“ตอนนั้นจิรารัตน์แทนตัวเองว่าด้วยสถานะแฟนของธเนศพล แล้วน้ำยังจะทำยังไงได้? ที่สำคัญจิรารัตน์ยังปิดบังเรื่องของน้ำกับธเนศพลไว้อย่างมิดชิดอีก และนั่นก็เป็นเจตนาของธเนศพลด้วย ตั้งแต่แรกตัวเขาก็ค่อนข้างเป็นจุดสนใจของคนอื่นอยู่แล้ว จำเป็นที่จะต้องให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาหันเหความสนใจของศัตรูที่มีต่อน้ำไป
โดยเฉพาะหลังจากเรื่องฆ่าคนไปแล้ว ธเนศพลก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น ว่าการบีบให้น้ำไปจากตัวเองนั้นเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้นสำหรับคนนอกแล้ว ธเนศพลกับจิรารัตน์ต่างหากที่เป็นคู่รักที่รักกันจริง ๆ แล้วตอนนั้นก็มีคนสังเกตเห็นน้ำแล้ว
เพราะฉะนั้นวิธีที่จะมีผลได้มากที่สุด ก็คือต้องให้น้ำแต่งงานกับคนอื่นไป แล้วตอนนั้นที่เบิร์ดสามารถแต่งงานกับน้ำได้ ก็ถือว่าธเนศพลได้เป็นแรงผลักดันอยู่เบื้องหลังแรงหนึ่งด้วย ผลักผู้หญิงที่ใจตัวเองรักออกไปให้กับผู้ชายอื่นเองกับมือ ความรู้สึกของธเนศพลในตอนนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นยังไง”
มีบางครั้งบุริศร์เคยลองไปคิดในมุมของเขาดูแล้ว ถ้าหากตัวเองอยู่ในตำแหน่งอย่างธเนศพลจะทำแบบนี้ด้วยหรือเปล่า แล้วคำตอบที่ได้ในตอนสุดท้ายคือไม่รู้
เพราะว่าบางครั้งคนเราถ้าไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนั้นนี่ไม่มีทางคิดหาทางออกได้หรอก มีเพียงแต่ถ้าชีวิตต้องตกอยู่ในอันตรายแล้ว ในตอนที่ไม่มีทางออกจริง ๆ ถึงจะทำการตัดสินใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ส่วนเขากับนรมนนั้นถึงแม้ความรักจะเกิดความยากลำบากบ้าง แต่ท้ายที่สุดก็ยังดีกันอยู่
นรมนเคร่งขรึมขึ้นมานิดหน่อยแล้ว
เธอเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน จึงสามารถเข้าใจความรู้สึกของน้ำได้ แต่ถ้าหากเธอเกิดตกหลุมรักผู้ชายที่ยิ่งใหญ่อย่างธเนศพลเข้า เธอคิดว่าสุดท้ายแล้วเธอก็คงจะจากไปเหมือนกันมั้ง
รักคนคนหนึ่งมันคือเรื่องหนึ่ง และเพื่อความรักแล้วจะไม่สนใจอะไรเลยมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าก่อนอื่นนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานที่ไม่ทำให้คนในครอบครัวแย่ไปด้วย แต่อย่างขอบน้ำนั้นมันไม่ใช่
ถ้าหากตอนนั้นเธออยู่ข้างกายธเนศพลต่อไป ยังคงรักธเนศพลอย่างเปิดเผยต่อไปแบบนั้น นั่นก็คือการให้ช่องโหว่ช่องใหญ่กับคู่แข่งของธเนศพลเลย เพราะว่าเธอน้ำเป็นจุดอ่อนของธเนศพล และตัวน้ำเองก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะมาปกป้องตัวเองและคนในครอบครัวด้วย
และเพราะความสัมพันธ์ของเธอ จึงมีความเป็นไปได้สูงมากว่าตระกูลพรรณโรจน์ที่เป็นตระกูลเก่าแก่มาเป็นร้อยปีอาจจะได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปในชั่วข้ามคืน ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นละก็ น้ำจะกลายเป็นคนบาปของตระกูลพรรณโรจน์ไปเลย
เพราะฉะนั้นเรื่องพวกนี้ไม่มีทางที่คนของตระกูลพรรณโรจน์จะไม่รู้ และเพื่อที่จะปกป้องตระกูลของตัวเองไว้ เรื่องบางเรื่องก็อาจจะเกิดขึ้นมาจากเงื้อมมือของคนตระกูลพรรณโรจน์เองก็ได้
สมองของนรมนหมุนวนไปอย่างรวดเร็ว
“บุริศร์ คุณว่าใครเป็นคนวางยากับน้ำกันคะ? จะเป็นคนของตระกูลพรรณโรจน์เป็นคนวางหรือเปล่าคะ? คุณเองก็เคยพูดแล้ว ว่าตอนนั้นฝีมือของน้ำก็ไม่เลว แต่พอธเนศพลโดนตัดสินโทษแล้ว น้ำก็โดนบังคับให้แต่งงานกับเบิร์ด ตอนนั้นทำไมเธอถึงเลือกเบิร์ดละคะ?
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเบิร์ดตามจีบเธออย่างเหนียวแน่นอยู่ งั้นอีกส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะว่าตระกูลพรรณโรจน์บีบคั้นหรือเปล่าคะ? เป็นเพราะว่าตระกูลพรรณโรจน์อยากจะเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลธีรกุลภักดีเหรอคะ?”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่ภรรยาของตัวเอง
เขารู้มาตลอดว่านรมนเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่มาวันนี้ก็ยิ่งภาคภูมิใจมากขึ้นไปอีก
“อืม คุณท่านของตระกูลพรรณโรจน์นั้นไม่เหมือนกับป้อง ป้องไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีของตระกูลใหญ่อะไรพวกนั้น ตัวเองก็เลยหนีออกมาจากวงล้อมของตระกูลพรรณโรจน์ แล้วก็ไปทำงานในโรงพยาบาลทหารกับโพนี่ และก็เป็นอิสรเสรีด้วย
ตอนแรกคุณท่านจิรเมธอยากจะให้ป้องเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งนายใหญ่ของตระกูลพรรณโรจน์ต่อไป แต่กลับโดนป้องปฏิเสธไป แต่ยังดีที่คนที่เขาชอบคือโพนี่ ซึ่งเบื้องหลังของโพนี่นั้นมีพ่อที่เป็นนายพลคนหนึ่งอยู่ ฉะนั้นถึงแม้ว่าคุณท่านจิรเมธจะไม่พอใจในตัวป้องนัก แต่ก็ทำได้แค่ลืมตาข้างหนึ่งและหลับตาข้างหนึ่งปล่อยให้ป้องไปมีชีวิตอย่างอิสรเสรีต่อไป แต่ว่าสำหรับคนอื่น ๆ ในตระกูลพรรณโรจน์มาพูดแล้ว นี่ก็คือโอกาสเลย”
บุริศร์นวดขมับเล็กน้อย ในฐานะที่เป็นลูกหลานตระกูลใหญ่นั้น เขาเข้าใจดียิ่งกว่าใครว่าการแก่งแย่งชิงดีในตระกูลนั้นน่ากลัวมากแค่ไหน เพราะว่าใคร ๆ ก็อยากจะปีนขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งนั้น เพราะฉะนั้นขั้นตอนที่สกปรกมากมายก็ต้องมีอยู่แล้ว
ในตอนนั้นน้ำต้องตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้น ไม่แน่คนในตระกูลพรรณโรจน์จะต้องรู้เรื่องราวของน้ำกับธเนศพลอยู่บ้างแน่ แล้วตอนนั้นธเนศพลก็โดนจับตัวไป คนทุกคนต่างก็รู้สึกว่าธเนศพลต้องจบเห่แล้วแน่ พอไร้ความหวังที่จะได้ขึ้นครองตำแหน่ง ก็อย่างที่คนเขาว่ากันว่าคนเราพอล้มแล้วก็จะมีคนมารุมซ้ำเติม
แต่ว่าที่สุดแล้วตระกูลพรรณโรจน์ได้ไปร่วมมือกับคู่คู่แข่งของธเนศพลหรือเปล่านั้นก็ไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่ว่าบุริศร์กลับเข้าใจดี ว่าพวกคนเจ้าเล่ห์ในตระกูลพรรณโรจน์พออยู่ภาคใต้สถานการณ์อย่างในตอนนั้น จะต้องคิดหาทุกวิถีทางมาทำให้ตระกูลพรรณโรจน์ห่างไกลจากธเนศพลแน่ ทางที่ดีที่สุดคือไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย เพราะฉะนั้นตอนนั้นที่น้ำตกลงแต่งงานนั้นเป็นเพราะว่าตัวเองยินยอมเองเหรอ? หรือว่าโดนคนตระกูลพรรณโรจน์บีบบังคับกันแน่?
นรมนเห็นว่าบุริศร์ก้มหน้าก้มตาครุ่นคิดอยู่ ก็รู้เลยว่าตัวเองถามโดนจุดสำคัญแล้ว
ถ้าหากว่าการคาดเดาของนรมนถูกต้อง งั้นพอน้ำแต่งงานกับเบิร์ดแล้ว คนที่บีบให้เบิร์ดวางยาก็ไม่แน่ว่าจะไม่ใช่คนของตระกูลพรรณโรจน์
พอคิดมาถึงสิ่งนี้ นรมนก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาหน่อยแล้ว
ความทุกข์ที่มากที่สุดของคนคนหนึ่งก็คือการทำร้ายจากญาติพี่น้อง ถ้าหากว่าคนตระกูลพรรณโรจน์เป็นคนวางยาพิษให้น้ำจริง ๆ งั้นจิตใจของน้ำจะเป็นยังไงบ้างนะ
พอคิดมาถึงตรงนี้ นรมนก็รีบถามขึ้นว่า “บุริศร์คะ ในตอนนั้นน้ำอยู่ในตระกูลพรรณโรจน์มีสถานะเป็นยังไงบ้างคะ?”
“สูงมาก ผมเคยบอกแล้ว ว่าน้ำเป็นทหารใต้บังคับบัญชาที่ดีที่สุดของผม ถึงป้องจะมีความสามารถ แต่ว่าเขาสังกัดหน่วยทหารแพทย์ เพราะฉะนั้นตอนนั้นถึงได้สามารถทำให้น้ำอยู่อย่างเป็นที่นิยมมากในตอนนั้น ความคล่องตัวของน้ำนั้นดีมาก ความยืดหยุ่นของร่างกายก็แข็งแกร่งมาก เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในหน่วยรบพิเศษ แต่กลับสามารถต่อสู้จนมีฝีมือสูสีกับผู้ชายทั้งหมดได้”
พอพูดถึงน้ำในอดีตอีกครั้ง บุริศร์ก็รู้สึกทอดถอนใจไม่หยุด คนที่มีความสามารถแบบนี้แต่กลับตกต่ำไปเช่นนี้
พอนรมนได้ฟังก็รู้แล้วว่าตัวเองคาดเดาได้ใกล้เคียงมาก
“ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ งั้นในเรื่องแย่งชิงตำแหน่งนายใหญ่ประจำตระกูลนั้น น้ำพอจะมีโอกาสไหมคะ?”
อยู่ ๆ บุริศร์ก็นิ่งอึ้งไปเลย แล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา
“คุณสงสัยว่าคนที่วางยาให้น้ำเป็นคนในตระกูลพรรณโรจน์เหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
นรมนก็ไม่ได้ปิดบังความคิดของตัวเองกับบุริศร์
“คุณลองคิดดูนะ ถ้าเกิดว่าตอนนั้นน้ำเป็นผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่งมากละก็ งั้นก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่อาจจะโดนคนลงมือลอบทำร้าย และในตอนนั้นธเนศพลก็โดนจับตัวไปแล้ว พูดจนสุดแล้วก็คือ ที่พึ่งของน้ำได้หายไปแล้ว ลงมือในช่วงเวลานั้นถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ไม่แน่เบิร์ดก็อาจจะเป็นลูกน้องของคนที่อยากจะแย่งชิงตำแหน่งนายใหญ่ประจำตระกูลในตอนนั้น เพราะฉะนั้นถึงได้ให้เขามาแต่งงานกับน้ำ ในเมื่อเอาน้ำมาเป็นลูกไก่ในกำมือได้ถึงจะทำให้คนวางใจที่สุด แล้วถ้าน้ำมีชีวิตที่ไม่ดี แน่นอนว่าก็คงจะไม่มีอารมณ์มาแย่งชิงตำแหน่งนายใหญ่ประจำตระกูลแน่ แล้วอีกอย่าง ถ้าหากน้ำไม่มีฝีมือการต่อสู้แล้ว ก็จะเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ? แน่นอนว่าก็ไม่มีความน่ากลัวอะไรอย่างอื่นแล้ว”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ครุ่งคิดหนักเลย
“ถ้าหากว่าคนตระกูลพรรณโรจน์เป็นคนวางยาพิษจริง งั้นทำไมถึงต้องทำให้เบิร์ดพิการด้วยล่ะ?”
นรมนพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เพราะว่าคนของตระกูลพรรณโรจน์กลัวว่าธเนศพลจะกลับมาผงาดอีกครั้ง ในเมื่อเขาเป็นองค์รัชทายาท ขอแค่ยังไม่ตายและมีลมหายใจอยู่เฮือกหนึ่ง แน่นอนว่าจะต้องออกมาจากคุกได้แน่ แล้วคนที่อยู่เบื้องหลังธเนศพลก็คือพระราชา การเข้าคุกครั้งหนึ่งก็แค่ทำให้เขาเติบใหญ่ช้าไปไม่กี่ปีเท่านั้น ไม่ได้เอาชีวิตธเนศพลสักหน่อย ถ้าหากธเนศพลยังเป็นห่วงเป็นใยน้ำอยู่
งั้นสำหรับตระกูลพรรณโรจน์แล้วก็จะมีก้างขึ้นมาชิ้นหนึ่งแน่ ถ้าพูดอย่างไม่น่าฟังสักประโยคหนึ่ง ถ้าเกิดมีวันหนึ่งธเนศพลได้ขึ้นไปนั่งบนตำแหน่งนั้นแล้ว ตระกูลพรรณโรจน์ก็จะกลายเป็นก้างขวางคอของธเนศพลแล้ว
ถ้าอย่างงั้นแน่นอนว่าตระกูลพรรณโรจน์ก็จะไม่มีทางได้พัฒนาต่อไปแน่ เพราะฉะนั้นการรักษาร่างกายของน้ำไว้จึงเป็นแผนสำรองของตระกูลพรรณโรจน์ ถ้าเกิดวันไหนธเนศพลได้ขึ้นครองราชย์ขึ้นมา ตระกูลพรรณโรจน์ก็จะสามารถเอาเรื่องน้ำมาแลกเปลี่ยนความเจริญรุ่งเรืองต่อไปของตระกูลพรรณโรจน์ได้ ไม่แน่เรื่องที่น้ำตั้งท้องอยู่ในตอนนั้น ก็คงจะโดนคนของตระกูลพรรณโรจน์รู้เรื่องแล้วก็ได้”
พอคิดถึงการคาดเดาแบบนี้ ดวงตาของนรมนก็ขรึมลงหลายส่วนเลย