นรมนกับบุริศร์มองหน้ากัน จากนั้นจึงถามว่า “ตอนนี้นายติดต่อพนออะไรนั่นได้หรือเปล่า”
“ได้!”
เบิร์ดพยักหน้า
เขาหยิบมือถือออกมาโทรหา พนอ แต่วันนี้คนที่โทรติดทุกครั้ง กลับโทรไม่ติดซะงั้น
เบิร์ดขมวดคิ้วเบาๆ
บุริศร์กับนรมนเริ่มคิดอะไรขึ้นมาในใจ
ดูเหมือนว่าพนอต้องมีอะไรแน่ๆ
“ไปสืบประวัติคนที่ชื่อพนอให้ฉันหน่อย”
บุริศร์ออกไปพูดกับคนข้างนอก เขาไม่ได้คิดปิดบังเบิร์ด ดังนั้นเมื่อบอดี้การ์ดข้างนอก เดินออกไปคนหนึ่ง บุริศร์จึงเดินกลับเข้ามา
เบิร์ดก็พอสัมผัสอะไรได้
“พนอไปทำอะไรผิดไว้หรือเปล่า”
“นายสนิทกับเขามากเหรอ นายรู้เรื่องของเขาทุกอย่างเลยเหรอ”
คำพูดของบุริศร์ทำให้ เบิร์ดเงียบไป จากนั้นจึงพูดเบาๆ ว่า “ระหว่างเราสองคน เรียกว่าความประทับใจดีกว่า เรื่องที่เขาทำอะไรนั้น ฉันได้ยินมาว่า เขาทำงานในบ่อนการพนันแถวนี้ เป็นคนเฝ้าบ่อนน่ะ แต่ทุกเดือน เขามักจะหายตัวไประยะหนึ่ง ฉันเคยถามเขา เขาบอกว่าบอสมีธุระกับเขา และไม่ให้ฉันถาม”
ตอนนั้น เบิร์ดไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าพนอหาเงินมาได้เยอะสักหน่อยก็ดี เพราะถ้าพนอมีเงิน จะได้ปรนนิบัติเขาดีๆ แต่พอมาคิดตอนนี้ กลัวว่าช่วงที่หายไป จะเป็นเรื่องไม่ดี
“บ่อนการพนันอะไร รู้ชื่อไหม”
“บ่อนการพนันฟ้ารวม อยู่แถวนี้”
คำพูดของเบิร์ด ทำให้นรมนเริ่มเข้าใจอะไรขึ้นบ้าง
“นายจะไปเหรอ”
“ไปดูสักหน่อย น่าจะดีกว่า ไม่แน่อาจเจอเจตต์ก็ได้”
บุริศร์มีความคิดนี้จริงๆ
ทว่านรมนส่ายหน้า และพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าอีกฝ่ายรู้จักเรา พวกเขารู้ว่าหน้าตานายเป็นยังไง ขืนนายไป ถือว่าเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น”
“งั้นจะทำยังไง”
“ให้ฉันไปไหม”
เบิร์ดพูดอย่างเอาจริง
บุริศร์มองเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายจะไปบอกความลับเหรอ”
“เปล่า พ่อแม่ฉันอยู่ในมือพวกนาย ฉันจะบอกความลับอะไรล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างฉันกับพนอแค่ประทับใจกันนิดหน่อย อีกอย่างเขามีเงินสนับสนุนฉัน เพราะฉะนั้นเราจึงรักษามิตรไมตรีกันมาตลอด ในเมื่อตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าน้ำเป็นคนของใคร ฉันรู้ว่าพวกเราไปล่วงเกินใครด้วย ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง”
ไม่พูดไม่ได้ว่า เบิร์ด เป็นคนทันเหตุการณ์ ตามทันทุกสิ่งทุกอย่าง
นรมนยังไม่วางใจ เธอหยิบขวดอันเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกง และเทยาเม็ดออกมาจากขวดหนึ่งเม็ด จากนั้นจึงส่งให้เบิร์ด และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “นี่คือยาพิษ แต่มียาแก้พิษ ถ้านายทำงานได้ดี ฉันจะเอายาแก้พิษให้นาย แต่ถ้านายหนี ก็ช่วยไม่ได้ นายก็รู้ ไม่มีความเชื่อใจระหว่างเรา คงทำได้เพียงแค่นี้ ถ้านายกลัว หรือมีวิธีอื่น นายก็ไม่ต้องกินมัน”
“ฉันกิน”
เบิร์ด กินยาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
บุริศร์กับนรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เบิร์ดลุกขึ้นเดินออกจากห้อง และเดินไปยังบ่อนการพนันฟ้ารวม
บุริศร์มองนรมน เขายิ้มแล้วพูดว่า “ทำไมผมไม่รู้ว่าคุณมียาพิษ”
“แหะๆ พี่จณัตว์ให้มาน่ะ มันคืออาหารเสริม”
นรมนพูดอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
บุริศร์หรี่ตาลง
ตอนนี้จณัตว์ยังไม่หายดีเหรอ จะกลับมาได้เมื่อไร
คอของปวีราต้องได้รับการผ่าตัดจากเขา
แต่บุริศร์ไม่ได้พูดออกไป เพราะกลัวนรมนจะคิดมาก
“พนอที่เบิร์ดพูดถึง เป็นใครกันแน่”
“ไม่แน่ใจ แต่อีกไม่นานน่าจะมีข่าว ถ้าผมเดาไม่ผิด เขาน่าจะเกี่ยวข้องกับขวัญชนกคุณท่านตระกูลพรรณโรจน์”
บุริศร์เริ่มรู้สึกว่าในห้องนี้ มีอะไรผิดปกติ ยิ่งคิดถึงเรื่องของพนอกับเบิร์ด เขารู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที
เขารีบดึงนรมนออกจากห้อง และออกมาสัมผัสแสงอาทิตย์ข้างนอก จึงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ”
นรมนไม่ได้ถามอะไร เมื่อเดินตามออกมา เธอก็นั่งลง
บุริศร์พูดเบาๆ ว่า “เรื่องบังเอิญบนโลกนี้มีมากมาย แต่เรื่องที่เข้ามาพร้อมกันสองสามเรื่อง นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เรียกว่า วางแผนมาแล้ว คุณคิดดูสิ ตอนขวัญชนกจัดการน้ำ บังเอิญเจอเหตุการณ์ที่ตระกูลธีรกุลภักดีมีเรื่องพอดี ต้องการแต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ เพื่อช่วยตระกูลธีรกุลภักดี อีกอย่าง แต่ไหนแต่ไร เส้นทางการเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์ ไม่เคยมีปัญหา แต่กลับมีปัญหาเพราะเรื่องของตระกูลธีรกุลภักดี อีกทั้งการแต่งงานของน้ำกับเบิร์ด ขวัญชนกวางยาเบิร์ด ทำให้เขาไม่สามารถเป็นชายได้ เรื่องนี้ผมคิดว่าไม่ใช่สไตล์ของขวัญชนก”
นรมนไม่ค่อยรู้จัก ขวัญชนก คุณท่านตระกูลพรรณโรจน์ ดังนั้นเธอจึงคิดไม่ออก กับสิ่งที่บุริศร์พูด
“นายรู้จักขวัญชนกเหรอ”
“เปล่า แต่ผมเคยได้ยินป้องพูด ถึงเขามีความกระตือรือร้นในเรื่องสาธารณประโยชน์ และชอบช่วยเหลือผู้อื่น ถึงขนาดที่อยากทำให้ตระกูลพรรณโรจน์ยิ่งใหญ่ แต่เพราะความกล้าหาญและจิตใจอันเหี้ยมโหดของคนๆ นี้ ยังไม่มั่นคงมากพอ ดังนั้นหลายปีมานี้ จึงทำได้เพียงย่ำอยู่กับที่ คนแบบนี้ทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลัง เรื่องของน้ำ เขาจัดการให้น้ำแต่งกับเบิร์ด อันที่จริงวิธีที่ดี ที่จะกำจัดน้ำออกจากการช่วงชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูลพรรณโรจน์ คือทำให้น้ำรัก และตั้งใจเป็นคุณนายน้อยของ เบิร์ด ถึงจะถูก แต่เขากลับให้คนทำลายเบิร์ด นี่เป็นการสร้างความขัดแย้งระหว่างน้ำกับเบิร์ด ไม่มีผลดีอะไรกับเขา”
เมื่อบุริศร์พูดจบ นรมนพูดขึ้นทันที “ขวัญชนกบอกว่าเกลียดน้ำไม่ใช่เหรอ”
“ผู้อาวุโสเกลียดคนเป็นเด็ก จะใช้วิธีที่เปล่าประโยชน์เช่นนี้เหรอ ยิ่งไปกว่านั้น แค่แย่งตำแหน่งหัวหน้าตระกูล ไม่ได้ถึงขั้นเกลียด ตั้งแต่เด็กน้ำเป็นความภูมิใจของตระกูลพรรณโรจน์ ถ้าขวัญชนกอิจฉาความสามารถของเธอ คงไม่รอให้น้ำมาแย่งตำแหน่ง แล้วค่อยลงมือหรอก สู้ฆ่าน้ำตั้งแต่เล็ก จะได้ไม่ต้องวุ่นวาย ไม่ดีกว่าเหรอ ดังนั้นเหตุผลนี้ค่อนข้างเหมาะสม อันที่จริงไม่สามารถตัดสินอะไรได้ แต่ขวัญชนกพูดว่า ทำแบบนี้ เพราะต้องการปกป้องน้ำกับลูก ในอนาคต ถ้าธเนศพลรู้ว่าพวกเขายังอยู่ คงเอาตัวพวกเขาให้ตระกูลพรรณโรจน์ เพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้น แต่ธเนศพลเป็นใคร ทำไมขวัญชนกจะไม่รู้ ถ้าธเนศพลรู้เรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ เขาจะมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ไหม ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขามีความคิดแบบนี้จริงๆ นี่ก็แปดปีแล้ว ทำไมถึงยังนิ่งไม่ไปหาธเนศพล เพื่อแลกกับผลประโยชน์ล่ะ แต่กลับไล่น้ำไปต่างประเทศ ไม่ให้เธอพบปะกับใคร นี่มันขัดแย้งกันไม่ใช่หรือไง”
เมื่อได้ยินบุริศร์พูด นรมนเริ่มคิดว่ามีเหตุผล
“ดังนั้น ขวัญชนกอาจเกี่ยวข้องกับพนอ หรือไม่ก็คนที่ชื่อทวีพ่อบ้านปลอมๆ ของตระกูลปวนะฤทธิ์ใช่ไหม”
“ถูกต้อง”
แววตาของบุริศร์เคร่งขรึม เขาพูดว่า “นรมน คนที่ชื่อทวีอาจรู้จักกับนิวัฒน์หรือเปล่า”
“นิวัฒน์เหรอ”
นรมนนึกถึงพ่อแท้ของๆ เทย่า ถ้าพูดกันตามอายุ ตอนนี้เขาน่าจะอายุประมาณเจ็ดสิบกว่าปี รุ่นราวคราวเดียวกับคุณท่านตนุวร
ดังนั้น ทวีที่เบิร์ดพูดถึง อายุประมาณห้าสิบกว่าปี ไม่แน่ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับนิวัฒน์
“แต่ตอนนี้เราหาเขาไม่เจอ”
“ไม่เป็นไร เบิร์ดเคยเจอ เดี๋ยวค่อยให้เขาอธิบายลักษณะให้ฟัง แล้วให้คนสเก็ตภาพออกมา จากนั้นหาประวัติของทวีบนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าเป็นคนหรือผี ครั้งนี้ผมต้องจับพวกเขาให้ได้”
ช่วงนี้บุริศร์ก็ยุ่งมาก ตอนนี้ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ของเขา คือทำให้ภรรยาและลูก ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ปัญหาที่หลงเหลืออยู่ ล้วนเกี่ยวข้องกับเขา ไม่ก็นรมน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก
เมื่อนรมนได้ยินที่บุริศร์พูด เธอก็รู้สึกโล่งอกไม่น้อย
“อืม หลายเรื่องเกี่ยวข้องกับนิวัฒน์ ไม่แน่ตอนนั้นฉัตรพลกับสมชัย อาจเจรจากับเขาก็ได้ ขอแค่หาตัวเขาเจอ เรื่องก็จะง่ายขึ้นมาก”
“คุณไม่ต้องคิดมาก เราอยู่ในที่โจ่งแจ้ง เขาอยู่ในที่มืด อยากสืบเรื่องเขาทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้เราทำได้เพียงทำไปทีละขั้น หวังว่าเจตต์กับขวัญตาจะปลอดภัย”
นรมนพยักหน้า “ใช่ ภาวินีเอาปืนให้ฉัน ไม่รู้ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง เธอผอมกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก ผอมจนตาโหล”
“ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามักจะผอม”
บุริศร์รู้ว่านรมนเอาแต่โทษตัวเอง เรื่องขวัญตามาโดยตลอด อันที่จริงๆ ใครๆ ก็รู้ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด ความรู้สึกที่เจตต์มีให้นรมนในตอนแรก ไม่มีใครสามารถห้ามได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้กลายเป็นปมในใจ จนทำให้ขวัญตาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เบิร์ดยังไม่กลับมา ส่วนคนที่ออกไปสืบเรื่องพนอกลับมาแล้ว
“ได้ข่าวแล้วครับคุณชายบุริศร์”
“เอามาให้ฉันดูหน่อย”
บุริศร์เอาเอกสารมา นรมนชะโงกหน้าเข้ามาดู
“อรอุรชาเหรอ”
เมื่อเห็นชื่อที่คุ้นเคย นรมนอดอ่านชื่อออกมาไม่ได้
“พนอคือลูกพี่ลูกน้องของอรอุรชาเหรอ”
นรมนถึงกับใจหายวูบ
ตอนนั้นจำได้ว่าอรอุรชาตามจีบเจตต์อย่างสุดชีวิต ถึงกระทั่งให้เธอไปพูดดีต่อหน้าเจตต์ ต่อมาขวัญตาแย่งเจตต์ไปอย่างโหดร้าย
เพราะฉะนั้น ตอนนี้พนอคือลูกพี่ลูกน้องของอรอุรชางั้นเหรอ
งั้นแสดงว่าการที่เจตต์โดนลักพาตัวไป ต้องเกี่ยวข้องกับพนอ เพราะตอนนั้นอรอุรชาใช้ตัวตนที่เธอได้รับทุนช่วยเหลือ เขาไปใกล้ชิดกับพวกเศรษฐีบางคน เพื่อเก็บข้อมูล
แม้ตอนนี้อรอุรชาตายไปแล้ว แต่นรมนยังโกรธมาก
“ตระกูลศิริโภคร้ายกาจจริงๆ อรอุรชาต้องเอาข้อมูลของเจตต์ให้พนอแน่นอน เจตต์ถึงได้โดนลักพาตัวไป”
“อาจจะไม่ใช่เพราะเหตุนี้ทั้งหมด”
บุริศร์ขมวดคิ้วเบาๆ
“ถ้าพนอเกี่ยวข้องกับคดีของน้ำในตอนนั้น เป็นเรื่องเมื่อแปดปีก่อน แต่เมื่อแปดปีก่อนอรอุรชายังไม่ได้เจอเจตต์ ดังนั้นในเรื่องนี้ เราอาจจะพลาดอะไรบางอย่างไป”
นรมนขมวดคิ้ว
“เมื่อแปดปีก่อน อรอุรชายังเป็นนักเรียนมัธยมต้น”
“ไปสืบเรื่องตอนมัธยมต้นของอรอุรชา ฉันต้องการข้อมูลทั้งหมด รวมถึงพนอด้วย แปดปีก่อนเขาทำอะไร อยู่ที่ไหน รู้จักกับใครบ้าง”
บุริศร์ออกคำสั่ง บอดี้การ์ดออกไปอีกครั้ง
นรมนรู้ ตอนนี้ข้อมูลในมือพวกเขาไม่เยอะ อยากหาเจตต์กับขวัญตา ต้องเข้าทางสองพี่น้องตระกูลศิริโภค
ตอนแรกคิดว่าการตายของอรอุรชาไม่สำคัญ เป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่คิดไม่ถึงว่าเธอยังมีคนอยู่เบื้องหลัง
จู่ๆ นรมนนึกขึ้นมาว่าคนๆ นี้จิตใจซับซ้อน สังคมโหดร้าย เธอจึงเอียงตัวพิงบุริศร์