เรณุกามองไปทางนรมนเล็กน้อย บนหน้าผากของนรมนได้มีเหงื่อซึมออกมาแล้ว สามารถมองออกได้ว่าความกังวลของเธอเป็นเหมือนกับของเรณุกาเลย
ตามองเห็นว่าคนของกล้าณรงค์กำลังจะเข้าไปแล้ว เรณุกาก็รู้แล้วว่าไม่มีเวลาให้เธอลังเลอีกแล้ว แล้วเธอก็เหนี่ยวไกปืนขึ้นทันที และยิงเล็งไปที่ขาของกล้าณรงค์
กระสุนพุ่งทะลุผ่านอากาศ พุ่งตรงมาที่กล้าณรงค์
กล้าณรงค์หลบไปได้อย่างความรู้สึกไว แล้วก็ยังบอกให้ป้องกันขึ้นมาเป็นอันดับแรก
“ทางสามนาฬิกามีคนซุ่มยิงอยู่”
พอคนทั้งหมดได้ยินว่ากล้าณรงค์โดนซุ่มจู่โจม ก็ออกมาจากข้างในอย่างรวดเร็ว แล้วก็ยิงสะเปะสะปะไปทางตำแหน่งของเรณุกาเลย
ใจของนรมนบิดกันเป็นเกลียวขึ้นมาทันที
ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าเรณุกาจะยอมเสียสละตัวเองมาปกป้องเธอ หนำซ้ำเพื่อภารกิจในครั้งนี้เธอถึงกับมองความตายเป็นแค่เรื่องธรรมาดาเช่นนี้เลยเหรอ?
แล้วในระหว่างที่นรมนอึ้งไปนั้น กล้าณรงค์ก็ได้วิ่งเข้ามาหลบในห้องแล้ว
“ยิ่งมันให้ตายไปเลย! ยิ่งไปเรื่อยให้มันตายไปเลย!”
กล้าณรงค์ร้องพร่ำบ่นไปเรื่อย สีหน้าก็โหดเหี้ยม
นรมนไม่มีเวลาให้ไปดูสภาพของเรณุกา ยิ่งไม่มีเวลาให้ไปคิดเรื่องอื่นแล้ว ตอนนี้เธอได้แต่ต้องทำให้ลมหายใจของตัวเองสงบนิ่งลง แล้วก็เล็งหัวของกล้าณรงค์ให้แม่นแล้วเหนี่ยวไกปืนทันที
จะไม่พูดก็ไม่ได้ ว่ากล้าณรงค์นั้นฉลาดหลักแหลมมาก แต่ในตอนที่เขารู้ตัวว่ายังมีมือซุ่มยิงอยู่อีกคน และอยากจะหมุนตัวหลบไปนั้นก็เป็นไปไม่ได้ซะแล้ว ในสถานการณ์ที่คับขันนั้นกล้าณรงค์ก็ดึงลูกน้องคนหนึ่งของตัวเองมาบังอยู่ข้างหน้าตัวเอง
กระสุนทะลุผ่านขมับของลูกน้อยมา และกล้าณรงค์ย่อตัวไว้เล็กน้อย ลูกกระสุนจึงถากหนังศรีษะของเขาแล้วบินออกไป
คราบเลือดเส้นหนึ่งไหลลงมาจากหัวของกล้าณรงค์ และแฝงไว้ด้วยกลิ่นคาวของเลือด ในขณะเดียวกันก็ได้ทำให้กล้าณรงค์โกรธเคืองขึ้นมา
“สมควรตายจริง ๆ! นี่มันยังมีมือซุ่มยิงอยู่อีกคนหนึ่งเหรอ!”
เขารีบแย่งปืนของลูกน้องที่ตายไปแล้วมา แล้วก็ยิงไปทางตำแหน่งของนรมน
นรมนกลิ้งไปตามพื้น แล้วก็เปลี่ยนตำแหน่งไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเล็งปืนไปที่กล้าณรงค์ให้แม่นในระหว่างที่เคลื่อนไหวไป
และครั้งนี้กล้าณรงค์ก็ไม่สามารถหลบพ้นไปได้
ลูกกระสุนทะลุหน้าอกของเขาไป ทำให้ตัวเขาทั้งตัวตกใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ล้มลงไปอย่างทื่อ ๆ เลย
“คุณชายกล้าณรงค์!”
คนของเขาตื่นตกใจขึ้นมาทันทีเลย
นรมนไม่กล้าต่อสู้ต่อ แล้วก็ถอยออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วเลย
แล้วก็ในเวลานี้พอดี ในที่สุดคนของบุริศร์ก็มาถึงแล้ว พวกเขาได้ล้อมคนของกล้าณรงค์เอาไว้ แล้วก็ขจัดให้สิ้นซากรอบหนึ่ง
ถือโอกาสที่บุริศร์มารับช่วงสนามรบต่อ นรมนก็รีบอ้อมไปที่ตำแหน่งของเรณุกาอย่างรวดเร็ว แล้วถึงเห็นว่าตัวเรณุกาโดยยิงนับครั้งไม่ถ้วน กำลังหายใจโรยรินอยู่แล้ว
“เรณุกา!”
ในใจของนรมนรู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ
เธอประคองตัวเรณุกาขึ้นมาเบา ๆ เลือดอุ่นร้อนเปื้อนฝ่ามือและเสื้อผ้าของเธอจนแดงไปหมด และก็ทิ่มตาเธอจนเจ็บ
“เพราะอะไร? ทำไมจะต้องทำแบบนี้ด้วย?”
ในความทรงจำของนรมน เรณุกาเป็นคนเห็นแก่ตัว และเจ้าเล่ห์มาตลอด แถมยังไม่สนิทสนมกับใครด้วย เธอยังจำได้ว่าหล่อนให้คนมากรอกยาทำให้เป็นใบ้กับตัวเองยังไง ทารุณและรังแกตัวเองยังไง คนที่ชั่วร้ายคนหนึ่งแบบนี้ จะมาเสียสละตัวเองเพื่อเธอได้ยังไง?
ไม่!
ไม่มีทางหรอก?!
หล่อนจะต้องวางแผนอะไรอยู่แน่
“คุณกำลังวางแผนอะไรอยู่ใช่ไหม? คุณยังต้องการอะไรอย่างอื่นอีกใช่ไหม? คุณมาเลย คุณพูดมานะ!”
ดวงตาของนรมนฝืดเคืองเล็กน้อย ดวงตาระคายเคืองจนเจ็บแสบไปหมด
เรณุกาเห็นนรมนมีท่าทางแบบนี้ แล้วก็ยิ้มแล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “นรมน เธอเลียนแบบคนชั่วอย่างนั้นไม่ได้หรอก และเธอก็เป็นคนชั่วไม่ได้ด้วย นิสัยของเธออ่อนโยน แต่ก็แข็งแกร่ง เรื่องที่ตัวเอาตัดสินใจไปแล้วเอาช้างสิบเชือกมาฉุดก็ไม่อยู่ ที่จริงนิสัยแบบนี้นั้นค่อนข้างเสียเปรียบเอามาก ๆ เลยนะ ถ้าหากไม่ใช่บุริศร์ปกป้องเธอไว้ เธอคงจะไม่มีความสำเร็จอย่างเช่นตอนนี้หรอก”
“ฉันรู้ ฉันรู้ทุกอย่าง คุณไม่ต้องพูดแล้ว เดี๋ยวฉันจะเรียกหมอมา ในทีมน่าจะมีหมอสนามอยู่ เดี๋ยวฉันไปเรียก!”
นรมนกำลังจะลุกขึ้น ก็โดนเรณุกาคว้ามือทั้งคู่ไว้
“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ไหมแล้ว อย่าไปสิ้นเปลืองยาของหมอเลย”
เรณุกาพูดจบก็กระอักเลือดสด ๆ ออกมาคำหนึ่งทันที
ในที่สุดน้ำตาของนรมนก็อดกลั้นไว้ไม่อยู่ และไหลลงมาจากหางตา
“คุณนึกว่ามีท่าทางแบบนี้แล้วฉันจะให้อภัยคุณเหรอ เรณุกา เรื่องที่คุณทำกับฉันไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ให้อภัยคุณหรอก คุณคิดว่าคุณมาตายไปเพราะฉันแล้วฉันจะรู้สึกผิดเหรอ? ฉันจะบอกคุณนะ ฉันไม่มีทางรู้สึกหรอก!”
“ไม่รู้สึกก็ดีที่สุด คนอย่างฉันนั้นเป็นคนเลือดเย็นคนหนึ่ง ที่ทำทั้งหมดเมื่อกี้ก็ไม่ได้ทำเพื่อเธอ นรมน ที่จริงฉันไม่ชอบเธอเอามาก ๆ เลย”
เรณุกาหายใจหอบขึ้น และหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วถึงพูดขึ้นว่า “ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อบุริศร์ ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าฉันไม่คู่ควรที่จะเป็นแม่ของเขา แต่ว่าสามารถช่วยเขาทำเรื่องอย่างสุดท้ายได้ ฉันตายก็คุ้มค่าแล้ว เธอคือคนที่เขาใส่ใจมากที่สุด เพราะฉะนั้นเธอจะเป็นอะไรไม่ได้ ถ้าหากว่าเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้น ชีวิตต่อไปของบุริศร์จะทำยังไงล่ะ? ข้างกายเขาไม่มีญาติพี่น้องอีกแล้ว เหลือเพียงแต่เธอที่จะอยู่ข้างกายเขาแล้ว ถึงฉันจะไม่ชอบเธอ แต่ว่าเธอเป็นคนที่เขาชอบ แน่นอนว่าฉันก็ต้องอยากจะให้เธออยู่กับเขาจนแก่เฒ่าด้วย”
พูดจบเรณุกาก็ไออย่างแรงขึ้นมา เลือดสีแดงสดได้เปื้อนมุมปากของเธอ และใบหน้าของเธอจนเต็มไปหมด แต่เธอกลับยิ้มอย่างปลดปล่อยอยู่บ้างขึ้น
“ทั้งชีวิตของฉันนี้ล้วนน่าสงสาร ฉันนึกว่าฉันต่อสู้เพื่อประเทศของฉันและประชาชน พยายามอย่างเต็มที่ ถึงกับหักหลังความรัก ตอนแรกนึกว่าจะสามารถเสียสละทุกอย่างของฉันเพื่อประเทศของฉันได้ แต่สุดท้ายถึงพบว่าไม่มีใครสนใจการเสียสละของฉันเลย ประเทศของฉัน พระราชาที่ฉันอยากจะปกป้องไว้ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนเลยสักนิด ตอนนี้มาดูแล้ว ทั้งชีวิตของฉันก็เป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง มาตอนนี้สามารถตายไปแบบนี้ได้ก็ถือว่าได้ตายอย่างคุ้มค่าแล้ว ฉันเป็นคนที่ไม่มีรางเหง้าไม่มีบ้าน ฉันหวังว่าพวกเธอจะสามารถเอาอัฐิของฉันกลับไปด้วย เอาไปฝังไว้ข้าง ๆ ทศกร ชาตินี้ฉันเคยรักเขานะ เขาเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ฉันรัก แต่ว่าฉันก็เป็นคนที่เกือบจะทำลายลูกชายของเขาและทั้งตระกูลโตเล็กไป ฉันเป็นคนบาป ถึงแม้ว่าจะลงไปในนรกแล้วก็ไม่แน่ว่าจะได้รับการช่วยเหลือและให้อภัย แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ยังอยากจะพบเขาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะมาด่าฉันก็ได้”
เรณุกาพูดไปพูดไปเสียงก็ขาดหายไปแล้ว
แขนของเขาตกลงไปอย่างอัตโนมัติ และให้ความรู้สึกที่โศกเศร้าและหนาวเย็นแบบหนึ่งกับคน
ในใจของนรมนรู้สึกเป็นทุกข์เป็นอย่างมาก
นรมนไม่อยากจะให้อภัยเรณุกา เรื่องทั้งหมดที่เธอทำนั้นช่างน่ารังเกียจขนาดนั้น ชั่วช้าขนาดนั้น ความเจ็บปวดที่เธอสร้างขึ้นมาบนตัวนรมนและกิจจาจะมาลบล้างไปง่าย ๆ แบบนี้ได้ยังไง?
แต่ว่าในใจกลับค่อย ๆ เกิดความเจ็บปวดขึ้นมา
ในใจนรมนรู้สึกซับซ้อน แล้วก็วางตัวเรณุกาลง แล้วก็ช่วยเธอทำความสะอาดใบหน้าไปอย่างมีมารยาทเป็นอย่างมาก
ที่จริงถ้าดูจากอีกมุมหนึ่งนั้น เรณุกาก็สมควรได้รับการเคารพนอบน้อมอยู่ เธอได้เสียสละเพื่อประเทศของเธอและประชาชนไปมากขนาดนั้น เพียงแต่แค่ไม่ได้รับการยอมรับเท่านั้น พูดได้แต่ว่าเธอเลือกประเทศผิด เลือกความศรัทธาผิดก็เท่านั้น
การต่อสู้ทางด้านบุริศร์นั้นรวดเร็วมาก หลังจากที่กวาดล้างคนของกล้าณรงค์ไปหมดแล้ว ก็ได้เก็บศพของกล้าณรงค์ไว้
เขาตามหานรมนไปทั่ว แต่กลับเห็นนรมนคุกเข่าอยู่บนพื้น แล้วก็น้ำตาไหลไปกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่
แล้วใจของบุริศร์ก็เจ็บปวดขึ้นมาทันที
เสื้อผ้าชุดนั้นช่างคุ้นเคยขนาดนั้น หรือว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเรณุกาเหรอ?
เขาวิ่งมาอย่างรวดเร็ว ตอนที่เขาเห็นเรณุกานอนอยู่บนพื้นทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด และไม่มีลมหายใจไปตั้งนานแล้วนั้น หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอย่างแรงขึ้นมา
“เธอ……”
“เพื่อช่วยฉัน ได้เสียสละตัวเองไปแล้ว”
นรมนพูดเรื่องเมื่อกี้อย่างสั้น ๆ ขึ้นรอบหนึ่ง
บุริศร์รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เขาคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วเรณุกาจะเสียสละตัวเองมาปกป้องให้นรมนปลอดภัย
ในฐานะที่เป็นลูกชาย ในจุดนี้เขาก็ยังรู้สึกขอบคุณเรณุกาอยู่
“เธอมีคำสั่งเสียอะไรหรือเปล่า?”
“เธออยากกลับบ้านค่ะ อยากไปฝังอยู่ข้าง ๆ พ่อ เธอบอกว่าเธออยากจะไปรับผิดกับพ่อค่ะ”
นรมนจ้องมองบุริศร์เล็กน้อย แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “บุริศร์ เหมือนกับว่าฉันจะเกลียดเธอไม่ลงแล้วค่ะ”
“งั้นก็ไม่ต้องเกลียดแล้ว คนก็ตายไปแล้ว ทุกอย่างก็จบสิ้นกันไปแล้ว ความโกรธแค้นทั้งหมดก็จบสิ้นกันไปแล้ว”
บุริศร์โอบกอดตัวนรมนมาไว้ในอ้อมกอด
ยังดี ที่เธอไม่เป็นอะไร
สำหรับในจุดนี้นั้น เขารู้สึกขอบคุณเรณุกามากจริง ๆ แค่ด้วยจุดนี้ เขาก็จะเอาป้ายหลุมศพของเรณุกาไปวางไว้ข้าง ๆ ทศกรแน่ และยังจะสลักชื่อของตัวเองเป็นลูกชายลงบนป้ายหลุมศพของเธอด้วย
วินาทีนี้ เขายินดีที่จะยอมรับว่าเธอเป็นแม่ของตัวเองแล้ว
นรมนคว่ำหน้าอยู่ในอกของบุริศร์ แล้วพูดเสียงปนสะอื้นว่า “ฉันไม่ชอบความตายมากจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใครตาย ฉันก็รู้สึกเจ็บปวดมาก ชีวิตคนเราชาติหนึ่งก็มีแค่ไม่กี่ทศวรรษสั้น ๆ ตอนแรกก็ลำบากมากอยู่แล้ว พอมาวันนี้อยู่ ๆ ก็ตายจาก ความรู้สึกแบบนี้มันแย่มากจริง ๆ ค่ะ”
“ไม่มีอีกแล้ว ต่อไปจะไม่มีอีกแล้ว การเสียสละของคนพวกนี้ก็เพื่อให้คนอีกมากมายได้อยู่กันอย่างสงบสุข และนี่ก็คือหน้าที่และความรับผิดชอบของพวกเราเหล่าทหาร”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกเข้าใจทหารมากขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งทันที
เมื่อก่อนเธออยากจะใช้ชีวิตสองคนอยู่กับบุริศร์ แล้วคิดว่ามีทหารอยู่มากมายขนาดนี้ มีเขาเพิ่มมาคนหนึ่งก็ไม่เยอะไป ขาดเขาไปคนหนึ่งก็ไม่น้อยไป แถมตอนที่บุริศร์ตัดสินใจถอดเครื่องแบบออกนั้นเธอยังรู้สึกดีใจออกมาจากใจจริงอีกด้วย แต่ว่าวินาทีนี้เธอถึงตระหนักได้ถึงความหมายและความศักดิ์สิทธิ์ของทหารอย่างลึกซึ้ง ถึงเข้าใจความยิ่งใหญ่และพลังของเครื่องแบบทหารนั้น
วินาทีนี้ นรมนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นภรรยาทหาร
เธอกอดบุริศร์ไว้แน่น กอดเขาไว้แน่น ๆ จากนั้นก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “บุริศร์ ขอบคุณค่ะ”
ขอบคุณที่คุณเคยปกป้องคนมาเยอะขนาดนั้น
ขอบคุณที่คุณยังคงยืนหยัดอยู่ในตำแหน่งของตัวเอง
ขอบคุณที่คุณทำให้ฉันเข้าใจความหมายที่แท้จริงของการเป็นทหาร ทำให้ฉันรู้ว่าในฐานะที่เป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา คนของตระกูลพรโสภณและสะใภ้ของตระกูลโตเล็กนั้นเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจแค่ไหน
นรมนพูดอยู่ในใจ ปฏิกิริยาที่มีอยู่ในดวงตานั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
เพราะกลัวว่าสมชัยจะรู้เรื่องอะไรเข้า บุริศร์ปลอบใจนรมนอยู่ครู่หนึ่ง ก็เริ่มไปจัดแจงขึ้นมา
เขาเอากล้าณรงค์ไปโยนไว้ในห้องของสมชัย จากนั้นก็ถ่ายคลิปไว้คลิปหนึ่ง แล้วก็ใช้ทักษะแฮกเกอร์ส่งไปให้บุณพจน์
“ฉันรู้ว่านายจะต้องมีวิธีรู้บัญชีของฉัตรพลแน่ เอาบัญชีของเขามาให้ฉัน ฉันจะเอาการตายของกล้าณรงค์ไปโพสต์ให้เขาดี ๆ สักรอบ”
พอบุณพจน์ได้รับข่าวของบุริศร์ก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่งเบอร์บัญชีมาอันหนึ่ง ข้างหลังยังตามมาด้วยผลตรวจดีเอ็นเอฉบับหนึ่ง
เป็นของเขากับฉัตรพล
ทั้งสองคนไม่ได้เป็นพ่อลูกแท้ ๆ กันจริง ๆ ด้วย!
สำหรับเรื่องนี้บุริศร์ได้รู้เรื่องแล้ว แต่คิดว่าในใจของบุณพจน์ก็คงจะเป็นทุกข์อย่างมากแน่ แถมอาจจะยังอยากจะรู้ว่าพ่อแท้ ๆ ของตัวเองเป็นใครด้วย
พอคิดมาถึงตรงนี้ บุริศร์ก็เอาเรื่องที่เรณุกาบอกเขาพูดกับบุณพจน์ไปรอบหนึ่ง แล้วทางบุณพจน์ก็ส่งตัวหนังสือกลับมาเพียงสองคำ
“ขอบใจ!”
ส่วนที่เหลือ ตัวเขาจะไปตรวจสอบเอง สำหรับทหารองครักษ์คนนั้นที่ตายไปชื่ออะไร ฝังอยู่ที่ไหน บุณพจน์ก็จะไปสืบหาเอง
บุริศร์รู้ว่าเขาไม่ใช่คนอ่อนแอคนหนึ่ง อุปสรรคแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก และอีกอย่างพวกเขายังเป็นพี่น้องกันอยู่ เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไรสำคัญแล้ว
หลังจากคลิปถูกส่งออกไปไม่นาน ฉัตรพลก็สะกดกลั้นไม่ไหวแล้ว
ในเมื่อกล้าณรงค์เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขา แต่มาตอนนี้กลับต้องตายอย่างน่าอนาถขนาดนี้ และที่สำคัญยังตายอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ของสมชัยอีก ถ้าจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสมชัยเลย พูดให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ