“เธอรู้เรื่องรถเหรอ”
“รู้นิดหน่อย”
นรมนพูดอย่างถ่อมตัว
ชายหนุ่มมองเธอ แล้วพูดว่า “ฉันชื่อชญตว์ เธอจะเข้าไปในสถานที่ถ่ายละครเหรอ”
ครั้งนี้นรมนเป็นฝ่ายอึ้งไป แต่เธอก็พยักหน้า
“ใช่ เข้าไปหาเพื่อนน่ะ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เข้าไปไม่ได้”
นรมนยิ้มอย่างเหนื่อยใจ
เธอไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งเธอจะเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้
ชญตว์พูดอย่างไม่ใส่ใจ “เข้าไปกับฉันสิ ฉันเป็นผู้ผลิตละครเรื่องนี้”
“ขอบใจนะ”
นรมนไม่ได้ดัดจริตอะไร เธอปิดประตูรถ และเดินตามชญตว์เข้าไป
เพราะมีชญตว์นำทาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จึงไม่กล้าขวางนรมน ทำให้เธอเข้ามาในสถานที่ถ่ายทำอย่างราบรื่น
ชญตว์ให้นามบัตรกับนรมน จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เหมือนฉันจะจำได้ว่าเธอเป็นใคร นักออกแบบแคทเธอรีใช่ไหม ฉันจำได้ว่าเคยดูแข่งขันการออกแบบของเธอครั้งหนึ่ง น่าสนใจมาก แต่น่าเสียดายที่สองปีมาแล้ว เธอไม่มีความเคลื่อนไหวหรือผลงานอะไรออกมาเลย ผู้คนต่างพูดกันว่า เธอออกจากวงการเงียบๆ คิดไม่ถึงว่าจะเจอกันที่นี่ พูดตรงๆ เลยนะ ฉันมีทีมรถอยู่ทีมนึง อยากหาเวลาให้เธอมาสอนเกี่ยวกับรถ ถึงตอนนั้นหวังว่านักออกแบบแคทเธอรี จะมีเวลาให้ฉันได้โปรโมทสักหน่อย”
นรมนคิดไม่ถึงว่าจะเจอแฟนคลับตัวเองที่นี่ เธออดละอายใจไม่ได้
“สองปีมานี้ เรื่องส่วนตัวมากมายเหลือเกิน ทำให้ไม่มีเวลาทุ่มเทกับเรื่องนี้”
“เธอมีความสามารถมาก อย่าเก็บมันไว้ ฉันรู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว แต่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ไม่ควรละทิ้งอาชีพและอุดมการณ์ของตัวเองไม่ใช่เหรอ”
คำพูดของชญตว์ทะลุเข้าไปในใจของนรมน
สองปีนี้ เธอผ่านอะไรมามากมาย ยังดีที่จัดการทุกอย่างได้ คนที่สมควรได้รับโทษก็ได้รับโทษแล้ว ต่อไปเธอต้องทุ่มเทเพื่ออุดมการณ์ของตัวเอง เพราะการทำงานบ้านเพียงอย่างเดียว ไม่เหมาะกับเธอสักนิด
“ขอบคุณที่เตือนสติ ฉันจะคิดเรื่องทีมรถของนาย”
“งั้นขอบใจล่วงหน้าเลยละกัน”
ชญตว์ดูมีความสุขมาก
นรมนเก็บนามบัตร และไปข้างสถานที่ถ่ายทำ
คมทิพย์กำลังถ่ายละครอยู่ ไม่เจอกันสองปี การแสดงของคมทิพย์พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด
เธอเดบิวต์ด้วยการเป็นนักร้อง ว่ากันตามเหตุผล ไม่น่าจะแสดงได้ แต่ตอนนี้ นรมนเห็นการแสดงของเธอ ทำให้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วย
ดูเหมือนสองปีมานี้ คมทิพย์ทุ่มเทให้กับงานมาก
“คัท!”
การแสดงเสร็จสิ้นลง
จากนั้นผู้กำกับสั่งให้ทุกคนพัก หนุ่มน้อยที่ตามกับคมทิพย์ จับมือเธอแล้วยิ้มตาหยี จากนั้นจึงพูดว่า “พี่คมทิพย์ เดี๋ยวไปทานข้าวกันนะ ผมเลี้ยงเอง”
นรมนตกใจกับภาพตรงหน้า แววตาของเธอเคร่งขรึม
“คมทิพย์!”
เสียงของเธอสูงเล็กน้อย ทำให้เรียกความสนใจจากทุกคน
ตอนคมทิพย์เห็นนรมน เหมือนเธอตั้งสติได้ รีบชักมือออกจากหนุ่มน้อยทันที จากนั้นจึงเดินมาหานรมน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เธอมาได้ยังไง”
“ถ้าฉันไม่มา เธอจะไปกับเจ้าหนุ่มนั่นเหรอ”
นรมนพูดอย่างไม่เกรงใจ
หนุ่มน้อยดูไม่พอใจ ที่โดนคมทิพย์สลัดทิ้ง ตอนนี้ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ เขาจึงพูดอย่างเย็นชาว่า “เธอเป็นใคร ใครให้เธอเข้ามา รปภ. มาไล่เธอออกไปที!”
เมื่อพูดจบ คมทิพย์เตะไปที่หน้าแข้งของหนุ่มน้อย เธอขมวดคิ้ว แล้วดุว่า “ไอ้เลว! นี่เพื่อนสนิทฉัน! นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง”
น้ำเสียงและท่าทางราวกับราชินี ทำให้นรมนรู้สึกแปลกมาก
นี่คือคมทิพย์ที่เธอรู้จักจริงเหรอ
คำพูดของคมทิพย์ลอยเข้ามาในหัวเธออีกครั้ง อย่าบอกนะว่าเธอคือคนที่เกิดใหม่จริงๆ
เมื่อคิดถึงเรื่องเหลือเชื่อที่ไร้สาระ นรมนรู้สึกตลกตัวเอง แต่ได้ยินคมทิพย์พูดว่า “ไปกันเถอะ ข้างหน้ามีร้านกาแฟ ไปดื่มกาแฟกัน”
นรมนก็ไม่อยากคุยกับเธอที่นี่เหมือนกัน เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนั้น จึงลุกขึ้นเดินตามเธอไป
แววตาที่หนุ่มน้อยมองนรมน แฝงไปด้วยความแค้น แต่ก็ซ่อนไว้อย่างรวดเร็ว
นรมนไม่ได้สนใจอะไร จึงไม่ใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เธอมีเรื่องสำคัญต้องทำ
เมื่อตามคมทิพย์มาถึงร้านกาแฟ คมทิพย์สั่งกาแฟสองแก้ว ยังคงเป็นคาปูชิโน่ ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาลแบบที่เธอชอบ
คนที่กลับมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่น ยังหลงเหลือนิสัยของเจ้าของร่างเดิมเหรอ
นรมนคิดถึงคำพูดของบุริศร์ เรื่องเกิดใหม่ เป็นอะไรที่ไร้สาระ
เมื่อคิดได้ดังนั้น นรมนหรี่ตาลง แต่กลับเห็นคมทิพย์หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดอย่างชำนาญ และเอามาคาบไว้ที่ปาก จากนั้นจึงสูบและพ่นควันออกมา
ท่าทางของเธอดูชำนาญมาก ชำนาญจนนรมนรู้สึกปวดใจ
นรมนปัดบุหรี่ของคมทิพย์ทิ้ง แววตาของเธอเย็นชา
“ทำร้ายตัวเองแบบนี้ รู้สึกสะใจมากใช่ไหม”
คมทิพย์มองมืออันว่างเปล่าของตัวเองอย่างเย็นชา จากนั้นจึงพูดว่า “ฉันบอกเธอแล้ว ฉันไม่ใช่คมทิพย์ที่เธอรู้จัก ทำไมเธอยังเซ้าซี้อยู่ได้”
“โกหก! ทำไมฉันจะดูไม่ออกว่าเธอคือคมทิพย์หรือเปล่า เธอคิดว่ามิตรภาพหลายปีของเรา มันเปล่าประโยชน์งั้นเหรอ คมทิพย์ ฉันไม่รู้ว่าเธอเจออะไรมา แต่วันนี้เธอบอกฉันมาให้ชัดเจน เธอกำลังแสร้งทำอะไรอยู่ ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหรอ หรือเธอคิดว่าช่วงนี้เราติดต่อกันน้อยไป เธอเลยตำหนิฉัน”
นรมนพูดความเป็นไปได้ทั้งหมดออกมา ไม่รู้ว่าทำไมคมทิพย์ถึงทำแบบนี้
ราวกับคมทิพย์ไม่ได้ยินที่นรมนพูด เธอจิบกาแฟช้าๆ แล้วพูดว่า “พฤกษ์ให้เธอมาเหรอ”
“ฉันต้องมาเพื่อพฤกษ์เหรอ เธอกับฉันเป็นอะไรกัน เกี่ยวข้องอะไรกับเขา คมทิพย์ ฉันหวังว่าเธอจะมีความสุข ไม่ใช่เป็นอย่างตอนนี้ เธอเข้าใจไหม”
“ไม่เข้าใจ เพราะฉันไม่ใช่คมทิพย์!”
คมทิพย์ยังคงยืนหยัด
นรมนโกรธจนตัวสั่น ถ้าทำได้ เธออยากตบคมทิพย์จริงๆ แต่ไม่สามารถยื่นมืออันสั่นเทาออกไปได้
“โอเค เธอไม่ใช่คมทิพย์ งั้นเธอเป็นใคร”
“ลืมแล้ว”
คำพูดของคมทิพย์ ทำให้นรมนโมโหจนอยากหัวเราะ
“ไม่ใช่คนที่กลับมาเกิดใหม่เหรอ อุตส่าห์กลับมาเกิดใหม่ได้ ทำไมถึงลืมว่าตัวเองเป็นใครล่ะ งั้นเธอรู้ได้ยังไงว่าตัวเองไม่ใช่คมทิพย์”
นรมนค่อยๆ บีบบังคับ ทำให้คมทิพย์เริ่มโมโห
“เธอเป็นใครไม่ทราบ มีสิทธิ์อะไรมาซักถามฉันแบบนี้”
จู่ๆ นรมนรู้สึกปวดใจ
เธอทนไม่ไหว และง้างมือตบลงไป
เสียงตบอันดังสนั่น ทำให้ใบหน้าของคมทิพย์เอียงไปอีกด้าน
ขณะเดียวกัน นรมนก็อึ้งไปเหมือนกัน
เธอตบคมทิพย์จริงเหรอ!