แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1583 เขาต้องการถอยแล้ว

บทที่ 1583 เขาต้องการถอยแล้ว

หรือว่าลูกของเขาจะมีปัญหาอะไร?

หากเป็นเช่นนี้ เขาจะมีความผิดอย่างใหญ่หลวง

“นรมน เธอว่า ลูกเป็นอะไรไปนะ?”

ทั้งคิมและชินทรต่างรู้สึกเป็นกังวล

พวกเขาแค่ได้ยินว่านรมนคลอดลูกแฝดเป็นเด็กผู้ชาย แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ใช่ว่าไม่อยากกลับไป แต่ว่าทำไม่ได้

หน้าที่ของพวกเขาคือเฝ้าอยู่ที่นี่ ในป่ามืดมีการกลายพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไม่นานมานี้ก็มีคนถูกทำร้ายบาดเจ็บแล้ว ดังนั้นคิมและชินทรจึงออกไปจากป่ามืดไม่ได้อย่างเด็ดขาด

พวกเขาไม่เคยเห็นหลานๆ มาก่อน มันเป็นความรู้สึกเสียใจอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเด็ก ทั้งสองก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา

นรมนยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร เด็กๆ แข็งแรงมาก ดัชนีทุกด้านดีมาก แต่ดวงตาของลูกชายคนเล็กมีปัญหานิดหน่อย”

“ปัญหาอะไร?”

จณัตว์ ชินทร และคิมถามขึ้นพร้อมกัน

บุริศร์กล่าว “ดวงตาของเด็กเป็นสีฟ้าเพราะนภดล ก่อนหน้านี้นรมนดื่มเลือดของนภดลมาหนึ่งหยดไม่ใช่เหรอ? คุณท่านกลัวว่านี่จะเป็นกรรมพันธุ์ทางสายเลือดของนภดล เขาเลยจับตาดูลูกชายคนเล็กไว้”

จณัตว์โมโหทันที

“บ้าเอ๊ย! แค่เลือดหยดเดียวก็เป็นกรรมพันธุ์แล้ว? ทำไมเขาไม่บอกว่านภดลเป็นอาจารย์ปู่ของบ้านเรา แบบนี้มันยังฟังขึ้นมากกว่า”

นรมนอยากจะหัวเราะ แต่ก็กลั้นเอาไว้

จณัตว์ในเวลานี้น่ารักเป็นบ้าเลย

“พี่คะ แต่พวกเราไม่มีใครดวงตาสีฟ้าเลย ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยที่เบื้องบนสงสัย อีกไม่กี่ปีถ้าเด็กๆ ไม่มีอะไรพิเศษก็ไม่เป็นไรแล้ว”

“ทำไมต้องคอยจับตาดูหลานชายของพวกเราไปอีกหลายปีด้วย? ว่าแต่ว่า ใครบอกเธอว่าครอบครัวเราไม่มีใครดวงตาสีฟ้า?”

“เอ๊ะ?”

นรมนอดแปลกใจไม่ได้

“ในครอบครัวเรามีคนดวงตาสีฟ้าด้วยเหรอ?”

“มีสิ”

จณัตว์มองไปที่คิมแล้วพูดว่า “แม่ของคุณป้ามีดวงตาสีฟ้า”

“เป็นไปไม่ได้!”

คิมเป็นคนแรกที่โต้แย้ง

เธอเคยเห็นแม่มาก่อน ดวงตาของแม่เป็นดวงตาสีดำอย่างแท้จริง จะเป็นดวงตาสีฟ้าได้อย่างไร?

จณัตว์ลูบจมูกพลางพูดว่า “คุณป้า คุณรู้จักตัวตนของแม่ของคุณไหม?”

“แม่ของฉันจะมีตัวตนอะไรได้? เธอก็เป็นแค่…”

“แม่คะ ตัวตนของคุณยายไม่ธรรมดานะคะ”

นรมนหยุดคิมเอาไว้ทันเวลา และเล่าเรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างนิวัฒน์กับคุณยายให้เธอฟัง เดิมทีคิดไว้ว่าให้ผ่านไปสักพักหนึ่งค่อยพูด แต่มีบางเรื่องที่เก็บเอาไว้ไม่อยู่แล้ว

เมื่อคิมได้ฟังที่นรมนเล่า ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเศร้าใจ

“แม่ของฉันเป็นองค์หญิง? แล้วพ่อของฉันรู้ไหม?”

“ไม่รู้ค่ะ ฉันคิดว่าคุณยายคงไม่อยากให้คุณตารู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ เธอจึงเก็บเป็นความลับมาโดยตลอด หลังจากที่เธอถูกนิวัฒน์กลั่นแกล้งลับหลัง เธอจึงพาคุณน้าออกไปจากบ้าน เพราะกลัวว่าคุณตาจะเข้ามาพัวพันด้วย”

นรมนคาดเดาอย่างนี้ แต่เธอคิดว่ามันควรจะเป็นความจริง

เมื่อนึกถึงอดีต คิมก็อดสะอื้นไห้ไม่ได้

“ไม่แปลกใจเลยที่แม่ร้ายกับสรชาขนาดนี้ แล้วยังไม่อนุญาตให้ฉันติดต่อกับเธอด้วย บางทีแม่อาจจะไม่ชอบสรชาอยู่ในใจก็ได้? แต่ถึงอย่างไรก็เป็นลูกสาวแท้ๆ เธอตัดใจไม่ลง แต่ก็เผชิญหน้าไม่ได้เช่นกัน ตอนที่แม่จากไปเพิ่งอายุห้าสิบกว่า ต้องมีชีวิตที่ยากลำบากมาโดยตลอด เธอควรจะมีชีวิตที่หรูหรา แต่กลับต้องล้มลุกคลุกคลานแบบนี้ จนกระทั่งตายก็ไม่ยอมให้พวกเรารู้ตัวตนของเธอ และไม่ได้กลับไปที่ประเทศของตัวเอง พวกเราเป็นลูกที่อกตัญญูจริงๆ”

ชินทรตบไหล่คิมเบาๆ ปลอบเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “อีกไม่กี่วันผมจะยื่นคำร้อง นำเถ้ากระดูกของแม่กลับไปกับคุณด้วย”

“ได้เหรอ? แล้วเรื่องทางนี้…”

คิมต้องการส่งมารดากลับบ้านเกิด แต่หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทางนี้ก็หนีไม่พ้นพวกเขาอยู่ดี

ชินทรพูดเบาๆ “ทุกคนล้วนมีอารมณ์ความรู้สึกและความปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไป แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะจงรักภักดีและกตัญญูทั้งสองฝ่ายตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเราได้ทำเพื่อประเทศมามากเกินไปแล้ว พวกเราแค่ต้องการโอกาสที่จะได้กตัญญู ผมคิดว่าเบื้องบนน่าจะอนุญาต ส่วนเรื่องทางนี้ ยังไงก็ต้องมีคนมาทำหน้าที่แทนพวกเรา”

อันที่จริงชินทรต้องการเกษียณอายุแล้ว

เขาเป็นทหารมาทั้งชีวิต เห็นประเทศนี้เป็นบ้านของเขามาโดยตลอด นี่คือความเสียใจชั่วชีวิตที่เขาไม่สามารถกลับมาหาแม่ได้ตอนที่เธอจากไป ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ควรจะทิ้งโอกาสให้คนหนุ่มสาว ดังนั้นเขาจึงต้องการถอย

คิมไม่รู้ว่าตอนนี้ชินทรกำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแค่พยักหน้าเมื่อได้ยินชินทรพูดแบบนี้

นรมนเห็นพ่อปลอบใจแม่แล้ว จึงหันไปหาจณัตว์แล้วถามว่า “พี่คะ พี่ยังไม่ได้บอกฉันว่ารู้ได้ยังไงว่าคุณยายมีดวงตาสีฟ้า?”

“เพราะหลังจากที่คุณยายมาที่ประเทศของเราก็ได้พบกับคนคนหนึ่ง ซึ่งก็คืออาจารย์ที่ปรึกษาของฉัน กรณ์”

จณัตว์ค่อยๆ เล่าอดีตที่บอกใครไม่ได้ออกมา

กรณ์มีชื่อเสียงในด้านการวิจัยทางการแพทย์มาโดยตลอด และมีความสนใจในการศึกษาเรื่องพันธุกรรมด้วย แต่ก็ยังไม่มีความสำเร็จมากนัก เขาบังเอิญได้พบกับพันวรินที่เพิ่งมาที่ประเทศของเรา

ในเวลานั้นพันวรินถูกคนรอบข้างรังแกและบีบคั้นเพราะดวงตาที่ผิดปกติ มีหลายสิ่งหลายอย่างในยุคนั้นที่ไม่สามารถยอมรับได้โดยง่าย

ผู้หญิงอ่อนแอคนเดียวอย่างพันวรินถูกรังแกไปทุกที่ แต่เธอก็ไม่ตอบโต้ ได้แต่หลบหลีก เลือดออกก็แบกไว้เพียงลำพัง เก็บไว้ในใจไม่ยอมพูดจนทำให้กรณ์ทนดูไม่ไหวอีกต่อไป

เขาพาพันวรินกลับมาถึงบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดสะอ้านให้เธอ และดูแลบาดแผลของเธอ

ภรรยาของกรณ์เป็นคนใจดี แม้จะรู้สึกว่าไม่สมควรที่สามีกลับมากับผู้หญิงตามลำพัง แต่เธอก็ยังเก็บพันวรินไว้เพราะพันวรินไม่มีที่พึ่งพิง

ไม่รู้ว่ากรณ์ไปได้ขวดยามาจากไหน บอกว่ามันสามารถเปลี่ยนสีดวงตาและเส้นผมของคนได้ แต่ยาชนิดนี้มีข้อเสีย คือไม่สามารถเปลี่ยนสีเส้นผมและดวงตาของคนได้ตลอดชีวิต แต่จะเปลี่ยนได้นานแค่ไหน ไม่มีใครรับประกันได้

แต่ถึงอย่างนั้น พันวรินก็ยังคงดื่มเข้าไปด้วยความกตัญญู

หลังจากดื่มเข้าไปแล้ว พันวรินก็เปลี่ยนสภาพไปในวันถัดมา เส้นผมและดวงตาของเธอกลายเป็นสีดำ เธอยิ้มอย่างมีความสุข

อาจเป็นเพราะรอยยิ้มของเธอช่างสวยงามเสียจนกรณ์ลุ่มหลงไป เมื่อภรรยาของเขาเห็นภาพนี้ก็รู้สึกไม่พอใจ เมื่อกรณ์ออกไปข้างนอก ภรรยาของเขาจึงให้เงินพันวรินจำนวนหนึ่ง และขับไล่เธอออกไป

จนถึงตอนนี้พันวรินก็ไม่เคยติดต่อกรณ์อีกเลย

ต่อมากรณ์ในวัยชราก็ได้รับคนจองหองอย่างจณัตว์เข้ามาเป็นลูกศิษย์ ครั้งหนึ่งได้พูดเรื่องนี้ออกมาหลังจากที่เขาเมา เขารู้สึกว่ามันคือความเสียใจชั่วชีวิต และไม่รู้ว่าต่อมาสีเส้นผมของพันวรินได้เปลี่ยนกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ มันคือสิ่งที่ค้างคาใจมาโดยตลอด

ในเวลานั้นจณัตว์ได้ศึกษาคนของตระกูลพรโสภณและตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ถึงอย่างไรคุณยายของเขาก็มีชื่อว่าพันวรินเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงอาศัยคอนเนคชั่นมากมายจนสืบหาเรื่องราวของพันวรินได้ในที่สุด ตอนนั้นเขาตกใจมาก แต่ก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องบอกแม่และคนอื่นๆ ถ้าเรื่องนี้มีการเปิดเผยออกไป ก็ต้องดึงเบื้องบนเข้ามาเกี่ยวข้องและต้องตรวจสอบอีก ไม่มีใครรู้ว่าจะทำให้เกิดเรื่องอะไรอีก ดังนั้นเขาจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้และเก็บเรื่องนี้ไว้ แต่กลับนึกไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะดึงให้ลูกชายคนเล็กของนรมนเข้ามาพัวพันด้วย

ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แต่หัวหน้าองครักษ์ก็เข้ามาในเวลานี้

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท