“หลังจากรักกับคุณแล้วคุณได้ทำอะไรบ้างล่ะ?”
บุริศร์มักจะขัดจังหวะความทรงจำที่งดงามของนิวัฒน์ก่อนเวลาอันควรเสมอ เขาอดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึกหงุดหงิดโมโหเล็กน้อย กลับอยู่ตอนที่เห็นตาเย็นชาของบุริศร์หยุดชะงักนิดๆ จากนั้นรีบหันหน้าออกไป
“ทำอะไรล่ะ?”
ขบวนการคิดของนิวัฒน์คล้ายดั่งตกเข้าสู่ความทรงจำ
เขาช่างไม่ยอมนึกถึงเรื่องอดีตช่วงนั้นจริงๆ
“พวกเราในอดีตดีมากจริงๆ เป็นคู่รักที่มีความสุขที่สุดทั่วทุกมุมโลก ผมกระทั่งรู้สึกว่าเธอก็คือฟ้าวัดตัวสั่งตัดให้กับผม เธออ่อนโยนขนาดนั้น ทำให้คนลุ่มหลงขนาดนั้น ทั้งยังเข้าอกเข้าใจผู้อื่นอีก”
“ดังนั้นนี่ก็คือสาเหตุที่คุณทำร้ายเธออย่างตามใจเหรอ?”
บุริศร์ขัดจังหวะความทรงจำของนิวัฒน์อย่างโหดเหี้ยมทารุณ
สีหน้าของนิวัฒน์ไม่ดีมาก
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมทำร้ายเธอล่ะ?”
“ถ้าหากคุณไม่ได้ทำร้ายเธอ เธอจะออกจากประเทศของตนเองเหรอ? ออกจากพ่อแม่ของตนเองไปประเทศของพวกเราล่ะ? จะแต่งงานกับคุณตาผมเหรอ?”
สิ่งเหล่านี้ที่บุริศร์พูด นิวัฒน์รู้สึกว่าแสบหูเป็นพิเศษ
“นั่นเป็นเพราะว่าตาเฒ่าตนุวรบุกรุกในขณะที่กำลังอ่อนแอ ต่ำช้าไร้ยางอาย”
“บุกรุกในขณะที่กำลังอ่อนแอที่คุณว่านั้นคืออะไรล่ะ? เป็นเพราะว่าเธอรักคุณอยู่อย่างเต็มอกเต็มใจ ตอนที่คิดว่าจะแต่งงานกับคุณ คุณก็ลอบทำร้ายบิดาของเธอเหรอ? หรือว่าหลังจากตอนที่เธอรู้ว่าคุณฆ่าพ่อแม่ของเธอยังจะกักบริเวณเธออีก แย่งชิงอำนาจรัฐได้ มีความเคียดแค้นกับคุณ?”
ทันใดนั้นคำพูดของเจตต์ทำให้บุริศร์นิ่งอึ้งไปเลย
เป็นอย่างนี้เหรอ?
ดังนั้นนิวัฒน์คนนี้ยังเป็นคนอยู่เหรอ?
นิวัฒน์คล้ายดั่งรู้สึกได้ว่าสายตาที่เหยียดหยามของบุริศร์ อดไม่ได้ที่จะมีความโมโหเล็กน้อย
“ผมต้องการแก้แค้น จำเป็นต้องมีแรงพลัง หลังจากพัสวีศิริเปิดเผยเรื่องสายแร่ให้กับสมชัยโดยไม่ได้ตั้งใจ สำหรับผมจะไม่เข้าตาเขาล่ะ เขามักจะรู้สึกว่าสมชัยดีกว่าผม กระทั่งขัดขวางลูกสาวเขาคบกันเป็นแฟนกับผม ผมเก็บเขาไว้จะกีดกั้นความสุขของผม เห็นแก่พันวรินผมจะจัดการเขาด้วยมีดเดียวเลย ไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดถือว่าไม่เลวมากแล้ว”
ได้ยินนิวัฒน์พูดอย่างมีเหตุผลจนพูดได้เต็มปากเต็มคำขนาดนี้ บุริศร์กลับถูกทำให้โมโหจนหัวเราะแล้ว
“คุณฆ่าพ่อแม่ของเธอ ยังจะให้เธอขอบคุณที่คุณลงมืออย่างคล่องแคล่วว่องไวเหรอ? ผมเคยเห็นคนไร้ยางอายมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นคนที่ไร้ยางอายเหมือนอย่างคุณขนาดนี้! ความมั่นใจในตนเองของคุณตกลงมาจากที่ไหนกันแน่ ล้วนฆ่าพ่อแม่ของเธอแล้วแย่งชิงอำนาจรัฐของเธอเลย เธอยังต้องรักคุณอยู่อย่างเต็มอกเต็มใจเหรอ?”
“คุณหุบปาก!”
“คุณจึงควรที่จะหุบปาก!”
นรมนฟังอยู่ข้างนอกสักพัก ตอนนี้ฟังถึงที่นี่ในที่สุดก็อดไม่ไหวแล้ว เดินออกมาโดยตรงเลย
“คุณยายฉันล้วนออกจากคุณแล้ว ถึงแม้จะแบกความแค้นบัญชีเลือดเอาไว้อยู่เธอก็ยังตัดสินใจออกจากคุณ ออกจากประเทศของตนเอง ออกจากบ้านเกิดที่ตนเองคุ้นเคย จากบ้านไกลเมืองไปประเทศฉัน พบเจอกับคุณตาฉัน ถ้าหากไม่ใช่ชอบคุณตาฉันจริงๆ คุณยายฉันก็จะไม่แต่งล่ะ เธอแต่งงานแล้ว ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่คุณกลับทำร้ายความสุขแบบนี้ด้วยมือตนเอง!”
“ความสุขเหรอ? ตาเฒ่าตนุวรให้ความสุขอะไรเธอล่ะ? เธอเป็นองค์หญิงคนหนึ่งแท้ๆ แต่งงานกับคนที่เป็นทหารอย่างนั้น ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ดูแลลูกแทนเขาตัวคนเดียวแบกรับทั้งหมดขึ้นมา แต่ตาเฒ่าตนุวรล่ะ? ตลอดทั้งปีเขาไม่อยู่บ้าน เขาเคยคิดมาก่อนหรือไม่ว่าพันวรินเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เหนื่อยยากอยู่ในบ้าน?”
คำพูดของนิวัฒน์ทำให้นรมนมีความอยากจะด่าคนเล็กน้อย
“คุณตาฉันเป็นทหาร สู้เพื่อประเทศ คุณยายฉันเป็นภรรยาทหาร เหนื่อยยากย่อมเหนื่อยยากอยู่แล้ว แต่ฉันคิดว่าคุณยายฉันย่อมเคยคิดถึงผลลัพธ์แบบนี้มาก่อนแล้วแน่นอน อีกทั้งไม่ได้บ่น ไม่งั้นละก็เธอก็จะไม่มีลูกสั่งสอนลูกเลี้ยงดูผู้เฒ่าผู้แก่ให้คุณตาฉัน บริหารจัดการบ้านหลังนี้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ถ้าหากไม่ใช่คุณปรากฏตัว ไม่ใช่คุณฝืนบังคับให้เธอทรยศคุณตาฉัน เป็นไปได้ยังไงที่คุณยายฉันจะออกจากคุณตาฉันล่ะ? ฉันคิดว่าการหนีของเธอแท้ที่จริงเพื่อที่จะปกป้องคุณตาฉันล่ะ ถึงยังไงคุณตาฉันไม่รู้จักสถานะที่แท้จริงของเธอเลย แต่คุณกลับขโมยอำนาจรัฐของเธอไปแล้ว กลายเป็นกษัตริย์คนใหม่ อยากจะจัดการคุณตาฉันละก็ง่ายมากเกินไปแล้วจริงๆเลย
เพื่อผู้ชายและลูกที่เธอรัก เธอจึงต้องพาคุณน้าของฉันหนีไป”
นรมนเป็นผู้หญิง ย่อมสามารถเข้าใจถึงผู้หญิงคนหนึ่งตอนที่อยู่ภายใต้สภาพการณ์แบบนั้นจะมีความคิดกับปฏิกิริยายังไง
แต่ก่อนมักจะรู้สึกมาโดยตลอดว่าอาจจะเป็นเพราะหลังจากคุณยายถูกบีบบังคับให้กำเนิดเทย่ามากล่าวโทษคุณตา จึงใจเด็ดหย่าร้างกับคุณตาล่ะ ตอนนี้ดูแล้วเรื่องล้วนไม่ได้เป็นอย่างนั้น
เป็นเพราะว่ารักมากเกินไปจึงจะเป็นเช่นนี้
จนถึงวินาทีนั้นที่ตนเองจะตายล้วนไม่ได้พบหน้ากันกับคุณตาสักครั้ง อาจจะรู้สึกผิดต่อคุณตาล่ะ
ผู้หญิงคนหนึ่งถูกเขาทำร้ายญาติพี่น้องกับครอบครัวตนเองอย่างฝืนๆ ตกลงเขายังมีหน้าอะไรมาพูดว่าตนเองรักเธอล่ะ?
นิวัฒน์กลับฟังคำพูดอย่างนี้ไม่ได้
“พูดเหลวไหล! คนที่เธอรักเป็นผม! เป็นผม!”
“งั้นคุณล่ะ? คุณรักเธอไหม? ถ้าคุณเหมือนอย่างที่ตัวคุณเองพูดว่ารักคุณยายฉันขนาดนั้น คุณทำไมยังต้องแต่งผู้หญิงอื่นเป็นภรรยาล่ะ? ทำไมยังต้องมีลูกกับผู้หญิงอื่นล่ะ? อย่าบอกกับฉันว่าทวีไม่ใช่ลูกชายของคุณนะ!”
การซักถามของนรมนทำให้นิวัฒน์มีความโมโหเล็กน้อย
“ผมเป็นกษัตริย์! ไม่มีแม่แห่งแผ่นดินได้ยังไงล่ะ? พันวรินละทิ้งทั้งหมดนี้เองเกี่ยวอะไรกับผม?”
“นี่ก็คือข้ออ้างที่คุณหาให้ตัวเองล่ะ”
อยู่ดีๆเจตต์เอ่ยปาก
เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “อำนาจรัฐที่คุณคิดจนสมองแทบแตกแย่งชิงมาได้ กลายเป็นกษัตริย์ แต่ยังไงสถานะก็ไม่เที่ยงไม่มีใครเชื่อฟัง ทั้งคุณยายก็วิ่งหนีอีก ดังนั้นอัครมหาเสนาบดีที่สนับสนุนคุณเหล่านั้นก็ลังเลอยู่เช่นกัน ในเวลานี้น้องชายของคุณยายเกิดใจอยากแย่งชิงขึ้นมา กลับเพราะว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณยายและไม่ว่าคุณเป็นยังไง จึงทำให้คุณนั่งอยู่บนตำแหน่งนั้นอย่างราบรื่น แต่ตอนที่คุณทำให้คุณยายบ้านแตกสาแหรกขาด ครอบครัวล้วนไม่มีความสุข ตอนที่คุณยายตายด้วยภาวะซึมเศร้าก่อนที่จะตายส่งข่าวให้กับพี่ชาย ให้เขาแย่งชิงที่นั่งกษัตริย์กลับคืนมา คุณจึงโมโหจริงๆแล้ว”
พูดถึงที่นี่ นรมนอดไม่ได้ที่จะอึ้งชะงักไปหนึ่งที
เจตต์รู้เรื่องเหล่านี้ได้ยังไงล่ะ?
ทำไมรู้ชัดเจนขนาดนี้ได้ล่ะ?
เจตต์กลับไม่รู้ว่าตอนนี้นรมนคิดยังไงอยู่ พูดต่ออีกว่า “คุณยายผมก่อนที่จะตายก็รู้ว่าคุณได้ติดต่อเทย่ามารดาของผมแล้ว ยิ่งรู้ว่าเทย่ามารดาของผมทำงานให้คุณ ตอนนั้นคุณยายเสียใจมาก กระทั่งไม่เสียดายที่จะตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูกกับมารดาผมไล่ออกจากบ้าน ยังไม่ให้คุณป้าคิมไปช่วยมารดาผมอีก มารดาผมเคียดแค้นอยู่ในใจมาโดยตลอด เขาไม่รู้คุณยายทำไมต้องทำเช่นนี้เลย คุณยายก็ไม่ได้อธิบายเช่นกัน ก็อยู่ในวินาทีนั้นคุณยายจึงตัดสินใจให้คุณอาโต้ตอบกลับ ดึงคุณลงจากที่นั่งเพราะว่าเธอรู้ เพียงแค่คุณยังนั่งอยู่ที่นั่นไม่ว่าคุณตาหรือคุณป้าล้วนจะไม่มีผลลัพธ์ที่ดี คุณอารู้เรื่องทั้งหมดของคุณยายเริ่มร่วมมือกับอัครมหาเสนาบดีคิดที่จะโค่นล้มคุณ ผมคิดว่าตอนที่มารดาผมเกิดเรื่องคุณไม่ได้รีบเร่งมาช่วยเธอ เป็นเพราะว่าตอนนั้นคุณกำลังทำเพื่อตำแหน่งที่นั่งกษัตริย์ของคุณบีบตัวออกไม่ได้ล่ะ?”
“การต่อสู้อย่างต่อเนื่องฉากนี้ติดต่อกันหลายปีขนาดนี้ ในที่สุดคุณอาก็ได้ดึงคุณลงจากที่นั่งไล่คุณออกจากประเทศเหมือนดั่งหมาไม่มีเจ้าของ คุณจึงวิ่งมาที่นี่แกล้งทำเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุด ยังคิดว่าตนเองเป็นผู้ดีอะไรคนหนึ่งจริงๆเหรอ? คนอย่างคุณแบบนี้ไม่จำเป็นต้องอยู่เลยสักนิด!”
ระหว่างที่พูดฉับพลันในทันทีเจตต์จู่โจมไปยังนิวัฒน์