แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1461 คุณนี่มีอารมณ์สบายอกสบายใจมากจริง ๆ เลยนะ

บทที่ 1461 คุณนี่มีอารมณ์สบายอกสบายใจมากจริง ๆ เลยนะ

“คือว่า คุณนายคะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

ปาณีพูดจบก็จะหนีออกไปเลย แต่กลับโดนนรมนดึงตัวไว้ซะก่อน

“จะหนีทำไม? นภดลไม่ได้กินคนซะหน่อย ไม่ใช่ซิ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าระหว่างพวกเธอสองคนมีเรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้อยู่ล่ะ? ตัวอย่างเช่น ซักกางเกงอะไรนะ?”

พอเห็นว่าสีหน้าของปาณีแดงมาก นรมนก็เอ่ยถึงหัวข้อนี้อีกครั้งด้วยจิตใจชั่วร้ายเล็กน้อย

“คุณนาย ทำไมคุณก็……”

ปาณีแทบอยากจะหารูสักแห่งมุดเข้าไปเลย

เรื่องนี้มีแต่ตัวเองกับนภดลที่รู้เรื่องไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้ลอยไปถึงหูบุริศร์กับคุณนายแล้วล่ะ?

และอีกอย่างปกติแล้วบุริศร์ก็ไม่ได้ชอบสอดรู้สอดเห็นอะไรนี่ เธอนึกภาพท่าทางตอนที่บุริศร์ดูภาพกล้องวงจรปิดไม่ออกจริง ๆ

ไม่ใช่ซิ

ตอนที่เธอซักผ้านั้นซักอยู่ในห้องตัวเองนี่?

หรือว่าในห้องตัวเองจะมีกล้องวงปิดเหรอ?

ปาณีตกใจจนหน้าขาวซีดขึ้นมาทันที

พอเห็นปฏิกิริยาของปาณี บุริศร์ก็รู้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แล้วก็ยิ้มอ่อน ๆ และพูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ ในห้องของคุณไม่มีกล้องวงจรปิดหรอก ที่ผมเห็นนั้นเป็นภาพกล้องวงจรปิดในห้องซักผ้า เห็นใครบางคนเอาเสื้อผ้ามาให้คุณซักเท่านั้น”

แล้วสีหน้าของปาณีก็แดงขึ้นมาอีกครั้งเลย

นภดลอยู่ที่หน้าประตูแล้วได้ยินอย่างชัดเจนทุกอย่าง จากนั้นก็เคาะประตูแล้วก็พูดขึ้นว่า “ประธานบุริศร์ คุณนาย ผู้รู้สึกว่าห้องซักผ้าไม่จำเป็นต้องติดกล้องวงจรปิดแล้วนะครับ”

ในระหว่างที่พูดเขาก็ยกเท้าก้าวเดินเข้ามาเลย

นรมนเองก็แทบจะกลั้นขำไว้ไม่อยู่แล้ว

“ทำไมล่ะ? ห้องซักผ้าก็อยู่ในขอบเขตสถานที่เฝ้าสังเกตการณ์ ถ้าเกิดมีโจรอะไรแอบลักลอบเข้ามาซ่อนอยู่ในห้องซักผ้าล่ะ?”

นภดลพูดด้วยท่าทีนิ่งเฉยขึ้นว่า “แอบดูความเป็นส่วนตัวของคนอื่น มันไม่ดีนะครับ”

“ไอ้เรื่องความเป็นส่วนตัวนั้น คือจะต้องไม่อยากให้คนอื่นเห็นถึงจะเรียกว่าความเป็นส่วนตัว แต่นายให้ปาณีเขาช่วยซักผ้าให้อย่างเปิดเผยซะขนาดนี้ ไม่ถือว่าเป็นส่วนตัวหรอกมั้ง?”

บุริศร์เม้มปากไว้แล้วจ้องมองดูนภดล เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดีมาก

นภดลจ้องมองบุริศร์ทีหนึ่ง แล้วก็มองนรมนที่มีท่าทางอยากรู้อยากเห็นอยู่เต็มหน้า จากนั้นก็มองเห็นปาณีที่มีท่าทางแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว เขาจึงรีบเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง แล้วก็ดึงตัวปาณีมา จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “พัณณิตามีธุระมาหาคุณ”

“อ่อ ได้ค่ะ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย”

ปาณีจากไปอย่างกับว่าหนี

“จุ ๆ”

นรมนกระดกลิ้นจนเกิดเสียงขึ้นมาสองที และจ้องมองนภดลด้วยแววตาแฝงไว้ด้วยความขบขัน

นภดลพูดอย่างเรียบเฉยขึ้นว่า “ไหนคุณอยากจะเป็นแม่สื่อไม่ใช่เหรอ? ความสัมพันธ์นี้ก็คุณยังเป็นคนดึงมาเชื่อมด้วย เพราะฉะนั้นคุณนายครับ การดูตัวที่ไม่มีประโยชน์นั่นควรหยุดลงได้แล้ว”

นรมนลืมตาโตขึ้นมาทันที

“โธ่เอ๊ย ไหนนายไม่มีความรู้สึกต่อปาณีเขาไม่ใช่เหรอ? แล้วอีกอย่าง ไอ้เรื่องนัดดูตัวนี่ปาณีก็ยินยอมแล้วด้วย ฉันเองก็พูดกับอีกฝ่ายไว้แล้ว จู่ ๆ นายมาพูดว่าไม่ไปก็ไม่ต้องไปแล้วเหรอ?”

นภดลแค่มองนรมนไปทีหนึ่ง แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก แต่นรมนกลับรู้สึกว่าดวงตาของนภดลนี้มันมีความหมายอะไรอยู่หน่อยหนึ่งแล้ว

บุริศร์กระแอมไอขึ้นมาสองทีแล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องปัญหาความรู้สึกของนายจะจัดการยังไงก็ได้ แต่ว่าอย่าให้กระทบกับงานก็พอ”

“ไม่มีทางหรอกครับ”

“พอดีเลยที่นายมา มีเรื่องอะไรอยากจะคุยกับนายหน่อย”

บุริศร์จ้องมองนภดล แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “สภาพร่างกายของนรมนนายก็รู้ดี มาตอนนี้ก็มาตั้งท้องอย่างไม่คาดฝันขึ้นอีก แต่ว่าร่างกายของเธอน่าจะไม่สามารถแบกรับไหว ฉันก็เลยอยากจะถามนายสักหน่อย เลือดของนายมีประโยชน์ต่อลูกในท้องของเธออยู่นิดหน่อย เพราะฉะนั้น……”

“จะเอาเท่าไหร่ครับ?”

นภดลเข้าใจขึ้นมาทันที แล้วก็ไม่รอให้บุริศร์พูดจบก็เปิดปากพูดขึ้นมาทันที

มุมปากของนรมนกระตุกขึ้นมาครู่หนึ่ง

นี่มันคือเลือดที่อยู่ในร่างกายคนเลยนะ แต่เขาเปิดปากพูดมาก็ถามว่าจะเอาเท่าไหร่เลยเหรอ? เจ้าเด็กคนนี้นี่ช่างบ้าคลั่งเกินไปแล้วมั้ง?

“นภดล นายรู้หรือเปล่าว่าเลือดของนายมันพิเศษ?”

นรมนลองเปิดปากพูดขึ้น

“รู้ครับ”

พอพูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของนภดลก็ขรึมลงมาหลายส่วน

ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะว่าเลือดที่พิเศษนี้ของเขา ตั้งแต่เล็กจนโตตัวเองก็ไม่ต้องมาโดนลักพาตัวและโดนวิจัยอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่เพื่อนรมนแล้ว เขากลับรู้สึกว่าไม่เป็นอะไรเลย

ก็แค่เลือด ดูดออกไปส่วนหนึ่งแล้วก็ยังสามารถผลิตขึ้นมาใหม่ได้

และที่สำคัญนรมนก็มีบุญคุณต่อเขา แค่ด้วยจุดนี้ เขาก็ได้ติดค้างชีวิตหนึ่งกับนรมนแล้ว แค่เลือดจะไปนับประสาอะไรได้ล่ะ?

แววตาของนภดลดูเปิดเผยจริงใจ ในใจของนรมนรู้สึกซับซ้อนเล็กน้อย

บุริศร์กลัวว่านรมนจะใจอ่อนแล้วพูดอะไรออกมา จึงรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่แค่เอาครั้งเดียวจบ แต่ต้องเอา400CCทุกอาทิตย์ นายดูซิว่าจะได้ไหม? สภาพร่างกายของนายจำเป็นจะต้องฝึกฝนให้มากขึ้น ต้องเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น แล้วพวกยาบำรุงเลือดและอาหารที่มีประโยชน์ ฉันจะให้ปาณีเตรียมไว้ให้เรียบร้อย”

“ไม่มีปัญหาครับ”

นภดลนึกถึงเมื่อก่อนตอนที่ดร.ฐานทัตวิจัยองค์ประกอบของเลือดของเขานั้นทุกวันต้องดูดไปเยอะมาก และมีอยู่ครั้งหนึ่งโดนดูดจนเขาเกือบจะเป็นลมไป มาตอนนี้นรมนจะเอาแค่อาทิตย์ละ400CC สำหรับเขาแล้วนี่ก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเอง

“งั้นนายก็ลงไปเตรียมตัวสักหน่อย เดี๋ยววันนี้จะดูดสักหน่อยก่อน”

“ได้ครับ”

นภดลหมุนตัวแล้วก็ออกไป

นรมนจ้องมองแผ่นหลังของเขา แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง

“บุริศร์คะ เขามาห้องฉันทำไมกันคะ?”

“มาหาปาณีไง”

มุมปากของบุริศร์คลี่ออกเล็กน้อย

เจ้านภดลที่ซื่อบื้อนี่ยังรู้จักฉลาดแล้ว ความสุขก็น่าจะอยู่ไม่ไกลแล้วมั้ง? ได้แต่หวังว่าสวรรค์คงจะดีกับคู่รักคู่นี้หน่อย

นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เพิ่งรู้สึกตัวขึ้นมา

“นี่ที่เขาเคาะประตูเข้ามาก็เพื่อมาหาปาณีเหรอคะ? ไม่ได้มารายงานเรื่องงานกับฉันเหรอ?”

“ตอนนี้คุณมีงานอะไรที่จะต้องให้เขามารายงานเหรอ? ระบบรักษาความปลอดภัยของบ้านใหญ่ตระกูลเล็กทั้งหมดได้มอบให้เขาไปคุมแล้ว นี่ถ้าเขาจะมารายงานจริง ๆ ก็คงต้องเกิดเรื่องขึ้นแล้ว”

บุริศร์ยื่นมือไปแตะปลายจมูกของนรมนเล็กน้อย จนทำให้นรมนขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

“คนอย่างคุณนี่ยังไงกันคะ? ไม่ดีดหน้าผากฉัน ก็ต้องมาแตะจมูกฉัน คุณอย่ามาคิดว่าฉันตั้งท้องอยู่ก็มารังแกฉันนะ ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะ ถ้าคุณยังมารังแกฉันอีก คุณเชื่อหรือเปล่าว่าฉันจะกัดคุณกัดคุณให้เลยนะ?”

“กัดเลย ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนคุณจะไม่เคยกัดสักหน่อย ผมว่าคุณเปลี่ยนไปเกิดปีจอไปเลยดีกว่า”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อยทันที

“คุณมานี่เลยนะ”

เธอเอามือเท้าสะเอวไว้ทั้งคู่ แล้วก็ชี้นิ้วสั่งบุริศร์ด้วยใบหน้าที่วางอำนาจ

บุริศร์ยิ้มอ่อน ๆ แล้วก็เข็นรถเข็นไปข้างหน้า นรมนก็กอดคอของเขาไว้ทีหนึ่ง แล้วก็อ้าปากกัดตรงลำคอของเขาไว้ตรง ๆ เลย

ลมหายใจที่อุ่นร้อนบวกกับความเจ็บปวดไว้เสี้ยวหนึ่งกระตุ้นประสาทสัมผัสของบุริศร์ขึ้นมาทันที จู่ ๆ เขาก็จุดไฟขึ้นมากองหนึ่งทันที

“นรมน คุณพอประมาณก็พอแล้วมั้ง”

“ไม่ค่ะ!”

มือทั้งคู่ของนรมนเริ่มซุกซนขึ้นมา แล้วลูบไล้และหยิกไปเรื่อยบนตัวบุริศร์

บุริศร์รู้สึกว่าไฟร้อนแรงนั่นแผ่ขยายไปทั่วร่างกายทันที จนรู้สึกสะกดกลั้นไม่อยู่นิดหน่อยแล้ว

“นรมน หยุดเล่นเถอะ”

“ไม่!”

นรมนกำลังเล่นได้สนุกเต็มที่ โดยไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าดวงตาคู่สวยราวกับหงส์คู่นั้นของบุริศร์ตอนนี้กำลังเกิดอารมณ์เดือดพล่านขึ้นมาแล้ว

บุริศร์คว้ามือของนรมนเอาไว้แล้วดึงเข้ามาในอก จากนั้นที่ริมฝีปากที่อุ่นร้อนนั้นก็โดนอุดกั้นด้วยความอ่อนนุ่มชั้นหนึ่ง

นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็โดนจูบที่ร้อนแรงแย่งชิงลมหายใจไป

อุณหภูมิในห้องเพิ่มสูงขึ้นมาทันที

หลังจากที่ปาณีออกมาจากห้องแล้ว สายลมข้างนอกก็พัดเข้ามากระทบใส่ ถึงทำให้เธอรู้สึกว่าอุณหภูมิบนใบหน้าลดลงมาเล็กน้อย

เธอรู้ว่าเมื่อกี้นภดลตั้งใจที่จะพูดแบบนั้น เพื่อต้องการที่จะช่วยเธอหลุดออกจากความอึดอัด

ในใจก็มีความรู้สึกอบอุ่นอย่างหนึ่งพุ่งขึ้นมา แล้วปาณีก็ลงจากตึกไปด้วยมุมปากที่คลี่ยิ้มขึ้นจาง ๆ ก็เห็นพัณณิตาเดินเข้ามาหาอย่างรีบร้อนเป็นอย่างมาก

“เป็นยังไงบ้าง? คุณนายว่าอะไรหรือเปล่า?”

“ไม่ได้ว่า เรื่องของวันนี้ห้ามใครพูดออกไปเด็ดขาด และยิ่งห้ามให้นภดลรู้ โดยเฉพาะเธอ พัณณิตา ได้ยินหรือเปล่า?”

อยู่ ๆ ปาณีก็เคร่งขรึมขึ้นมา จนพัณณิตาตกใจสะดุ้งขึ้นทีหนึ่ง

“มีเรื่องอะไรที่ให้ผมรู้ไม่ได้เหรอ?”

จากนั้นนภดลก็เดินลงมา น้ำเสียงที่เด่นชัดนั้นทำให้ปาณีรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

ทำไมเขาถึงได้ลงมาเร็วขนาดนี้นะ?

ดวงตาของพัณณิตาเป็นประกายขึ้นมาทันที

“หัวหน้านภดล”

เธอร้องเรียกขึ้นมาทีหนึ่งด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยความเขินอายเสี้ยวหนึ่งแบบเด็กสาว นภดลกลับมาสนใจฟัง อย่างกับมองไม่เห็นคนคนนี้ยังไงอย่างงั้น แล้วก็เดินไปตรงหน้าปาณี แล้วถามขึ้นอีกครั้งว่า “มีเรื่องอะไรที่ให้ผมรู้ไม่ได้เหรอ?”

“เรื่องของผู้หญิง ไม่เกี่ยวกับคุณ”

ตอนนี้ปาณีแม้แต่จะเงยหน้ายังไม่กล้าเงยขึ้นมาเลย

นภดลค่อย ๆ คลี่ริมฝีปากออกเล็กน้อย แล้วอยู่ ๆ ก็ยื่นมือไปตบหลังหัวของปาณีเบา ๆ แล้วพูดเสียงต่ำว่า “คุณนายบอกว่าต่อไปให้คุณมารับผิดชอบอาหารการกินของผม ต้องลำบากด้วยนะ”

“ไม่ ไม่ลำบากหรอกค่ะ”

ปาณีรีบขยับตัวไปข้าง ๆ ทีหนึ่ง

จะพูดก็พูดไปซิ ทำไมต้องแตะเนื้อต้องตัวด้วยนะ?

คนอื่นมาเห็นเข้ายังจะนึกว่าพวกเขาสองคนเป็นอะไรกันซะอีก

และที่สำคัญตอนนี้ก็อยู่ในที่สาธารณะด้วย ปาณียังจำคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดที่บุริศร์พูดถึงก่อนหน้านี้ได้อยู่นะ เธอไม่อยากให้คนอื่นมาเห็นเรื่องน่าอายแบบนั้นอีกแล้ว

ดวงตาของนภดลเคร่งขรึมลงเล็กน้อยในตอนที่ปาณีขยับตัวออกไป

“อีกเดี๋ยวคุณมีธุระอะไรไหม?”

“มี”

ปาณีรีบพยักหน้า

หัวคิ้วของนภดลขมวดขึ้นมาทีหนึ่ง

“ธุระอะไร?”

ปาณีคิดไม่ถึงว่าครั้งนี้นภดลกลับมาไล่ถามให้สุดอย่างนี้ เมื่อก่อนพอเธอบอกว่ามีธุระนภดลก็จะจากไปเลย แต่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นนะ?

พอนึกถึงคำพูดที่คุณนายตระกูลจันทรวงศ์โทรศัพท์มาพูดกับเธอแล้ว แน่นอนว่าปาณีก็ต้องไม่กล้าบอกกับนภดลว่าจะไปพบคุณนายตระกูลจันทรวงศ์อยู่แล้ว แต่ว่าในเมื่อเขามาถามแล้ว จะตอบว่ายังไงดีล่ะ?

สมองของปาณีกระตุกขึ้นทีหนึ่ง แล้วก็พูดออกไปประโยคหนึ่งว่า “ไปนัดดูตัวถือว่าเป็นธุระไหมล่ะ?”

เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอุณหภูมิรอบตัวลดลงไปทันที และใบหน้าที่สวยงามของนภดลนั้นก็มืดครึ้มอย่างกับก้อนเมฆทันที

พอนึกถึงที่นรมนพูดว่าเรื่องดูตัวนี่ปาณียินยอมแล้ว ดวงตาของนภดลก็จ้องเธอเขม็ง แล้วก็พูดขึ้นว่า “คุณนี่มีอารมณ์มาสบายอกสบายใจมากจริง ๆ เลยนะ”

พูดจบนภดลก็ยกเท้าแล้วเดินจากไป ราวกับว่าโกรธแล้วยังไงอย่างงั้น

ปาณีรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจจริง ๆ

นี่เขาโกรธแล้วเหรอ?

โกรธเรื่องอะไรล่ะ?

เพราะเธอบอกว่าจะไปนัดดูตัวเหรอ?

น่าจะไม่ใช่มั้ง นัดดูตัวครั้งที่แล้วเขายังเป็นคนเอารูปถ่ายและสถานที่นัดหมายมาบอกกับเธอด้วยตัวเองเลยไม่ใช่เหรอ?

เพราะฉะนั้นเมื่อกี้เธอยังมีจุดอื่นที่ทำผิดไปอีกเหรอ? หรือพูดอะไรผิดไป?

ปาณีคิดบทสรุปอะไรไม่ออกเลยสักอย่าง

พอพัณณิตาเห็นว่าปาณีทำให้นภดลโกรธจนจากไป แล้วก็รีบพูดขึ้นว่า “หัวหน้าปาณี คุณไม่ชอบหัวหน้านภดลแล้วเหรอ?”

“หมายความว่าไง?”

ปาณีรู้สึกอารมณ์ไม่ดี แล้วตอนนี้พัณณิตาก็มาถามแบบนี้อีก จึงอดไม่ได้ที่จะถามกลับไปประโยคหนึ่ง

พัณณิตาพูดขึ้นว่า “ถ้าคุณชอบหัวหน้านภดลแล้วทำไมถึงยังจะไปดูตัวอีก? ผู้ชายที่หล่อเหลาอย่างหัวหน้านภดลนี้ดีกว่าพวกผู้ชายข้างนอกที่ต้องพึ่งการดูตัวถึงจะหาแฟนได้เป็นร้อยเท่าเลยนะ”

ปาณีนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มขมขื่นขึ้นเล็กน้อย

ทำไมเธอถึงจะไม่รู้ว่านภดลนั้นหน้าตาดีมากล่ะ? แต่ว่าคนเขาไม่ชอบตัวเองนี่จะทำยังไงได้ล่ะ?

ว่ากันว่าผู้หญิงจีบผู้ชายนั้นง่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่เธอจีบมานานขนาดนี้แล้ว และรู้สึกว่าถึงจะกั้นไว้ด้วยภูเขาลูกหนึ่งก็น่าจะทลายลงมาได้แล้ว แต่นภดลกลับยังคงไม่มีการแสดงออกและการตอบสนองอะไร แล้วเธอจะทำยังไงได้อีก?

ถ้ายังยืนหยัดต่อไปก็จะกลายเป็นตื้อไม่ยอมเลิก และสิ่งที่เธอเกลียดที่สุดก็คือการตื้อไม่ยอมเลิกนี่แหละ

เฮ้อ!

ปาณีถอนหายใจอยู่ในใจทีหนึ่ง จากนั้นก็เก็บอารมณ์กลับเข้าที่ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เรื่องปัญหาความรู้สึกของนภดลนั้นฉันไม่สะดวกที่จะพูดอะไรมาก แต่ว่าตอนนี้มีภารกิจมาแล้ว ช่วยรวบรวมสติทั้งหมดมาไว้ให้ฉันดี ๆ ได้ยินหรือเปล่า?”

ตอนแรกพัณณิตานึกว่าปาณีจะปฏิเสธออกมา แต่ปรากฏว่าจู่ ๆ ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป จึงทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบใจมากนัก แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ จึงทำได้แต่พยักหน้า แล้วก็ในตอนนี้เอง อยู่ ๆ นภดลก็เดินย้อนกลับมาอีก

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท