“ฉันจะไปฆ่าเขา!”
คมทิพย์พูดจบก็หมุนตัวแล้วจะไปเลย แต่กลับโดนนรมนฉุดไว้ซะก่อน ส่วนจณัตว์ก็ หัวเราะเบาๆ
“อย่างนั้นคงไม่ได้หรอก เพราะเขาเป็นศิษย์น้องของผม”
คำพูดของจณัตว์ทำให้นรมนและคมทิพย์นิ่งอึ้งไปทันที
“ศิษย์น้องเหรอคะ? พี่ พวกพี่รู้จักกันเหรอ”
“อืม ไม่ได้เป็นศัตรู แต่คือศิษย์น้องของฉันคนนี้ค่อนข้างจะไม่จริงจังกับอะไรสักเท่าไหร่ เขากับฉันมีอาจารย์คนเดียวกัน แต่ด้านการวิจัยของพวกเรานั้นไม่เหมือนกัน เขาถนัดปรุงยาพิษ ก็เลยคิดอยู่แต่ว่าจะให้ฉันมาแก้พิษเพื่อดูว่าใครจะเก่งกว่ากัน แต่ครั้งนี้คงจะไม่ใช่แค่ประกาศสงครามง่าย ๆ อย่างเดียวแน่”
หัวคิ้วของจณัตว์ขมวดกันขึ้นมาเล็กน้อย
“หมายความว่ายังไงคะ?”
นรมนนั้นกลับรู้สึกสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว และลากคมทิพย์มานั่งลงฟังด้วย
จณัตว์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ชญตว์เป็นคนประเทศFอยู่แล้ว ตระกูลธนปารกุลเป็นหนึ่งในอัครมหาเสนาบดี แต่ได้ยินมาว่าช่วงนี้ตระกูลธนปารกุลเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นมานิดหน่อย คาดว่าน่าจะมาหาฉันเพราะเรื่องนี้แน่ แต่ว่าสถานะของฉันในตอนนี้เข้าหาด้วยได้ยาก และจะเข้าหาอย่างเปิดเผยก็ไม่ได้ ก็เลยจำเป็นต้องหาโอกาสและคนนำทางด้วย แล้วคมทิพย์ก็คือคนนำทางคนนั้น ฉันคิดว่าตั้งแต่แรกที่ชญตว์เลือกให้คมทิพย์มาเป็นคนนำทางนั้นก็น่าจะเคยสืบตัวเธอมาก่อนแล้ว แถมยังรู้เรื่องของพฤกษ์ ถึงได้เข้ามาใกล้ชิดกับคมทิพย์ได้”
พอได้ยินจณัตว์พูดแบบนี้แล้ว คมทิพย์ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
นี่เธอถึงกลับโดนคนมาวางกับดักใส่แบบนี้เลยเหรอ?
นี่มันชั่วจริง ๆ!
“งั้นพี่จะไปไหมคะ?”
“ไปซิ ในเมื่อเป็นศิษย์น้องของฉัน และก็ไม่ได้มีใจคิดร้ายอะไร คาดว่าตอนนี้ก็น่าจะให้คนปรุงยาถอนพิษให้คมทิพย์แล้วล่ะ”
คำพูดของจณัตว์ทำให้คมทิพย์รู้สึกได้รับการปลอบโยนขึ้นมาเล็กน้อย
“ถือว่าเขายังเป็นมนุษย์คนหนึ่งอยู่”
“คุณเองก็เป็นคนดีมากเลยนะ”
จณัตว์ยิ้มแล้วพูดขึ้น คมทิพย์นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งทันที
“ฉันดีตรงไหนคะ? ถ้าฉันเป็นคนดีจริง ๆ ก็คงไม่มาเป็นอย่างสภาพในตอนนี้หรอก”
“ทิพย์-”
นรมนอยากจะปลอบใจคมทิพย์ แต่ก็ได้ยินจณัตว์พูดขึ้นมาเลยว่า “เรื่องของคุณกับพฤกษ์ถ้าพูดตามหลักแล้วผมเป็นคนนอกคนหนึ่งก็ไม่ควรพูดอะไรมาก แต่ว่าในเมื่อคุณเห็นผมและนรมนเป็นคนในครอบครัว งั้นผมจะสามารถพูดอะไรสักหน่อยได้ไหม?”
คมทิพย์และนรมนต่างก็นิ่งอึ้งไปเลย พวกเธอคิดไม่ถึงว่าจณัตว์จะมายุ่งเรื่องนี้ด้วย
นรมนพูดอย่างหมดคำพูดขึ้นว่า “พี่ พฤกษ์ทำเกินไปแล้ว! พี่คงจะไม่ช่วยพูดแทนเขาหรอกมั้งคะ?”
จณัตว์จ้องมองนรมน แล้วถอนหายใจทีหนึ่ง “มน เรื่องนี้เธอตัดสินใจตามความคิดของตัวเองมากเกินไปแล้ว”
“ฉันเนี่ยนะตัดสินใจตามความคิดของตัวเอง? พฤกษ์ต่างหากที่เป็นคนกระทำชั่วช้าเกินไป! ถ้าพี่จะช่วยพูดแทนพฤกษ์ พี่ก็อย่าเปิดปากพูดเลยค่ะ”
นรมนพูดจบก็จะลุกขึ้นแล้วออกไป แต่กลับโดนคมทิพย์ดึงตัวไว้ก่อน
“ฉันอยากจะฟังดูว่าเขาจะพูดยังไง”
การกระทำของคมทิพย์ทำให้นรมนรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย แต่ว่าพอเห็นคมทิพย์ยืนกรานหนักแน่น เธอก็เลยนั่งลงมา แต่ว่าสายตาที่มองจณัตว์นั้นมีความไม่พอใจอยู่บ้าง
จณัตว์รู้ว่านรมนนั้นหวังดีต่อคมทิพย์ แต่เป็นเพราะว่านรมนเป็นเพื่อนสนิทของคมทิพย์ บางครั้งจึงมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจมากเกินไป แล้วทำให้มองเรื่องราวบางอย่างไม่ชัดเจนไป
เขานั่งลงข้างกายคมทิพย์ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผมไม่ปฏิเสธว่าเรื่องนี้พฤกษ์ทำตัวได้ไม่เป็นลูกผู้ชายมาก แถมพวกคุณจะบอกว่าเขาเป็นผู้ชายชั่วช้าก็ดี คนสารเลวก็ดี ล้วนเป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับแล้ว แต่ว่าในการแต่งงานครั้งนี้ นอกจากเรื่องนี้แล้ว พฤกษ์ยังได้ทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อคุณหรือเปล่า? คมทิพย์ ตั้งแต่ที่คุณรู้จักกับพฤกษ์จนมาถึงวันแต่งงาน พวกคุณไม่ได้แต่งงานกันสายฟ้าแลบใช่ไหม? ต่างก็เรียนรู้ซึ่งกันและกันมาเยอะแล้ว พฤกษ์เป็นทหารคนหนึ่ง ถ้ามองมาจากมุมของทหาร เขาเป็นทหารที่ดีมากคนหนึ่ง และพยายามทุกอย่างเพื่อประเทศชาติเพื่อบ้านเมือง ตอนที่อยู่ตระกูลโตเล็ก เขาก็เป็นผู้ช่วยที่มีความรับผิดชอบมากคนหนึ่ง ผ่านลมผ่านฝนมากับบุริศร์ตั้งหลายปี แล้วในตอนที่บุริศร์กลายเป็นเจ้าชายนิทราไปนั้น เขาก็แบกภาระหนักอึ้งของตระกูลโตเล็กขึ้นมาอย่างเต็มแรง ใช้ความสามารถทั้งหมดมาปกป้องคนทุกคนเอาไว้ หนำซ้ำตอนที่มาแต่งงานกับคุณแล้ว เขาก็ยอมปล่อยโอกาสที่จะได้เลื่อนขั้นไปเพื่อคุณ และยินยอมที่จะไปเป็นนักธุรกิจที่เห็นแต่เงินทองอย่างเต็มใจ เรื่องทั้งหมดนี้มันมีอยู่จริงใช่ไหมล่ะ?”
“พี่ พี่จะมาพูดอย่างนี้ไม่ได้นะ พวกเราไม่เคยปฏิเสธความเสียสละและอดีตของพฤกษ์มาก่อน แต่ว่าในชีวิตหลังแต่งงาน ยังไงเขาก็ได้ทำผิดอยู่ดี”
คำพูดของนรมนทำให้จณัตว์เคร่งขรึมขึ้นมาไม่น้อย
“มนครับ ใช่ เขาทำผิดไป แต่ว่าคนเรานั้นไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก เขาก็แค่ยึดติดในเรื่องลูกเกินไปเท่านั้น ทำไมเธอถึงไม่ลองคิดดูสักนิดล่ะ? ถ้าหากเขาไม่รักคมทิพย์จริง ๆ ก็หย่ากับเธอไปตรง ๆ แล้วไปหาผู้หญิงที่สามารถมีลูกได้คนหนึ่งมาแต่งงานด้วยไม่ดีกว่าเหรอ? ทำไมเขาจะต้องมาเปลืองแรงเปล่าขนาดนี้ด้วยล่ะ?”
คำพูดของจณัตว์ทำให้นรมนรู้สึกรับไม่ได้
“เพียงเพราะแค่ความเสียสละและผลงานของเขาในอดีตก็จะมาลบล้างความเจ็บปวดที่เขาทำกับคมทิพย์ไปได้เลยเหรอ? ความดีที่ว่าของเขาก็คือปล่อยให้มือที่สามมากดขี่ข่มเหงอยู่บนหัวคมทิพย์งั้นเหรอคะ?”
“เรื่องนี้เขาไม่ได้จัดการให้ดีจริง ๆ แต่มนครับ ไม่ใช่เพียงเพราะว่าคมทิพย์เป็นเพื่อนสนิทของเธอแล้วเธอก็จะชักชวนคนทั้งหมดให้ไปต่อต้านพฤกษ์หรอกนะ ไม่ว่ายังไงแล้วนี่เป็นเรื่องของพวกเขาสองคนผัวเมีย เธออย่าตามเข้าไปมีส่วนร่วมไปเรื่อย ถ้าระหว่างพวกเขาไม่มีความรักต่อกันแล้วจริง ๆ เธอจะพาคมทิพย์ไป ฉันก็จะไม่ว่าอะไรเลย แต่ว่าเธอดูสภาพคมทิพย์ซิ ร่างกายของหล่อนไม่ได้เป็นอะไร แต่กลับซูบผอมจนกลายเป็นสภาพนี้ เป็นเพราะว่าอะไรล่ะ? เป็นเพราะว่าหล่อนยังรักพฤกษ์อยู่! ที่หล่อนยอมเอาร่างกายไปลองยาพิษ เพื่อให้พฤกษ์มองเห็นธาตุแท้ของบุลินให้ชัดเจนนั้น เพราะว่าอะไรล่ะ? เพราะว่าต้องการหย่าจริง ๆ เหรอ? ด้วยคนอย่างพฤกษ์ ถ้าคมทิพย์ไม่มีความรู้สึกต่อเขาแล้วจริง ๆ พฤกษ์จะต้องไม่มีทางหวงสมบัติไว้ไม่ยอมปล่อยแน่ ในทางกลับกันเขาอาจจะออกไปตัวเปล่าด้วยซ้ำ! การกระทำแบบนี้คมทิพย์คุณอย่าพูดว่าคุณไม่รู้ตัวนะ! ที่คุณใช้ร่างกายมาทดลองยาพิษเพราะต้องการหย่าแล้วเอาเงินพวกนั้นกลับคืนมาเหรอ? หรือเพราะว่าเสียดายพฤกษ์ อยากจะได้เขากลับคืนมากันแน่? ในใจของคุณต้องชัดเจนที่สุด”
คำพูดพวกนี้ของจณัตว์ทำให้คมทิพย์ตะลึงอึ้งอยู่กับที่ไปจริง ๆ
เป็นเพราะอย่างนี้เหรอ?
ที่เธอทำแบบนี้ไม่ใช้เพราะว่าต้องการเอาสมบัติกลับคืนมา ไม่ใช่เพราะต้องการลงโทษบุลิน แต่เป็นเพราะว่าต้องการได้พฤกษ์คืนกลับมาเหรอ?
เธออยากจะให้พฤกษ์มาเห็นตัวเองโดนบุลินทรมานจนกลายเป็นคนหน้าตาอัปลักษณ์ แล้วมายอมจำนนกับเธอเหรอ?
เป็นเพราะแบบนี้เหรอ?
อยู่ ๆ คมทิพย์ก็รู้สึกหายใจไม่ออกขึ้นมาเล็กน้อย
และนรมนเองก็ตะลึงอึ้งภายใต้การพูดแทงใจดำออกมาของจณัตว์
เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงนิสัยแท้จริงของคมทิพย์ขึ้นมา
ถ้าหากว่าไม่รักแล้วจริง ๆ คมทิพย์ก็จะหย่าไปตรง ๆ อย่างเฉียบขาด ไม่ต้องมาอ้อมค้อม มาทรมานเช่นนี้ด้วย
เพราะฉะนั้นเธอเข้าใจผิดไปแล้วเหรอ?
จริง ๆ แล้วคมทิพย์ไม่ได้อยากจะหย่าเหรอ?
อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับว่าจะหวังดีแต่ทำเรื่องผิดพลาดไปแล้ว
ตอนเธอได้ยินว่าพฤกษ์ทำอย่างนั้นกับคมทิพย์ก็เลยทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา แล้วก็เข้าไปสู่บทบาทของคมทิพย์ไปเลย แถมยังให้บุริศร์มาร่วมมือกันต่อต้านพฤกษ์ ในสายตาของเธอ พฤกษ์ก็คือไอ้สารเลวที่ชั่วช้าที่สุด
แต่ปฏิเสธไม่ได้ ว่าการเสียสละทั้งหมดในอดีตของพฤกษ์นั้นเธอไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลย เธอเห็นแต่เพียงความเจ็บปวดและความเสียใจของคมทิพย์ เห็นแค่สภาพของคมทิพย์ที่โดนคนรังแก แต่พอมาคิดดูดี ๆ แล้ว ถ้าไม่ใช่ตัวคมทิพย์ยินยอมเอง แล้วใครจะไปรังแกคมทิพย์ได้ล่ะ?
คิดว่าคมทิพย์ก็คงจะเอามีดไปไล่แทงผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่แรกแล้ว
เพราะฉะนั้นยังไงก็คือเธอยุ่งเรื่องคนอื่นเกินไปแล้ว
ในใจของนรมนรู้สึกเป็นทุกข์ขึ้นมาเล็กน้อย แล้วยิ่งมองเห็นดวงตาที่ไร้ความสดใสของคมทิพย์แล้ว เธอก็รู้แล้วว่าจณัตว์นั้นพูดถูกแล้ว
คมทิพย์ไม่สามารถที่จะอดทนกับการกระทำทั้งหมดของพฤกษ์ได้ แต่ก็ไม่อยากจะหย่า การกระทำไม่รู้ตัวพวกนี้ของเธอดูไปแล้วเหมือนกับว่าเพื่อต้องการหย่า แต่ที่จริงแล้วก็เป็นแค่วิธีการที่อยากได้คืนมาแบบหนึ่งเท่านั้น