“เจตต์!”
บุริศร์ถีบประตูห้องเข้าไป เมื่อเห็นภาพในห้อง เขาตะลึงเล็กน้อย
เจตต์กำลังทำร้ายคนที่เฝ้าเขาอย่างโมโห ผู้ชายสี่ห้าคนถูกเขาจัดการ แต่เจตต์ยังไม่หายแค้น เขาทั้งตะโกนทั้งต่อยทั้งเตะ เมื่อเห็นบุริศร์เข้ามา เขาอึ้งไป จากนั้นจึงถามว่า “นายมาได้ไง”
“เหมือนฉันจะยุ่งเรื่องคนอื่นหรือเปล่า”
บุริศร์ตั้งสติได้ เขาเห็นสภาพอันน่าเวทนาบนพื้น และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เขากับนรมนเป็นห่วงแทบตาย แต่เจตต์ต่อสู้เก่งมาก นี่เขาเพี้ยนไปแล้วเหรอ
เมื่อครู่ถึงคิดว่าเจตต์จะเป็นอันตราย
ให้ตายเถอะ ถ้าเขาเป็นอันตราย แล้วบอดี้การ์ดพวกนี้ล่ะ
เจตต์คิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะพูดเช่นนี้ แต่เขารู้ว่าบุริศร์มาช่วย จึงไม่โมโห เขาเหวี่ยงหมัดแล้วพูดว่า “ไม่ได้ยุ่งเรื่องคนอื่นหรอก ถ้านายไม่มา ฉันคงต้องใช้แรงอีกหน่อย ถึงจะออกไปได้ ในเมื่อนายมาแล้ว ก็รีบไปกันเถอะ ฉันต้องไปช่วยเมียฉันอีก”
พูดจบเจตต์ก็เดินออกไปข้างนอก
บุริศร์เห็นบาดแผลบนตัวเจตต์ เขาหรี่ตาลง แล้วยื่นมือไปรั้งไว้
เจตต์ตกใจ จากนั้นจึงยิ้มออกมา ฟันขาวจั๊ว ทำให้บุริศนร์เห็นแล้วแสบตา
“เพี้ยนเหรอ มายิ้มให้ฉันทำไม”
“คนเลวพูดอะไรก็มีแต่เรื่องเลวๆ”
เจตต์ย่นปากยู่ ได้ยินเสียงบุริศร์พูดว่า “ถ้านายเก่งก็พูดดีๆ ออกมาสิ”
“บุริศร์ อย่าคิดว่านายมาช่วยฉันแล้วจะเก่ง ระวังฉัน……”
“ทำไม”
บุริศร์ย้อนถามจนเจตต์เงียบไป
“ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ”
ความเงียบของเจตต์ ทำให้บุริศร์แปลกใจ แต่เขาไม่ได้เซ้าซี้ เขารู้ว่าเจตต์เป็นคนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้ามีอะไรต้องพูด เขาก็จะพูด
บุริศร์เดินออกจากผับพร้อมเจตต์
เมื่อเห็นสภาพเละเทะที่นี่ เจตต์ไม่ได้คิดอะไร หลังจากออกจากผับ ได้ยินบุริศร์พูดว่า “ฉันจับทวีได้แล้ว เขาคงเป็นคุณอาของนายใช่ไหม เอาไง จะเจอเขาไหม”
“ฆ่าให้ตายไปก็จบ”
คำพูดของเจตต์โหดเหี้ยม จนทำให้บุริศร์คิดไม่ถึง
“แต่ทวีบอกอะไรเราได้หลายอย่าง นายจะ……”
“นายคิดว่าจะทำให้เขาบอกได้เหรอ พ่อคนนั้นของเขา เขาทั้งกลัวทั้งเคารพ ถึงนายฆ่าเขา ก็คงไม่ได้อะไรจากปากเขาหรอก แต่นายลองดูได้นะ ไว้ชีวิตเขา แล้วส่งให้ฉัน”
น้ำเสียงของเจตต์ราบเรียบ สีหน้าเฉยชา
บุริศร์สัมผัสได้ว่าเขาสะกดกลั้นความโกรธ จึงอดขมวดคิ้ว แล้วถามไม่ได้ว่า “นายมีความแค้นกับเขาเหรอ”
“ความแค้นมากมาย! ฉันแทบอยากขุดหลุมศพของบรรพบุรุษเขา!”
คำพูดนี่ทำให้บุริศร์รับไม่ได้
หลุมศพของบรรพบุรุษตระกูลทวี ก็คือคุณตาของเจตต์ไม่ใช่หรือไง
นี่หลานอกตัญญูชัดๆ!
แต่เป็นการดีที่อกตัญญู!
คนแบบนิวัฒน์ ควรไร้ลูกหลานสืบสกุล!
บุริศร์คิดในใจ จากนั้นจึงพยักหน้า
หลังทั้งสองคนขึ้นรถ บุริศร์ถามว่า “จะไปไหน นายรู้ไหมว่าขวัญตาถูกขังอยู่ที่ไหน”
แววตาของเจตต์เคร่งขรึม
“รู้ แต่ตอนนี้ไม่ต้องไปหาเธอก่อน”
“หืม?”
บุริศร์รู้สึกแปลกใจ
ความสัมพันธ์ของเจตต์กับขวัญตาดีมาก เพื่อขวัญตา เจตต์สามารถทิ้งคู่หูอย่างนรมน เพื่อพาขวัญตาไปต่างประเทศ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ
“นายทะเลาะกับขวัญตาเหรอ”
“เปล่า เรารักกันดี”
คำพูดของเจตต์ยิ่งทำให้บุริศร์สงสัย
“รักกันดี แต่ไม่ไปช่วย นายกำลังคิดอะไรอยู่”
เจตต์เงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดเบาๆ ว่า “ในตัวขวัญตามีหนอนกู่ ฉันช่วยเธอออกมาก็ไร้ประโยชน์ เธอต้องอยู่ที่นั่น ถึงจะรอด”
“อะไรนะ!”
บุริศร์ไม่คิดไม่ฝันว่านิวัฒน์จะวางพิษหนอนกู่ใส่ขวัญตา
“เขาไม่รู้เหรอว่าขวัญตาเป็นภรรยานาย”
“ทำไมเขาจะไม่รู้ เขามันไม่ใช่คน!”
เจตต์ไม่ได้รู้สึกดีกับนิวัฒน์สักนิด
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่นิวัฒน์กระทำกับแม่ของตัวเองมาตลอดชีวิต แค่เรื่องที่นิวัฒน์ทำกับเขาและขวัญตา ก็ไม่มีทางให้อภัยได้แล้ว
บุริศร์เห็นเจตต์สะเทือนใจ เขาอยากพูดปลอบใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด
เมื่อขับรถกลับมาที่คฤหาสน์ เห็นพัสดุหน้าประตู บุริศร์หรี่ตาลง
“นรมน!”
เขารีบลงจากรถ จนทำให้เจตต์ตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น”
“เกิดเรื่องกับนรมน”
บุริศร์ไม่แม้แต่จะมองกล่องพัสดุ เขารีบผลักประตูเข้าไป
บอดี้การ์ดข้างในนอนสลบอยู่บนพื้น แต่ไม่เห็นกานต์กับนรมน
มิลินก็ลงจากรถ เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เธอถึงกับตกใจ
“คุณนายกับคุณชายกานต์ พวกเขา……”
“กล้องวรจรปิดล่ะ”
ตอนนี้บุริศร์รู้สึกว่าเลือดในตัวพลุ่งพล่าน ถ้าตอนนี้เขารู้ว่าใครจับตัวภรรยากับลูก เขาต้องฆ่าพวกนั้นให้ตาย
คนที่เขาทิ้งไว้ ล้วนฝีมือไม่เลว แต่กลับโดนเล่นงาน ตอนนี้ยังไม่ฟื้น เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใช้วิธีธรรมดา
เขาชะล่าใจ เขาควรทิ้งให้มิลินอยู่ที่นี่
บุริศร์โทษตัวเอง มีคนไปดูกล้องวงจรปิดแล้ว แต่คนใช้ในกล้องสวมหมวกแก๊ป ทำให้เห็นหน้าไม่ชัด เห็นเธอเดินผ่านพวกบอดี้การ์ด แล้วบอดี้การ์ดพวกนั้นก็ล้มลง
เจตต์หรี่ตาแล้วพูดว่า “ถ้าฉันเดาไม่ผิด บนตัวของคนนี้ต้องมีกลิ่นอะไรบางอย่าง เมื่อคนได้กลิ่นจะทำให้สลบ และจัดการอีกฝ่ายได้ง่ายๆ เธอไม่ได้ทำร้ายบอดี้การ์ด บางทีอาจไม่ต้องการทำร้ายนรมนก็ได้”
“ไม่อยากทำร้าย ก็ไม่ได้”
บุริศร์พยายามหาเบาะแสจากกล้องวงจรปิด ขณะนั้น มีเสียงรถยนต์ดังขึ้นข้างนอก ทำให้บุริศร์หรี่ตาลงอย่างไม่รู้ตัว
หลังรถหยุดลง ไอรารีบกระโดดลงจากรถ
“ลุงบุริศร์”
บุริศร์ตกใจเล็กน้อย จากนั้นจึงรีบพยักหน้า
ไอราขัดแย้งกับกานต์เล็กน้อย เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นไปไม่นาน เขาไม่เข้าใจว่าไอรา มาทำอะไรตอนนี้
“ถ้ามาหากานต์ เขาไม่อยู่”
บุริศร์เพิ่งพูดจบ ไอราก็พูดว่า “ลุงบุริศร์ หนูรู้ว่ากานต์อยู่ไหน เขาโดนจับตัวไป ก่อนหน้านี้เขาส่งข้อความให้หนู โอลี่น้องสาวหนูบอกว่า นี่เป็นแอพติดตามตัว แต่เหมือนตำแหน่งที่เขาอยู่ถูกปิดสัญญาณ เราเลยหาตำแหน่งที่แน่ชัดไม่ได้ ก่อนหน้านี้ไม่นาน เห็นตำแหน่งของเขาเพียงวินาทีเดียว โอลี่บอกว่าอยู่บริเวณตำแหน่งนี้”
ไอราพูดจบ เธอเอาแผนที่ออกมา จากนั้นจึงเอาปากกาแดงวงไว้
“ลุงบุริศร์ หนูให้คนไปดูบริเวณนั้นแบบเงียบๆ แล้ว แต่ขอบเขตกว้างมาก หนูไม่รู้ว่ากานต์จะรอถึงตอนที่เราไปถึงหรือเปล่า”
ท่าทีเป็นกังวลของไอรา ทำให้บุริศร์ซาบซึ้ง ยัยเด็กคนนี้ดีกับเจ้าเด็กโง่ลูกเขามาก ไม่รู้กานต์จะมีวาสนานั้นหรือเปล่า