“ไม่ได้!”
ไอราออกตัวก่อนเป็นอันดับแรก อารมณ์ของเธอพุ่งสุดขีด
เธอจับมือของกานต์เอาไว้แน่น ด้วยหัวใจที่กระวนกระวาย
เขาคงไม่ตอบตกลงหรอกใช่ไหม?
ถึงแม้ทั้งสองจะมีความรู้สึกตรงกัน แต่ก็ไม่เคยมีใครพูดออกไปตรงๆ และจากที่เธอรู้จักกานต์มา เขาเป็นคนมีความรับผิดชอบมากๆ
ถ้าเขาตอบตกลงแต่งงานกับอีกฝ่าย ชีวิตนี้เขาก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนอีก ต่อให้เขาเคยชอบเธอมากแค่ไหนก็ตาม
ไม่!
ไม่ได้!
เขามีความรับผิดชอบมากเกินไป ผู้ชายแบบนี้จะแต่งงานกับผู้หญิงแค่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพราะความรักหรือความรู้สึกผิดก็ตาม
และคำพูดของพริมรตาในตอนนี้ต้องทำให้กานต์รู้สึกผิดแน่ๆ
มือของไอราสั่นเทา พร้อมกับมีเหงื่อผุดออกมา
กานต์เองก็นิ่งอึ้งไปเหมือนกัน
เขาอ่านปากของพริมรตาได้อย่างชัดเจน
แต่งงานกับเธอ?
หัวคิ้วของกานต์ขมวดเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าทำไม หัวใจของเขาถึงได้เริ่มต่อต้าน
ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร จู่ๆกานต์ถึงได้เอ่ยพูดว่า
“ตอนยิงปืนฉันโดนโจรขว้างระเบิดใส่ หูของฉันได้รับแรงสะเทือน จึงไม่ได้ยินเสียงภายนอก และหมอบอกว่าแทบจะไม่มีโอกาสรักษาหาย”
พริมรตานิ่งอึงไปในทันที
หูหนวกเหรอ?
ตอนแรกยังคิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับกานต์ แต่พอได้ยินเขาพูดมาอย่างนี้ พริมรตาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
คนหนึ่งมีลูกไม่ได้ คนหนึ่งหูหนวก ก็ถือว่าเหมาะสมกันดีนี่นา
เธอไอออกมา พร้อมกับกุมท้องเอาไว้ด้วยใบหน้าเจ็บปวด เหงื่อเย็นๆผุดขึ้นมาบนหน้าผาก
กันติมารีบเข้าไปประคองเธอ “มดลูกทะลุยังจะพูดมากอะไรอีก? เงียบๆไปเถอะ ถ้าผู้ชายคนนี้พอมีคุณธรรมอยู่บ้าง ไม่ต้องให้แกพูดเขาก็ต้องแต่งอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีคุณธรรมล่ะก็ แกพูดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ทั้งชีวิตของแกก็คงต้องลำบากอยู่แบบนี้”
กันติมาหันหลังให้กานต์ กานต์จึงไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไร แต่ไอรากลับได้ยินอย่างชัดเจน
สีหน้าของเธอขาวซีดฉับพลัน
เมื่อกานต์เห็นสีหน้าของเธอในตอนนี้ก็รู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรดีๆแน่นอน จึงกระชับกุมมือเธอแน่น จากนั้นก็พูดกับพริมรตาว่า “ฉันจะรับผิดที่ทำเธอบาดเจ็บ หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลถ้าเธอมีอะไรอยากให้ฉันช่วย ฉันก็จะช่วยเหลือเต็มที่ ฉันรู้ว่านำหนักคำพูดของฉันมันอาจจะบางเบา และฉันก็รู้ว่าถ้าพูดกันตามเหตุผลฉันเป็นคนทำให้เธอบาดเจ็บ จนเธอเป็นแม่คนไม่ได้ และควรที่จะชดใช้ด้วยการแต่งงานกับเธอ แต่ต้องขอโทษด้วย ฉันมีคนที่ชอบแล้ว ช่องคู่ครองในทะเบียนสมรสของฉันเหลือไว้ให้ผู้หญิงคนนั้นแค่คนเดียว”
พริมรตานิ่งไปทั้งตัว
เธอไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มหล่อเหลาตรงหน้าจะพูดออกมาอย่างนี้
“นายมีคนที่ชอบแล้วคิดว่าฉันไม่มีเหรอ? เพราะอุบัติเหตุในครั้งนี้แฟนของฉันถึงได้ทิ้งฉันไป!ในอนาคตคงไม่มีใครอยากแต่งงานกับฉันแล้ว!ข้อนี้นายจะชดใช้ฉันยังไง?”
เพราะอารมณ์ขึ้น จึงมีผลไปถึงบาดแผล เจ็บจนเธอต้องเกร็งตัว
กันติมาน้ำตาไหลพลั่กอย่างนึกสงสาร
เธอหันไปถลึงตาใส่กานต์แล้วพูดว่า “แกหยุดกระตุ้นอารมณ์เธอได้แล้วโอเคไหม? เธอเพิ่งฟื้นคืนจากความตาย ร่างกายยังอ่อนแอนัก ฉันรู้ว่าแกเข้าใจสิ่งที่ฉันพูด เพราะแกจ้องปากของฉันตลอด แกอ่านปากฉันได้ใช่ไหมล่ะ? แกอยากแต่งงาน แล้วลูกสาวฉันไม่คู่ควรกับการแต่งงานเหรอ?”
จู่ๆไอราก็รู้สึกโกรธขึ้นมา ความสงสารและรู้สึกผิดที่มีต่อสองแม่ลูกคู่นี้ถูกโทสะบดบังจนมิด เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับสัมผัสได้ถึงแรงหยิกจากกานต์
เจ็บ!
ตาหมาบ้านี่
กล้าหยิกมือเธอเหรอ!
มันเจ็บไม่รู้หรือไง?
ไอราโกรธจนอยากฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ แต่กานต์กลับไม่มองเธอเลย ยังคงเอ่ยพูดกับกันติมาและพริมรตาว่า “เรื่องที่ฉันทำผิดแน่นอนว่าฉันต้องรับโทษอยู่แล้ว ถ้าฉันเดาไม่ผิด ฉันคงถูกถอดยศ ชีวิตนี้แม้แต่ทหารสำรองก็เป็นไม่ได้แล้ว รวมไปถึงชื่อเสียงเกียรติยศที่ฉันเคยมีก็จะถูกทำลายทิ้ง จนหมดอนาคต พูดง่ายๆ เรื่องระหว่างฉันกับเธอก็ถือว่ายุติธรรมแล้ว ที่ฉันมาวันนี้ เพราะรู้จักผิดชอบชั่วดี ดังนั้นฉันยังยืนยันคำเดิม ถ้าเธอมีเรื่องอะไรอยากให้ฉันช่วยฉันก็จะช่วยเต็มที่ ฉันขอสาบานในนามของกานต์ แต่ถ้าให้ฉันแต่งงานกับเธอ ต้องขอโทษด้วย ฉันทำไม่ได้”
กันติมาและพริมรตาในเวลานี้ไม่รู้เลยว่าในนามของกานต์ที่เขาพูดมาหมายถึงอะไร ในสายตาของพวกเธอ รู้แค่ว่าคนคนนี้เป็นแค่ทหารคนหนึ่งเท่านั้น
ถ้าเป็นลูกคนธรรมดาส่วนใหญ่จะไปเป็นทหารเพื่อความก้าวหน้า แต่กานต์คนนี้ดูๆแล้วก็น่าจะเป็นคนเพิ่งอายุยี่สิบกว่าๆ มีความเป็นไปได้ว่าเพิ่งเข้าเกณฑ์ทหารได้ไม่นาน ดังนั้นพวกเธอจึงไม่เก็บชื่อกานต์มาใส่ใจเลยสักนิด
“ทำไม่ได้ก็ไสหัวออกไป!อย่ามาให้พวกฉันเห็นหน้าแกอีก!”
กันติมาสะบัดหน้า
พริมรตายังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกผู้เป็นแม่ห้ามเอาไว้
กานต์เองก็ไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังแล้วจูงมือไอราเดินออกไป
ในตอนนี้เองไอราเพิ่งรับรู้ถึงความยุ่งยากของเรื่องนี้
อีกอย่างที่กานต์พูดเมื่อกี้ว่าเขาอาจจะถูกถอดยศ แม้แต่ทหารตัวสำรองก็เป็นไม่ได้ สำหรับกานต์แล้วสิ่งนี้มันทรมานเสียยิ่งกว่าถูกฆ่าเสียอีก
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าไอราว่ากานต์รักกองทหารมากแค่ไหน
ดวงตาของเธอพลันคลอหน่วยไปด้วยน้ำตา
“กานต์ ขอโทษนะ ฉัน……”
เธอพูดยังไม่ทันจบ กานต์ก็ดึงเธอเข้าไปในห้องผู้ป่วย ทว่าชั่ววินาทีที่เดินเข้ามาเขาก็หันกายกักกันเธอเอาไว้กับผนัง ใช้เท้าซ้ายถีบประตู อกร้อนผ่าวกดทับร่างกายของไอราเอาไว้
“นาย……”
กานต์ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไร ริมฝีปากบางเย็นเหยียบพลันประกบทับริมฝีปากของเธอเอาไว้
ดวงตาของไอราเบิกกว้าง ในหัวเหมือนมีเสียงระเบิดดังขึ้นมา
เขาจูบเธอ?
เขาไม่เคยแม้แต่สารภาพรัก แต่กับข้ามขั้นมาจูบเลยเหรอ?
“หลับตา”
กานต์ค่อนข้างประหม่าเมื่อเห็นเธอเบิกตากว้าง
ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาต้องรวบรวมความกล้าแค่ไหนถึงทำอย่างนี้ได้
ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่มีเซนส์ผู้หญิงสักนิดเลยล่ะ
ไอราได้สติกลับมาเพราะเสียงทุ้มแหบของกานต์ เมื่อนึกถึงสิ่งที่กานต์เพิ่งทำกับเธอเมื่อสักครู่ จึงวางความโกรธที่มีอยู่ลง
“ทำไมนายถึงจูบฉันล่ะ?”
จู่ๆเธอก็เอ่ยปากถามออกมา
แล้วจะกล้าจูบต่อได้ยังไง
กานต์รู้สึกฮึดฮัด
ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยออกไพ่เหมือนคนปกติเขาหรอก
“หุบปากไปเลยเธอน่ะ”
อารมณ์ตื่นตัวของเขาเมื่อสักครู่กำลังจะหายไป แต่จู่ๆไอราก็โอบรอบลำคอของเขาเอาไว้ จากนั้นก็เขย่งเท้าประทับริมฝีปากร้อนผ่าวของตัวเองลงไป
“เธอ……”
กานต์แปลกใจ แต่ต่อมาก็เข้าใจอะไรบางอย่าง
แม้แต่สิทธิ์ในการเป็นฝ่ายรุกผู้หญิงคนนี้ก็ยังคิดจะแย่งกับเขาเหรอ?
เขาโอบรอบเอวของไอราเอาไว้ แทบจะรวมร่างกับผู้หญิงคนนี้
ไอรานึกไปถึงเรื่องที่กานต์หยิกเธอก่อนหน้านี้ จึงยื่นลิ้นออกไปยั่วยวนกานต์อย่างอดไม่ได้
อย่าฝันเลยว่าชีวิตนี้จะหนีไปจากเธอได้!