แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1397 พี่ชายที่ดีคนหนึ่งจริง ๆ

บทที่ 1397 พี่ชายที่ดีคนหนึ่งจริง ๆ

“พ่อ กลับไปคุยกันที่บ้านดีกว่า”

จณัตว์รีบห้ามคำพูดของเอกฉัทเอาไว้ก่อน แล้วก็ส่งสายตาให้เนกษ์ทีหนึ่ง แล้วก็พยุงเอกฉัทออกไปจากวังซ้ายคนหนึ่งขวาคนหนึ่งพร้อมกับเขาไป

“พระราชา พวกเขาจากไปแล้วค่ะ”

สาวใช้เข้ามารายงานกับสมชัย

สมชัยปัดทีหนึ่งจนของที่อยู่ตรงหน้าตกลงไปบนพื้นจนหมด แล้วก็พูดขึ้นด้วยดวงตาเยือกเย็นทั้งคู่ว่า “เจ้าจณัตว์คนนี้นี่ช่างอวดดีเกินไปแล้วจริง ๆ”

“พระราชา จะให้ฉันส่งคนไปสั่งสอนพวกเขาสักหน่อยไหมครับ?”

มีทหารองครักษ์เดินออกมาจากที่ลับ

ทำไมสมชัยจะไม่อยากจัดการกับจณัตว์สักหน่อยล่ะ แต่ว่าการวิจัยในตอนนี้ยังต้องการเขาอยู่ พอคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็พูดขึ้นอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงว่า “รอไปช่วงหนึ่งก่อน ให้มันอวดดีไปก่อนสักช่วงหนึ่งค่อยว่ากัน ศพของกล้าณรงค์เอากลับมาหรือยัง? พบเห็นอะไรบ้างไหม?”

“เอากลับมาแล้วครับ หน่วยชันสูตรได้ชันสูตรศพดูแล้ว บอกว่าโดนซุ่มยิง และดูจากตำแหน่งในที่เกิดเหตุนั้น น่าจะมีมือซุ่มยิงอยู่สองคน แต่ว่าตำแหน่งไม่ได้ดีมากนัก ศพของคุณชายกล้าณรงค์พวกเราได้เอาไปไว้ที่ห้องดับจิตแล้ว และก็ได้ส่งคนไปบอกกับสมเด็จฉัตรพลแล้ว คาดว่าอีกไม่นานสมเด็จฉัตรพลก็คงจะกลับมาแล้วครับ”

พอได้ยินทหารองครักษ์รายงานขึ้นแบบนี้ สมชัยก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

“ใครให้เขากลับมากัน? ในเวลาแบบนี้พวกนรมนกับบุริศร์ก็ยังหาตัวไม่เจอ ในวังนี้ก็ไม่รู้ว่ายังมีคนของพวกเขาอยู่อีกหรือเปล่า แล้วฉัตรพลกลับมาในตอนนี้ไม่เท่ากับมารนหาที่ตายเหรอ? ไปบอกเขาว่าอย่ากลับมา ฉันจะฝังกล้าณรงค์อย่างกับเป็นลูกชายแท้ ๆ ให้เอง ให้เขารีบไประดมเงินมาให้เร็วที่สุด การวิจัยในช่วงนี้ต้องใช้เงินเป็นอย่างมาก เรี่ยวแรงของประเทศเราใกล้จะแบกรับไม่ไหวแล้ว”

“ครับ”

ทหารองครักษ์รับคำสั่งแล้วก็ถอยออกไปเลย

หรือว่าบางทีหลายปีมานี้ฉัตรพลทำงานไปอย่างไม่เสียใจอะไร จึงทำให้สมชัยรู้สึกว่าเขาทำอะไรก็คือสิ่งที่สมควรแล้ว มาวันนี้ถึงแม้ว่ากล้าณรงค์จะตายไปแล้ว และถึงแม้ว่ากล้าณรงค์จะเป็นลูกชายคนเดียวของฉัตรพลก็ตาม แต่ว่าสิ่งที่เขาคิดก็ยังคือการระดมทุน ยังคือการให้ฉัตรพลทำตามคำสั่งอีก

เขารู้สึกมาตลอดว่าการที่ปฏิบัติต่อกล้าณรงค์ราวกับเป็นลูกแท้ ๆ นั้นคือพระคุณที่มีต่อฉัตรพลแล้ว แต่ว่าเขากลับลืมไป ถ้าหากไม่มีการเสียสละของฉัตรพล ฉัตรพลเองก็สามารถเป็นพระอนุชาที่สุขสบายอยู่ที่นี่ได้ และสามารถมีชีวิตที่เหนือผู้คนได้ ส่วนกล้าณรงค์เองก็ต้องมีเกียรติยศที่สมควรเป็นของตัวเองอยู่แล้ว

ในตอนที่ฉัตรพลได้รับข่าวนี้นั้น ทั้งคนก็มีสีหน้าเคร่งขรึมไป และไม่พูดอะไรสักคำ แต่ว่าดวงตาคู่นั้นกลับมีความโกรธเคืองกะพริบอยู่เสี้ยวหนึ่ง

ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาตายแล้ว แต่ว่าสมชัยกลับไม่ให้เขากลับไป

ภรรยาของเขา ลูกชายของเขาต่างก็สละชีพเพื่อประเทศแล้ว ส่วนเขาที่เป็นสามี ที่เป็นพ่อ ตอนนี้กลับแม้แต่สถานะที่แท้จริงก็ยังมีไม่ได้

นี่คือครั้งแรกในหลายปีมานี้ที่ฉัตรพลมีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเกิดขึ้นมา

ตอนที่แพรวาตายนั้นเขาไม่ได้รู้สึกอะไรมาก ในเมื่อก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น และตอนนั้นที่แต่งงานกับเธอก็เป็นเพราะว่าต้องการขจัดอารมณ์เกลียดชังที่สมชัยมีต่อตัวเอง ตอนนี้เขาอยู่ข้างนอกมานานหลายปีแบบนี้ ผู้หญิงที่มีเข้ามาก็นับแทบไปถ้วน และแพรวาหน้าตาเป็นยังไงนั้นเขาก็แทบจำไม่ได้แล้ว แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นกลับมีลูกชายให้กับเขาคนหนึ่ง ซึ่งทำให้เขามีผู้สืบทอดสกุลต่อไป เพราะฉะนั้นเขาก็เลยให้ตำแหน่งชายาให้แก่เธอ ถึงแม้ว่าจะสละชีพเพื่อประเทศแล้ว เธอก็ยังได้ฝังอยู่ในสุสานหลวงอยู่

แต่ว่ากล้าณรงค์นั้นไม่เหมือนกัน

นั่นเป็นลูกชายของเขานะ! ลูกชายเพียงคนเดียว! เขายังไม่เคยได้พูดคุยกับกล้าณรงค์ดี ๆ สักหน่อยเลย หนำซ้ำยังไม่เคยได้เจอหน้ากันจะจะสักครั้ง แล้วเขาก็ยิ่งไม่รู้ว่าหลายปีมานี้กล้าณรงค์มีความเป็นอยู่ดีหรือเปล่า

กล้าณรงค์เป็นสิ่งเดียวที่เขาห่วงใยและคิดถึง มาวันนี้กล้าณรงค์ตายไปแล้ว แต่สมชัยกลับแม้แต่งานศพก็ยังไม่ให้เขาไปเข้าร่วม

คนเราเมื่อหลบซ่อนเป็นเวลานานแล้ว เสียสละไปมากแล้วก็จะกลายเป็นความเคยชินอย่างหนึ่งใช่ไหม? ตอนนี้สมชัยชินที่จะเอาเขามาเป็นหมากใช้งาน เห็นเขาเป็นเพียงเงาแล้วใช่ไหม?

แต่น่าเสียดายเขาเป็นคนนะ!

เขาเป็นพระอนุชาของพระราชาของประเทศFนะ!

ลูกชายของเขาตายแล้ว เขาจะกลับไปดูสักครั้ง ถึงจะเป็นแค่การได้มองสักทีหนึ่งก็ยังดี

ฉัตรพลเก็บข้าวของจนเรียบร้อย แล้วก็พูดเสียงเย็นขึ้นว่า “กลับประเทศ”

ที่จริงเขาอยู่ในเส้นกั้นระหว่างชายแดนแล้ว เพียงแต่ว่าไม่มีการอนุมัติจากสมชัยเขาก็เข้าไปไม่ได้เท่านั้น แต่ว่าตอนนี้จะสนใจมากขนาดนั้นไม่ได้แล้ว เขาแค่อยากจะเจอลูกชายของเขาเท่านั้น

ทางด้านฉัตรพลเพิ่งจะเริ่มเคลื่อนไหว สมชัยก็ได้รับข่าวแล้ว แล้วก็โมโหจนดุร้ายขึ้นมาบ้างแล้ว

“เขาเป็นกบฏแล้ว ในเวลาแบบนี้แล้วกลับยังกล้าไม่ฟังคำสั่งของพระราชาอีก เขาอยากจะทำอะไรกันแน่? อยากจะก่อกบฏเหรอ?”

ก่อนหน้านี้สมชัยเพิ่งโดนจณัตว์ทิ่มแทงมารอบหนึ่ง ตอนแรกก็รู้สึกโกรธมากอยู่แล้ว มาตอนนี้แม้แต่น้องชายที่เชื่อฟังที่สุดของเขาก็จะต่อต้านตัวเองแล้ว เขาจะมาอดทนต่อความโมโหนี้ลงไปได้ยังไง?

“บอกให้เขาถอยออกไปจากเส้นกั้นระหว่างชายแดนเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจละกัน”

สมชัยโมโหจนปาแก้วทิ้งไปเลย

ตอนที่ฉัตรพลได้ยินข่าวนี้ทั้งตัวก็เคร่งขรึมไปเลย ทั้ง ๆ ที่กลับมาถึงบ้านแล้ว ทั้ง ๆ ที่เขาจะได้เห็นหน้าลูกชายเดี๋ยวนี้แล้ว แต่ตอนนี้สมชัยกลับมาขับไล่เขาให้ออกไป?

แล้วในตอนที่ฉัตรพลไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีนั้น จณัตว์ก็ปรากฏตัวออกมาพอดี

“สมเด็จฉัตรพล!”

จณัตว์ใส่หน้ากากอยู่แล้วมายืนอยู่ตรงหน้าฉัตรพล หน้ากากนั่นที่คนทุกคนต่างก็รู้จักรวมทั้งตราสัญลักษณ์โดยเฉพาะของตระกูลแหลมวิไลทำให้ฉัตรพลอึ้งไปเล็กน้อย

“นายน้อยจณัตว์?”

“ใช่ผมเอง นี่สมเด็จฉัตรพลยังรู้จักผมด้วยเหรอ ดูท่าหัวใจของสมเด็จฉัตรพลยังคงอยู่ในประเทศFอยู่นะครับ ผมยังนึกว่าจะเป็นอย่างที่พระราชาว่าจริง ๆ ที่ว่าสมเด็จฉัตรพลชอบสิ่งของต่างประเทศ และได้ลืมว่าตัวเองเป็นพระอนุชาของประเทศFไปตั้งนานแล้ว”

คำพูดของจณัตว์ทำให้ฉัตรพลขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

“คำพูดของนายน้อยจณัตว์นี้หมายความว่ายังไงกันครับ?”

“หมายความว่ายังไงนั้นผมไม่สามารถบอกคุณได้หรอก แต่ในเมื่อสมเด็จฉัตรพลได้กลับมาถึงแล้ว ยังไงก็ไปดูคุณชายบ้านคุณหน่อยดีกว่า พูดแล้วคุณชายกล้าณรงค์นี่ก็ช่างไม่รู้จักอะไรควรอะไรไม่ควรเลย ถึงกับกล้าคิดที่จะชิงสิทธิ์ในการเป็นผู้สืบทอดกับลูกชายของพระราชา นี่มันช่างเป็นการกระทำที่ร้ายแรงหน่อยแล้ว”

คำพูดของจณัตว์ทำให้สีหน้าของฉัตรพลเปลี่ยนไปทันที

“นายน้อยจณัตว์กำลังพูดอะไรอยู่ครับ? ทำไมผมถึงฟังไม่รู้เรื่อง”

“สมเด็จฉัตรพลฟังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ในเมื่อไม่เข้าใจดีกว่าเข้าใจเยอะ”

พูดจบจณัตว์ก็หมุนตัวแล้วจากไปเลย แต่กลับโดนฉัตรพลเรียกเอาไว้ซะก่อน

“นายน้อยจณัตว์ ทิ้งช่องทางการติดต่อไว้สักอันหนึ่งซิ”

“ได้ซิ”

จณัตว์ไม่ได้ปฏิเสธ แล้วก็เอาWechatของตัวเองให้ฉัตรพลไปเลย จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป

“ไป ไปสืบหาสาเหตุการตายของคุณชายว่าตกลงมันเป็นยังไงกันแน่มาให้ฉันหน่อย?”

ก่อนหน้านี้ฉัตรพลไม่ได้คิดอะไรมาก และคิดว่าถ้านรมนกับบุริศร์มาแล้วละก็ ถ้าจะมาหาเรื่องกับกล้าณรงค์ก็พอพูดกันไปได้ แต่ตอนนี้ได้ยินจณัตว์พูดแบบนี้แล้ว เหมือนกับว่าการตายของกล้าณรงค์จะมีความเกี่ยวข้องกับลูกชายของสมชัย

ใครกันนะ?

ใครกันที่ฆ่าลูกชายของเขา?

พรินทร์หรือว่าราเชน?

พอนึกถึงว่าราเชนเป็นลูกพี่ลูกน้องของนรมน แถมยังเป็นคนฆ่าแพรวาอีก ความแค้นที่มีกับกล้าณรงค์ก็ไม่ต้องพูดว่าลึกซึ้งแค่ไหน เพราะฉะนั้นฉัตรพลจึงพูดขึ้นอีกประโยคว่า

“ที่สำคัญสืบค้นราเชนสักหน่อย ถ้าหากว่าเขาเป็นคนทำ ฉันจะต้องให้มันฝังเป็นเพื่อนกล้าณรงค์แน่”

“ครับ”

แล้วลูกน้องก็ไปสืบค้นอย่างรวดเร็วเลยแล้ว

คนของจณัตว์เฝ้ารอไว้นานแล้ว แน่นอนว่าข่าวที่ทางฉัตรพลได้รับก็คือพรินทร์ได้แอบลอบฆ่ากล้าณรงค์ไป ส่วนสมชัยก็เพื่อต้องการจะปกป้องลูกชายตัวเอง จึงเอาเรื่องนี้ผลักไปที่ตัวบุริศร์และนรมน

ตอนนั้นพรินทร์ได้ส่งคนติดตามกล้าณรงค์ไปจริง ๆ แต่ว่าคนพวกนั้นได้โดนจณัตว์ควบคุมไว้หมดแล้ว แน่นอนว่าจะต้องไปพูดตามที่จณัตว์พูดไว้

ในตอนที่ฉัตรพลได้รับข่าวนี้นั้น ทั้งคนก็โกรธจนแทบจะระเบิดเลย

“ช่างเป็นพี่ชายที่ดีมากจริง ๆ เป็นพี่ชายที่ดีมากคนหนึ่งจริง ๆ! ไหนพูดกันไว้แล้วว่าจะช่วยฉันดูแลลูกชายฉันให้ดี แต่กลับเป็นลูกชายของเขามาฆ่ากล้าณรงค์ของฉันไป ถึงว่าทำไมถึงไม่ให้ฉันกลับมาเจอหน้ากล้าณรงค์เป็นครั้งสุดท้าย เพราะกลัวว่าฉันจะรู้ความจริงเข้าใช่ไหมล่ะ? หลายปีมานี้ เพื่อเขาแล้วฉันมีบ้านแต่กลับไม่ได้ มีชื่อแต่ใช้ไม่ได้ ต้องอยู่แทนคนตายคนหนึ่งมาตลอด ลูกเมียของฉันต้องพรากจากกัน ครอบครัวต้องแตกสาแหรกขาดนั้นเป็นอะไรกัน? ไม่ใช่เพราะว่าความคิดที่ยิ่งใหญ่ของเขาเหรอ? แต่ว่าตอนนี้แค่ลูกชายคนเดียวของฉันเขาก็ยังเก็บไว้ไม่ได้ เขาเอาฉันที่เป็นน้องชายคนนี้ไปไว้ที่ไหนกัน?”

ฉัตรพลเคยให้การสนับสนุนกับสมชัยไปมากเท่าไหร่ ตอนนี้ก็เกลียดแค้นมากเท่านั้น

จะไม่พูดก็ไม่ได้ ว่ากล้าณรงค์นั้นเป็นจุดอ่อนของเขาจริง ๆ พอมาตอนนี้จุดอ่อนนี้ไม่มีแล้ว ความน้อยเนื้อต่ำใจในหลายปีมานี้ของฉัตรพลก็ได้ปลดปล่อยออกมาแล้ว พอได้ปลดปล่อยออกมาก็ไม่มีทางเก็บเข้าไปได้อีกแล้ว

จณัตว์ไม่สนใจหรอกว่าทางฉัตรพลจะเสียอกเสียใจขนาดไหน พอเขากลับมาถึงที่รถ และก็กลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลแหลมวิไลกับพวกเอกฉัทอย่างรวดเร็วเลย

ตอนแรกจณัตว์กลัวว่าเรื่องของตัวเองจะเกี่ยวพันไปถึงคนในตระกูลแหลมวิไลด้วย เพราะฉะนั้นก็ตั้งแต่แรกก็ได้ใช้เหตุผลต่าง ๆ มาส่งตัวพวกเขาออกไปแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ ๆ เอกฉัทถึงกลับมาได้ แถมยังโดนพระราชาเชิญตัวเข้าไปในวังอีก

พอตอนนี้กลับมาถึงบ้านแล้ว จณัตว์ก็รีบพาเอกฉัทมาที่ห้องหนังสือ และคนที่ตามเข้ามาด้วยก็มีเนกษ์อีกคน

หลังจากที่ประตูถูกปิดลงแล้ว จณัตว์ก็มองไปที่เนกษ์ แล้วพูดกับเขาขึ้นว่า “เนกษ์ คุกเข่าลง”

เนกษ์ไม่พูดอะไรก็คุกเข่าลงให้เอกฉัทเลย แถมยังคำนับให้อีกสามครั้ง

เอกฉัทอึ้งไปทันทีเลย

“นี่มันอะไรกัน?”

“พ่อครับ ผมมีเรื่องอย่างหนึ่งจะพูดกับพ่อครับ”

จณัตว์จ้องมองเอกฉัทแล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เนกษ์ไม่ได้เป็นเด็กกำพร้า และก็ไม่ใช่องครักษ์ลับที่แม่ผมไปรับมาจากบ้านเด็กกำพร้ามาอยู่ด้วยกันจนโตกับผม เขาเป็นคนของตระกูลแหลมวิไล เป็นลูกชายของคุณเพ็ญนีติ์ และก็เป็นลูกชายของคุณพ่อด้วยครับ”

พอคำพูดนี้พูดออกไป เอกฉัทก็นิ่งอึ้งไปทั้งตัวเลย จากนั้นก็น้ำตานองหน้าใบหน้าที่แก่เฒ่าเหี่ยวย่นเลย แล้วก็มองไปที่เนกษ์อย่างไม่อยากจะเชื่อนัก

คิ้วและดวงตาของเขาช่างเหมือนกับแม่ของเขามาก

“มันเกิดเรื่องอะไรขั้น?”

เอกฉัทสะอื้นไป

เมื่อหลายปีก่อนภรรยาของเขาเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วก็สูญเสียสิทธิ์ของการเป็นแม่ไป เอกฉัทรู้ว่าตัวเองไปมีชู้ข้างนอกนั้นมันช่างไม่เคารพภรรยาเลย แต่ว่าตระกูลแหลมวิไลอยู่มาเป็นร้อยปี ถึงแม้จะตกต่ำไปบ้าง แต่ว่าจะมาขาดผู้สืบสกุลไปในรุ่นเขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นเขาก็เลยออกไปเมามายทุกวัน แถมยังอยากจะเสียเงินหาคนมาอุ้มบุญคลอดลูกให้สักคนหนึ่งด้วย เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะชอบผู้หญิงที่เป็นนักเต้นคนหนึ่งในไนต์คลับเข้าจริง ๆ

หญิงที่เป็นนักเต้นคนนั้น ชื่อเพ็ญนีติ์ เธอเป็นคนใสซื่อดูน่ารัก มีน้ำเสียงที่ไพเราะ ตอนที่อยู่กับเธอนั้น เอกฉัทลืมเรื่องกลุ้มใจไปมากมาย พอผ่านไปไม่นานเพ็ญนีติ์ก็ตั้งท้องขึ้นมา และก็ทำให้เอกฉัทรู้สึกดีใจแทบแย่ แต่คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ภรรยาเกิดความอิจฉาขึ้นมา เธอถึงกับว่าไปจ้างคนมาเพื่ออยากจะฆ่าเพ็ญนีติ์และลูกที่อยู่ในท้องของเธอ

และก็คือครั้งนั้น ที่นงลักษณ์ได้ช่วยเพ็ญนีติ์เอาไว้ แล้วก็คุ้มครองพวกเขาสองแม่ลูก แต่กลับคิดไม่ถึงว่าตอนที่เพ็ญนีติ์คลอดลูกนั้นจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาได้ ภรรยาเขาปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปไม่ได้ และก็ยิ่งไม่อยากจะให้ลูกนอกสมรสคนนั้นเกิดมาด้วย เพราะฉะนั้นก็เลยว่าจ้างคนให้มาลอบฆ่าพวกเขา และเพื่อปกป้องลูกชายที่เพิ่งลืมตาดูโลก เพ็ญนีติ์ต้องโดนฟันเป็นสิบ ๆ ครั้ง และตายในกองเลือด และเด็กคนนั้นก็ไม่ได้หนีพ้นจากเคราะห์นั้นด้วย เพราะฉะนั้นตอนที่นงลักษณ์เอาจณัตว์มอบให้เขานั้น เขาก็ได้เอามาเลี้ยงดูเป็นลูกแท้ ๆ จริง ๆ

พอมาตอนนี้จณัตว์บอกกับเขาว่า เนกษ์เป็นลูกชายของเขา ที่เกิดกับเพ็ญนีติ์ นี่มันทำให้เอกฉัทแทบไม่กล้าเชื่อจริง ๆ

นี่เป็นไปได้ยังไงกัน?

ทั้ง ๆ ที่เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนเขาเห็นเด็กที่เลือดเนื้อเละเทะเองกับตา ตอนนั้นเขาแทบขาดใจ และเกือบจะตายตามพวกเขาสองแม่ลูกไปด้วย ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่านงลักษณ์เอาจณัตว์มาให้เขาช่วยเลี้ยงดู เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถมีชีวิตอยู่ถึงทุกวันนี้ได้หรือเปล่า

แต่ว่าตอนนี้คนที่ตายไปแล้วกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขา แค่ดูทีเดียวก็สามารถทำให้ดูออกได้ถึงความสัมพันธ์ทางสายเลือดอย่างเนกษ์ทำให้อารมณ์ของเอกฉัทพลุกพล่านขึ้นมา แต่ก็ไม่กล้าเชื่อ

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท