แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1348 ฉันไม่ใช่คนใจแคบอย่างนั้นนะ

บทที่ 1348 ฉันไม่ใช่คนใจแคบอย่างนั้นนะ

ราเชนไม่คิดว่าญาณินจะถามอย่างนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะนิ่งไป

ตำหนิเหรอ?

จะตำหนิเธอได้ยังไงล่ะ?

ตอนนี้โสธรก็ห้อยอยู่บนลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้ว แค่ไม่ยอมตายไปอย่างนี้เท่านั้น เขาเองก็เห็นแก่นรมนจึงพยายามช่วยชีวิตโสธรเอาไว้ สุดท้ายแล้วตนเองจะทนได้หรือไม่ได้ ในใจของราเชนไม่แน่ใจจริงๆ

“น้องห้าพูดเล่นแล้ว ตอนนี้พวกเราทำดีที่สุดแล้วอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”

“งั้นก็ดีค่ะ พี่รองตามฉันเข้ามา”

ญาณินพาราเชนกับโสธรไปที่ห้องรับแขก

หลังจากวางโสธรไว้เรียบร้อยแล้ว ญาณินจึงพูดขึ้น: “พี่รองก็ออกไปจากที่ของฉันเถอะ พี่มานานเกินไป จะทำให้คนอื่นๆสงสัยได้”

“อื้ม”

ราเชนเห็นญาณินรับโสธรไว้แล้ว ถึงได้พยักหน้าออกไป ก่อนจะไปก็ทิ้งท้ายไว้ว่า: “ที่พี่ไม่มีหมอที่เหมาะสม ถ้าน้องห้า……”

“เรื่องนี้ฉันหาทางจัดการเอง พี่รองไปเถอะค่ะ”

ญาณินกลับแบกรับไว้เอง

หลังจากราเชนไปแล้ว ญาณินจึงเรียกธีรตาเข้ามา ให้ไปตามหมอส่วนตัวของตนเอง

“ดูอาการของเขา พยายามช่วยชีวิตเขาให้ได้”

“ครับ องค์หญิง”

หลังจากหมอเข้ามาแล้ว ญาณินจึงถอยออกไป เธอไม่สนใจผู้ชายที่โดนตีจนเห็นใบหน้าได้ไม่ชัดเจนหรอก

หลังจากออกมา ญาณินจึงส่งสัญญาณมือไปที่มุมลับ ร่างหนึ่งจึงออกไปจากพระราชวังอย่างรวดเร็ว

“หัวหน้าหน่วย คุณเรียกหาผมเหรอครับ?”

“สืบหาคนข้างกายของกล้าณรงค์ช่วงนี้องครักษ์ที่ล่วงเกินเขาชื่ออะไร เป็นใคร?”

เฉียงชะงักเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นทันที: “เรื่องนี้ผมรู้ครับ องครักษ์คนนั้นชื่อโสธร เหมือนกล้าณรงค์จะพากลับมาจากต่างประเทศ ตามที่ว่ากันเดิมทีเป็นคนของบริษัทเฮียบุริศร์ ภายหลังเนื่องจากล่วงเกินนรมนซึ่งเป็นคุณนายบุริศร์จึงโดยเฮียบุริศร์ลงโทษไล่ออก ต่อมาได้เจอกับกล้าณรงค์ ว่ากันว่าพี่สาวแท้ๆของคนๆนี้ตายเพราะนรมน ดังนั้นเขาสบโอกาสครั้งหนึ่งโดยบังเอิญจึงจะลอบฆ่านรมนแต่ไม่สำเร็จ โดนเฮียบุริศร์กำจัดแขนขา แล้วโยนไปข้างนอกโดยที่ไม่สนใจว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง จากนั้นจึงโดนกล้าณรงค์พากลับมา กลายเป็นคนสนิท แต่ทว่าช่วงก่อนหน้านี้เหมือนกล้าณรงค์จะมีเรื่องสำคัญหลุดออกไป โสธรโดนสงสัยเข้าแล้ว ดังนั้นจึงเกือบตายนี่แหละครับ”

ญาณินตะลึงเล็กน้อย

คนของบุริศร์?

ถึงขั้นมีความแค้นกับนรมน?

สำหรับเธอคนอย่างนี้ช่างเป็นเบี้ยกับดาบที่ดีที่สุดจริงๆ

แต่ทว่าดูจากกลอุบายแล้วคนๆนี้น่าจะเป็นคนของบุริศร์แน่ๆ บางทีก่อนจะหักแขนหักขาคงแค่ทำท่าทำทางให้คนอื่นดูเท่านั้นเอง

ความคิดของเธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

“ข้อมูลที่เปิดโปงออกมาเกี่ยวกับเรื่องของบุริศร์ที่ด้านนั้นใช่ไหม?”

“ใช่ครับ”

ได้ยินคำตอบของเฉียงแล้ว ญาณินก็แน่ใจ

เพียงแต่คนของเฮียบุริศร์มาอยู่กับราเชนได้ยังไง?

นึกถึงบทบาทของนรมนที่อยู่ระหว่างพวกเขา ญาณินจึงเข้าใจขึ้นมาทันที

เรื่องของพี่เขยเฮียบุริศร์ต้องเอาใจใส่อยู่แล้ว

ญาณินคำรามออกมาอย่างเย็นชา พูดขึ้น: “ข่าวที่โสธรมาอยู่ที่ฉันนี่คงจะแพร่ออกไปแล้ว แจ้งคนของพวกเรา ใครมีการเคลื่อนไหวใดๆให้รายงานฉันทันที”

“ครับ”

เฉียงออกไปแล้ว

ญาณินไม่คิดว่าโสธรจะเป็นคนของนรมนอยู่แล้ว เพราะบุริศร์รับภาระทั้งหมดเอาไว้เองตั้งแต่แรก ดังนั้นโลกภายนอกจึงไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างนรมนกับโสธร ยิ่งไม่รู้เลยว่านรมนเข้าควบคุมองค์กรมืดแห่งใหม่อย่างลับๆแล้ว

สถานการณ์ของญาณินที่ด้านนี้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่นรมนกลับนอนหลับใหลจนฟ้ามืดสนิทอยู่ในโรงแรม

บุริศร์วางเรื่องของหงส์ลง หลังจากกลับเข้าไปในห้องก็เห็นนรมนยังหลับอย่างสงบ ในใจจึงอบอุ่นขึ้นมาโดยปริยาย

เขากำจัดความเย็นบนร่างกายของตนเอง แล้วจึงขึ้นเตียงมุดเข้าไปในผ้าห่ม กอดนรมนแล้วก็หลับไป

สภาพอากาศข้างนอกจะเป็นยังไงสำหรับเขาแล้วไม่ได้มีผลอะไรเลย เขาต้องการแค่ครอบครัวที่มีความสุขก็พอแล้ว

หลังจากที่นรมนตื่นขึ้นมา เห็นบุริศร์ยังนอนอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มๆ แล้วยื่นนิ้วมือออกมาคิดจะก่อกวน แต่กลับโดนบุริศร์จับฝ่ามือเอาไว้ทันที

“ตื่นแล้วก็เจ้าเล่ห์นักนะ ทำไม? คุณยังไม่เหนื่อยใช่ไหม?”

คำพูดนี้ถามซะนรมนหน้าแดงขึ้นมาทันที

“อันธพาล!”

แต่บุริศร์กลับยิ้มยั่วยวน

“ถ้าผมไม่อันธพาลคุณจะพอใจได้ยังไง? ห๊ะ?”

“ออกไปเลย”

นรมนรู้สึกว่าบุริศร์ยิ่งนานวันยิ่งไม่มียางอายขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ ไม่รู้จักอับอายบ้างเลย

เธอลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ตอนที่ออกมาบุริศร์ก็เตรียมเสื้อผ้าไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว

นรมนสวมชุดไหมพรม มองพายุหิมะที่ด้านนอก พูดขึ้น: “อากาศอย่างนี้ทำอะไรไม่ได้เลย”

“ก็ยังได้อยู่นะ อย่างเช่นออกกำลังกายบนเตียง”

“บุริศร์! ในหัวคุณนี่คิดเรื่องอื่นบ้างได้ไหม?”

นรมนพูดไม่ออกแล้วจริงๆ

แต่บุริศร์กลับยิ้มพูดขึ้น: “อากาศอย่างนี้อยากจะทำอะไรก็เปล่าประโยชน์ มีแค่กิจกรรมนี้แหละที่เหมาะสมที่สุด”

“ไม่เอา เหนื่อยชะมัดเลย”

นรมนก็รู้สึกว่าการออกกำลังอย่างนั้นไม่เลว แต่ทุกเรื่องต้องมีขอบเขต ถ้าบ่อยเกินไปร่างกายจะรับไม่ไหว

บุริศร์พูดอย่างนั้น พอได้ยินนรมนพูดเช่นนี้ จึงกอดเอวบางๆของนรมนเอาไว้ เอาคางของตนเองเข้าไปใกล้ๆ พูดขึ้น: “ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะทำตอนนี้ ประหม่าทำไม?”

“อีกเดี๋ยวก็ไม่ได้”

นรมนปฏิเสธด้วยท่าทีเย่อหยิ่งเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย

“ก็ได้”

บุริศร์จึงหัวเราะขึ้นมาทันที

ภรรยาที่น่ารักขนาดนี้ไปหามาจากที่ไหนกันแน่นะ?

ได้ยินบุริศร์หัวเราะ นรมนพิงเข้าไปในอ้อมอกของเขา พูดขึ้น: “อยากออกไปเล่นปาหิมะจัง”

“รอให้พายุหิมะสงบก่อนแล้วกัน”

“ไม่รู้ว่าตอนนี้โสธรเป็นยังไงบ้าง?”

นรมนยังไม่รู้ข่าวที่โสธรได้รับบาดเจ็บ จึงกังวลอยู่บ้างเป็นธรรมดา ถึงยังไงเขาก็เป็นคนที่ตนเองส่งออกไป

“วางใจเถอะ ไม่เป็นไรหรอก”

“เป็นเพราะหงส์ใช่ไหม?”

จู่ๆนรมนก็พูดถึงหงส์ สีหน้าของบุริศร์จึงชะงักไปเล็กน้อย แล้วพูดขึ้น: “เหมือนคุณจะสนใจในตัวเธอมากนะ?”

“ใช่สิ ผู้หญิงคนนี้ต้องเก่งมากแน่เลย ฉันอยากเปิดหูเปิดตาดูบ้างจริงๆ”

“ไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอก อีกอย่างผู้หญิงที่เติบโตภายในวังความคิดต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว คุณอย่าไปสนใจขนาดนั้นดีกว่า”

ลางสังหรณ์ของบุริศร์ไม่หวังให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน แม้จะรู้ว่าความคิดอย่างนี้มันคาดหวังมากเกินไป แต่ได้รู้จักกันช้าหน่อยคงดีกว่า

เขารู้ถึงการตอบสนองได้อย่างรวดเร็วของนรมน ส่วนเขาเคยมีข่าวลือว่าเป็นแฟนที่กำลังจะแต่งงานกับหงส์จริง ถึงที่นี่จะไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเคยคบหาดูใจกัน แต่หงส์ก็เป็นตัวแปรที่ใหญ่ที่สุด

เดิมทีคิดว่าหลายปีผ่านไป หงส์ก็จะลืมความรู้สึกที่มีต่อตนเอง แต่โทรศัพท์ที่ไม่นานก่อนหน้านี้ทำให้บุริศร์รู้ว่า ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ตนเองคิดไว้อย่างสวยงามจนเกินไป

นิสัยของหงส์เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้จนกว่าจะสำเร็จ ดังนั้นน่าจะต้องครอบครองเขาให้ได้ ต่อให้เขาจะพูดอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ด้วยนิสัยของหงส์คงไม่เชื่อฟังแน่ๆ

เป็นครั้งแรกที่บุริศร์รู้สึกเสียใจที่พานรมนมาประเทศFด้วย

“นรมน ผมโทรให้วินเซนต์มารับคุณกับคุณน้าธนเกียรติโกศลออกไปจากที่นี่ก่อนดีไหม?”

จู่ๆบุริศร์ก็เอ่ยปากขึ้น กลับทำให้นรมนชะงักงันเล็กน้อย

“เพราะอะไร? เราคุยกันเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะมาที่นี่แล้วก็กลับออกไปด้วยกัน? อีกอย่างกล้าณรงค์กับสมชัยไม่ใช่ศัตรูของคุณคนเดียว ฉันก็มีส่วนร่วมด้วย ก่อนหน้านี้คุณรับปากอย่างดีแล้ว ทำไมตอนนี้ถึงไล่ฉันไป?”

นรมนออกมาจากอ้อมกอดของบุริศร์ทันที มองเขาด้วยความสงสัย

เธออยากจะมองบางอย่างให้ออกมาจากบนใบหน้าของบุริศร์ แต่กลับผิดหวัง

ก็ใช่

ตอนที่บุริศร์ไม่อยากให้เธอรู้สึกได้ถึงความคิดก็จะไม่ให้เธอมองเห็นพิรุธอะไรออกมาแน่ๆ

นรมนสิ้นหวังมาก แต่ยังคงไม่ยอมแพ้

“บุริศร์ คุณต้องให้เหตุผลกับฉัน”

“เหตุผลก็คือหลังจากที่มาแล้วผมถึงรู้สึกว่าที่นี่อันตรายกว่าที่ผมคิดเอาไว้ ผมกลัวว่าตนเองจะคุ้มครองคุณให้ปลอดภัยไม่ได้ นรมน คุณรู้ไว้นะ สำหรับผมแล้วคุณสำคัญที่สุด ถ้าภารกิจไม่สำเร็จผมยอมรับผิดและขอให้ยกโทษให้ได้ แต่ถ้าคุณเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด ผมกลัวว่าคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”

นี่เป็นความจริงของบุริศร์

เดิมทีคิดว่าหงส์จะเป็นกองหนุนและเครื่องป้องกันที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขา แต่ตอนนี้ดูแล้วความรู้สึกที่หงส์มีต่อเขาเป็นไปได้มากว่าจะกลายเป็นอาวุธสำคัญที่ทำร้ายนรมน บุริศร์จึงต้องป้องกันเอาไว้ก่อน

เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสักวันที่ต้องระวังตัวจากหงส์ที่สนิทสนมราวกับเป็นพี่น้องของตนเอง แต่วินาทีนี้เขาคิดถึงความใสซื่อของนรมน

สำหรับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเขากับหงส์ บุริศร์ไม่รู้ว่าควรบอกนรมนหรือเปล่า

เป็นผู้หญิงก็ต้องหึงกันทั้งนั้น อีกอย่างเธอยังเคยเป็นผู้หญิงที่ตนเองจะแต่งงานด้วยอีก ถ้านรมนรู้เรื่องนี้เธอจะเป็นยังไงนะ?

บุริศร์ไม่รู้ แล้วก็ไม่กล้าเดิมพัน

ตอนที่คนๆหนึ่งสำคัญขึ้นเรื่อยๆก็ยิ่งต้องระมัดระวัง ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของประโยคนี้แล้วจริงๆ

นรมนไม่รู้ว่าบุริศร์กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วจับมือเขาเอาไว้

“วางใจเถอะ ฉันไม่โดนรังแกง่ายๆหรอก ต่อให้จะช่วยเหลือคุณไม่ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดฉันก็ปกป้องตนเองได้ อย่าลืมว่าที่นี่ก็ยังมีคนของฉันนะ”

รอยยิ้มของนรมนทำให้บุริศร์ยิ่งปวดใจ

คนของเธอ?

โสธรใช่ไหม?

กลัวว่าหลังจากที่เปิดเผยข้อมูลคราวก่อน กล้าณรงค์ก็จะรู้สึกตัวได้แล้ว ส่วนตอนนี้โสธรเป็นตายยังไงยังไม่รู้เลย

เรื่องนี้บุริศร์ไม่ได้พูดกับนรมน ถึงยังไงถ้ายังไม่ได้เจอโสธรก็ยังมีความหวังอยู่ และบางครั้งที่คนเรามีความหวังบ้างมันก็เป็นเรื่องที่ดี

ก็ตอนนี้ ที่โทรศัพท์ของบุริศร์ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าหงส์โทรมา บุริศร์จึงค่อนข้างสับสน

“ทำไมไม่รับโทรศัพท์?”

นรมนเห็นบุริศร์ลังเลอยู่ชั่วครู่จึงค่อนข้างสงสัย เข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าเป็นสายจากหงส์ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มพูดขึ้น: “หงส์มีเรื่องอะไรจะบอกพวกเราหรือเปล่า? คุณรีบรับสิ ไม่แน่อาจจะมีข่าวดีก็ได้นะ”

บุริศร์มองท่าทางใสซื่อของนรมน จึงรู้สึกผิดไปโดยปริยาย แม้จะไม่ได้ทำเรื่องที่ผิดต่อนรมน แต่ก็รู้สึกอึดอัดและปวดใจเหลือเกิน

“ตอนนี้อยู่ในช่วงพายุหิมะ ต่อให้มีข่าวดีอะไรพวกเราก็ออกไปไม่ได้อยู่ดี รับไม่รับก็เท่านั้นไม่ใช่เหรอ?”

“พูดอย่างนี้ไม่ได้สิ อั๊ยหยา ก็ไม่รู้ว่าคุณยึกยักทำไม นี่คุณกลัวฉันจะเข้าใจคุณกับหงส์ผิดเหรอ? มิตรภาพที่ยาวนานขนาดนี้ของพวกคุณ ถ้ามีเรื่องอะไรบางอย่างคงเกิดขึ้นตั้งนานแล้วใช่ไหมล่ะ? ฉันไม่ใช่คนใจแคบซะหน่อย!”

นรมนพูดแล้วก็สไลด์รับโทรศัพท์แทนบุริศร์ ตอนที่บุริศร์อยากจะห้ามก็ไม่ทันแล้ว แต่ในใจของเขากลับถอนหายใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะพูดอะไรกับภรรยาที่ใสซื่อของตนเองดี?

อะไรที่เรียกว่ามิตรภาพยาวนานถ้าจะเกิดอะไรบางอย่างคงเกิดไปตั้งนานแล้ว? นี่สรุปว่าเธอรู้หรือไม่รู้สถานการณ์ของตนเองในตอนนี้กันแน่นะ!

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท