คำพูดของชินทรทำให้หัวใจของตุลธรบีบรัดแน่น
“ฉันไม่เข้าใจนายกำลังพูดอะไร?”
“ไม่เข้าใจงั้นเหรอ? ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก่อนที่พวกฉันจะรับภารกิจ จู่ๆก็มีคนมาบอกว่าต้องตรวจเลือดพวกฉัน ซึ่งตั้งแต่ออกปฏิบัติการมาพวกฉันไม่เคยต้องทำอย่างนี้เลยสักครั้ง ตอนนั้นแม้จะรู้สึกแปลกๆ แต่ฉันเองก็ไม่ได้คิดมากอะไร จนกระทั่งรู้ว่าที่จริงแล้วคำว่าภารกิจก็เป็นแค่เรื่องโกหก เพื่อที่จะปิดล้อมพวกฉันเอาไว้ในสนามรบ แต่กลับส่งคนมานำตัวพวกฉันไปอย่างลักขื่อเปลี่ยนเสา ฉันก็เลยรู้ว่าที่ตรวจเลือดมันมีปัญหาแน่ๆ”
คำพูดของชินทรทำให้สีหน้าของตุลธรเปลี่ยนไป
เขาพูดต่อว่า “ต่อมาก็ได้มาเจอเชษฐ์ ถึงฉันจะพอเดาได้ แต่ก็ยังคิดไม่ถึงอยู่ดีว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเชษฐ์คือพวกนาย!กรงขังนั่นทำให้พวกฉันสูญเสียศักดิ์ศรี สูญเสียสิทธิ์ในการมีชีวิตอยู่ต่อ ถึงแม้พี่น้องของตระกูลเจริญไชยจะตายแทนฉัน แต่ฉันคิดว่าเพราะการตายของเขาพวกนายถึงได้หันมาสนใจนรมนลูกสาวฉันใช่ไหม?”
“พวกนายคิดว่าคนที่ตายคือฉัน เพราะความพิเศษของสายเลือดตระกูลเจริญไชย ดังนั้นพวกนายถึงได้จับตามองนรมนลูกสาวของฉัน และก็เพราะความพิเศษของตำแน่งบุริศร์ พวกนายเลยไม่สามารถทำมันได้อย่างเปิดเผย เลยต้องหลอกใช้คนอื่นให้จัดการแทนพวกนาย ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านดารายน รวมไปถึงพวกนิวัฒน์ ฉันล่ะอยากรู้จริงๆข้อมูลสายแร่ของหมู่บ้านดารายนหลุดออกไปได้ยังไง?”
“สายแร่อยู่หลังภูเขาของหมู่บ้านดารายน ปกติแล้ว คนในหมู่บ้านจะไม่ไปทำะไรที่นั่นถ้าไม่จำเป็น คนรุ่นหลังแทบจะไม่รู้เลยว่ามีสถานที่แบบนั้นอยู่ แต่แล้วทำไมดันมาถูกค้นพบในรุ่นของโอด้วยล่ะ? มันมีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น ก็คือมีคนบอกพวกเขา และก็เพราะว่าสายแร่ถูกค้นพบ ถึงเป็นเหตุให้หมู่บ้านดารายนตกอยู่ในอันตรายทั้งหมู่บ้าน”
“ทำยังไงไม่ให้คนสังเกตเห็นเรื่องที่พวกนายทำงั้นเหรอ? ก็คงเป็นไปได้ว่าในสถานการณ์ที่มีทั้งปัญหาภายในและภายนอกจู่โจมเข้ามาพร้อมกัน เลยไม่มีใครคิดมาถึงพวกนาย ดังนั้นลูกสาวของฉันเลยต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นบ่อยๆ แต่ก็รอดพ้นมาได้เพราะมีบุริศร์ช่วย ต่อมาพอพวกนายรู้ว่าฉันถูกเบื้องบนช่วยเอาไว้ และเริ่มทำงานให้เบื้องบน นายก็เลยได้รู้ว่าคนที่ตายในตอนนั้นไม่ใช่ฉัน แต่เป็นพี่น้องของตระกูลเจริญไชย ดังนั้นพวกนายเลยเริ่มตรวจสอบและตามสืบนภดล เพราะถึงยังไงนภดลก็อยู่ในฐานะบุคคลที่ถูกทดลองตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ แถมยังมีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ และควบคุมอาการคลุ้มคลั่งได้ เพราะงั้นสำหรับพวกนายแล้ว นภดลจึงควรค่าแก่การวิจัย แต่ขณะเดียวกันพวกนายก็ไม่ยอมปล่อยหลานชายของฉันไป เพราะว่าดวงตาสีฟ้าสองคู่นั้น เและสายสัมพันธ์จากสายเลือดพิเศษของฉันในอดีต พวกนายเลยไม่ยอมปล่อยให้หลานของฉันได้เติบโตอย่างอิสระใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินชินทรพูดประโยคเหล่านี้ออกมาอย่างฉะฉาน สีหน้าของตุลธรก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
“เรื่องพวกนี้นายเดาได้ หรือมีหลักฐาน?”
“ฉันไม่มีหลักฐาน และฉันก็ไม่คิดที่จะทำอะไรพวกนายด้วย ตอนนี้สำหรับฉันแล้ว การที่ครอบครัวได้อยู่อย่างสงบสุขต่างหากคือสิ่งที่ปรารถนาที่สุด เพราะงั้นคุณตุลธร อย่ามาบังคับฉัน ฉันต้องการแค่หลานของฉัน!”
คำพูดของชินทรทำให้ตุลธรนิ่งอึ้งไป
เขาขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก
ชินทรรู้มากเกินไปแล้ว เขาเริ่มกลัวซะแล้วสิ!
เรื่องเมื่อยี่สิบปีก่อนเขาก็เดาได้หมด ถึงแม้จะไม่มีหลักฐาน แต่ใครจะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะหาหลักฐานไม่ได้?
“ชินทร นายควรรู้เอาไว้ ที่นี่ ฉันใหญ่ที่สุด!”
“แล้วยังไง? ฉันต้องกลัวเหรอ?”
พูดจบชินทรก็แกะกระดุมเสื้อตัวนอกออก เผยให้เห็นระเบิดที่แขวนอยู่กับหน้าอก
“เชี่ยนี่มัน!”
ตุลธรทรุดลงกับพื้น เหงื่อเย็นๆไหลซึมตามหน้าผาก
“ชินทร นายบ้าไปแล้วเหรอ?”
“ส่งตัวหลานฉันมา ไม่อย่างนั้นนายกับฉันดับพร้อมกันแน่!”
ชินทรไม่ได้มีท่าทีล้อเล่นเลยสักนิด
แววตาของเขาแดงเถือกน่ากลัว ดูก็รู้แล้วว่ากำลังเสียสติ
หัวใจของตุลธรเต้นตุบๆ
เขาจะตายไม่ได้!
ตอนนี้เขาได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์ ชีวิตดีๆหลังจากนี้กำลังรอเขาอยู่ เขาจะตายได้ยังไง?
“ได้! ฉันจะส่งให้คุณ นายเก็บระเบิดก่อนนะ!”
“ฉันต้องได้เห็นหลานฉัน!”
ชินทรไม่ยอมถอยเลยสักนิด
มาถึงขั้นนี้ ความเป็นความตายไม่ได้สำคัญอะไรกับเขาแล้ว
เรื่องที่ต้องฝากฝังเขาก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ต่อให้ตุลธรไม่ส่งตัวภาณมา เขาก็จะระเบิดที่นี่ แน่นอนว่าต้องดึงดูดความสนใจของพวกธเนศพลให้มาที่นี่
อีกอย่างการที่เขาตามตุลธรกลับมาก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคน ถึงตอนนั้นพอเขาตาย ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรก็คงอธิบายอะไรไม่ได้
แน่นอนว่าตุลธรก็คิดถึงข้อนี้
เขาไม่อยากยอม แต่ก็ไม่กล้าเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง จึงจำต้องสั่งคนไปอุ้มภาณออกมา
ร่างเล็กของภาณกำลังนอนขดตัวหลับสนิท หัวคิ้วขมวดมุ่นเหมือนกำลังไม่สบายตัว
“นายทำอะไรเขา?”
“ยังไม่ได้ทำอะไร ไม่กี่วันมานี้ก็แค่เจาะเลือดมาตรวจและวินิจฉัยเท่านั้นเอง”
คำพูดของตุลธรทำให้ดวงตาของชินทรยิ่งแดงเถือกมากกว่าเดิม
“เด็กเพิ่งไม่กี่ขวบ นายยังเจ้าเลือดมาวิจัยได้ลงคอเหรอ?”
เจาะเลือดที่ตุลธรพูดมามันไม่ใช่แค่การเจาะเลือดธรรมดาอย่างที่พูด ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าชินทรอีกแล้วว่าต้องเจาะตรงไหนถึงจะได้เลือดในปริมาณที่มาก
สำหรับพวกเขาแล้ว แทบจะไม่มองคนที่ถูกทดลองเป็นมนุษย์เลยสักนิด!!
แล้วพวกเขาก็ใจร้ายจนแทบจะไม่ใช่คนด้วยเหมือนกัน!
ถึงได้สูบเลือดจากหลอดเลือดคนอื่นราวกับขอฟรี อย่างไม่กลัวว่าคนที่ถูกกระทำจะตายเลยสักนิด
ตอนนี้พอได้มาเห็นใบหน้าซีดเซียวของภาณ ชินทรก็ยกเท้าถีบยอดอกของตุลธรอย่างเดือดดาล
“ไอ้เวร!”
ตุลธรไม่ทันได้ตั้งตัว จึงหงายล้มลงกับพื้น เจ็บจนอวัยวะภายในสะเทือน
“ชินทร คุนายกล้าถีบฉันเหรอ? เชื่อไหมถ้านายกล้าทำอีกล่ะก็ ฉันจะฆ่าหลานนายต่อหน้านายให้ดู”
“ถ้านายกล้าแตะเขาแม้แต่ปลายขน ฉันจะฝังกลบตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรทั้งหลัง!”
พูดจบชินทรก็ชกหมัดลงบนหน้าของตุลธรอีกครั้ง
“อุก!”
ตุลธรรู้สึกเจ็บไปทั้งปาก ฟันหลุดออกมาสองซี่ ไม่ทันได้ถ่มเลือดออกก็ถูกชินทรกำคอเสื้อขึ้นมา แรงกระชากมากมายมหาศาลทำให้เท้าของตุลธรลอยขึ้นจากพื้น
“อย่าๆๆ! พ่อฉันคือกนต์ธร นะ! เป็นคนที่ท่านขวัญชัยไว้ใจมากที่สุด! ถ้านายฆ่าฉัน ลูกสาวกับลูกเขยนายไม่รอดสักคนแน่ ชีวิตทหารของกานต์หลานชายนายก็จะถึงจุดจบ!”
คำพูดของตุลธรทำให้ในใจของชินทรทนไม่ไหวและอัดอั้นเหมือนกับกำลังระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ก็ต้องคำนึงถึงกานต์อย่างทำอะไรไม่ได้
เขาโยนตุลธรออกไป จากนั้นก็ถีบคนที่กำลังอุ้มภาณ แล้วยื่นมือออกไปรับภาณเข้ามาในอ้อมกอด
“ตุลธร ถ้าหลานฉันเป็นอะไรไป ฉันทำลายตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรของนายแน่!”
พูดจบชินทรก็กระโดดออกไป ด้วยความเร็วที่ทำเอาคนมองตาลาย รู้ตัวอีกทีก็ไปถึงหน้าประตูแล้ว
ตุลธรเจ็บจนต้องไอค่อกแค่กออกมา ตอนนี้ไม่มีเวลามาไล่ตามชินทรไปแล้ว ทว่าแววตาร้ายกาจกลับมองตามอย่างไม่ลดละ
“หานักฆ่ามาเก็บไอ้ตัวประหลาดนี่ซะ!”