แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1700 พี่นี่พร่ำมากจริงๆ

บทที่ 1700 พี่นี่พร่ำมากจริงๆ

กานต์จะยังไงก็คิดไม่ถึงว่าไอราคนนั้นที่วิ่งตามก้นของตนเองตอนนี้จะเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงขนาดนี้ เปลี่ยนไปจนเขาแทบจะไม่รู้จักเธอแล้ว

หลังจากที่สถานะของคนๆหนึ่งเปลี่ยนไปจะสามารถแยกเป็นราวกับสองคนได้จริงๆหรอ?

กานต์ค่อนข้างสงสัย พูดได้ไม่ชัดเจนว่าในใจรู้สึกอย่างไร เพียงแต่รู้สึกไม่ค่อยสบายขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ช่างเถอะ อย่างนี้ดีที่สุด

เขาเดิมทียังกลัวว่าไอราจะวุ่นวายสร้างปัญหารบกวนการทำงานของเขาด้วยซ้ำ

กิจจาเห็นกานต์กลับมาคนเดียวแต่ไกล อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “นายพูดอะไรกับอัยรา?”

“ไม่ได้พูดอะไร”

อารมณ์ของกานต์ไม่ได้สูงมากนัก

กิจจาประหลาดใจเล็กน้อย

เขาไม่ใช่ว่าชอบไอรามาโดยตลอดหรอกหรอ? หรือว่าทั้งสองคนทะเลาะกันอีกแล้ว?

“กานต์ ไอราตอนนี้สถานะไม่เหมือนเดิมแล้ว นายอย่าทะเลาะกับเธอเหมือนกับเมื่อก่อน ถึงอย่างไรมิตรภาพของแด๊ดดี้กับคุณอาอรรณพก็ไม่เลว นาย…”

“พี่ พี่นี่พร่ำมากจริงๆ ทำไมผมต้องมีปัญหากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง? วางใจเถอะน่า ผมกับเธอไม่มีอะไรแล้ว”

กานต์พูดจบก็ไปที่ห้องกล้องวงจรปิด

กิจจามองดูกานต์จากไป ก็ไม่รู้ว่าที่เขาพูดจริงหรือเท็จ แต่ว่าในเมื่อเขาพูดเช่นนี้แล้ว คงจะไม่ได้เกิดความขัดแย้งกับไอราแล้วล่ะมั้ง?

คิดเช่นนี้ กิจจาก็วางใจลงมา

ร่วมมือกันทำงานทำได้อย่างมีระเบียบแบบแผน แต่จะตรวจผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดให้เสร็จต้องใช้เวลาสองสามวัน ช่วงเวลานี้นรมนทำได้เพียงรอข่าวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามรบ

เธอกระวนกระวายใจอยากจะไปหาบุริศร์ แต่เธอก็รู้ว่าตนเองจำเป็นต้องรอผู้ได้รับบาดเจ็บทางนี้มีผลลัพธ์ถึงจะจากไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังคงกำลังรอข่าวจากสมจิต

กานต์กับกิจจาทางนี้แทบจะทำงานล่วงเวลาในการตรวจสอบ

แม้ว่าธเนศพลจะยังจัดคนที่เป็นคอมพิวเตอร์สองคนคอยช่วยเหลือกานต์ แต่มีบางขั้นตอนที่ยังต้องให้กานต์มาทำ

เขาแทบจะกินนอนอยู่ในห้องกล้องวงจรปิด

ตอนที่ไอราพักผ่อนถึงพบว่ากานต์ไม่ได้ออกมาจากห้องกล้องวงจรปิดเลย เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย หาองครักษ์มาพร้อมกับเอ่ย “ไปเพิ่มข้าวกล่องสองสามกล่องให้คนที่อยู่ในห้องกล้องวงจรปิด งานของพวกเขาหนักกว่าภารกิจของพวกเรา”

“ครับ เจ้าหญิง”

องครักษ์จากไปอย่างรวดเร็ว

กานต์เห็นมีคนส่งของกินเข้ามา ก็ไม่ได้ถามมากว่าใครส่งมาให้ เอ่ยขอบคุณจากนั้นก็เปิดกินในทันที

ช่วงเวลาที่กินข้าวดวงตาของเขาก็ไม่ได้ละไปจากจอคอมพิวเตอร์ ดวงตาเฉี่ยวที่งดงามคู่นั้นในเวลานี้เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย

ที่เหลืออีกสองคนทนต่อไปไม่ค่อยจะไหวแล้ว กานต์ให้พวกเขาพักผ่อนก่อน จากนั้นมาเปลี่ยนกับตนเอง

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนได้ผ่านไป กานต์กับกิจจาทั้งสองคนแทบจะไม่ได้ปิดตากันเท่าไร และเรื่องที่ทำให้พวกเขากังวลนั้นในที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว

“มีสองคนตรวจเจอตัวแพร่เชื้อ แต่ไม่สามารถแน่ใจได้ว่าคือการแพร่เชื้ออะไรกันแน่ ตอนนี้ฉันขอคำปรึกษาอาจารย์ไปแล้ว ได้ขจัดความเป็นไปได้ของพิษแมลง ขั้นต้นวินิจฉัยว่าอาจจะเป็นการแพร่เชื้อไวรัส”

สีหน้าของกิจจาเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก

ที่มาทำการตรวจทางนี้ในเวลาเดียวกันยังมีหมอชั้นยอดจากโรงพยาบาลใหญ่ต่างๆของทั้งประเทศ ในเวลานี้สีหน้าของทุกคนต่างก็เคร่งเครียดเป็นอย่างมาก

“เพิ่มกองกำลังตำรวจ ในเวลานี้ก็กลัวใจคนไม่อยู่นิ่งเกิดการจลาจล ยิ่งไม่สามารถให้พวกเขาออกไปจากที่นี่ นำตัวแพร่เชื้อเข้าสู่ภายในประเทศ”

หัวหน้าที่รับผิดชอบดูแลงานด้านความปลอดภัยของที่นี่ออกคำสั่งลงไป

แม้ว่าทุกคนจะทำการอธิบายและรับประกันว่าขะรีบหาตัวแพร่เชื้อของเชื้อโรคออกมาโดยเร็วที่สุด แต่ทั้งสองคนที่ติดเชื้อก็ยังคงตื่นตระหนก

“พวกเราต้องการกลับบ้าน!หากพวกคุณหาต้นเหตุออกมาไม่ได้หรือยังจะให้พวกเราตายอยู่ที่นี่งั้นหรอ? ต่อให้ต้องการ พวกเราก็ต้องเจอหน้าครอบครัวสักครั้งถึงจะตายได้!”

“ใช่!ฉันไม่ต้องการตายอยู่ที่นี่!ฉันต้องการกลับบ้าน!”

คนที่ถูกความหวาดกลัวครอบงำสติปัญญาคือพวกที่ควบคุมยากมากที่สุด อีกทั้งพวกเขายังคงเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการคุ้มกันประเทศชาติที่สนามรบต่างประเทศ ดังนั้นพวกทหารไม่ค่อยทำใจจะลงมือได้นัก กลับคิดไม่ถึงว่าทั้งสองคนราวกับผีบ้าโดยสมบูรณ์แบบ ไม่คำนึงถึงอะไรเลยแม้แต่น้อย

ตอนที่กานต์ได้รู้ก็วิ่งออกมาด้วยความรวดเร็ว กลับเห็นไอราไวกว่าเขาหนึ่งก้าว หนึ่งฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของสองคนนั้นในทันที

“ตะโกนอะไร? ร้องไห้อะไร? กระสุนปืนใหญ่เหล่านั้นบนสนามรบไม่ได้ทำให้พวกคุณร้องไห้ ตอนนี้แค่เชื้อโรคตัวเดียวก็ทำให้พวกคุณตกใจจนเสียขวัญแล้ว? หมอชั้นยอดของทั่วทั้งประเทศต่างก็อยู่ที่นี่ หากไม่ดีอีกฉันให้หม่ามี๊ของฉันศัลยแพทย์มือหนึ่งของโลกก็มาเข้าร่วมที่นี่ ชีวิตของพวกคุณไม่ได้หายง่ายขนาดนั้น!ฉันขอเตือนพวกคุณ หากร้องไห้โหยหวนจนใจทหารแตกกระเจิงอีกล่ะก็ เจ้าหญิงคนนี้จะยิงพวกคุณให้ตาย!พวกคุณจะได้ไม่ขายหน้าให้กับครอบครัวและประเทศชาติของตนเอง!”

ไอราในเวลานี้โอหัง เผด็จการ ราวกับโจรสาวคนนั้นที่จะต้องทะเลาะกับตนเองให้ได้เมื่อหลายปีก่อนได้กลับมาแล้ว

กานต์หัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน ในวินาทีที่เงียบสงัดเช่นนี้ เสียงหัวเราะของเขาเด่นชัดออกมา

ไอราเงยหน้าขึ้นมาในทันที สายตาที่แหลมคมจ้องเขม็งตรงมาที่กานต์

โอ๊ะ!

เด็กป่านี่คิดไม่ถึงว่าจะจ้องเขม็งเขา!

ตบคนของประเทศเขา ด่าทหารของประเทศเขา ตอนนี้ยังจะจ้องเขม็งเขาอีก?

ยังคงเป็นเด็กป่าคนนั้นโอหังอวดดีคนนั้นจริงๆ

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร กานต์รู้สึกสนิทสนมกับไอราในวินาทีนี้กว่าไอราที่อ่อนโยนมีมารยาทมากขึ้นเยอะเลย

“ทางที่ดีที่สุดพวกคุณฟังเธอ เธอโหดขึ้นมาไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น ผมก็ยังกลัวเธอ”

กานต์พูดอย่างเยือกเย็นมาหนึ่งประโยค จากนั้นหมุนตัวกลับเข้าห้องกล้องวงจนปิด

ทุกคนได้ยินกานต์พูดเช่นนี้ต่างก็นิ่งอึ้งไปเลย

กานต์เย็นชาเย่อหยิ่งขนาดไหน?

คิดไม่ถึงว่าเขาก็กลัวคนเป็น?

งั้นไอราคือการมีอยู่ของความน่ากลัวขนาดไหนกัน?

ชั่วพริบตาสายตาที่ทุกคนมองไอราก็เปลี่ยนไป

แม้ว่าเธอกับกานต์และกิจจาพวกเขายังคงเป็นเด็ก แต่ที่นี่ที่ให้ความสำคัญกับกำลังสูงสุด ทุกคนก็ยังคงนิ่งเงียบล

ไอราแทบจะสำลักเลือดตัวเองตาย

ยังนึกว่ากานต์อยู่ร่วมกันอย่างสันติกับตนเองแล้วจริงๆ คิดไม่ถึงว่าเขายังคงรังเกียจตนเองอย่างสุดกำลัง

คิ้วของไอราขมวดเข้าหากันแน่น แต่กลับเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เยือกเย็นว่า “กักตัวพวกเขาสองคนเอาไว้ คนอื่นๆเฝ้าสังเกตอาการต่อไป”

นรมนทางนี้ได้รู้ว่าในผู้ได้รับบาดเจ็บมีผู้ติดเชื้อ ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย

เธอรู้ว่าตอนนี้ไม่เพียงแค่เธอที่ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ เกรงว่าหมอและพยาบาลของทั้งโรงพยาบาลสนามรบก็ต้องถูกกักตัวกันหมด

นรมนรายงานสถานการณ์กับธเนศพลอย่างรวดเร็ว

ธเนศพลก็ต้องเปิดโรงพยาบาลสนามรบใหม่ที่สถานที่อื่น และนรมนทางนี้ก็กลายเป็นสถานที่กักตัว

ปากของนรมนเกิดตุ่มพองขึ้นเป็นแถบภายในข้ามคืนเดียว

เธอเป็นห่วงความสบายใจของบุริศร์ เป็นห่วงเจตต์เป็นยังไงบ้างแล้ว ยิ่งเป็นห่วงพี่น้องของอาณาจักรรัตติกาลและสหภาพQTว่าจะเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า? แต่ว่าตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ถูกกักตัวอยู่ที่นี่

เดี๋ยวก่อน!

พวกโสธรก็เคยสัมผัสผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ถ้างั้นพวกเขาก็ติดเชื้อแล้วเช่นเดียวกันใช่หรือเปล่า?

นรมนร้อนรนอย่างถึงที่สุด รีบร้องขอให้ธเนศพลติดต่อโสธร อาศัยโอกาสพาพวกเขากลับมาตอนที่ยังไม่ได้สัมผัสคนจำนวนมากยิ่งขึ้น แต่ว่าโสธรทางนั้นก็เหมือนกันกับบุริศร์ ต่างก็สูญเสียการติดต่อหลังจากที่เข้าไปในเขตพื้นที่ศัตรู โทรศัพท์มือถือและสัญญาณเหล่านั้นใช้ไม่ดีไปหมด

เป็นเช่นนี้ได้ยังไงกัน?

พวกเขาเจอกับอะไรที่เขตพื้นที่ศัตรูกันแน่?

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท