร้อนใจของบุริศร์ ก็รีบพูดขึ้น “ฉันอยู่ตรงนี้ คุณไม่ต้องห่วง เดินไปทางสิบนาฬิกา”
เมื่อมีเธอบอกทาง บุริศร์ก็หานรมนเจออย่างรวดเร็ว
“คุณทำอะไร เจออะไรหรือเปล่า”
บุริศร์ในหัวนึกถึงแต่ที่หงส์บอกว่าที่นี่มีสัตว์ป่า กลัวว่านรมนเจอสัตว์ป่าจะต้องแย่แน่
นรมนส่ายหน้า พูดขึ้น “คุณดูตรงนั้น ใช่บ้านหรือเปล่าคะ”
มองตามทางที่นรมนชี้ บุริศร์ก็รู้สึกได้ว่าจะมีบ้านอยู่ลิบๆ แต่เพราะรอบข้างพงหญ้าสูงมาก ทำให้เขามองเห็นไม่ชัด
นรมนรู้สึกกลัวสภาพแวดล้อมรกชัฏ เธอดึงชายเสื้อบุริศร์ พูดขึ้น “พวกเราไปดูหน่อยมั้ยคะ ถ้าใช่บ้านจริงๆ พวกเราจะได้ไปเข้าห้องน้ำ”
“ต่อให้มีบ้าน คุณดูรอบข้างหญ้าสูงขนาดนี้ ไม่แน่อาจจะรกร้างนานแล้ว เข้าไปก็อาจจะไม่มีห้องน้ำ”
บุริศร์รู้ว่าให้นรมนปัสสาวะในป่าทำให้เธอลำบากใจ แต่ในเวลาแบบนี้ เขาไม่อยากให้นรมนเกิดเรื่องอะไรขึ้น
นรมนเบะปากรู้สึกเซ็ง
มองเธอท่าทางเหมือนเด็ก บุริศร์ก็ใจอ่อน
“ไปกันเถอะ ผมไปเป็นเพื่อน ต่อให้ทิ้งร้าง อย่างน้อยข้างในก็ปลอดภัยกว่าข้างนอก”
ได้ยินบุริศร์พูดอย่างนี้ นรมนก็ยิ้มออกมา
“ฉันรู้อยู่แล้วสามีฉันน่ารักที่สุด”
“อึม ตอนนี้รู้จักปากหวานเชียว”
บุริศร์ก็อารมณ์ดีเช่นกัน
สองคนจูงมือกัน เดินไปทางบ้านหลังนั้น
เห็นๆ ว่าใกล้มาก แต่เดินไปแล้วไกลมาก นรมนถ้าไม่อาศัยความมุ่งมั่นควบคุมความรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ ตอนนี้คงปัสสาวะราดไปแล้ว
เดินประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดทั้งสองคนก็เดินมาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง
ที่นี่รอบข้างมีแต่หญ้ารกทึบ ถึงกับมีต้นตีนตุ๊กแกขึ้นปกคลุมบ้านทั้งหลัง หากไม่ดูให้ดี ก็ดูไม่ออกว่ามีบ้านตั้งอยู่ที่นี่
บุริศร์อดไม่ได้ที่จะนับถือนรมน สภาพอย่างนี้เธอยังดูออกที่นี่คือบ้าน เก่งทีเดียว
นรมนตื่นเต้นไม่น้อย
“เห็นมั้ย ฉันบอกแล้วที่นี่มีบ้าน”
เหมือนเด็กทายปริศนาถูก ยิ้มร่าเริงวิ่งมาตรงหน้าบุริศร์ขอรางวัล
บุริศร์ยิ้มบีบจมูกเธอ พูดเสียงอ่อนโยน “ครับ ภรรยาผมเก่งที่สุด คุณรอตรงนี้ก่อน ผมจะจัดการหญ้ารก ไม่อย่างนั้นคงเปิดประตูไม่ได้”
พูดพลางบุริศร์ก็เดินเข้าไป หยิบมีดสั้นที่ทหารใช้ออกมาจากรองเท้าบูต จัดการหญ้ารกที่หน้าประตู
ถ้าหากพูดว่าตอนที่อยู่ในเมือง มาดประธานของบุริศร์ทำให้เธอเคลิ้ม อย่างนั้นตอนนี้ในป่า ความเป็นผู้ชายเข้มแข็งของบุริศร์ยิ่งทำให้นรมนละสายตาไม่ได้
บุริศร์จัดการหญ้ารกเรียบร้อยแล้วก็เห็นนรมนมองตัวเองตาเป็นประกาย ก็รู้สึกอารมณ์ดีมาก
“ผมเปิดประตู ข้างในจะต้องไม่มีคนอยู่มานานแน่ จะต้องมีฝุ่นสกปรก เดี๋ยวจะสำลัก คุณรอที่นี่ก่อน”
“ค่ะ”
ตอนนี้บุริศร์พูดอะไรนรมนก็เชื่อฟัง เธอรู้สึกว่าความหล่อของบุริศร์ไม่อาจพรรณนาเป็นคำพูดได้
บุริศร์ก็ไม่คิดตัวเองอายุขนาดนี้แล้ว ภรรยาจะยังหลงใหลตัวเอง จิตใจถูกอารมณ์ต่างๆ เติมเต็มจนเปี่ยมล้น ผ่อนคลายมาก อบอุ่นมาก ทันใดนั้นรู้สึกเต็มอิ่ม
“รอผมอยู่ที่นี่ เข้าใจมั้ย”
“ค่ะ”
นรมนเหมือนเด็กดีเชื่อฟังยืนอยู่ข้างหนึ่ง บุริศร์เตะประตูเปิดออก
ฝุ่นละอองข้างในลอยออกมา บุริศร์ที่เตรียมตัวอยู่แล้วก็อุดจมูก นรมนก็รีบหลบไปข้างๆ แต่ก็ยังรู้สึกคันคอ
บ้านนี้น่าจะเคยมีคนอยู่ มีข้าวของครบ เฟอร์นิเจอร์พร้อมพรั่ง และดูจากเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งแล้วน่าจะใช้เงินไม่น้อย
บุริศร์เดินรอบหนึ่ง ไม่พบอะไรน่าสงสัย ก็เรียกนรมน “เข้ามาเลย มีห้องน้ำ”
นรมนแทบรอไม่ไหวเข้าไปเข้าห้องน้ำ
ตอนที่เธอออกมา ก็เห็นบุริศร์กำลังต้มน้ำ
นรมนรู้สึกอบอุ่นขึ้นแล้ว
ข้างนอกท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ไม่รู้ว่าฝนและหิมะจะมาเมื่อไหร่ นรมนชอบอากาศแบบนี้ไม่ลง ก็เหมือนกับคนแบบสมชัยที่น่ารังเกียจ
“บุริศร์ คุณบอกที่นี่เป็นเขตปลอดคน ทำไมถึงได้มีบ้านที่นี่คะ”
คำถามของนรมน บุริศร์ก็ตอบไม่ได้
ที่นี่มีทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม้แต่จานชามก็มี
นรมนเห็นตู้เย็น ก็เดินเข้าไป พอเปิดออกดู ก็เห็นข้างในมีอาหารและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
“โอ้โห พวกเราโชคดีทีเดียว ที่นี่มีของกินด้วย”
ขณะที่พูด นรมนหยิบอาหารออกมา น่าจะซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตที่ไหนสักแห่ง ด้านบนมีป้ายราคาด้วย
นรมนมองวันที่ด้านบน เหลือเชื่อคือเมื่อวานนี้!
เธอใจเต้นตึกตักทันที
“บุริศร์ มานี่เร็ว!”
นรมนร้องเรียก บุริศร์รีบเดินเข้าไปดู
“มีอะไรครับ”
“คุณดูวันที่สิคะ ฉันดูผิดหรือเปล่า”
นรมนไม่แน่ใจส่งป้ายของซูเปอร์มาร์เก็ตให้บุริศร์ดู
บุริศร์ดูแล้วดวงตาก็เคร่งขรึมขึ้น
บ้านหลังนี้ดูจากข้างนอก เหมือนไม่มีคนอยู่มาหลายปี ถึงกับข้างนอกมีหญ้าขึ้นรกและต้นตีนตุ๊กแกขึ้นรอบบ้าน แต่ของในตู้เย็นทำไมถึงเป็นของเมื่อวานล่ะ
จนถึงตรงนี้ บุริศร์ถึงได้พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ในบ้านแม้จะมีฝุ่น แต่ห้องครัวกลับสะอาดเหมือนใหม่ แม้กระทั่งกาน้ำชาก็สะอาด
ถ้าหากไม่มีคนอยู่ ห้องครัวจะสะอาดได้อย่างไร
มีแค่เหตุผลเดียว นั่นก็คือมีคนใช้ห้องครัว!
แต่คนนั้นเข้ามาได้อย่างไรกัน
คิดถึงตรงนี้ บุริศร์ก็ระวังตัวทันที
หญ้ารกด้านนอกไม่มีร่องรอยเดินผ่าน ถ้าหากข้างในนี้มีคนใช้ห้องครัว เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างเดียว คนนั้นอยู่ในบ้านนี้!
ความคิดนี้ทำให้บุริศร์รีบดึงนรมนมาอยู่ข้างหลัง จากนั้นก็ควักปืนออกมาส่งให้นรมน
“เดี๋ยวถ้ามีความเคลื่อนไหวอะไร จำไว้ปกป้องตัวเองก่อน”
เห็นบุริศร์เคร่งเครียดอย่างนี้ นรมนก็รู้ว่าเรื่องร้ายแรงแล้ว
สองคนมองไปทางห้องนอน พยักหน้าให้กัน จากนั้นก็รีบเดินไปทางนั้น
นรมนกับบุริศร์ซ้ายขวาเปิดประตูห้องนอน บุริศร์ทำมือให้นรมน
เมื่อมือนับถึงสาม บุริศร์ก็เตะประตู ขณะที่ปืนในมือนรมนก็ชี้เข้าไปข้างในห้อง
“อย่าขยับ!”
นรมนขู่เสียงเย็น
บุริศร์ขมวดคิ้ว
ในห้องไร้เงาคน แต่ผ้าห่มมีรอยยับ เห็นได้ว่ามีร่องรอยคนนอน
บุริศร์เดินเข้าไปจับ มันเย็น แสดงว่าคนไม่อยู่ที่นี่
คิดถึงตรงนี้ บุริศร์ก็ดึงนรมนมาข้างตัว กระซิบ “ที่นี่มีแค่ห้องนอนเดียว คนไม่อยู่ที่นี่ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ตรงนั้นเหมือนจะมีห้องหนังสือ คุณอยู่ที่นี่ ผมจะไปดูหน่อย”
เมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายที่ไม่รู้ บุริศร์ไม่อยากให้นรมนเสี่ยงอันตราย แต่นรมนกลับแตะแขนเขา กระซิบ “ยิ่งอันตราย เรายิ่งต้องอยู่ด้วยกัน เราไม่รู้ว่าอันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ คุณอยู่กับฉัน ฉันรู้สึกปลอดภัย ฉันอยู่ที่นี่คนเดียว จะเป็นห่วงคุณ รู้สึกกระวนกระวายใจ”
นรมนพูดอย่างนี้แล้ว บุริศร์จึงไม่ปฏิเสธ
เขาจูงมือนรมนไปทางห้องหนังสือ
สองคนประสานงานกันเตะเปิดประตูห้องหนังสือ ฝุ่นละอองปะทะหน้าทันที สำลักจนไอค่อกแค่ก
บุริศร์กอดปกป้องนรมนทันที สายตากวาดตามองห้องหนังสือ ที่นี่เหมือนไม่มีคนเข้ามานานแล้ว ทุกที่มีแต่ฝุ่น
บ้านหลังนี้ ดูเหมือนมีแต่ห้องนอนและห้องครัวที่มีคนใช้งาน หรือพูดได้ว่าคนคนนี้ใช้แค่ห้องนอนและห้องครัว แต่ตอนนี้คนอยู่ที่ไหน
บุริศร์ไม่เข้าใจ
นรมนจู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีสายตามองตัวเอง เธอรีบหันไปมอง แต่ก็มองไม่เห็นอะไร ความรู้สึกถูกแอบมองทำให้ไม่สบายใจ
“มีอะไร”
บุริศร์สังเกตเห็นนรมนผิดปกติ รีบมองตามสายตาเธอ
นรมนกระซิบ “ฉันรู้สึกว่าบ้านนี้มีคนอื่นมองเราตลอด ความรู้สึกแอบมองแรงมาก ฉันมองข้ามไม่ได้”
บุริศร์กังวลทันที
“ทางไหน”
“ทางห้องนอน”
ได้ยินนรมนพูดอย่างนี้ บุริศร์ดึงมือนรมน เดินกลับไปที่ห้องนอน
ห้องนอนเล็กมาก แทบจะมองเห็นทั้งหมดในแวบเดียว ไม่มีที่ไหนให้คนซ่อน แต่สายตานรมนจ้องมองกำแพงฝั่งหนึ่งตลอด
“คุณสังเกตเห็นอะไร”
บุริศร์รู้ดี นรมนไม่มีทางจ้องมองกำแพงโดยไม่มีสาเหตุ นอกจากเธอสังเกตเห็นอะไร
นรมนกระซิบ “ฉันรู้สึกว่ากำแพงนี้ผิดปกติ!”
พูดแล้วนรมนก็จะเดินเข้าไป แต่ถูกบุริศร์ห้ามไว้
“คุณอยู่ตรงนี้ ผมจะไปดูเอง”
“ระวังนะคะ”
นรมนรู้ดี มีบุริศร์อยู่ด้วย แม้ว่าเธออยากจะโชว์เป็นวีรสตรีก็ไม่ได้ เพื่อไม่ให้บุริศร์เป็นห่วง เธอเชื่อฟังตลอด ได้แต่รับคำบุริศร์
“ค่ะ”
บุริศร์พยักหน้า
เขาเดินเข้าไปใกล้กำแพง
พอเดินเข้าไปใกล้ก็สังเกตเห็นสีกำแพงกับรอบๆ ไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะใกล้เคียงกันมาก แต่เมื่อมองละเอียดแล้วไม่เหมือนกัน
บุริศร์ยื่นมือออกไป กดที่มุมหนึ่งของกำแพง กำแพงก็ขยับเขยื้อน
ที่แท้คือตู้ติดผนังลับ!
ขณะที่ตู้ติดผนังเปิดออกช้าๆ ก็มีเงาดำพุ่งออกมาจากข้างใน มีดสั้นคมกริบเงาวับทำให้รู้สึกใจหายวาบ และพุ่งตรงเข้าใส่บุริศร์
“บุริศร์ ระวัง!”
นรมนตกตะลึง อยากจะรีบเข้าไปช่วย แต่ความเร็วของมันมากไป นรมนไม่มีหวังจะเข้าไปได้ทัน