นรมนรู้สภาพร่างกายของหงส์ เธอรู้ว่าแต่แรกถ้าไม่ใช่เพราะช่วยชีวิตบุริศร์ เวลานี้เธอคงไม่เป็นอย่างนี้ ชาตินี้ไม่มีทางเป็นแม่ได้ ในใจนรมนอดไม่ดี่จะเสียใจ
“เสื้อสวยมากเลย เธอทำเองกับมือเหรอ”
“อึม เมื่อก่อนตอนที่ว่างๆ ก็จะปักเอง”
หงส์ยิ้มบาง
เธอรู้ในใจนรมนคิดอะไร พูดเสียงเบา “ตอนนั้นที่ช่วยเฮียบุริศร์ ฉันไม่เคยเสียใจ แม้จะให้เลือกอีกครั้ง ฉันก็จะเลือกเหมือนเดิม ผลทั้งหมดเป็นสิ่งที่ฉันเลือกแล้ว ไม่เกี่ยวกับใคร ไม่ต้องมองฉันอย่างนี้ ไม่มีลูกบางทีอาจจะเป็นความเสียดายตลอดชีวิต แต่ไม่พอที่จะกระทบกับทั้งชีวิตของฉันหรอกค่ะ”
หงส์ตบหลังมืองของนรมนเบาๆ คำพูดนั้นทำให้นรมนตะลึง และรู้สึกนับถือ
“เธอเป็นคนดี”
“ฉันเป็นมาตลอด”
หงส์ยิ้มบาง มองบุริศร์ที่อยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง ครุ่นคิดนิดหนึ่งแล้วพูดขึ้น “ถ้าหากพวกเธอคิดว่าอยากจะชดเชยให้ฉันหน่อย อย่างนั้นฉันขอยืมเครื่องบินส่วนตัวได้มั้ย”
บุริศร์กับนรมนต่างชะงัก
“เธออยากได้เครื่องบินส่วนตัวไปทำไมกัน ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็มีไม่ใช่หรือ”
“ก็มี แต่จณัตว์ใช้แล้ว เขาขับไปแล้ว”
หงส์ไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับนรมน ตอนนี้เธอสุขภาพไม่ดี และยังท้องด้วย ถ้าหากรู้ว่าเกิดเรื่องกับพ่อบุญธรรมของ จณัตว์ แล้วกังวลใจขึ้นมา ไม่แน่ว่าจะเป็นอย่างไร อีกอย่างพวกเขาเพิ่งกลับมาจากประเทศF หงส์ไม่อยากให้พวกเขาสนใจเรื่องประเทศFอีก
บุริศร์หรี่ตาลงนิดหนึ่ง
เครื่องบินส่วนตัวของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาถูกจณัตว์ขับไปแล้ว คำพูดนี้ฟังแล้วธรรมดา แต่ไม่ต้องกลั่นกรอง
สถานะของจณัตว์อย่างนั้น เขาจะไปไหนย่อมมีเครื่องบินรบ แต่ทำไมใช้เครื่องบินส่วนตัว เห็นชัดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ในเมื่อเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่พาหงส์ไปด้วยย่อมไม่ต้องการให้หงส์ไปด้วย ตอนนี้หงส์มายืมเครื่องบินส่วนตัว ในใจบุริศร์มีความคิดบางอย่าง
“ผมจะไปดูเครื่องบินซ่อมบำรุงอยู่หรือเปล่า คุณคุยกับนรมนไปก่อน”
“ค่ะ”
หงส์พยักหน้า
บุริศร์เข็นรถเข็นออกไป
นรมนกลับไม่คิดมากอย่างนั้น
หลังจากท้องโฟกัสของชีวิตเธอคือลูก อีกอย่างทางด้านประเทศFก็มีจณัตว์กับราเชนควบคุม เธอรู้สึกว่าไม่น่าเกิดเหตุไม่คาดฝัน อีกไม่นานสมชัยก็จะถูกประหาร เธอจึงไม่คิดมากเรื่องพวกนั้น
ตอนนี้รู้สึกว่าเรื่องพวกนั้นเหมือนเรื่องเมื่อชาติที่แล้ว ตอนนี้เธอคิดเพียงแต่จะคลอดเด็กคนนี้ออกมาให้ปลอดภัยเท่านั้น
นรมนตบหลังมือหงส์เบาๆ ยิ้มพลางพูด “พี่ชายฉันเป็นยังไงบ้าง พวกเธอจดทะเบียนแล้ว เมื่อไหร่เตรียมงานแต่งล่ะ”
ใจของหงส์เจ็บอีกครั้ง
งานแต่งหรือ
จณัตว์เตรียมแล้วจริงๆ กระทั่งเชิญดีไซเนอร์มีชื่อเสียงจากต่างประเทศมาออกแบบชุดแต่งงานให้เธอ ถ้าหากไม่เกิดเหตุไม่คาดฝัน อย่างช้าที่สุดอีกสามเดือนพวกเขาจะได้จัดงานแต่งงาน แต่ตอนนี้เอกฉัทตายแล้ว
เอกฉัทเป็นพ่อบุญธรรมของจณัตว์ ที่บ้านมีงานศพ งานแต่งเกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้แล้ว
หงส์รีบเก็บอารมณ์ ยิ้มบาง “พี่ชายเธอช่วงนี้ยุ่ง ยังไม่ทันได้เตรียมงาน”
“อะไรนะ พี่ชายฉันเป็นลูกผู้ชาย ต่อให้ยุ่งขนาดไหน ก็ต้องเตรียมงานแต่งให้เธอไม่ใช่หรือ ผู้หญิงชีวิตหนึ่ง สำคัญที่สุดคือได้ใส่ชุดแต่งงานเข้าพิธีแต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองรัก นั่นคือความทรงจำตลอดชีวิต”
หงส์พยักหน้านิดๆ เมื่อได้ฟังคำพูดของนรมน ในใจรู้สึกขมขื่น
เกรงว่างานแต่งงานในชาตินี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว การแต่งงานของเธอกับจณัตว์จะไปต่อได้หรือไม่ยังเป็นปัญหา
แต่หงส์ไม่แสดงสีหน้า กุมมือนรมน “เฮียบุริศร์เป็นห่วงร่างกายเธอมาก เธอต้องระวังให้มากๆ อีกอย่าง ร่างกายไม่แข็งแรงท้องอย่างนี้ อย่าทำเพื่อเด็กจนลำบากตัวเองล่ะ”
ใจนรมนพลันอบอุ่นขึ้นมา
“วางใจเถอะ ฉันรู้ต้องทำยังไง เธอมาเยี่ยมฉันเพราะพี่ชายฉันก็รู้ที่ฉันท้องเหรอ”
นรมนรู้ว่าบุริศร์ประกาศข่าวเธอท้องไปทั่ว ก็อดรู้สึกค่อนข้างอาย
ตอนนี้เห็นหงส์ก็มา จึงรู้ว่าจณัตว์ก็รู้เรื่องนี้ด้วย
“จริงสิ พี่ชายฉันรู้แล้วว่าฉันท้อง ทำไมไม่มาเยี่ยมฉันเองล่ะ”
นรมนคิดมาก
หงส์รีบพูด “เขามีภารกิจด่วนที่ต้องทำ ถึงได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปไง แต่ก็ให้ฉันมาเยี่ยมเธอ ว่าไง ฉันมาไม่เหมือนเขามาเหรอ”
“ฮ่าๆๆ เหมือนกันๆ เธอเป็นพี่สะใภ้ฉัน จะไม่เหมือนกันได้ไง”
นรมนอารมณ์ดี ถามขึ้น “พี่ชายฉันไปทำงานใช้เครื่องบินรบไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปล่ะ”
“เอ่อ ภารกิจครั้งนี้เปิดเผยตัวตนไม่ได้”
“อ้อ”
นรมนพยักหน้า
เธอไม่รู้เรื่องเขตทหารมากนัก แต่เมื่อหงส์พูดเช่นนี้ เธอก็เชื่อ
“งั้นเธอยืมเครื่องบินไปทำไม”
หงส์ชะงักนิดหนึ่ง เอ่ยขึ้น “ไปเมืองใกล้ๆ ช่วยจณัตว์ทำเรื่องนิดหน่อย ไม่สะดวกเล่าน่ะ”
ไม่สะดวกสามคำนี้ทำให้นรมนเข้าใจ บางทีเรื่องเขตทหาร ให้หงส์ช่วยเท่านั้น
เธอไม่ซักถามต่อ
หงส์อดไม่ได้ที่จะโล่งอก
อยากจะปิดบังนรมนที่จริงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เพราะตอนนี้เธอท้อง บางเรื่องจึงไม่คิดมาก และเธอเชื่อหงส์สนิทใจ หงส์ถึงหลอกเธอได้สำเร็จ
เรื่องนี้หงส์รู้ดี แต่เธอยิ่งรู้ อยากจะปิดบังบุริศร์ เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้
หงส์ดูเวลา พูดเสียงแผ่วเบา “คือว่า ฉันยังมีธุระ ต้องไปก่อน เธอดูแลตัวเองดีๆ รู้มั้ย ฉันรอดูเธอคลอดเด็กน้อยอ้วนๆ ขาวๆ นะ ถึงตอนนั้นฉันจะได้รับลูกทูนหัวแล้ว”
นรมนชะงักนิดหนึ่ง พูดยิ้มแย้ม “เธอพูดอะไร เธอเป็นพี่สะใภ้ฉัน เป็นน้าของลูกฉัน จะรับเป็นลูกบุญธรรมอะไรล่ะ เพราะรู้สึกว่ายังไม่ได้แต่งกับพี่ชายฉันหรือเปล่า ไม่ได้การล่ะ เดี๋ยวฉันต้องเร่งให้พี่ชายจัดงานแต่งงานละ ดูสิ เธอลืมแล้วว่าตัวเองเป็นสะใภ้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา”
หงส์เพียงแต่ยิ้ม ทว่าในใจเป็นทุกข์เหลือเกิน
“เธอพูดถูกหมด ใครใช้ให้เธอสวยล่ะ”
“โอ๊ย ฉันชอบฟังแบบนี้”
นรมนอารมณ์ดีมาก
หงส์หวังว่านับแต่นี้ไปเธอจะมีความสุขอย่างนี้ตลอดไป ชีวิตสมบูรณ์ ไม่มีเรื่องวุ่นวายมากระทบกระเทือนจิตใจนรมนอีก
“อือ”
“เธอต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ”
มีความสุขมากๆ
หงส์ไม่ได้พูดประโยคหลังออกไป ในใจช่างสับสนว้าวุ่นเหลือเกิน
นรมนยิ้ม “ฉันรับปาก วางใจเธอ ฉันแค่ท้องนะ ดูพวกเธอแต่ละคนสิ ทำอย่างกับฉันป่วยหนัก แต่ละคนกังวลจนฉันพลอยเป็นไปด้วย”
“เอาล่ะ เธอพักผ่อนเยอะๆ ล่ะ ฉันไปก่อน ไว้มีโอกาสจะมาเยี่ยมเธออีก”
หงส์พูดว่ามีโอกาส ไม่รู้ว่าครั้งนี้กลับไปจะเกิดเรื่องอะไร จะรอดกลับมามั้ย เธอจึงได้แต่พูดเช่นนี้
นรมนกลับฟังไม่เข้าใจ แต่ก็พยักหน้าสบายใจ
“ได้ ถ้าเธอว่างก็แวะมาที่นี่บ่อยๆ ช่วงสามเดือนนี้ฉันไปไหนไม่ได้ บุริศร์แทบจะอุ้มฉันไปเข้าห้องน้ำ ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว รีบมาช่วยฉันนะ”
นรมนเขย่าแขนหงส์ออดอ้อน
ก่อนที่จะรู้จักนรมน หงส์ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสนิทสนมกับนรมนอย่างนี้ วันนี้ยิ่งใกล้ชิดเธอ ยิ่งรู้สึกชอบเธอ ถ้าหากเป็นไปได้ หวังว่าชาตินี้จะได้เป็นพี่สะใภ้ของเธอตลอดไป รักใคร่สนิทสนมกับเธอไปตลอดชาติ แต่ชาติหนึ่งนานเกินไป เอไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ถึงตรงนั้น
“เอาล่ะ โตขนาดนี้แล้วยังอ้อนอยู่ได้ อายไหมเนี่ย นรมน ฉันไม่ใช่สามีเธอ น้อยๆ หน่อย ฉันไปล่ะ”
ดวงตาของหงส์เริ่มมีน้ำตารื้น
เดิมทีเธอคิดว่าแต่งงานแล้ว คนพวกนี้คงเป็นคนแปลกหน้า จะไปก็ไม่ผูกพันอะไร แต่ตอนนี้กลับพบว่า ที่นี่ยากจะตัดใจมากกว่าประเทศFที่เธออยู่มายี่สิบกว่าปีเสียอีก
คนที่นี่ เรื่องที่นี่ประทับในหัวของเธอชัดเจน ทำให้ในชีวิตนี้เธอไม่อาจลืมเลือนได้
ขอบคุณนรมนที่ให้เธอได้รู้จักคนมากมาย ให้เธอได้รู้สึกว่าตัวเองมีบ้าน
หงส์รีบลุกขึ้นเดินไปข้างนอก พริบตาที่หันไป ในที่สุดก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีก
นรมนกลับไม่สังเกตเห็น คิดว่าหงส์ทนตัวเองไม่ได้ก็เลยออกไป
เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
หลังจากหงส์แต่งงานกับจณัตว์ คิ้วของเธอก็เลิกผูกโบ บางทีเธอเองไม่รู้สึกตัว แต่นรมนสังเกตเห็น
เมื่อพูดถึงจณัตว์ แววตาของหงส์ก็อ่อนโยนและอาย นี่การแสดงออกของคนมีความรัก เพียงแต่หงส์ไม่รู้ตัวก็เท่านั้น
ไม่ได้การ
เดี๋ยวเธอต้องหาเวลาคุยเรื่องนี้กับจณัตว์ซะหน่อย
การแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตของผู้หญิงจะไม่ใส่ใจไม่ได้ ทำไมเขาถึงไม่ใส่ใจเรื่องนี้นะ
ผู้ชายจริงๆ เลย
ในใจนรมนคิดถึงเรื่องนี้ ไม่เห็นตอนที่หงส์ออกไปตาแดงก่ำ
หงส์มาถึงสนามจอดเครื่องบินส่วนตัว ก็เห็นบุริศร์
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
บุริศร์โฟกัสที่นรมนอย่างเดียว อีกทั้งนับแต่เขากับนรมนออกมาจากประเทศF ภารกิจของพวกเขาก็ถือว่าสำเร็จแล้ว เรื่องที่เหลือจณัตว์รับช่วงต่อแล้ว ตามกฎ เขาไม่สามารถใส่ใจเรื่องประเทศFมากเกินไปได้แล้ว
เขาเชื่อในความสามารถของจณัตว์ และยังมีธรรศคอยช่วยเหลือ กำลังเสริมอย่างคริชณะ ดังนั้นบุริศร์จึงวางใจ ตอนนี้เห็นท่าทางหงส์อย่างนี้ และต้องการยืมเครื่องบินส่วนตัว บุริศร์ก็รู้ว่าเกิดเรื่องแล้ว
และเรื่องนี้ไม่อาจพูดต่อหน้านรมนได้ เขาจึงมารอหงส์ที่นี่
เดิมทีหงส์ควบคุมอารมณ์ได้ ตอนนี้ได้ยินบุริศร์ถาม ก็ควบคุมไม่ได้จนตาแดงก่ำ
“เฮียบุริศร์ เอกฉัทตายแล้วค่ะ จณัตว์รีบตามไปแล้ว”
หงส์พูดจบ น้ำตาก็ไหลริน
รู้จักหงส์มานานหลายปีขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่บุริศร์เห็นเธอร้องไห้ เมื่อก่อนไม่ว่าเจอเรื่องอะไร เธอก็เข้มแข็งเสมอ แต่ตอนนี้เธอกลับร้องไห้โฮเหมือนเด็กๆ
บุริศร์รู้สึกได้ทันที
“คนของสมชัยทำเหรอ”
“เขาเป็นคนทำค่ะ”
แววตาของหงส์เคียดแค้น อดทนไม่ได้อีกต่อไปคุกเข่าลงตรงหน้าบุริศร์ กอดขาเขาร้องไห้
“ทำไงดีคะ เฮียบุริศร์ ฉันเสียใจมาก จณัตว์ไปจากฉันโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาโทษฉันหรือเปล่าคะ เสียใจหรือเปล่าที่แต่งงานกับฉัน”
หงส์ร้องไห้สะอึกสะอื้น บุริศร์ตบไหล่เธอเบาๆ ในใจรู้สึกหงุดหงิด
ทำไมถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ได้
ทั้งสองคนไม่มีใครรู้ ไม่ไกลมีเงาคนหนึ่งกำลังมองพวกเขา สายตามีเพลิงโมโห อยากจะเผาพวกเขาให้มอดไหม้