แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่1442 ตายอย่างสมราคา

บทที่1442 ตายอย่างสมราคา

“ไปบ้านตระกูลแหลมวิไล”

คำพูดของหงส์ทำให้พฤธาชะงัก

“องค์หญิง ไปไม่ได้นะครับ ตอนนี้ตระกูลแหลมวิไลวุ่นวาย และจะลุกฮือขึ้น พระราชากำลังส่งกองกำลังเข้าไปปราบปราม ไม่แน่ว่าอาจจะโดนประหารทั้งตระกูล”

คำพูดของพฤธาทำให้หงส์ตกใจ

“ประหารทั้งตระกูล?”

นี่เป็นการลงโทษที่ใหญ่หลวงมาก!

นี่จะไม่เหลือคนตระกูลแหลมวิไลไว้เลยหรือ?

เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าจณัตว์กลับมาแล้ว หงส์ก็พลันกังวลขึ้นมา

“ไปบ้านตระกูลแหลมวิไล!”

“องค์หญิง… …”

“ไม่ได้ยินที่พูดหรือไง?”

สีหน้าของหงส์มืดครึ้มลง

เมื่อพฤธาเห็นท่าทีแข็งกระด้างของหงส์ เขาก็ไม่พูดอะไรต่อ และติดไปยังคนอื่นในวัง เพื่อให้เตรียมปกป้องหงส์ไว้ทุกเมื่อ

ดวงตาของหงส์ดำดิ่ง

เธอไปแค่ไม่กี่วัน?

ทำไมประเทศF ถึงกลายมาเป็นแบบนี้ได้ละ?

“คนของฉัตรพละกำลังทำอะไร?”

ถ้าสาเหตุของเรื่องนี้คือการที่ฉัตรพลนัดเอกฉัทมาเจอละก็ แล้วตอนนี้สมชัยก็กำลังจะทำลายตระกูลแหลมวิไลให้ราบคาบ แล้วทำไมฉัตรพลไม่ออกมาช่วยกัน?

เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ปกติมาตั้งแต่แรกแล้ว

พฤธารีบพูดว่า “ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับครอบครัวแหลมวิไล พระอนุชาฉัตรพลก็ล้มป่วยครับ มีหมอหลายคนได้ไปถวายการรักษา แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย ว่ากันว่าเพราะความโกรธเลยทำให้เป็นแบบนี้”

“เหลวไหล!”

หงส์สบถออกมา พฤธาแปลกใจเล็กน้อย แต่กลับรีมก้มศีรษะลงต่ำทำราวกับว่าไม่ได้ยิน

ตอนนี้หงส์รู้สึกได้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้ถูกวางแผนโดนฉัตรพล บางทีเขาอาจวางแผนที่จะยืมมือของสมชัย เพื่อกำจัดตระกูลแหลมวิไล

ตระกูลแหลมวิไลคือจุดสำคัญ หากไม่สามารถช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ ก็จะกลายเป็นศัตรูที่มีอำนาจมากที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น หลังจากที่ฉัตรพลล้มเหลวในการเอาชนะตระกูลแหลมวิไล แผนที่ให้สมชัยไปจัดการตระกูลแหลมวิไลก็เป็นไปได้

ถ้าหากเป็นจริงอย่างที่ว่า ทันใดดวงตาของหงส์ก็เย็นชา

แน่นอนว่าเธอต้องทำให้ฉัตรพลชดใช้อย่างสาสม

ตอนนี้เธอทำได้เพียงไปที่ตระกูลแหลมวิไล เพื่อป้องกันไม่ให้สมชัยโจมตีตระกูลแหลมวิไล

แม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวของสมชัย แต่เธอก็เกรงว่าอาจจะหยุดไฟโทสะของเขาไว้ไม่ได้

“พฤธา ให้คนของเราไปหาฉัตรพลเพื่อรวบรวมหลักฐานที่เขาใส่ร้ายตระกูลแหลมวิไล”

“องค์หญิง เกรงว่าจะไม่ง่ายนะครับ พระอนุชาฉัตรพลปิดล็อคบ้านอย่างแน่นหนา ไม่มีใครเข้าไปได้หรอกครับ”

พฤธากลัดกลุ้ม

“ไม่ง่ายก็ต้องทำ ฉันจะตระกูลแหลมวิไลก่อนเพื่อขัดขวางการสังหารหมู่ของกองกำลัง พวกนายรีบรวบรวมหลักฐานแล้วส่งไปที่วัง ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องตายไปพร้อมกับตระกูลแหลมวิไลแน่”

หงส์กอดเจตต์จำนงอันแน่วแน่ที่จะตายกลับไป

พฤธาตะลึงไปชั่วขณะ

“องค์หญิง ทำแบบนี้ ความปลอดภัยของคุณจะ… …”

“ไม่ต้องสันมากนักหรอก รีบไปเถอะ”

หงส์พูดจบก็บอกให้เขาหยุดรถ ก่อนที่ตัวเองจะขับรถไปยังตระกูลแหลมวิไลด้วยตัวเอง

ตอนนี้ไม่มีใครกล้าไปที่บ้านตระกูลแหลมวิไล

พฤธามองไปยังแผ่นหลังของหงส์ รู้ว่าหน้าที่ของตัวเองใหญ่มาก ไม่หยุดที่จะเริ่มจัดเตรียมหน้าที่แม้เพียงเวลาเล็กน้อย

เมื่อหงส์มาถึงหน้าประตูบ้านของตระกูลแหลมวิไล ที่นี่ก็ถูกกองทหารล้อมเอาไว้หมดแล้ว

“นี่เป็นคำสั่งของพระราชา คนในที่นี้จงฟัง แค่เพียงพวกคุณยอมให้จับกุมโดยไม่ต้องสู้ จะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ไม่อย่างนั้น… …”

“หยุดนะ!”

เมื่อหงส์เอ่ยปาก หัวหน้าองครักษ์ก็ชะงักไปทันที เมื่อเขาเห็นว่าเป็นหงส์เขาก็อดไม่ได้ที่หยุดไปชั่วครู่ ก่อนจะโค้งคำนับให้เธออย่างเคารพ

“องค์หญิงห้า มาได้ยังไงกันครับ?”

“เรื่องของตระกูลแหลมวิไลมีมูลเหตุอื่นอีก พวกคุณหยุดดำเนินการตามคำสั่งก่อน รอให้คนของฉันกลับวังพูดคุยกับพระราชา แล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย”

หงส์มาด้วยความรีบร้อน เธอหายใจหอบเล็กน้อย

เมื่อจณัตว์ที่อยู่ข้างในได้ยินเสียงของหงส์เขานิ่งไปเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว

ผู้หญิงคนนี้มาที่นี่ได้อย่างไรกัน?

เนกษ์มองไปที่จณัตว์ ก่อนที่จะพูดเสียงทุ้มว่า “พี่ อย่างไรเธอก็เป็นลูกสาวของสมชัย พี่กับเธอ… …”

“เธอก็คือเธอ สมชัยก็คือสมชัย เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการกับการบาดหมางในครั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอคือภรรยาของฉัน”

คำพูดของจณัตว์ทำให้สีหน้าของเนกษ์เปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เห็นด้วยกับสถานะดังกล่าว

“ฉันรู้ว่าการตายของพ่อแม่ทำให้นายเสียใจมาก และปวดใจมาก แต่ว่าตอนนั้นเธอกับฉันอยู่ที่เมืองชลธีด้วยกัน ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากนี้เธอยังช่วยพวกเราอีกด้วย ลืมไปแล้วเหรอ?”

“ผมไม่ได้ลืม แต่แค่เพียงคิดว่าในตัวเธอมีเลือดของสมชัยไหลเวียน ผมก็ไม่ค่อยสบายใจ วันนี้พวกเราอาจจะตายอยู่ที่นี่ก็ได้ ถ้าหากพี่เป็นห่วงเธอจริง ก็ให้เธอไปเถอะ”

ถึงแม้ว่าเนกษ์จะพูดอย่างนี้ จริงๆแล้วเขาอยากจะพูดว่าไม่อยากให้เลือดของหงส์ต้องมาเปรอะเปื้อนผือที่ดินของตระกูลแหลมวิไล

จณัตว์เห็นว่าเนกษ์ไม่พูดอะไร แต่ว่าดวงตาของเขากลับเย็นยะเยือกและเจ็บใจ

“พูดตรงๆนะ อย่างไรฉันก็ไม่ใช่ลูกของตระกูลแหลมวิไล ในเมื่อนายถือสาเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันกับเธอจะตายด้วยกันข้างนอก นายวางใจเถอะ พลังเฮือกสุดท้ายของฉัน จะสามารถปกป้องนายและคนในตระกูลแหลมวิไลจากการพรากจากกันได้ อย่างไรฉันก็เป็นหนี้ตระกูลนี้”

จณัตว์พูดจบก็สาวเท้าออกไปข้างนอก แต่กลับถูกเนกษ์ดึงไว้ก่อน

“พี่ พูดอะไรนะ พี่เป็นคนในตระกูลนี้ ผมรู้ที่พี่ทำแบบนี้เพราะว่าพี่คิดว่าผมจะไม่ยอมรับเธอเป็นพี่สะใภ้ถูกไหม? แต่พ่อของเราตายคาน้ำมือพ่อของเธอนะ ผมเห็นพ่อนอนจมกองเลือดด้วยตาตัวเองที่นั่น พี่จะให้ผมยอมรับเธอ? แม้ว่าเธอจะไม่มีความผิดแล้วมันยังไง? ใครไม่มีความผิดบ้าง? พ่อไม่มีความผิดไหม?”

ดวงตาของเนกษ์แดงก่ำ พูดด้วยเสียงสั่นเครือ

ในตอนนี้ หัวหน้าองครักษ์ได้ปฏิเสธคำของของหงส์แล้ว

“องค์หญิงห้า ขออภัยด้วย นี่เป็นคำสั่งของพระราชาที่ไม่อาจมีผู้ใดวิงวอนได้ คำสั่งนี้จะไม่ถูกยืดเวลาออกไป ไม่อย่างนั้นจะถูกสังหารโดยไม่ลดหย่อนโทษครับ”

“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็ฆ่าฉันด้วยเถอะ อย่างไรลูกสาวก็คงไม่มีค่าอะไรกับเขาเลย”

คำพูดของหงส์ทรงพลังและดังกังวาน จนฝูงชนรอบด้านเริ่มจะคุยซุบซิบกัน

ที่หงส์ต้องการคือผลลัพธ์แบบนี้

เธอพูดเสียงสูง “ตระกูลแหลมวิไลทำตัวเงียบเชียบในประเทศFมานานหลายปีและทำมาโดยมาตลอด ไม่เคยมีส่วนร่วมในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจทางการเมือง และตอนนี้ตระกูลแหลมวิไลทุกคนต้องถูกกำจัดออกไปเพราะข้อกล่าวหาที่ไม่สมควร พระราชาที่ตัดสินใจเช่นนี้ไม่คำนึงถึงจิตใจประชาชนเลยหรือ?”

“องค์หญิงห้า!”

สีหน้าของหัวหน้าองครักษ์ซีดขาว

ทำไมองค์หญิงห้าถึงกล้าพูดอะไรเช่นนี้ออกมา ถ้อยคำเหล่านี้เปรียบเสมือนการกบฏ ถ้าหากพระราชาเกิดคิดเล็กคิดน้อยขึ้นมาละก็แม้แต่ตัวองค์หญิงเองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงกฎหมายอาญาได้

ทว่าหงส์กลับหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา “ทำไม? สิ่งที่พระราชาทำฉันพูดไม่ได้เหรอ? ตระกูลแหลมวิไลทำอะไรผิด?ฉันหวังว่าหัวหน้าองค์รักษ์จะชี้แจงให้กระจ่าง นักธุรกิจที่ซื่อสัตย์และจริงใจ บริจาคเงินเป็นจำนวนมากให้กับประเทศF แต่ตอนนี้เขากำลังจะจบลงในสถานการณ์เช่นนี้ และพระราชายังไม่กลัวที่จะทำร้ายจิตใจประชาชน ขนาดฉันยังทนมองไม่ได้ วันนี้หัวหน้าองครักษ์ไม่พูดเหตุผลที่สมเหตุสมผลออกมา ฉันญาณินจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ถ้าพวกคุณจะทำอะไรตระกูลแหลมวิไลละก็ ข้ามศพฉันไปก่อนแล้วกัน”

คำพูดนี้ดังก้องไปทั่ว

เนกษ์นิ่งอึ้งไป แต่ดวงตาของจณัตว์เปียกชื้นเล็กน้อย

ผู้หญิงโง่คนนี้ เขาซาบซึ้งจิตใจมาก!

ที่เขาไม่บอกเธอ ก็เพราะกลัวเธอจะทำเรื่องหุนหันพลันแล่น ไม่คิดว่าเธอจะมาถึงนี่

ภรรยาของเขาจณัตว์ไม่สามารถทนการรังแกจากคนอื่นได้!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จณัตว์ก็จะยืดกายมองออกไปยังข้างนอก แต่กลับถูกผู้พิทักษ์ห้ามเอาไว้เสียก่อน

“นายน้อยจณัตว์ ความหมายขององค์หญิงคือไม่ให้คุณออกไป ในประเทศFคุณก็คือคนที่ตายไปแล้ว ถ้าหากออกไปตอนนี้ จะนำความผิดมาสู่ตระกูลแหลมวิไลมากกว่านี้ องค์หญิงได้ส่งคนไปสืบหาหลักฐานว่าฉัตรพลใส่ร้ายตระกูลแหลมวิไลแล้ว เพียงแค่หาหลักฐานได้ จะไม่เกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิงและตระกูลแหลมวิไล”

เสียงของผู้พิทักษ์​ไม่ดัง แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จณัตว์ เนกษ์และคนในตระกูลแหลมวิไลจะเข้าใจ

ในตอนนี้ไม่มีใครกล้าที่จะสอดมือมาช่วยเรื่องวุ่นวายของตระกูลแหลมวิไลเลย แต่ไม่คิดว่าหงส์ ไม่เพียงแต่จะสน แต่ยังจัดการให้จนถึงที่สุดด้วย

เนกษ์ละอายใจตัวเองที่เมื่อกี้เขาได้กีดกันหงส์

“พี่ ผม… …”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ทำตามที่เธอพูดเถอะ เนกษ์ พาทุกคนออกไปที่เส้นทางลับ”

จณัตว์ตัดสินใจ

แต่เนกษ์กลับพูดอย่างลังเลว่า “แล้วพี่ละ? จะออกไปยังไง?”

“ฉันมีวิธีของฉันน่า นายพาคนตระกูลแหลมวิไลทุกคนออกไปทางเส้นทางลับ ข้างนอกมีคนของอาสามของฉันและคนของหัวหน้าคริชณะ เราต้องแก้แค้น แต่ก่อนอื่นเราต้องรักษาชีวิตเอาไว้ให้ได้ ดังนั้นตอนนี้รีบไปก่อนเถอะ”

เนกษ์รู้ว่าจณัตว์กำลังพูดถึงอะไร แต่ถึงจณัตว์ไว้คนเดียวที่นี่เขาทำไม่ได้

“โอเค”

เขาพยักหน้า และพาญาติทั้งหมดไปยังเส้นทางลับ แต่ตัวเองกลับมาที่เดิม

ไม่ว่าจะเป็นยังไง เขาก็จะอยู่เคียงข้างและออกไปพร้อมกับจณัตว์

จณัตว์ไม่รู้ว่าเนกษ์ไม่ได้ไป เมื่อเขามองหงส์ที่ปกป้องตระกูลแหลมวิไลด้วยท่าทางอ่อนแรงผ่านรอยแยกของประตู ก็รู้สึกปั่นป่วนในหัวใจ แทบทนไม่ไหวอยากจะออกไปแบกผู้หญิงคนนี้กลับขึ้นบ่า

เป็นผู้หญิงที่ใจกล้า แต่กลับตรงใจเขาจริง

เขาได้ตัดสินใจกับผู้หญิงคนนี้แล้วตลอดชีวิต

ไม่ว่าจะตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ จนกว่าความตายจะแยกจากกัน

จณัตว์รู้ว่าวันนี้มีคนตาย9คน ก่อนหน้านี้ยังรู้สึกเสียใจ ที่ก่อนตายไม่มีโอกาสจะได้พูดคุยกับหงส์ แต่ตอนนี้เขาโล่งใจแล้ว

เมื่อหัวหน้าองครักษ์ได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหงส์ สีหน้าของเขาก็ซีดเผือด

“องค์หญิงห้า นี่คุณต้องการก่อกบฏหรือ”

“บังอาจ! ฉันที่เป็นราชนิกุลคนหนึ่งเพื่อที่จะปกป้องหัวใจผู้คนในประเทศF นึกไม่ถึงว่าคุณจะกล้าพูดว่าฉันก่อกบฏ? ฉันว่าคำสั่งที่ให้สังหารตระกูลแหลมวิไล เกรงว่าคุณจะเป็นคนปลอมมันขึ้นมาเอง”

คำพูดของหงส์เป็นการโยนความผิดอย่างใหญ่หลวง กระทั่งทำให้สีหน้าของหัวหน้าองครักษ์ซีดราวกระดาษ

“องค์หญิงห้า ถ้าคุณยังคงดื้อดึงเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ขอประทานอภัยด้วย”

พูดจบหัวหน้าองครักษ์ก็เล็งปืนไปทางหงส์

หัวใจของหงส์เต้นระรัว

แน่นอนว่าเธอไร้ค่าในสายตาของสมชัย

มันเพียงความคิดเพ้อฝันของเธอ ที่จะใช้สิทธิ์ในฐานะของตัวเองปราบปรามสักหน่อย แต่ที่จริงแล้วมันยังห่างไกลอยู่มาก

แต่ถ้าหากสามารถพอที่จะตายตรงนี้ได้ เธอก็ถือว่ามันเป็นการตายที่มีค่า

ความคิดและวิธีการทั้งหมดแล่นอยู่ในหัวของหงส์ เธอมองไปยังหัวหน้าองครักษ์ด้วยสายตาที่เย็นชา และพูดด้วยเสียงอันดังว่า “ถ้าหากคุณมีความสามารถที่จะยิงก็ทำเถอะ ฉันละอยากเห็นว่าใครให้ความกล้าหาญคุณ! ความภักดีของฉันมีไว้เพื่อประชาชนทั้งหมด ถึงตายก็คุ้มค่า!”

เมื่อได้ยินคำพูดของหงส์ หัวหน้าองครักษ์ก็เหนี่ยวไก

ลูกกระสุนลอยเจาะอากาศไปยังหงส์

ด้วยทักษะของเธอ เป็นไปได้ที่จะหลบในขณะที่กระสุนพุ่งออกมา แต่เธอทำไม่ได้ เพราะข้างหลังเธอคือผู้ที่ไร้ความผิดทุกคนในตระกูลแหลมวิไล

ในขณะนั้น ร่างที่รวดเร็วและดุดันก็ได้พุ่งถลาออกมาทันที ลมหายใจที่คุ้นเคยกระทบเข้ากับใบหน้าของเธอ ก่อนที่หงส์จะได้ทันทำอะไร เธอก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคย หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงกระสุนที่เจาะเข้าสู่ผิวหนัง ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าที่หล่อเหลาของจณัตว์ก็เข้ามาอยู่ตรงหน้าเธอ

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท