“คุณอย่าร้องไห้เลยนะ!”
สำหรับพฤกษ์แล้วน้ำตาของคมทิพย์ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดปางตาย หัวใจของเขาโดนแทงจนบาดเจ็บ อยากจะกอดปลอบโยนเธอเหลือเกิน แต่ตอนนี้เขาสูญเสียคุณสมบัตินั้นไปแล้ว
“ฉันร้องไห้นายก็ต้องยุ่งหรือไง? พฤกษ์ ถ้านายจะดีก็ดีให้ถึงที่สุด ถ้าจะเลวก็เลวให้ถึงที่สุด ให้ฉันเกลียดนายอย่างหมดใจ ให้ฉันมองเห็นความเลวของนายอย่างชัดเจน ตอนนี้มันคืออะไรล่ะ? นายบอกฉันสิ นายคิดจะทำอะไรกันแน่?”
ถ้าไม่มีกระจกกั้นอยู่ คมทิพย์อยากจะคว้าคอเสื้อเขามาถามจริงๆ
ในใจของพฤกษ์เจ็บปวดมาก
ไวน์ขมๆที่ตนเองหมักเอาไว้ ต่อให้ต้องคุกเข่าก็ต้องดื่มให้หมด
“ผมไม่เคยคิดทำร้ายคุณเลย”
“แต่ทุกๆเรื่องที่นายทำหลังจากที่ต้องการเก็บเด็กไว้ล้วนแต่ทำร้ายฉันไม่ใช่หรือไง? พฤกษ์ ถ้านายอยากมีลูกบอกฉันได้นะ มันก็จริงที่ฉันให้กำเนิดไม่ได้ แต่ฉันจะไม่ห้ามความคิดที่อยากมีลูกของนาย แต่ทำไมนายถึงไม่พูด? ทำไมนายถึงไม่ปรึกษาฉัน? เห็นๆอยู่ว่าพวกเรามีวิธีมากมายที่จะมีลูกสักคน แต่นายดันเลือกใช้วิธีที่เลวที่สุด นายทำผิด แต่ไม่ยอมรับผิด แล้วยังรู้สึกว่าฉันไม่เข้าใจนายอีก ถ้านายอยากเดินไปบนถนนที่มืดมิด งั้นรบกวนนายหย่ากับฉันด้วย หลังจากนั้นนายอยากทำอะไรมันก็เรื่องของนาย แต่นายก็ไม่ยอมหย่าอีก! นายกำลังทรมานฉันอย่างหนัก รู้อยู่แล้วว่าบุลินทำอะไรผิดต่อฉัน แต่คุณยอมอดทนเพื่อลูก ทำให้ฉันลำบากใจ คุณยังจะบอกว่าไม่ได้คิดทำร้ายฉันอีกงั้นเหรอ?”
คมทิพย์พูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาอีก ก็ราวกับฉีกบาดแผลที่ยังไม่ตกสะเก็ดของตนเองออกอีกครั้ง เจ็บจนเธอตัวสั่นเทิ้ม เลือดสดๆหยดลงมา
“พฤกษ์ คนที่แทงมีดเข้ามาในใจของฉันก็คือนาย! นายแทงมีดเข้ามาในหัวใจของฉัน แต่กลับบอกว่าไม่เคยคิดทำร้ายฉัน นายไม่รู้สึกว่าตัวเองเสแสร้งเลยหรือไง? ฉันรู้ ในช่วงที่แต่งงานกันมานี้ ฉันก็ทำได้ไม่ดี ฉันยุ่งอยู่กับการทำงาน ละเลยนาย แต่ฉันทำเพื่ออะไรล่ะ? ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ครอบครัวของฉันหายไปในชั่วข้ามคืน ส่วนนายตั้งแต่แยกกับบุริศร์ ในวงการธุรกิจก็ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ กิจการใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ ในเมืองB ทุกคนที่พูดถึงนายก็พากันยกนิ้วให้ ฉันเป็นภรรยาของนาย ฉันอยากยืนอยู่กับนาย อยากจะคู่ควรกับนาย ฉันถึงได้พยายามอย่างนี้ไง ตอนที่พูดถึงนายฉันก็อยากให้คนอื่นๆพูดว่าฉันกับนายเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก สวรรค์ส่งมาเป็นคู่รักกัน ไม่ใช่แค่เรียกว่าคุณนายรัตติกรวรกุลแล้วก็ผ่านไป พวกเราไม่มีลูก ฉันจึงคิดว่าจะทุ่มทำงานอีกสิบปี สิบปีให้หลังฉันจะพานายไปเที่ยวทุกที่บนโลก ไปดูวิวพระอาทิตย์ตกด้วยกัน ฉันไม่เคยคิดจะเพิกเฉยนาย ทำให้นายโดดเดี่ยวจนก่อให้เกิดความหมกมุ่นอย่างนี้”
“ไม่ต้องพูดแล้ว”
น้ำตาของพฤกษ์ไหลออกมา
เขาไม่เคยรู้ความคิดในใจของคมทิพย์มาก่อนเลย
ตั้งแต่ตอนที่ตกหลุมรักคมทิพย์เขาก็รู้ว่าคมทิพย์เป็นคนที่พึ่งพาตนเอง ไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป แต่หลังจากแต่งงานเขากลับอยากให้คมทิพย์อยู่บ้านรอเขากลับบ้านอย่างสบายใจ เป็นคุณนายเต็มตัว
มันเป็นความคิดตั้งแต่แรกของเขาที่ปรากฏความเอนเอียงออกมาถึงได้เป็นอย่างนี้
ถ้าทั้งสองคนรู้ว่ามีปัญหาแล้วเริ่มปรึกษากัน บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้เดินมาจนถึงวันนี้ก็ได้
“คมทิพย์ ผมผิดไปแล้ว จนกระทั่งตอนที่ผมรู้ว่าคุณไอเป็นเลือดผมถึงพบว่า บนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือเป็นอะไร ก็ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคุณทั้งนั้น ผมแค่อยากเห็นคุณมีชีวิตที่ดี แต่สิ่งดีๆที่อยู่ในมือผมกลับโดนผมทำลายจนแหลกละเอียด ตอนนี้ผมไม่คาดหวังให้คุณอภัยให้ผม ผมแค่หวังว่าคุณจะรักษาอาการป่วยให้ดี มีชีวิตที่ดี เรื่องนี้ผมทำไม่ถูกเอง ผมรู้ว่าบางเรื่องถ้าทำผิดไปแล้วมันก็หมดหนทางจะชดใช้ได้ ไม่เพียงแต่คำขอโทษเท่านั้นที่ผมติดค้างคุณ แต่นอกจากขอโทษผมไม่รู้ว่ายังพูดอะไรได้อีก ยังทำอะไรได้อีก ตอนนี้ทุกอย่างที่ผมทำไม่ได้ทำเพื่อให้คุณยกโทษให้ ผมรู้ว่าบางเรื่องมันหมดหนทางที่จะยกโทษให้ได้ แต่ผมแค่อยากให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นบ้างก็เท่านั้น คุณพูดถูก ลูกทำให้ผมดีใจจนเสียสติ รู้ๆอยู่ว่าบุลินทำเรื่องไม่ดีอะไรกับคุณบ้างแต่ยังคงแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ ผมก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของเธอ ผมลงมือกับบุลิน จนทำให้เธอแท้ง นี่เป็นการทำร้ายโดยเจตนา ต่อให้เธอยื่นฟ้องผมต่อศาล ผมก็จะยอมรับทั้งหมด นี่เป็นเรื่องของผมกับเธอ ไม่เกี่ยวกับคุณเลย ต่อไปไม่มีผู้ชายเลวๆอย่างผมข้างๆคุณแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณคงจะดีมากๆ”
พฤกษ์มองคมทิพย์ สายตาอาลัยอาวรณ์แต่กลับไม่มีคุณสมบัติที่จะได้ครอบครองคมทิพย์ที่ใสซื่อบริสุทธิ์อีกแล้ว
ใจของคมทิพย์ชะงักเล็กน้อย ราวกับรู้สึกได้ถึงอะไร จู่ๆหัวใจก็บีบตัวแน่นขึ้นมา
“นายอยากจะพูดอะไร?”
พฤกษ์ก้มหน้า เหมือนที่หน้าอกมีมีดสั้นมากมายกำลังประหารชีวิตของตนเองอยู่
เขาเอ่ยปากขึ้นด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวและยากลำบาก
“ผมเซ็นใบหย่าเรียบร้อยแล้ว อยู่ที่ทนายปวิน ถึงผมจะไม่ได้นอกกาย แต่ในช่วงเวลาที่แต่งงานกัน ไปทำลูกกับผู้หญิงคนอื่น โดยไม่ผ่านการยินยอมจากภรรยา ก็ถือเป็นความไม่ซื่อสัตย์ ดังนั้นผมจะหย่ากับคุณโดยที่ไม่เอาอะไรเลย บริษัท หุ้น เงินต่างๆนานา ผมเชื่อว่าประธานบุริศร์จะหาคนมาช่วยคุณจัดการ ผมเขียนสัญญาโอนทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ในทางกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว อยู่ที่ทนายปวินเช่นกัน เดี๋ยวคุณกลับไปยืนยันอีกที ส่วนเรื่องของผมที่ด้านนี้คุณไม่ต้องสนใจนะ ใบหย่าคุณเซ็นแล้วให้ทนายปวินไว้ได้เลย เขาจะไปจัดการที่สำนักกิจการพลเรือนให้ คุณไม่จำเป็นต้องออกหน้า คุณเป็นคนมีชื่อเสียง เรื่องนี้ผมทำให้คุณเดือดร้อนไปด้วย เดี๋ยวผมจะให้ทนายปวิน……”
“พฤกษ์!”
คมทิพย์ตัดบทคำพูดของพฤกษ์ สายตาจ้องเขม็งไปที่เขา
จู่ๆพฤกษ์ก็ชะงักงัน เงยหน้าขึ้นทันที จึงเห็นดวงตาคู่นั้นของคมทิพย์ที่มาพร้อมกับความรู้สึกที่เขามองไม่ออก
คมทิพย์ถามขึ้น: “นายคิดดีแล้วใช่ไหม? นายตัดใจหย่ากับฉันได้งั้นเหรอ?”
“ตัดใจไม่ได้!”
พฤกษ์อยากร้องไห้อีกแล้ว
เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไหนแต่ไรก็เป็นหัวหน้าที่เสียเลือดแต่ไม่ยอมเสียน้ำตามาโดยตลอด แต่ต่อมน้ำตาในวันนี้เหมือนกับควบคุมไม่ได้แล้ว ยังไงก็คุมเอาไว้ไม่อยู่
“แต่ผมทำผิด เรื่องนี้มันหนักหนาเกินไป ผมรู้ว่าคุณคงไม่ให้อภัยผม แล้วก็คงผ่านหลุมในใจนั้นไปไม่ได้ แค่เห็นผม คุณก็คงนึกถึงบุลิน คงนึกถึงเด็กคนนั้นที่อยู่ในท้องของเธอ คุณคงเบื่อหน่าย ทุกข์ใจ ถึงขั้นที่มองผมตรงไหนก็ขัดตาไปหมด ไม่ใช่ว่าผมทนไม่ได้ แต่ผมรู้ว่าคุณไม่ต้องการชีวิตแต่งงานที่เป็นอย่างนี้ ไม่อยากให้ความสุขที่เราเคยมีค่อยๆโดนทรมาน ค่อยๆสิ้นเปลืองจนหมดไป”
น้ำตาของคมทิพย์ร่วงลงมาบนหลังมือ เธอยืนขึ้นทันที พูดอย่างเย็นชา: “นายเข้าใจฉันดี แต่คนที่เข้าใจฉันอย่างนาย กลับทำเรื่องที่ทำให้ฉันเจ็บปวดเสียใจที่สุด! พฤกษ์ นายมันคนเลว!”
พูดจบเธอก็หันหลังเดินไป
พฤกษ์มองด้านหลังของเธอ กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาอาบแก้ม อึดอัดใจ ทั้งร่างกายราวกับโดนฉีกขาดเป็นเสี่ยงๆ
เขาอยากยื่นมือออกไป อยากขอร้องให้เธออยู่ต่อ แต่กลับไม่มีเหตุผลใดๆที่จะรั้งเธอเอาไว้เลย!
คมทิพย์วิ่งออกจากศูนย์กักกันขึ้นไปบนรถอย่างเด็ดเดี่ยว ตัวสั่นเทิ้ม จู่ๆเธอก็ฟุบลงไปบนพวงมาลัยแล้วปล่อยโฮออกมา
ร้องไห้ให้กับชีวิตแต่งงานที่กำลังจะผ่านพ้นไป ร้องไห้ให้กับผู้ชายคนนั้นที่เคยสำคัญมากในชีวิตของเธอซึ่งเธอกำลังจะสูญเสียเขาไปแล้ว……