แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1614 ให้พวกเขาจัดการกันเองเถอะ

บทที่ 1614 ให้พวกเขาจัดการกันเองเถอะ

อยู่ ๆ นรมนก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีแล้ว

และคมทิพย์เองก็รู้สึกว่าไม่รู้จะเผชิญหน้ากับตัวเองขึ้นมาหน่อยแล้ว

เธอปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปไม่ได้

แต่ว่าการหย่า ก็เจ็บปวดเหมือนกับกรีดเลือดกรีดเนื้อยังไงอย่างงั้น แต่ถ้าพูดจากใจจริง เธอไม่อยาก

ใช่!

เธอไม่อยาก!

ตอนนั้นตอนที่ตัวเองโดดเดี่ยวเดียวดายไร้การช่วยเหลืออยู่ตัวคนเดียวที่สุสานนั้น พฤกษ์เป็นคนแบกเธอลงมาจากเขา ในเวลานั้นแผ่นหลังของเขากว้างขวางซะขนาดนั้น ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยซะขนาดนั้น

ต่อมาพฤกษ์เสียสละเพื่อเธอมากขนาดนั้น แถมยังยอมปล่อยหน้าที่การงานที่มีความก้าวหน้ามากแบบนั้นไปแล้วเปลี่ยนมาทำธุรกิจ และเพื่อความฝันที่จะเป็นดาราของเธอแล้วก็ยังคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังตลอด

คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่คมทิพย์นั้นรู้ดีที่สุดว่าเพื่อความรักระหว่างพวกเขาแล้วพฤกษ์ได้เสียสละไปมากเท่าไหร่ ส่วนเธอก็ได้แต่คอยเป็นฝ่ายรับอย่างสบายใจอยู่ตลอด แต่กลับไม่ได้ตอบแทนกลับไปซะเท่าไหร่ มีกี่ค่ำคืน ที่พอเธอถ่ายละครเสร็จแล้วโทรหาพฤกษ์ แล้วบอกออกไปแค่ประโยคเดียวว่า “ฉันคิดถึงคุณแล้ว” พฤกษ์ก็จะขับรถหลายสิบกิโลรีบมาอยู่เคียงข้างเธอ เพื่อที่จะได้เห็นหน้าเธอ และเอาโจ๊กอุ่น ๆ มาให้เธอถ้วยหนึ่ง

แต่ว่าสามีที่ปฏิบัติเธออย่างไร้ที่ติแบบนี้ กลับไปมีลูกกับผู้หญิงอื่นที่ข้างนอกลับหลังเธอได้!

ถึงแม้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์กันทางร่างกาย แต่ว่าเด็กคนนั้นก็ไม่มีสายเลือดของเธอและพันธุกรรมของเธอ แล้วจุดนี้ก็เป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้ที่สุด

จณัตว์เห็นท่าทีของคมทิพย์ดูเจ็บปวด แล้วก็รู้สึกทนทำใจขึ้นมาไม่ได้นิดหน่อย แต่ว่าเรื่องแบบนี้คนนอกมักจะเห็นชัดที่สุด คนที่อยู่ในเหตุการณ์มักจะไม่ชัดเจน เขาไม่ได้พูดแทนพฤกษ์ เพียงแต่แค่อยากให้คมทิพย์มองเห็นได้ว่าตกลงหัวใจตัวเองต้องการอะไรก็เท่านั้น

ถือโอกาสในช่วงที่คมทิพย์กำลังเจ็บปวดอยู่นั้น จณัตว์ก็ลากตัวนรมนแล้วออกมา

สีหน้าของนรมนยังไงก็ยังดูแย่อยู่บ้าง

“พี่ พี่ไม่ซื่อตรงนี่”

“เป็นเพราะว่าเธอยุ่งมากเกินไปต่างหาก”

จณัตว์รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างนรมนกับคมทิพย์เป็นยังไง แต่ว่าเรื่องแบบนี้คนนอกไม่มีทางที่จะยื่นมือเข้าไปแทรกได้จริง ๆ

“นรมน ฉันกลัวว่าถ้าต่อไปคมทิพย์หย่าขึ้นมาจริง ๆ ในทางกลับกันเธอกับคมทิพย์อาจจะมีช่องว่างขึ้นมาได้”

“จะเป็นไปได้ยังไง?”

นรมนถามจบแล้วถึงรู้สึกว่าคำพูดนี้ถามได้ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่

จณัตว์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เรื่องของสามีภรรยาคนอื่นยื่นมือเข้าไปแทรกไม่ได้หรอก ตอนนี้ตัวคมทิพย์เองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองอยากจะหย่ากับพฤกษ์จริง ๆ หรือเปล่า แถมในจิตใต้สำนึกยังไม่อยากจะหย่าด้วย แต่ว่าอยู่ภายใต้การที่เธอเข้าไปยุ่งแล้วถ้าพวกเขาเกิดหย่ากันขึ้นมา แล้วถ้าวันหนึ่งคมทิพย์รู้สึกตัวขึ้นมาจริง ๆ เธอคิดว่าคมทิพย์จะไม่โทษเธอเหรอ? และอีกอย่าง เธอคือเธอ บุริศร์คือบุริศร์ เขาเป็นพี่น้องกับพฤกษ์มานานหลายปี แล้วถึงแม้ว่าพฤกษ์จะชั่วช้ายังไง ทำเรื่องไม่ดีแค่ไหน สำหรับเขาแล้ว นั่นก็ยังเป็นพี่น้องเขาอยู่ดี เธออย่ามาคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอข่มขู่บุริศร์ยังไง ที่เขารับปากเธอก็ไม่ได้คิดว่าเธอทำถูกต้องจริง ๆ เพียงแต่แค่ไม่อยากเกิดความขัดแย้งกับเธอเพราะคนนอกเท่านั้น สำหรับควรจะทำยังไงนั้น ในใจของเขาก็คงมีความคิดอยู่นานแล้ว บุริศร์นั้นรักเธอ ตามใจเธอ แต่ว่าเธอก็อย่างฟุ่มเฟือยและไม่เห็นค่าความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ อย่างคำพูดว่าหย่าแบบนั้น ต่อไปอย่าพูดอีกดีกว่า”

“ฉันรู้แล้วค่ะ”

นรมนก้มหัวไว้อย่างกับเด็กที่ทำเรื่องผิดพลาดคนหนึ่ง ในใจรู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก

“กลับไปเถอะ ให้คมทิพย์อยู่ที่นี่ ให้เธอคิดให้ชัดเจนด้วยตัวเองเถอะ”

นรมนพยักหน้าเล็กน้อย

ตอนที่เธอกลับมาถึงห้องนั้น บุริศร์ยังคงยุ่งอยู่ พอเห็นอารมณ์ของนรมนไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก ก็อดไม่ได้จนต้องวางงานที่อยู่ในมือลง

“เป็นอะไรไป? ใครทำคุณอารมณ์เสียเหรอ? บอกสามีมา เดี๋ยวสามีไปช่วยคุณเอาคืนให้”

นรมนเห็นบุริศร์มีท่าทีที่เหน็ดเหนื่อยแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเป็นห่วงตัวเอง จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อย

“ที่รัก ที่ฉันบังคับไม่ให้คุณไปติดต่อกับพฤกษ์ และบังคับให้คุณไปสั่งให้พฤกษ์หย่านั้นมันช่างไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคุณเลยใช่ไหมคะ?”

นรมนคิดถึงคำพูดของจณัตว์ ในใจก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

บุริศร์อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็จับมือของนรมนไว้แล้วถามขึ้นว่า “ไปฟังใครพูดอะไรมา?”

“ก็ไม่มีอะไรค่ะ เพียงแต่ว่าจู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเอาความคิดของฉันไปยัดเยียดให้คุณมันเหมือนจะไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ และที่สำคัญพฤกษ์มีความสำคัญต่อคุณ ก็เหมือนกับที่คมทิพย์มีความสำคัญต่อฉัน ฉันกำลังคิดว่าถ้าคุณมาบอกให้ฉันตัดขาดความสัมพันธ์กับคมทิพย์เพราะว่าพฤกษ์ละก็ ฉันคิดว่าฉันน่าจะยอมรับไม่ได้หรอกค่ะ”

พอได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ในใจของบุริศร์ก็รู้สึกได้รับการปลอบประโลมขึ้นมาอย่างมาก

เขารวบตัวนรมนเข้ามาไว้ในอก แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผมจะไปเกลี้ยกล่อมให้พฤกษ์ยอมหย่า ไม่ใช่เพราะว่าคำพูดของคุณ แต่เป็นเพราะว่าผมรู้สึกจริง ๆ ว่าชีวิตแต่งงานของเขากำลังมีปัญหาอยู่ และตัวเขาเองก็ได้ทำผิดไปจริง ๆ ด้วย แต่ถ้าคุณจะบอกให้ผมอย่านับเขาเป็นพี่น้องอีก คิดว่าคงจะยากนิดหน่อย หลายปีมานี้พฤกษ์ช่วยผมทุก ๆ อย่าง อยู่ในสนามรบก็ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันกับผม เป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายที่ผมสามารถเอาใจฝากไว้กับเขาได้อย่างไว้วางใจ จะมาเป็นเพราะเรื่องแค่นี้แล้วจะไม่คบหากันจริง ๆ ได้ยังไง?”

“งั้นตอนนั้นคุณยังเชื่อฟังฉันซะขนาดนั้น ฉันก็นึกว่าคุณจะเลิกคบหากับเขาแล้วจริง ๆ”

“นั่นก็เพราะว่ากลัวคุณโกรธไง เรื่องของคมทิพย์ก็ได้ทำให้คุณกลุ้มใจมากพอแล้ว แล้วถ้าผมยังดึงดันว่าจะไม่ตัดขาดการติดต่อกับพฤกษ์ต่อหน้าคุณอีก งั้นคุณก็คงจะต้องรู้สึกทุกข์ใจมากซิ สามีตัวเองยังไม่เข้าข้างคุณ ในใจคุณก็คงจะต้องรู้สึกแย่แน่ๆ”

พอได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนก็เข้าใจขึ้นมาทันทีเลย

“อ๋อดีนี่ นี่คุณต่อหน้าพูดอย่างลับหลังทำอีกอย่างนี่! คุณหลอกฉันนี่!”

นรมนยกกำปั้นเล็กๆขึ้นมาก็ทุบลงไปเลย แต่กลับโดนบุริศร์คว้าขวับไว้เลย

เขาหัวเราะแล้วก็พูดขึ้นว่า “ผมจะไปกล้าหลอกคุณได้ยังไง? ก็แค่อะลุ่มอล่วยหน่อยเท่านั้นเอง พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ชีวิตก็จะต้องมีพวกเราสองคนมาดำเนินด้วยกัน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาทำให้ชีวิตตัวเองยุ่งเหยิงไปเพราะคนอื่นหรอกใช่ไหม? ถ้าสามารถแก้ปัญหาได้โดยที่ไม่ต้องเลือดตกยางออก จะอ้อมค้อมหน่อยก็ไม่เป็นไรใช่ไหม”

“หึ! คุณมีเหตุผลอยู่คนเดียวนั่นแหละ”

นรมนยอมรับว่าเถียงบุริศร์ไม่ไหว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบุริศร์มีความคิดของตัวเองอยู่ เขาตามใจนรมน ยอมตามเธอ แต่ก็ไม่สามารถที่จะขาดหลักการและขีดจำกัดไปซะทั้งหมด

“เฮ้ย คุณว่าคนที่ฉลาดขนาดนั้นอย่างพฤกษ์ ทำไมพอมาเรื่องนี้ถึงได้โง่ขนาดนี้ไปได้นะ?”

นรมนรู้สึกคิดไม่ตก

แต่บุริศร์กลับมองได้ชัดเจนมาก

“คนอย่างเขาเป็นคนดื้อด้านคนหนึ่ง บางครั้งพอเชื่อมั่นในเรื่องอะไรไปแล้ว ถ้าไม่ถึงทางตันก็จะไม่หันหลังกลับ ตามความคิดของเขา เขาไม่ได้มีชู้ เพียงแค่อยากได้ลูกคนหนึ่งเท่านั้น แล้วก็ทำอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้ทำร้ายคมทิพย์จึงสามารถทำได้ เหมือนโดนสิ่งชั่วร้ายครอบงำไปหมด ใครว่าอะไรก็ไม่มีห้ามไม่ได้ นอกจากว่าจะไปถึงวันที่ไม่สามารถไปต่อกับคมทิพย์ได้อีกแล้วจริง ๆ บางทีเขาอาจจะตื่นขึ้นรู้มาก็ได้”

“แต่ว่าพอถึงตอนนั้นก็สายไปแล้ว หัวใจของผู้หญิงนั้นไม่ได้จะเย็นยะเยือกไปในคราวเดียว ในตอนที่บุลินทำเรื่องเกี่ยวกับสลิงของคมทิพย์ขึ้นมาแล้วเขาไม่จัดการ คมทิพย์ก็ได้รู้สึกเจ็บปวดมากแล้ว เรื่องต่อ ๆ มาก็ทำเกินเลยแล้ว”

นรมนรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมา

บุริศร์ถอนหายใจทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “พฤกษ์เป็นทหารที่ดีคนหนึ่ง เป็นผู้ช่วยที่ดีคนหนึ่ง แถมยังเป็นนักธุรกิจที่ดีคนหนึ่ง แต่ว่าทำเรื่องนี้ออกมา ช่างไม่ใช่สามีที่ดีคนหนึ่งจริง ๆ ตอนนี้คุณมีความคิดอะไรบ้าง?”

“ฉันยุ่งไม่ไหวแล้ว ให้พวกเขาจัดการกันเองเถอะค่ะ พี่ชายฉันพูดถูกแล้ว เรื่องของสองสามีภรรยา ฉันที่เป็นคนนอกไม่เหมาะสมที่จะเข้าไปยุ่งจริง ๆ”

ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเห็นท่าทีที่เจ็บปวดของคมทิพย์ บางทีจนถึงตอนนี้นรมรก็คงจะยังไม่รู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่ได้ทำผิด คิดว่าคมทิพย์ต้องการจะหย่าจริง ๆ แต่ว่าจากคำพูดของจณัตว์เธอถึงรู้ว่า บางครั้งถึงจะเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งมากแค่ไหนแต่พออยู่ในด้านความรักก็จะลังเลไม่จบสิ้น เอาแน่เอานอนไม่ได้ และสิ่งที่เธอสมควรทำที่สุดก็คือคอยสนับสนุนอยู่ข้าง ๆ

ไม่ว่าคมทิพย์จะทำการตัดสินใจออกมายังไง เธอก็จะเลือกสนับสนุนคมทิพย์อย่างไม่มีข้อแม้!

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท