หลังจากราเชนเข้ามา ก็เห็นน้องห้าที่ไม่ค่อยโชว์ตัวให้ใครได้เห็นสักเท่าไหร่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว ท่าทางเอื่อยเฉื่อยเหมือนกับลูกแมวเหลือเกิน
“ญาณิน ได้ยินว่าเธอเป็นหวัดแล้ว วันนี้ดีขึ้นหรือยัง?”
เขาเดินย้อนแสงเข้ามา ร่างสูง180บดบังแสงอาทิตย์ส่วนหนึ่งเอาไว้ แต่กลับทำให้ในใจของหงส์สั่นไหวเล็กน้อย
ไม่ได้เจอตั้งหลายปี พี่รองคนนี้สูงขึ้นไม่น้อยเลย ยังจำตอนเด็กๆที่พี่รองผอมแห้งได้ดี ท่าทางไม่น่าโตอย่างนั้น ไม่นึกว่าจะมีชีวิตรอดมาได้
ข้อมูลของราเชนหงส์ก็มี ตอนที่รู้ว่าเขาชอบผู้ชายเธอไม่ได้เหยียดหยามสบประสาท แต่กลับรู้สึกว่าเขาทุ่มเทเพื่อความรักมากจริงๆ เขาเองไม่มีความคิดที่จะช่วงชิง แต่ดันโดนบีบบังคับจนกลายเป็นอย่างตอนนี้
เป็นคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง
“ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงนะคะพี่รอง แค่อาการหวัดเล็กๆน้อยๆพี่รองก็ยังใส่ใจ ขนาดพ่อยังไม่เคยถามถึงเลย”
หงส์ก้มหน้า ราวกับค่อนข้างเสียใจ
ราเชนมองน้องห้าที่อยู่ด้านหน้า นึกถึงตนเองในอดีต จึงอดสงสารไม่ได้
“เขายุ่งเรื่องสำคัญอยู่ทั้งวัน จะมาสนใจเรื่องเล็กๆพวกนี้ได้ยังไงล่ะ? นี่เป็นยาแก้หวัดที่พี่ให้คนชงมาให้ ใช้ยาจีนเป็นส่วนประกอบ ไม่มีผลข้างเคียง เธอดื่มสักหน่อยเถอะ ร่างกายคล่องแคล่วปราดเปรียวขึ้นแล้ว ตัวเราถึงจะกระปรี้กระเปร่า อยู่ที่นี่ ถ้าตนเองไม่รู้จักเป็นห่วงตนเอง คนอื่นก็ยิ่งไม่ใส่ใจเธอนะ”
หงส์ชะงักเล็กน้อย
พูดตามจริง อยู่ในพระราชวังนี้ เธอใช้ชีวิตอย่างไร้ตัวตน บางครั้งองครักษ์กับสาวใช้ต่างก็ลืมการมีตัวตนของเจ้านายอย่างเธอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกพี่ชายน้องสาวพวกนั้นเลย ตอนนี้ราเชนมาที่นี่กลับทำให้เธอมีความระแวงเล็กน้อย
“ขอบคุณค่ะพี่รอง ธีรตา ไปยกยามาให้ฉัน”
“ค่ะ องค์หญิง”
ธีรตาเดินไปรับยามาจากในมือของราเชน ส่งไปให้หงส์
หงส์ดื่มอย่างไม่ลังเล กลับทำให้ราเชนค่อนข้างประหลาดใจ
“น้องห้าไม่กลัวพี่วางยาพิษเหรอ?”
“คนอย่างฉันที่เกือบจะโดนลืมเลือนไปแล้ว พี่รองจำเป็นต้องเปลืองแรงวางยาพิษฉันด้วยเหรอคะ?”
หงส์พูดอย่างเจ็บปวด
นี่เป็นความเศร้าของลูกๆชนชั้นสูงอย่างพวกเขา
ถ้าเกิดคุณไม่ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีมูลค่านี้จะไม่มีใครจำคุณได้ ต่อให้เป็นพ่อของตนเองก็เป็นเช่นนี้ เธอรู้ดี ตอนนี้ตนเองยังต้องเป็นองค์หญิงที่คอยปรนนิบัติรับใช้อยู่ แต่ยังมีจุดประสงค์อื่นอีกด้วย
องค์หญิง ตั้งแต่อดีตกาลก็ต้องแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์เพื่อพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง
หงส์แค่ไม่รู้ว่าพระราชาจะให้ตนเองรับหมั้นใคร แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ตอนนี้เธอมีที่พึ่งแล้ว
ถึงยังไงบุริศร์ก็มาแล้วไม่ใช่เหรอ?
แต่ราเชนกลับไม่รู้ถึงสิ่งที่หงส์คิดอยู่ในใจ ได้ยินเธอพูดอย่างนี้จึงอดไม่ได้ที่จะไม่สบายใจ
“ใช่สิ เหมือนคนอย่างพวกเราถ้าตนเองไม่พยายามทำให้เขาเห็นความดีของพวกเรา คงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไปได้”
หงส์นิ่งไปเล็กน้อย
“พี่รองมาเป็นพันธมิตรกับฉันเหรอ? นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีนะคะ ฉันไม่เคยสนใจแย่งชิงตำแหน่งของพวกพี่เลย”
ราเชนกลับหาที่นั่งนั่งลงไปอย่างไม่ใส่ใจ แล้วมองธีรตาที่อยู่ด้านข้าง หงส์จึงเข้าใจขึ้นมาทันที
“เธอออกไปก่อนเถอะ”
“ค่ะ”
ธีรตาถอยออกไปแล้ว
ตอนที่ในห้องรับแขกเหลือแค่หงส์กับราเชน ราเชนถึงมองหงส์ตรงๆ พูดขึ้น: “น้องห้า พี่รองรู้ว่าเราสองคนไม่ได้สนิมสนมกัน พูดเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวอยู่ที่นี่ก็น่าขำจริงๆนั่นแหละ แต่ว่านอกจากเธอที่นี่ พี่รองนึกถึงที่อื่นไม่ออกแล้ว”
“พี่รองมีเรื่องอะไรกันแน่? พูดมาตรงๆเลยค่ะ ถึงฉันจะไม่สนใจแย่งชิงตำแหน่งจากพวกพี่ แต่ทว่าได้รับความเอ็นดูจากพี่ชายมากขึ้น ก็รู้สึกดีกว่าอยู่ตัวคนเดียวอย่างโดดเดี่ยวเยอะเลย ถึงยังไงฉันก็ดื่มยาของพี่รองไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
หงส์ส่งวิ้งค์ให้อย่างซุกซน ท่าทางทะเล้นๆนั้นกลับทำให้ราเชนแปลกใจ
เขาจึงตะลึงไปโดยปริยาย แล้วก็หัวเราะขึ้นมาทันที
“ชีวิตในวังของน้องห้ากลับไม่มีความกังวลใจเลยนะ”
“ไม่ได้คาดหวังอะไรก็ต้องสบายใจบ้างอยู่แล้วสิคะ”
คำพูดของหงส์ทำให้ในใจของราเชนสั่นไหวเล็กน้อย
ไม่ได้คาดหวังอะไรงั้นเหรอ?
ก็จริง ตอนแรกตนเองก็ไม่ได้ปรารถนาที่นี่เลยสักนิดถึงอยากจะออกไปไม่ใช่เหรอ? แต่ตอนนี้กลับต้องดิ้นรนอยู่ในความวุ่นวาย
แววตาของเขาปรากฏความเจ็บปวดออกมาชั่วขณะ แต่กลับทำให้หงส์มองเห็นอย่างชัดเจน
สำหรับพี่ชายพวกนี้ หงส์ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย แต่เพราะความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับนรมน เธอถึงคิดจะตีสนิทกับราเชนสักหน่อย จึงพูดขึ้น: “นี่พี่รองประสบเรื่องลำบากอะไรเข้าแล้วใช่ไหม?”
“ก็ไม่ได้มีอะไร แค่องครักษ์คนหนึ่งของพี่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทว่าเขาผิดใจกับกล้าณรงค์ที่ปรึกษาข้างกายของน้องสาม อยู่กับพี่ยากที่จะปกป้องชีวิตเอาไว้ได้ ดังนั้นพี่จึงอยากถามน้องห้าว่าที่นี่พอจะมีห้องว่าง ให้พี่ยืมหน่อยไหม”
ราเชนพูดขึ้น แต่หงส์กลับขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พี่รองทำให้ฉันลำบากใจแล้วนะ กล้าณรงค์ที่ปรึกษาข้างกายของพี่สามตามที่เล่ากันว่าพ่อก็ยังต้อนรับอย่างมีมารยาท คนที่ผิดใจกับเขาไม่ได้หาเรื่องตายหรอกเหรอ? พี่รองส่งคนอย่างนี้มาที่ฉัน เพราะคิดว่าน้องสาวอย่างฉันใช้ชีวิตสงบสุขเกินไปใช่ไหมคะ?”
แม้หงส์จะยิ้ม แต่ในดวงตากลับมีความดุดันเล็กน้อย
เด็กที่เติบโตในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายหรอก ราเชนรู้มาโดยตลอด ถึงน้องห้าญาณินจะดูไม่สนใจโลก สุขสงบไร้ความกังวล แต่อยู่ในวังนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว คนที่ไม่พึ่งพิงอำนาจใดๆก็เอาตัวรอดได้จากทุกเรื่อง จะเป็นคนที่ไม่มีความสามารถได้ยังไงกัน?
นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ราเชนมาหาญาณิน
“น้องห้า พี่รองหมดหนทางแล้วจริงๆ องครักษ์คนนี้สำคัญกับพี่รองมาก”
“อ้อ? สำคัญยังไงคะ? ไม่นึกว่าจะทำให้พี่รองลากน้องสาวลงน้ำไปด้วยอย่างไม่เสียดายเลย ถ้าฉันรู้ว่าน้ำหนักของยาแก้หวัดหนักเช่นนี้ ฉันคงไม่ดื่มหรอก”
ญาณินค่อนข้างเย็นชา
อยู่ที่นี่ แม้เธอจะไม่ยินยอมเป็นญาณิน แต่กลับต้องทำ เพื่อบุริศร์ แล้วก็เพื่อตนเอง
ราเชนมองเธอ ไม่นึกว่าจะมองไม่ออกถึงด้านหลังของดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เขารู้ว่ามาหาญาณินที่นี่ไม่ต่างจากการพยายามในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อันที่จริงก็ไม่เข้าใจอะไรเธอเลย แค่อาศัยลางสังหรณ์เท่านั้นถึงได้มา
ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครสืบหาเบื้องหลังของญาณิน แต่ว่าล้มเหลวกันหมด ตามที่เล่ากันว่าพระราชาสมชัยก็เคยสืบหา แต่ยังคงหาไม่เจออะไร
ผลลัพธ์อย่างนี้มีแค่สองเหตุผลเท่านั้น ข้อแรกก็คือญาณินใสสะอาดเกินไป ไม่มีอะไรให้พึ่งพิงได้ ส่วนอีกข้อหนึ่งก็คือภูมิหลังของญาณินแข็งแกร่ง จนทำให้พวกเขาไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
องค์หญิงคนหนึ่งที่ออกไปจากวังเมื่ออายุสิบปี หลังจากอายุยี่สิบกว่าปีถึงได้กลับมา ใครก็ไม่กล้า ดูถูกทั้งนั้น แค่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาโดยตลอด ไม่มีส่วนร่วมในอำนาจใดๆ แต่ก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างผ่อนคลายไร้กังวล
ตอนนี้โสธรบาดเจ็บสาหัส ถ้ายังไม่ได้รับการรักษาอาจจะตายได้
เขาเป็นคนของนรมน ราเชนจึงไม่อยากให้เขาตาย เพียงแต่ตอนนี้เป็นช่วงที่ปิดประเทศ ข้างนอกก็มีพายุหิมะ อยากจะส่งโสธรออกไปรักษาก็ยากมากจริงๆ
ญาณินเป็นเพียงหนทางเดียวของเขา
แต่ตอนนี้ถ้าพูดตัวตนของโสธรออกมา ราเชนก็ไม่กล้ารับประกันว่าญาณินจะลงมือกับโสธรหรือเปล่า อันที่จริงเขาไม่เข้าใจญาณินเลย
ราเชนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดขึ้น: “น้องห้า บอกตามตรง เขาเป็นเพื่อนที่อยู่ประเทศZของพี่”
ถึงยังไงพวกพี่น้องในครอบครัวก็สืบเจอเรื่องที่เขาชอบผู้ชายแล้ว ต่อให้บอกญาณินไปเช่นนี้ก็คงไม่เป็นอะไร เพียงแต่ไม่ยุติธรรมกับโสธรก็เท่านั้น
แต่ว่าสำหรับตอนนี้ ถ้าต้องเลือกระหว่างความไม่ยุติธรรมกับการเอาชีวิตรอด ราเชนคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่โสธรจะไปใส่ใจอะไรแล้ว
ญาณินกลับตะลึงเล็กน้อย
เรื่องของราเชนกับซินดี้เธอรู้อยู่แล้ว บางทีพวกพี่น้องในวังทั้งหมดก็คงรู้ด้วย ดังนั้นช่วงก่อนหน้านี้ตอนที่ราเชนขอลูกสาวของรัฐมนตรีอาวุโสแต่งงานถึงได้ไม่สำเร็จ แค่เพราะว่าองค์ชายสามบอกเรื่องนี้แก่ลูกสาวของรัฐมนตรีอาวุโส เป็นตายยังไงอีกฝ่ายก็ไม่ยอมแต่ง เนื่องด้วยเหตุนั้นทำให้พระราชารู้เรื่องนี้เข้า ตอนนั้นจึงเดือดดาลอยู่ไม่น้อยเลย
แต่ตามที่เล่ากันมาราเชนรักซินดี้อย่างลึกซึ้ง ผู้ชายที่จู่ๆก็โผล่ออกมาคนนี้เป็นใครกันแน่? ญาณินสงสัยมาก
“พี่รอง พี่ควรรู้ไว้นะ เด็กที่เติบโตอยู่ในครอบครัวของพวกเราอย่างนี้ ไม่ควรปรารถนาที่จะมีเพื่อนมากจนเกินไป”
“พี่รู้ แต่เขาเป็นน้องชายห่างๆของซินดี้ ซินดี้เพิ่งได้รู้จักกับเขาก็จากไปซะแล้ว พี่รับปากซินดี้เอาไว้ว่าจะดูแลเขาอย่างดี จึงหวังว่าน้องห้าจะช่วยพี่หน่อย”
ตอนนี้ราเชนทำได้เพียงให้โสธรกับซินดี้เกี่ยวข้องกัน ในใจของเขาเจ็บปวดเหลือเกิน เดิมทีเป็นเพียงความรักที่บริสุทธิ์ ตอนนี้หลังจากคนที่รักจากไปแล้วยังต้องโดนเขาใช้ประโยชน์อีก ราเชนเหยียดหยามตนเอง แต่เขาทำอะไรได้บ้างล่ะ?
ตอนนี้เขารู้สึกว่าการที่ซินดี้ไม่อยู่แล้วอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ ไม่งั้นคงจะเกลียดเขาแล้วสินะ
ดวงตาของราเชนปรากฏความเสียใจออกมาชั่วครู่แต่ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของญาณิน
เธอก็ซาบซึ้งกับความรู้สึกที่พี่รองมีให้ผู้ชายคนนั้น ทุกคนต่างก็รู้กันอยู่โดยที่ไม่ต้องพูดออกมาบางทีกล้าณรงค์อาจจะเป็นลูกนอกสมรสของพระราชา แต่ราเชนดันเลือกที่จะประหารชีวิตแม่ของกล้าณรงค์เพื่อซินดี้ ด้วยเรื่องนี้จึงรู้ว่าเขาจริงใจต่อซินดี้จริงๆ ตอนนี้เพื่อลูกพี่ลูกน้องของเขาก็เลยมาขอร้องเธอ มันก็พอช่วยได้ แต่ญาณินรู้สึกอยู่ตลอดเลยว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น
แต่ก็ไม่ได้มีอะไร แค่คนอยู่ที่นี่ เธออยากจะสืบหาเรื่องอะไรคงหาออกมาได้อยู่แล้ว
“พี่รองอาศัยความรู้สึกของตนเองในการมีชีวิตอยู่ กลับทำให้ฉันรู้สึกอิจฉา ถ้าตอนนี้ฉันปฏิเสธ คงจะไม่เห็นใจคนอื่นจนเกินไปแน่ๆ อีกอย่างฉันก็ดื่มยาของพี่รองไปแล้ว ก็ได้ค่ะ พาคนของพี่เข้ามาเถอะ”
เห็นญาณินยินยอมจนได้ ราเชนจึงวางใจที่แขวนเอาไว้ลงได้
เพียงแค่โสธรเข้ามาในพระราชวังของญาณินได้ กล้าณรงค์คิดจะทำอะไรก็ต้องครุ่นคิดหน่อยแล้ว อีกอย่างเขาก็มีลางสังหรณ์ แม้จะเห็นว่าญาณินผ่อนคลายสบายๆ แต่กลับเหมือนกำแพงที่แข็งแกร่งแน่นหนา ใครคิดจะเข้ามาก็คงไม่สำเร็จ
“ขอบคุณนะน้องห้า พี่รองติดค้างน้ำใจจากเธอ วันหลังจะเลี้ยงหม้อไฟเป็นการตอบแทน”
“ค่ะ คำนี้ฉันจำไว้แล้ว พี่รองผิดคำพูดไม่ได้นะ”
ญาณินยิ้มบางๆ รอยยิ้มที่มีเมตตาน่านับถือนั้นกลับคำนึงถึงผลดีผลเสียอย่างมีมารยาทอีกครั้ง
ราเชนสั่งให้คนยกโสธรเข้ามา
ญาณินคิดว่าเป็นแค่บาดแผลเล็กน้อยภายนอก แต่ตอนที่ได้เห็นสภาพเกือบตายของโสธร ทั้งร่างกายมีบาดแผลเล็กๆใหญ่ๆเต็มไปหมด ถึงขั้นเลือดท่วมไปทั่วทั้งตัว ยิ่งไปกว่านั้นใบหน้ายังโดนทำร้ายจนมองไม่ออกถึงเคล้าเดิมแล้ว
สภาพอย่างนี้ยังมีชีวิตอยู่ได้ ตัวเขาเองคงมีปาฏิหาริย์สินะ
จู่ๆญาณินก็รู้สึกสนใจ
ผู้ชายคนนี้ยั่วโมโหกล้าณรงค์ยังไงกันแน่? ไม่นึกว่าจะได้รับการปฏิบัติที่โหดร้ายเช่นนี้!
ถึงกล้าณรงค์จะโหดเหี้ยม แต่อยู่ที่ประเทศFก็ยังออมมือไปบ้าง โดยเฉพาะตอนนี้ตัวตนของเขาไม่ชัดเจน ปัจจุบันทำงานอยู่ภายใต้คำสั่งของพี่สาม ยิ่งไม่กล้าอาละวาดไปทั่วจนเกินเหตุ แต่ดูจากอาการบาดเจ็บของโสธรแล้ว เห็นได้ชัดว่ากล้าณรงค์ไม่มีความยำเกรงอะไรเลย
แววตาของญาณินปรากฏการครุ่นคิดออกมา สีหน้าขรึมลงเล็กน้อย
“พี่รอง องครักษ์คนนี้ไม่เหมือนที่พี่บอกว่าได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยเท่านั้นเลยนะ ถ้าเขาตายอยู่ที่นี่ พี่จะตำหนิฉันหรือเปล่า?”