แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1470 ที่ฉันนี่ไม่ต้อนรับคุณ

บทที่ 1470 ที่ฉันนี่ไม่ต้อนรับคุณ

ตอนที่นรมนได้ยินข่าวนี้นั้นหัวเราะจนเอวยืดตรงขึ้นมาไม่ได้เลย จนทำให้บุริศร์ตกใจจนหวาดระแวง และสีหน้าก็ขาวซีดขึ้นมาเลย

“อย่าหัวเราะ อย่าหัวเราะ ระวังร่างกายของคุณด้วย”

“ไม่เป็นไรค่ะ ลูกไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”

นรมนหัวเราะไปด้วยแล้วก็โบกมือไปด้วย จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “คุณว่านภดลทำไมถึงได้ซื่อขนาดนี้คะ?”

“มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่เขาเติบโตมาน่ะ ฉัตรยาเป็นคู่สร้างคู่สมกับเขามาตั้งแต่เด็ก ชอบเขาก็บอกกับเขาเลย โดยไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด และไม่ได้รู้สึกว่านี่คือความดีงามของผู้หญิง เพราะฉะนั้นจากที่นภดลดูแล้ว การชื่นชอบก็ต้องให้คนอื่นเป็นคนบอกกับเขา”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนอึ้งไปเล็กน้อย

“งั้นปาณีก็เคยบอกแล้วนี่คะ ตั้งแต่แรกปาณีก็บอกว่าชอบเขาแล้วนี่คะ”

“แต่ว่าต่อมานภดลได้ปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ? พอหลังจากที่ปฏิเสธแล้วปาณีก็ไม่เคยพูดอีกเลย ผมเดาว่า ปาณีไปที่เกาะร้างทำไมนภดลก็คงไม่รู้เรื่องหรอก แปดสิบเบอร์เซ็นต้องคิดว่าปาณีไปเพื่อฝึกฝีมือให้เก่งขึ้นจริง ๆ แน่”

การวิเคราะห์ของบุริศร์ทำให้ทั้งตัวนรมนรู้สึกไม่ดีขึ้นมาเลย

“คงจะไม่ได้ซื่อขนาดนี้จริง ๆ หรอกมั้ง?”

“หรือไม่คุณลองถามดูไหม?”

พอเห็นท่าทางภรรยาที่ไม่เชื่อแบบนี้ บุริศร์จึงอดไม่ได้ที่จะออกความคิดเห็นขึ้นมา แต่จริง ๆ ก็คืออยู่ในสภาพที่อยากจะดูอะไรสนุก ๆ มากกว่า

แล้วนรมนก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหานภดลจริง ๆ ด้วย

“นภดล นายรู้หรือเปล่าว่าทำไมปาณีถึงไปฝึกฝนบนเกาะร้าง?”

พอได้ยินคำถามของนรมน นภดลก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

“ทำไมครับ? หรือว่ายังมีสาเหตุอื่นอีกเหรอครับ?”

“นายรู้สึกว่าคือสาเหตุอะไรล่ะ?”

“ไม่ใช่เป็นเพราะรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอมาก แล้วไปฝึกฝนฝีมือสักหน่อยเหรอครับ?”

พอคำพูดนี้พูดออกไป นรมนก็มองบุริศร์อย่างรู้สึกนับถือมากขึ้นมาทันที และยังชูนิ้วโป้งออกมาให้เขานิ้วหนึ่งด้วย

แน่นอน คนที่เข้าใจผู้ชายมากที่สุดก็คือผู้ชายเอง

ตอนนี้นรมนรู้สึกโชคดีเป็นอย่างมากที่คนที่ตัวเองชอบนั้นไม่ใช้ผู้ชายซื่อบื้อแบบนภดล ไม่งั้นตัวเองจะหงุดหงิดขนาดไหนกัน

“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับปาณีใช่หรือเปล่าครับ?”

ในน้ำเสียงของนภดลแฝงไว้ด้วยความเป็นห่วงเสี้ยวหนึ่ง กลับทำให้นรมนทนทำใจไม่ได้บ้างแล้ว

“ถ้าหากฉันจะบอกนายว่าที่ปาณีไปฝึกฝนบนเกาะร้างก็เพื่อนายนั้น นายจะคิดยังไงกัน?”

“เป็นไปได้ยังไงครับ? ที่เธอฝึกฝนนั้นคือร่างกายของตัวเอง มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผมครับ?”

คำตอบของนภดลทำให้นรมนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว

“นายนี่โง่หรือเปล่าเนี่ย?”

อารมณ์ของนรมนพุ่งขึ้นมาทันทีเลย

เธอรู้สึกว่าปาณีนั้นช่างไม่ง่ายเลยจริง ๆ ทำไมถึงได้ชอบเจ้าท่อนไม้ใหญ่นี่เข้าได้นะ?

“ทำไมเหรอครับ?”

สิ่งที่น่าโมโหที่สุดก็คือนภดลยังไม่รู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปอีก และยังมาถามอย่างน้อยใจมากอีก

บุริศร์หัวเราะออกมาตรง ๆ เลย

เพราะว่าเปิดลำโพงเองไว้ เพราะฉะนั้นนภดลเองก็ได้ยินเสียงหัวเราะของบุริศร์ จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ประธานบุริศร์ก็อยู่ด้วยเหรอครับ”

“อืม อยู่ นภดล ที่จริงสมองที่ความคิดซื่อตรงของนายสามารถสลายไปหน่อยได้แล้ว”

บุริศร์พูดได้อย่างถนอมน้ำใจเป็นอย่างมาก

นรมนกลับรู้สึกว่านภดลไม่เหมาะกับการถนอมน้ำใจ แล้วก็พูดออกไปตรง ๆ เลยว่า “ที่ปาณีไปที่เกาะร้างก็เพื่อที่จะอยู่เป็นเพื่อนนาย อยู่เป็นเพื่อนนาย เป็นเพื่อนนาย! ฟังชัดเจนหรือยัง? ผู้หญิงที่อ่อนโยนคนหนึ่งจะไปฝึกฝนร่างกายทำไมกัน?”

“แต่ว่าคุณนายเองก็มีฝีมือเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ?”

นภดลรู้สึกไม่เข้าใจเท่าไหร่เลย

นรมนรู้สึกว่าไม่รู้จะพูดยังไงขึ้นมาทันที

“ที่ฉันมีฝีมือนั้นมันเป็นเรื่องจำเป็น”

“ปาณีก็เหมือนกันนี่ครับ”

คำพูดของนภดลทำให้นรมนรู้สึกไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงต่อไปดีแล้ว

บุริศร์รับโทรศัพท์ไป ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “นภดล ปาณีเป็นพยาบาลคนหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะว่าเธอชอบนาย ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาทำให้ชีวิตตัวเองเหนื่อยขนาดนี้เลย ทักษะของเธอสามารถทำให้เธอมีชีวิตที่ดีมาก ๆ ได้ ไม่มีการต่อสู้ ไม่มีการลอบทำร้าย อยู่อย่างเรียบง่ายไป แล้วหาหมอสักคนหรือใครคนอื่นแต่งงานมีลูก ก็จะมีความสุขมากได้ แต่เป็นเพราะว่ามาชอบนายเข้า เพราะฉะนั้นเธอถึงได้อยากจะเข้าใกล้นาย ถึงได้รู้สึกว่านายไปฝึกฝนบนเกาะร้างคนเดียวนั้นลำบากเกินไป เงียบเหงาเกินไป เพราะฉะนั้นถึงได้ไปอยู่เป็นเพื่อนนาย เป้าหมายของเธอไม่ใช่ต้องการไปฝึกฝนฝีมือ แต่คือหวังว่าบนเกาะร้างจะมีแค่พวกนายสองคนง่าย ๆ จะสามารถใกล้ชิดกันได้ สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ได้ สามารถกลายเป็นคนที่คนสนิทที่อยู่ข้างกายนายได้จริง ๆ”

หลังจากที่นภดลฟังจบแล้วก็นิ่งเงียบไปนาน นานจนนรมนนึกว่าเขาหลับไปแล้ว หรือว่าไม่อยู่แล้ว

“ตกลงนายยังฟังอยู่หรือเปล่าเนี่ย?”

คำพูดของนรมนทำให้นภดลค่อย ๆ ตั้งสติกลับมาได้

“ฟังอยู่ครับ แต่ว่ามันเป็นอย่างนี้จริง ๆ เหรอครับ?”

“งั้นจะเป็นยังไงได้ล่ะ? นายนี่โง่จริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย? โอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพังที่ปาณีตั้งใจสร้างขึ้นมาอยู่นาน แต่ตลอดระยะเวลานายกลับพูดกับเธอไม่ถึงสิบประโยค นายเป็นแบบนี้จะทำให้ปาณีนึกว่านายไม่มีความรู้สึกต่อเธอได้นะ น้ำที่เดือดมากแค่ไหนก็สู้พายุหิมะกระหน่ำไม่ได้หรอกนะ นภดล ทำไมปาณีถึงตอบตกลงกับฉันว่าจะไปนัดดูตัวนายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”

“เพราะอะไรครับ?”

เหมือนกับว่านภดลจะไม่เข้าใจจริง ๆ นรมนรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรโทรโทรศัพท์สายนี้จริง ๆ

บุริศร์มองดูท่าทางที่ใกล้จะระเบิดแล้วของภรรยา จึงได้แต่ยอมจำนนแล้วพูดชี้แนะต่อไป “เพราะว่าปาณีรู้สึกว่านายไม่มีความรู้สึกต่อเธอ ความพยายามทั้งหมดของเธออยู่ในสายตานายก็เป็นแค่ตัวตลกที่น่าเกลียดเท่านั้น เพราะฉะนั้นเธอก็เลยตัดสินใจที่จะไม่ชอบนายอีกแล้ว จะเก็บความชอบที่มีต่อนายกลับคืน แล้วก็เตรียมตัวที่จะไปใช้ชีวิตกับคนอื่นแล้ว”

เก็บความชอบที่มีต่อเขาคืนตัวอักษรพวกนี้กระตุ้นโดนนภดลแล้ว จู่ ๆ เขาก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา แล้วก็สนใจอะไรอย่างอื่นไม่ได้แล้ว และรีบวางสายโทรศัพท์ไป

พอนรมนได้ยินเสียงโทรศัพท์โดนวางสายไป แล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างโกรธเคืองเขาขึ้นว่า “เจ้านภดลนี่ควรจะเป็นโสดไปตลอดชีวิตเลย”

“เขาจะต้องคิดได้แน่ วางใจเถอะ”

“ฉันจะไปมีอะไรไม่วางใจกัน? ไม่ใช่ลูกชายของฉันซะหน่อย นี่ถ้าเป็นลูกชายของฉันนะ ฉันสามารถตีเขาให้ตายได้เลย”

คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

“งั้นผมจะต้องบอกกานต์แล้ว ว่าเป็นผู้ชายซื่อบื้อมากไม่ได้นะ”

“คุณวางใจเถอะ ลูกชายฉันไม่มีทางมีEQต่ำขนาดนั้นหรอก”

พูดถึงกานต์แล้ว อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกคิดถึงลูกชายขึ้นมาหน่อยแล้ว

“พูดแล้วพวกลูก ๆ ยังอยู่ทางนั้นอยู่ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง หรือไม่ไปรับกลับมาเถอะค่ะ?”

คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ค่อย ๆ ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

“คิดถึงพวกเขาแล้วเหรอ?”

“ค่ะ คิดถึง คิดถึงกมล คิดถึงกานต์ และก็คิดถึงกิจจาด้วย”

นรมนเบ้ปากขึ้นเล็กน้อย ถ้าไม่พูดยังไม่รู้สึกอะไร พอพูดแล้วความคิดถึงก็พรั่งพรูมาอย่างกับสายน้ำไหล จนทำให้เธอแทบอยากจะเห็นหน้าลูก ๆ ในวินาทีต่อไปเลย

“ที่บ้านใหญ่นี้เงียบสงบเกินไปแล้ว พวกลูก ๆ กลับมาแล้วอาจจะครึกครื้นขึ้นมาหน่อยก็ได้”

“ได้ เดี๋ยวผมให้วินเซนต์ส่งพวกเขากลับมา”

สำหรับข้อเรียกร้องของภรรยานั้นขอแค่มีมาบุริศร์ก็ต้องสนองทั้งนั้น

นรมนหัวเราะขึ้นมาทันที

นภดลกลับไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ พอวางโทรศัพท์แล้วก็คิดใคร่ครวญคำพูดของนรมนและบุริศร์อย่างละเอียดสักหน่อย จากนั้นก็กลับมาจากฐานอย่างรวดเร็ว แล้วก็ไปที่ห้องของปาณีเลย

เพราะว่าช่วงสองวันมานี้นภดลเป็นคู่ที่อยู่ในข่าวลือมาตลอด เพราะฉะนั้นในตอนที่คนรับใช้เห็นนภดลมาที่ห้องของปาณีอีกนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะมาเกาะแอบดูแอบฟังกัน

ตอนนี้ในหัวสมองของนภดลมีแต่คำพูดที่บุริศร์พูดว่าจะเก็บความชอบที่มีต่อเขาคืน เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ค่อยได้สนใจคนอื่นเท่าไหร่

เขาตบประตูห้องปาณีเล็กน้อย

“ใครคะ?”

ปาณีไม่ได้นอนมาทั้งคืน และโดนเรื่องของนภดลทำให้ปวดหัวจนจะระเบิด พอเปิดประตูมาก็เห็นนภดลยืนอยู่ตรงหน้าประตู เธอก็รีบปิดประตูลงอย่างตอบสนองอัตโนมัติ

พอนภดลเห็นภาพนี้แล้ว คิดก็ไม่คิดแล้วก็เอาเท้ายื่นเข้าไปขวางเลย จากนั้นก็ได้ยินเสียง“ตั๊บ”คำหนึ่ง ปาณีได้หนีบเท้าของนภดลเข้าแล้ว

“คุณนี่โง่หรือเปล่าเนี่ย? ฉันปิดประตูคุณไม่เห็นเหรอ? เอาเท้ายื่นเข้ามาทำไมเนี่ย?”

ปาณีรู้สึกสงสารขึ้นมาทันที แล้วก็รีบเปิดประตูออก

นภดลกลับไม่พูดอะไรเลยผลักประตูออกแล้วก็เดินเข้าไปเลย

“นี่ นี่ นี่ ฉันให้คุณเข้ามาแล้วเหรอ?”

“ปิดประตู”

น้ำเสียงของนภดลนั้นต่ำมาก เคร่งขรึมมาก แถมยังแฝงไว้ด้วยความข่มขู่เล็กน้อย

ปาณีอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้เชื่อฟังอย่างว่าง่ายเลย

พวกคนรับใช้พอเห็นว่าประตูปิดลงแล้ว ก็รู้สึกเสียดายขึ้นมาทันที

“ดูไม่ได้แล้ว ความเก็บเสียงก็ดีมากด้วย”

“ใช่ ทำไมพยาบาลปาณีถึงได้ปิดประตูลงอย่างเชื่อฟังขนาดนี้ด้วยนะ?”

พวกคนรับใช้ถอนหายใจกันแล้วก็ไปทำงานกันแล้ว

นภดลเข้ามาในห้องก็นั่งลงบนเตียงของปาณี

คนที่เป็นหมอกับพยาบาล ที่จริงยังไงก็รักเกลียดความสกปรกอยู่บ้าง โดยปกติแล้วปาณีค่อนข้างรังเกียจคนอื่นมานั่งเตียงตัวเอง แต่ว่านภดลมาห้องของเธอตั้งหลายครั้งแล้วก็นั่งลงไปด้วย ทำให้หัวคิ้วของเธอขมวดขึ้นเล็กน้อย แล้วก็พูดอะไรไม่ได้

นภดลเห็นหัวคิ้วของปาณีขมวดขึ้นมาทีหนึ่งอย่างไม่รู้สึกตัว แถมยังมองที่ที่เขานั่งอยู่ด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา

“ทำไม? นั่งไม่ได้เหรอ?”

“ไม่เป็นไร คุณนั่งไปเถอะ เดี๋ยวยังไงฉันค่อยเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ก็ได้”

ปาณีพูดไปตามใจ แต่กลับทำให้หน้าของนภดลขรึมลงมาทันที

“คุณรังเกียจผมมากขนาดนี้เลยเหรอ?”

“ฉันไปรังเกียจคุณที่ไหนกัน? ฉัน……”

“รังเกียจผมยังจะตามผมไปถึงเกาะ ไปฝึกฝนเป็นเพื่อนผมอีก?”

พอคำพูดนี้ของนภดลพูดออกมา หน้าของปาณีก็แดงขึ้นมาทันที

“คุณพูดไปเรื่อยอะไร?”

“พูดไปเรื่อยเหรอ? ที่คุณไปที่เกาะไม่ได้ไปเพราะผมเหรอ? คุณกล้าสาบานไหมล่ะ? สาบานถ้าคุณพูดโกหกละก็ ชาตินี้ก็ให้หาแฟนไม่ได้ ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปตลอดชีวิต”

ปาณีโดนทำให้สำลักขึ้นมาทันทีเลย

“นภดล คุณนี่ไม่อยากจะให้ฉันได้ดีเลยใช่ไหม?”

“ตกลงใช่หรือเปล่า?”

นภดลค่อนข้างยึดถือกับปัญหานี้อยู่เล็กน้อย อย่างกับว่าถ้ารู้ปัญหานี้แล้วก็จะทำให้รู้เรื่องอื่นแล้ว

ปาณีโดนเขาทำให้โกรธจนย่ำแย่แล้วย่ำแย่อีก แล้วก็พูดตรง ๆ ขึ้นว่า “ใช่ ใช่ ใช่ พอหรือยัง? คุณพอใจหรือยัง? ฉันปาณีก็คือคนชั่วช้าเอง ชอบผู้ชายคนหนึ่งแล้วทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้เข้าใกล้เขา แต่คนอื่นเขาล่ะ? ไม่ได้สนใจฉันด้วยซ้ำ แถมยังรู้สึกว่าการที่มีฉันอยู่ก็คือการขวางหูขวางตาอย่างหนึ่ง งั้นทำไมฉันถึงยังไม่รู้จักจำอีกล่ะ? คุณวางใจเถอะ เวลาที่ฉันฝันมานั้นนานมากพอแล้ว ตอนนี้ฝันก็ตื่นแล้ว จะไม่ไปเกาะเกี่ยวคุณอีกแล้ว เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปฉันรับรองว่าจะไปมาปรากฏตัวต่อหน้าคุณอีก แบบนี้ได้หรือยัง?”

“ไม่ได้”

จู่ ๆ นภดลก็รู้สึกว่าในใจมีอะไรบางอย่างโดนสั่นไหวแล้ว มันอ่อนนุ่ม มันอบอุ่น แต่กลับแฝงได้ว่าความสั่นไหวและตื่นกลัวเสี้ยวหนึ่ง

ปาณีคิดไม่ถึงว่าตัวเองพูดคำพูดมาจนถึงขั้นนี้แล้ว นภดลกลับยังแข็งกร้าวเช่นนี้อีก จึงอดไม่ได้ที่จะโกรธจนดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาเลย

“นภดล คุณอย่ามามากเกินไปนะ!”

พูดแล้วเธอก็มาถึงตรงหน้านภดล แล้วก็กระชากแขนเสื้อของนภดลไว้ทีหนึ่ง แล้วใช้แรงดึงเขา

“คุณออกไปเลยนะ! ที่ฉันนี่ไม่ต้อนรับคุณ!”

นภดลดึงตามมือของเธอตรง ๆ ทีหนึ่ง แล้วก็ดึงเธอเข้ามาอยู่ในอกเลย จากนั้นก็จูบที่ร้อนแรงก็ประกบเข้าไปเลย

ปาณีมึนงงไปทั้งตัวเลย

นี่ผู้ชายคนนี้ ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!

เขาจูบเธออีกแล้ว!

ดวงตาของปาณีลืมจนตาโตมาก แถมยังแฝงไปด้วยความโกรธเคืองเสี้ยวหนึ่ง

ถ้าไม่มีความรู้สึกต่อเธอก็อย่ามาก่อกวนเธอ จุดยืนของเธอไม่มั่นคงจริง ๆ นะรู้หรือเปล่า?

ถึงแม้ว่านภดลจะอยากจะจูบต่อไป แต่ว่าพอมองเห็นดวงตาโตคู่นั้นของปาณีจ้องมองตัวเองด้วยความโกรธจัดอยู่ ความตั้งใจที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนของเขาก็ยืนหยัดต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

พอปล่อยตัวปาณีออก นภดลก็ถอนหายใจอย่างไม่รู้ตัวทีหนึ่ง จากนั้นก็ลูบหัวปาณีอย่างรักใคร่ แล้วยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ทำไมถึงได้โง่ ถึงได้ไม่ฉลาดขนาดนี้นะ?”

ผู้ชายซื่อบื้อคนหนึ่ง เจ้าโง่คนหนึ่งกล้ามาหัวเราะเยาะว่าเธอโง่เหรอ? บนโลกใบนี้ยังมีสัจพจน์อยู่อีกไหม?

ปาณีโกรธจนก้มหน้าลงไป แล้วกัดเข้าที่หัวไหล่ของนภดลคำหนึ่ง ที่สำคัญถึงตายก็ไม่ยอมปล่อยออกด้วย

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท