แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1550 ผมสามารถปฏิเสธได้ไหม

บทที่ 1550 ผมสามารถปฏิเสธได้ไหม

“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่อยากจะซื้อของกินให้หม่ามี้สักหน่อย ถ้าช่วงนี้หม่ามี้ยังไม่ไปไหน งั้นผมก็จะส่งไปให้ที่นั่นนะครับ”

คำพูดของกานต์ทำให้นรมนรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาไม่หยุด

“โอ้โห ลูกชายของฉันจะซื้อของให้ฉันกินแล้วเหรอ? หม่ามี้ซาบซึ้งมากจริง ๆ เลย”

บุริศร์กลับมาถึงพอดี พอได้ยินนรมนพูดแบบนี้ก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อยเลย

สังคมสมัยนี้ไม่เพียงแต่ต้องระวังผู้ชายข้างนอก หรือว่ายังต้องคอยระวังเจ้าลูกชายที่ตัวเองทำให้เกิดมาอีกเหรอ?

“แกไม่ต้องซื้อหรอก เงินที่แกเอามาซื้อก็เป็นเงินที่ฉันให้ไม่ใช่เหรอ? หม่ามี้ของแกมีฉันอยู่ ถ้าอยากจะกินอะไรฉันจะซื้อให้เธอไม่ได้เหรอ?”

พอคำพูดแบบนี้ของบุริศร์พูดออกมา นรมนก็ไม่ชอบฟังขึ้นมาทันทีเลย

“คุณอย่ามาโจมตีลูกชายของฉันนะ”

“ที่ผมพูดเป็นความจริง คุณเป็นเมียผม ถ้าอยากจะกินอะไรผมซื้อให้คุณไม่ได้เหรอ? ยังต้องให้เขามาซื้อเหรอ?”

น้ำเสียงที่หึงหวงสุด ๆ แบบนี้ของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกอยากจะกระทืบเท้าเลย

กานต์เองยิ่งหดหู่

ดูซิ นี่ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ซื้อของกินอร่อยให้หม่ามี้นะ แต่เป็นเพราะว่ามีแด๊ดดี้ที่ชอบหึงหวงแบบนี้ไง เขาเองก็รู้สึกเบื่อหน่ายมากจริง ๆ

“เงินที่ผมใช้เป็นเงินของผม เงินของตัวผมเอง”

กานต์อดไม่ได้จึงต้องแสดงตัวสักหน่อย

“แกเจ้าเด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่งจะไปมีเงินได้ยังไงกัน?”

บุริศร์ไม่เชื่อหรอก และที่สำคัญตอนนี้จำเป็นที่จะต้องข่มความอยากซื้อของลูกชายลงด้วย ไม่งั้น ต่อไปถ้าเขามาซื้อให้ภรรยามากเกินไป ตำแหน่งของตัวเองที่อยู่ในใจภรรยานั้นก็ยังจะเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดอีกเหรอ?

กานต์พูดขึ้นอย่างโกรธจัดว่า “ตอนนี้ผมมีเงินเดือนแล้วนะครับ คุณอาธเนศพลทำให้ผมได้เข้าสู่สถานภาพการเป็นทหารแล้ว ตอนนี้ผมมีเงินเดือนแล้ว”

“เฮ้ย ทำไมเรื่องนี้ฉันถึงไม่รู้เรื่องล่ะ?”

บุริศร์รู้สึกหมดคำพูดเล็กน้อย

“เรื่องที่คุณไม่รู้ยังมีอีกเยอะครับ”

กานต์ขี้เกียจที่จะพูดกับผู้ชายคนนี้แล้ว แล้วก็พูดกับนรมนโดยตรงเลยว่า “หม่ามี้ เดี๋ยวหม่ามี้อย่าลืมรับพัสดุนะครับ”

“ได้จ้ะ”

ใจดวงนี้ของนรมน รู้สึกอบอุ่นอย่างมาก ว่ากันว่าเด็กผู้หญิงเปรียบเสมือนเป็นเสื้อกันหนาวของแม่ แต่ลูกชายคนนี้ของเธอนั้นเป็นเสื้อขนมิ้งเลยนะ และอบอุ่นเป็นอย่างมาก

พอเห็นว่ากานต์วางสายไปแล้วแต่นรมนยังถือโทรศัพท์ด้วยท่าทางที่ใบหน้าเต็มไปด้วยซาบซึ้งอยู่ บุริศร์ก็รู้สึกว่าตัวเองลำบากมากเลยจริง ๆ

แค่เด็กตัวเหม็นคนหนึ่งก็เป็นอย่างนี้แล้ว ต่อไปเจ้าเด็กตัวเหม็นสี่คนมาเอาใจหม่ามี้ของพวกเขาพร้อมกัน แล้วเขาจะยังมีพื้นที่เหลือให้ซะที่ไหน?

ทำไมถึงได้คลอดเจ้าเด็กตัวเหม็นสี่คนออกมาได้นะ?

“โทรศัพท์ก็วางไปแล้ว ก็แค่ซื้อของกินอร่อยให้คุณหน่อยไม่ใช่เหรอ? ผมซื้อให้คุณน้อยไปเหรอ? ไม่เห็นว่าคุณจะทำดีกับผมแบบนี้บ้างเลย”

ความหึงหวงของบุริศร์นี่ช่างเหลือเกินจริง ๆ

นรมนรู้สึกอยากจะหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย

“นั่นมันเหมือนกันที่ไหน? นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกชายซื้อของให้ฉันอย่างจริงจัง คุณจะมาหึงทำไม? โตเป็นผู้ใหญ่หน่อยได้หรือเปล่าคะ”

“ไม่ได้”

ตอนนี้บุริศร์ไม่สนใจภาพพจน์อะไรแล้ว การแย่งเป็นที่รักถึงจะสำคัญที่สุด

อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกว่าบุริศร์ที่เป็นแบบนี้น่ารักที่สุดเลย

หลังจากที่กานต์วางสายไปแล้วก็ได้สั่งของทางออนไลน์เลย และได้ซื้อมะม่วงให้นรมนไปกล่องหนึ่ง

หม่ามี้ชอบกินมาก พวกเขาทั้งหมดต่างก็แพ้มะม่วง ก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องที่จะมีใครมาขโมยกินเลย

เป็นแบบนี้ก็ยิ่งดี

หลังจากที่กานต์ซื้อเสร็จแล้วมุมปากก็คลี่ยิ้มขึ้นเล็กน้อย

ชมพูจ้องมองการกระทำของกานต์มาตลอด จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย

“นายกับแด๊ดดี้ของนายนี่มีความสัมพันธ์ดีกันจริง ๆ”

“อืม”

ถึงแม้ว่ากานต์กับบุริศร์จะชอบพูดแขวะกันบ่อย ๆ แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธว่าตัวเองกับคุณบุริศร์นั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก

ดวงตาของชมพูหรี่ต่ำลงเล็กน้อย

“นี่คือความรู้สึกของพ่อแท้ ๆ เหรอ?”

กานต์อึ้งไปเล็กน้อย

“วิธีการอยู่ด้วยกันของทุกคนมันไม่เหมือนกัน บางทีคุณอาธเนศพลอาจจะรักและเอาใจใส่เธอมากก็ได้ อย่าคิดมากเลย พวกเราไปที่รถแล้วเล่นเกมอีกสักหน่อยดีกว่า”

“ได้”

ชมพูตามกานต์ไปที่รถแล้ว ธเนศพลเองก็เดินออกมาแล้ว

ตอนที่วิสุทธิ์เห็นธเนศพลออกมาก็รีบเดินเข้าไปหา

“จะเอายังไงต่อครับ? ตอนนี้น้ำยังกลับเมืองหลวงไปกับคุณไม่ได้นะ เรื่องงานแต่งที่พระราชาจัดแจงไว้ให้คุณก็จะประกาศออกมาในไม่กี่วันนี้แล้ว ทั้งสองตระกูลได้ตกลงกันไว้แล้ว ถ้าจู่ ๆ เธอกลับไปละก็……”

“ความหมายของนายคือให้ฉันไม่ต้องสนใจพวกเขาแม่ลูกเหรอ?”

ใจของธเนศพลอดกลั้นจนว้าวุ่น พอตอนนี้มาได้ยินวิสุทธิ์พูดแบบนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะมีท่าทีเยือกเย็นลงหลายส่วน

วิสุทธิ์เองก็รู้ว่าในเวลาแบบนี้จะไม่สนน้ำก็ไม่ได้ แต่พอนึกถึงสถานะของธเนศพลในตอนนี้ เขาก็ต้องพูดขึ้นว่า “คุณเองไม่คิดถึงสถานะของคุณในตอนนี้บ้างเหรอ? ยังไงตอนนี้น้ำก็ยังเป็นภรรยาของเบิร์ดอยู่ ไม่ว่าคุณจะยินดีหรือไม่ ถ้าเกิดคุณทำเกินเลยไป แล้วถ้าเบื้องล่างเกิดร้องเรียนขึ้นมา ว่าคุณใช้อำนาจข่มเหงแย่งเมียคนอื่น เส้นทางนี้ก็จะไม่สามารถคว้าไว้ได้แล้วนะครับ”

“ทำไมจะต้องคว้าด้วย? ฉันมีสถานะอะไร?”

อารมณ์ที่อดกลั้นไว้ของธเนศพลระเบิดออกมาทันที

“เมื่อก่อนเป็นเพราะว่าสถานะของฉัน ฉันถึงต้องผลักเธอออกไป เพื่อที่จะปกป้องเธอ ฉันต้องทนดูเธอแต่งงานกับคนอื่นไปเฉย ๆ แต่ปรากฏว่าเธอมีชีวิตยังไงบ้างล่ะ? แล้วตัวฉันเองล่ะเป็นยังไงบ้าง? หลายปีมานี้ทุกครั้งที่นอนหลับฝันในตอนกลางคืนนั้น สิ่งที่ฉันคิดถึงมีแต่เรื่องราวในอดีตของเราทั้งนั้น มาวันนี้นายก็มาบอกว่าสถานะในปัจจุบันกับฉันอีก ชาตินี้จะมีเวลาแปดอีกกี่ครั้ง? นายเห็นลูกสาวของฉันไหม? นายดูความแตกต่างระหว่างแกกับกานต์ดูซิ!”

วิสุทธิ์รู้สึกทุกข์ใจเล็กน้อย เขาเข้าใจความในใจของธเนศพลในตอนนี้ดี

“ธเนศพล ผมก็แค่พูดไปเฉย ๆ เท่านั้น ถ้าคุณอยากจะทำอะไรจริง ๆ ผมก็จะต้องตามคุณไปด้วยแน่”

อารมณ์ของธเนศพลได้ผ่านการระบายไปรอบหนึ่ง ยังไงก็ผ่อนคลายลงไปหลายส่วนแล้ว

“ฉันต้องการให้เบิร์ดตาย!”

ดวงตาของธเนศพลเปล่งประกายแสงเย็นยะเยือกออกมา

กล้าแตะต้องผู้หญิงของเขา กล้าทรมานลูกสาวของเขา จะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่หนักหน่วงแน่ เมื่อก่อนเขาไม่รู้ก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้รู้เรื่องแล้ว จะต้องไม่มีทางให้อภัยอีกแน่

“แต่ว่า……”

วิสุทธิ์อยากจะพูดว่า ตอนนี้มีคนจ้องเขาอยู่มากขนาดนี้ การกระทำทุกอย่างของเขาจะต้องโดนจับตามองอยู่ ถ้าเกิดตอนนี้ทำให้เบิร์ดตายไป ผลที่ตามมาไม่ค่อยดีแน่ แต่เขาก็รู้จักนิสัยของธเนศพลดี ถ้าไม่ทำให้เบิร์ดตายในใจของเขาจะต้องไม่สบายใจแน่

ธเนศพลรู้ว่าวิสุทธิ์อยากจะพูดอะไร แล้วก็หายใจออกยาว ๆ ทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวฉันจะโทรหาเจ้าบุริศร์สายหนึ่ง เรื่องนี้จะต้องให้เขาเป็นคนมาจัดการ”

อยู่ ๆ วิสุทธิ์ก็หัวเราะขึ้นมาเลย

ตอนนี้บุริศร์ไม่มีเรื่องอะไรตัวเบาสบายอยู่ แน่นอนว่าจะต้องไม่มีใครมาจ้องเขาอยู่แล้ว และอีกอย่างเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้เขายังบริจาคเงินเยอะขนาดนั้นและศูนย์วิจัยด้วย ตอนนี้ถึงแม้ว่าพระราชาจะยังคงเกรงกลัวเขา แต่ก็จะต้องสร้างภาพด้วย จึงได้ถอนคนที่เฝ้าสังเกตการณ์ทั้งหมดออกไปก่อน เพราะฉะนั้นในเวลาแบบนี้ไม่ว่าบุริศร์จะทำเรื่องอะไรก็เป็นอิสระมากจริง ๆ

“เจ้าบุริศร์จะต้องด่าคุณตายแน่”

ธเนศพลนึกถึงภาพบุริศร์กระทืบเท้า แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมาเลย

“ไม่เป็นไร ถ้ายังไงต่อไปฉันให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายของเขาก็ได้”

วิสุทธิ์หัวเราพรืดออกมาคำหนึ่ง

ในตอนที่บุริศร์ได้รับโทรศัพท์สายนี้จากธเนศพลนั้น ก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองมือบอนไปกดรับสายเข้า เขาควรจะปิดเครื่องโทรศัพท์ไปเลย

แต่ละคนนั้น ช่างกลัวว่าตัวเองกับภรรยาจะอยู่กันว่างเกินไปใช่ไหม?

“ไม่เอา!”

บุริศร์ปฏิเสธไปโดยตรงเลย

ธเนศพลกลับพูดขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์มากว่า “งั้นฉันก็จะลองไปคิดดูว่าวันหยุดประจำปีของกานต์จะเอามาฝึกฝนพิเศษดีไหมนะ”

“ธเนศพล คุณนี่มันชั่วช้าจริง ๆ!”

บุริศร์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามีวันหนึ่งจะโดนคนอื่นข่มขู่เพราะว่ากานต์ได้

เขาพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “นี่คุณตอบแทนบุญคุณด้วยการแก้แค้นเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าผมกับภรรยา ตอนนี้คุณก็ยังไม่รู้เลยว่าน้ำจะมีความเป็นอยู่ยังไง ยังสามารถมีลูกสาวที่โตขนาดนี้แล้วคนหนึ่งอีกเหรอ?”

ใจของธเนศพลเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่าก็ยังพูดขึ้นว่า “ใช่ซิ และก็เพราะอย่างนี้คุณถึงต้องทำความดีทำให้ถึงที่สุดซิ ทำแล้วก็ต้องทำต่อไปซิ เรื่องนี้คนรู้ยิ่งน้อยยิ่งดี และเบิร์ดก็เคยเห็นหน้าคุณแล้ว แค่คุณออกหน้าแล้วให้เขาคิดว่าคุณเป็นผู้ชายของน้ำก็พอแล้ว ในเมื่อเขากระโดดออกจากกำมือคุณไม่ได้อยู่แล้ว”

บุริศร์อยากจะร้องไห้ขึ้นมาแล้วจริง ๆ

“คุณชายธเนศพล คุณคิดว่าเบิร์ดเป็นคนโง่เหรอ? และที่สำคัญเรื่องนี้ขวัญชนกก็รู้เรื่องด้วย ถ้าทางนี้ผมแตะต้องเบิร์ดไป แล้วทางด้านขวัญชนก……”

“ตระกูลพรรณโรจน์จะหายไปหมดภายในหนึ่งชั่วโมงให้หลังนี้ สำหรับขวัญชนกนั้น ในเมื่อกล้าวางกับดักใส่ผม งั้นก็ต้องเตรียมรับมือกับการแก้แค้นของผมไว้ให้ดี”

เสียของธเนศพลเย็นจนเหมือนกับว่าเล็ดลอดออกมาจากอุโมงค์น้ำแข็งยังไงอย่างงั้น

ถึงแม้ว่าจะคิดไว้ตั้งนานแล้วว่าตระกูลพรรณโรจน์จะต้องจบสิ้น แต่ก็คิดไม่ถึงว่าธเนศพลจะเฉียบขาดขนาดนี้ ไม่ลังเลเลยสักนิด

“คุณท่านจิรเมธยังอาการโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย คุณแตะต้องตระกูลพรรณโรจน์ในเวลาแบบนี้มันคงไม่ดีเท่าไหร่มั้ง?และที่สำคัญป้องเขา……”

“ไหนป้องโดนตัดชื่อออกจากตระกูลพรรณโรจน์แล้วไม่ใช่เหรอ? อย่านึกว่าผมไม่รู้นะว่าคุณท่านจิรเมธคิดยังไงอยู่ นี่คือการเอาทั้งตระกูลมาแลกกับอนาคตที่สดใสอย่างเดียวของป้อง ในเมื่อทุกคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจแล้ว งั้นก็ไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากแล้ว และอีกอย่างถึงเขาจะรอดชีวิตกลับมาได้ แล้วฉันพังตระกูลพรรณโรจน์ไป ลมหายใจเฮือกหนึ่งของเขายังไม่รู้เลยว่าจะสามารถผ่อนลงมาได้ไหม มาแหย่โดนฉันเจ้าจิ้งจอกเฒ่าตัวนั้นก็น่าจะคิดการณ์ทุกอย่างไว้ดีหมดแล้ว”

คำพูดของบุริศร์ยังพูดไม่จบ ก็โดนธเนศพลพูดขัดไปแล้ว

เขาเองก็ไม่เกรงใจ แล้วก็เอาเรื่องที่รู้อยู่แก่ใจแต่ไม่พูดออกมาพวกนั้นพูดออกมาจนหมดเลย

พูดกันจนมาถึงขั้นนี้แล้ว บุริศร์ยังจะพูดอะไรได้อีกล่ะ เขาเพียงแต่แค่รู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่ตัวเองมือบอน ไม่ควรช่วยชมพูเด็กคนนั้นไว้เลย พอมาตอนนี้ดีเลย เขาโดนหมายหัวไว้แล้ว?

“ผมสามารถปฏิเสธได้ไหม?”

“ไม่ได้! ในเมื่อคุณเองก็จะอยู่ท่องเที่ยวที่นี่ต่อ ก็รวดจัดการเรื่องนี้ไปด้วยเลย ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นที่ของอรรณพอีกด้วย จะต้องให้คุณลงมือเองหรือเปล่ายังไม่แน่เลย คุณจะมาน้อยใจทำไมกัน”

คำพูดของธเนศพลตรงมาก กลับทำให้บุริศร์โกรธจนหัวเราะเลย

“คุณชายธเนศพลคุณนี่ช่างเหลี่ยมจัดเยอะจริง ๆ แม้แต่อรรณพคุณก็ยังจะหลอกใช้ไปด้วยเลยเหรอ? คุณเชื่อหรือเปล่าเดี๋ยวผมจะบอกความคิดของคุณให้เขารู้ซะ ให้เขาร่วมมือกับศัตรูข้างนอกมาทำให้คุณตายไปเลย”

“ถ้าผมตายไปคุณก็ไม่มีร่มโพธิ์ร่มไทรแล้วละซิ และที่สำคัญคุณก็ทำใจไม่ได้ด้วย?”

ท่าทางที่เจ้าเล่ห์ของธเนศพลนี้ช่างน่าต่อยจริง ๆ เลย

บุริศร์พูดขึ้นอย่างโกรธจัดว่า “ผมจะไปมีอะไรทำใจไม่ได้กัน? คุณไม่ได้เมียผมสักหน่อย”

“แต่ผมเป็นพี่น้องของคุณ”

พูดจบธเนศพลก็วางสายไปเลย

พอบุริศร์ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ก็พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ฉันนี่ซวยไปแปดชาติแล้ว มาเป็นพี่น้องกับนายนี่”

นรมนรู้สึกว่าพอบุริศร์ปลดประจำการมาแล้วอารมณ์ก็ค่อย ๆ รุนแรงขึ้นเหมือนกัน และที่สำคัญก็ไม่มีความเคารพนอบน้อมต่อธเนศพลเหมือนอย่างเมื่อก่อนแล้วด้วย แต่กลับคบกันเหมือนกับเป็นพี่น้อง เธอพูดไม่ได้ว่าแบบนี้ดีหรือว่าไม่ดี แต่ก็กลัวว่าบุริศร์จะโกรธขึ้นมาจริง ๆ เหมือนกัน

“เรื่องนี้คุณกะว่าจะยื่นมือเข้าไปแทรกยังไงคะ? ถึงแม้ว่าเบิร์ดจะถือว่าเป็นอากาศธาตุไม่ได้ ตระกูลธีรกุลภักดี​ก็ล้มละลายไปแล้ว แต่ว่าฉันมักจะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”

“คุณเองก็รู้สึกแล้วเหรอ?”

บุริศร์ถอนหายใจทีหนึ่งแล้วพูดขึ้น “ผมก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ง่าย ก็เลยพาคุณหนีมาก่อนที่ธเนศพลจะมาถึง แต่คิดไม่ถึงว่าไป ๆ มา ๆ จะมา จะกลับมาถึงมือผมได้อีก หรือว่าเราสองคนปิดเครื่องโทรศัพท์ไปให้หมด แล้วไม่ต้องสนใจอะไรเลย ตอนนี้ก็มาซื้อตั๋วเครื่องบินบินไปท่องเที่ยวที่อื่นกันเลยเป็นไง?”

นรมนจ้องมองท่าทางที่ไร้เดียงสานั้นของบุริศร์ แล้วก็ทำใจที่จะดับความหวังของเขาไม่ได้ แต่ว่าเธอไม่อยากจะขายหน้ากับบุริศร์ที่สนามบินนี่ เพราะฉะนั้นก็เลยต้องพูดเตือนเขาขึ้นว่า “ในเมื่อคุณชายธเนศพลพูดแบบนี้แล้ว คุณนึกว่าตอนนี้จะออกไปจากที่นี่ได้เหรอคะ? และอีกอย่างไม่แน่เขาอาจจะโทรศัพท์บอกคุณชายอรรณพไปตั้งนานแล้วด้วย”

พอคำพูดนี้พูดออกมา บุริศร์ก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันทีเลย

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท